ตอนที่ 3 ไม่คู่ควร

1248 Words
ปาลินถูกพามาที่บ้านของตระกูลโตทรัพย์มั่นคง บ้านหลังใหญ่ที่ควรจะเป็นเรือนหอของเธอและเขาตั้งแต่แรก หากการแต่งงานนี้ไม่ใช่การแต่งงานบังหน้า เมื่อรถจอดสนิท ปาลินก้าวลงมา ดวงตากวาดมองคฤหาสน์หลังงามที่เธอไม่กล้าฝันถึง รู้สึกว่ามันห่างไกลจากชีวิตของตน และบรรยากาศของบ้านนั้นดูน่าอึดอัดจนมือของเธอชื้นเหงื่อ “เชิญค่ะ” สาวใช้เข้ามาต้อนรับด้วยท่าทีลังเล ปาลินพยักหน้าน้อย ๆ ก่อนก้าวเข้าไปข้างใน แต่เพียงแค่เดินพ้นประตู เธอก็สัมผัสได้ถึงสายตาที่มองมาด้วยความไม่พอใจของเจ้าของบ้านทั้งสองที่นั่งอยู่ตรงหน้า ทั้งคู่คงจะเป็นพ่อแม่ของคณิณ ที่กลางห้องรับแขก มณีรัตน์นั่งอยู่บนโซฟาพร้อมกับแววตาที่กวาดมองเธอตั้งแต่หัวจรดเท้า ข้าง ๆ คือหิรัญสามีของเธอ เขาไม่ได้แสดงความยินดียินร้ายต่อการมาของเธอ “นี่นะเหรอ ผู้หญิงที่แต่งเข้ามาแทนที่ยิหวา” น้ำเสียงนั้นเต็มไปด้วยความเย็นชา และไร้ซึ่งความเมตตา ปาลินก้มศีรษะอย่างสุภาพ ในงานแต่งงานมีเพียงบิดาของเขาและเครือญาติ แต่ไม่มีเงาของมณีรัตน์ เพราะเธอรู้ว่าลูกสะใภ้ไม่ใช่คู่หมั้นที่เธอหมายตาเอาไว้ และคนที่มาแทนที่เป็นเพียงผู้หญิงธรรมดาที่ไร้สถานะทางสังคม “สวัสดีค่ะคุณพ่อ คุณแม่” เธอกล่าวเสียงเบาด้วยความนอบน้อมและประหม่า “ใครแม่เธอ” มณีรัตน์พูดเสียงเย็น ในขณะที่ยกมือรับไหว้โดยไม่มองหน้า หิรัญเองก็เช่นกัน “ไม่ต้องมาแสดงความอ่อนน้อมต่อฉัน ฉันไม่เคยต้องการเธอเป็นลูกสะใภ้ และไม่คิดว่าเธอจะอยู่ที่นี่ได้นานนัก” มณีรัตน์กล่าวด้วยถ้อยคำที่ดูถูก ปาลินเงียบ เธอรู้ดีว่าการแต่งงานครั้งนี้ไม่ได้เกิดจากความเต็มใจของทุกฝ่าย โดยเฉพาะคนในบ้านหลังนี้ที่คาดหวังให้เจ้าสาวเป็นยิหวาไม่ใช่เธอ “ฉันเข้าใจค่ะ ฉันจะทำหน้าที่ลูกสะใภ้ในช่วงที่เป็นภรรยาของคุณคณิณให้ดีที่สุดค่ะ” เธอกล่าวอย่างเจียมตัว “ลูกสะใภ้งั้นเหรอ ภรรยาอย่างนั้นเหรอ... ฉันกับลูกชายยอมรับเธอตั้งแต่เมื่อไหร่กัน” มณีรัตน์จ้องเธอเขม็ง คำพูดนั้นแทงใจดำอย่างจัง ปาลินกำมือแน่นแต่ยังคงยืนตรงอย่างสงบนิ่ง สามีของเธอเองก็ไม่ได้ปกป้องหรือช่วยพูดให้สถานการณ์สงบลงเลยแม้แต่น้อย “ฉันไม่สนใจว่าเธอจะคิดอะไร แต่อย่าหวังว่าเธอจะได้รับการยอมรับจากคนในบ้านนี้” มณีรัตน์พูดต่อก่อนจะแค่นหัวเราะ แล้วหันไปสั่งสาวใช้ “พาเธอไปที่ห้องรับรอง” ปาลินชะงักเล็กน้อย ห้องรับรองอย่างนั้นหรือ หมายความว่าเธอไม่มีสิทธิ์อยู่ในห้องเดียวกันกับของคณิณ แต่เธอก็ไม่ได้โต้แย้งใด ๆ เพียงพยักหน้าแล้วเดินตามสาวใช้ไปเงียบ ๆ หญิงสาวรู้ดีว่าหนทางข้างหน้าเต็มไปด้วยอุปสรรค และการเป็นสะใภ้ของตระกูลโตทรัพย์มั่นคงไม่ใช่เรื่องง่าย แม้จะไม่มีใครต้อนรับ แม้จะไม่มีใครต้องการ และมันอาจจะจบลงในสักวัน แต่เธอก็จะลองพยายามดูสักตั้ง เผื่อความรักของเธอจะสมหวังอย่างในนิยาย และได้อยู่กับคนที่เธอรัก ************************ เย็นวันนั้นคณิณออกจากบ้านไปโดยไม่บอกเธอ ปล่อยให้ภรรยาที่ไม่ได้รับการยอมรับอยู่ภายใต้ความกดดันของครอบครัว เธอไม่กล้านั่งร่วมโต๊ะอาหาร และไม่มีใครเชิญเธอให้นั่งร่วมโต๊ะ ทำได้เพียงนั่งกินข้าวกับสาวใช้อย่างเงียบ ๆ ในห้องครัว สถานะภรรยาของเขาแย่ยิ่งกว่าสาวใช้ในบ้านเสียอีก คืนนั้นคณิณกลับมาถึงบ้านในช่วงดึก ภรรยาสาวนั่งรออยู่ที่ห้องนั่งเล่น เมื่อเสียงรถยนต์แล่นเข้ามาจอด เธอลุกขึ้นยืนแล้วรีบก้าวออกไปต้อนรับเขาที่ประตูด้วยความห่วงใย คณิณเดินเข้ามาพร้อมกับกลิ่นแอลกอฮอลจาง ๆ สูทสีเข้มถูกพาดไว้บนแขนเสื้อ ร่างสูงใหญ่ของเขาเดินเข้ามาพร้อมกับปรายตามองเธอที่ยืนรออยู่ “คุณดื่มมาเหรอคะ” ปาลินเรียกเขาเสียงเบา แววตาที่มองเขาเต็มไปด้วยความห่วงใย เขาเงยหน้าขึ้นมองเธอเพียงเสี้ยววินาที ก่อนจะเบือนสายตาไปทางอื่น พร้อมกับทำสีหน้ารำคาญ “มันไม่ใช่เรื่องของเธอ” เขาตอบเรียบ ๆ ปาลินเม้มปากแน่น เธอพยายามสูดลมหายใจเข้าลึก ๆ ก่อนจะพูดออกมาอย่างนุ่มนวล “เดี๋ยวฉันไปชงกาแฟดำให้นะคะ ดื่มสักหน่อยจะช่วยให้ดีขึ้น” “อย่ายุ่งกับฉัน” เขาพูดด้วยน้ำเสียงที่รำคาญ “ฉันแค่อยากดูแลคุณ” เธอพูดเสียงเบา คำพูดเรียบง่ายของเธอทำให้คณิณชะงักไปวูบหนึ่ง แต่เพียงเสี้ยววินาทีเขาก็กลับมามีสีหน้าเย็นชาเหมือนเดิม “ฉันไม่ต้องการ” เขาตัดบท แล้วเดินผ่านเธอขึ้นบันไดไปอย่างไม่ไยดี ปาลินยืนนิ่งอยู่ที่เดิม มองแผ่นหลังของเขาที่หายไปทางชั้นบน เธอรู้ว่ามันจะเป็นแบบนี้ แต่เมื่อได้สัมผัสกับความเย็นชาของเขาจริง ๆ มันกลับเจ็บยิ่งกว่าที่คิด แต่ไม่เป็นไร เธอมีความอดทนมากพอ และเธอจะไม่ยอมแพ้ง่าย ๆ เช้าวันต่อมา ปาลินตื่นขึ้นมาด้วยความรู้สึกเหนื่อยล้าหัวใจ แม้จะพยายามบอกตัวเองให้เข้มแข็ง แต่หัวใจเธอก็ยังอดรู้สึกเจ็บไม่ได้ เธอลงมาชั้นล่างด้วยความหวังเพียงเล็กน้อย หวังว่าจะได้พบคณิณที่โต๊ะอาหารเช้า และหวังจะได้รับการเชื้อเชิญ แต่เมื่อเดินเข้าไปในห้องอาหาร กลับพบเพียง หิรัญและมณีรัตน์ที่นั่งจิบชาช้า ๆ พร้อมกับสีหน้าที่เรียบเฉย มีชุดอาหารเช้าเพียงสองชุด ไม่มีเตรียมเอาไว้สำหรับเธอ “คุณคณิณล่ะคะ” ปาลินเอ่ยถามอย่างสุภาพ มณีรัตน์เหลือบตาขึ้นมอง ก่อนจะกระตุกยิ้มเล็กน้อยแล้วตอบให้เธอหายข้องใจ “เขาออกไปตั้งแต่เช้าแล้ว” “เข้าใจแล้วค่ะ” เธอตอบเสียงเบา ก่อนจะขยับไปนั่งที่โต๊ะอาหาร หวังว่าสาวใช้จะนำชุดอาหารเช้ามาให้เธอในฐานะสะใภ้ของบ้าน แต่เพียงแค่เธอวางมือลงบนตัก มณีรัตน์ก็พูดขึ้นด้วยน้ำเสียงราบเรียบ “ไม่จำเป็นต้องมานั่งกินข้าวร่วมโต๊ะกับฉันหรอก” น้ำเสียงนั้นเย็นชา หากแต่ไม่เท่าสายตาที่เธอมองมา ในขณะที่หิรัญไม่ได้พูดจา เขาไม่อยากยุ่งเกี่ยวกับเรื่องหยุมหยิมภายในบ้าน “บ้านหลังนี้ไม่ได้ต้อนรับเธอ” มณีรัตน์พูดตอกย้ำให้ลูกสะใภ้รู้ว่าเธอเป็นเพียงแค่สะใภ้ในนามบังหน้าเท่านั้น ปาลินเงยหน้าขึ้นสบตา ดวงตาคู่นั้นเย็นชาและชัดเจนว่าไม่ต้องการให้เธออยู่ที่นี่ หญิงสาวกลืนก้อนสะอื้นลงไป หัวใจเธอเจ็บแปลบ แต่ก็ยังคงยิ้มบาง ๆ “เข้าใจแล้วค่ะ” เธอพูดเสียงเบา ก่อนจะลุกขึ้นจากโต๊ะ “ขอตัวนะคะ” เธอเดินออกจากห้องอาหารอย่างเงียบ ๆ ด้วยความรู้สึกอัปยศในใจ ความรักที่เธออยากไขว่คว้า แท้จริงเป็นเพียงอากาศเท่านั้น ************************
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD