“ครับมายาวี”
ชื่อว่าที่คู่หมั้นของธาม
“มายาวี...” ร่างบนอกขยับปากพึมพำชื่อที่ได้ยินเข้ามาในโสตประสาททั้งที่ยังหลับตาสนิท ร่างกายเย็นเยียบเพราะแผ่นหลังเปลือยเปล่ากำลังปะทะลมเครื่องปรับอากาศสั่นเล็กน้อย เมื่อคนใต้ร่างเธอเป็นคนขี้ร้อน จนไม่อาจจะปรับอุณหภูมิให้สูงขึ้นกว่านี้ได้แล้ว
ฝ่ามือใหญ่เอื้อมมาปิดริมฝีปากที่กำลังขยับไว้แน่น พลางชักสีหน้าไม่พอใจ
นั่นทำให้หญิงสาวต้องกะพริบเปลือกตาขึ้นสบสายตากับร่างสูงที่ก้มลงมามอง เธอกลืนน้ำลายลงคออย่างยากลำบาก มองคิ้วของเขาขมวดมุ่นเป็นปมชัดเจน เพราะเธอดันไปพูดแทรกระหว่างเขาคุยกับมายาวี ผู้หญิงคนเดียวที่เขาแคร์
ความรู้สึกอิ่มเอมเมื่อคืนจางหายไปเหลือแต่ความขุ่นมัวในใจ
ไม่น่าเลยฝันหวาน
ไม่น่ามาอยู่ตรงนี้เลย
( เสียงใครเหรอคะ หรือแม่นางบำเรอคนนั้นของคุณเหรอ ) คนปลายสายกลั้วหัวเราะน้อย ๆ อย่างทรงเสน่ห์
“ไม่มีอะไรครับ น่าจะเป็นเสียงแมวน่ะ” เขาเลิกคิ้วสูงพูดกับคนที่ยังคงอยู่ในอาการง่วงนอน แล้วบีบจมูกรั้นของฝันหวาน เพราะสีหน้าเธอตอนตื่นทั้งน่ารักและหมั่นไส้จนรู้สึกอยากแกล้งเธอนิด ๆ
“อื้อ”
“อย่าดื้อนักสิ อยากโดนตีใช่ไหม”
น้ำเสียงอ่อนโยนทำให้ฝันหวานได้แต่เหลือบตาขึ้นมอง น้ำเสียงที่เธอเองก็อยากฟังนอกเหนือจากบนเตียงเหมือนกัน ทำไมเขาถึงพูดกับผู้หญิงคนอื่นได้อย่างง่ายดาย แต่มอบให้เธอแค่เพียงบนเตียงกัน
( คุณเลี้ยงแมวด้วยเหรอคะ )
“ครับเลี้ยงไว้ตัวนึง” แมวที่ฝันหวานอ้อนวอนให้เขาช่วยดูแลมัน เพราะถูกทิ้งไว้ที่คลินิกสัตวแพทย์ที่ประกาศหาคนเลี้ยงพร้อมหาคนจ่ายค่ารักษาที่สูงเกินกว่าคนทั่วไปจะจ่ายไหว
( ชื่ออะไรเหรอคะ )
“เจ้าดื้อครับ
( ชื่อแปลกดีนะคะ )
ตุ้บ!
ทันทีที่ได้ยินชื่อตนเองสัตว์สี่เท้ากระโดดขึ้นมาบนเตียง เจ้าแมวตัวอ้วนใช้สองเท้าหน้าย่ำลงไปบนผ้าห่ม ก่อนจะหมุนตัวแล้วซบลงข้างหญิงสาวในที่สุด ขนยาวสีขาวของเจ้าดื้อทั้งอุ่นทั้งนุ่ม เดาว่ามันคงเข้ามาในห้องนอนได้เพราะใครบางคนเปิดประตูทิ้งไว้ เพราะรีบอุ้มเธอเข้ามาที่เตียง
ฝันหวานพลิกตัวหนีจากมือของคนข้างกาย พลางรวบลำตัวกลมของมันเข้ามาซุกที่อก เพียงเท่านั้นดวงตาของเธอก็เริ่มร้อนผ่าวรื้นไปด้วยน้ำตา
ไม่รู้ว่าทำไมถึงอยากร้องไห้ ทั้งที่รู้สถานะของตัวเองชัดเจนแต่แรกอยู่แล้ว เธอในยามนี้รู้สึกเหมือนมีน้ำร้อนลวกอกจนไม่สามารถบรรยายได้
หัวใจเธอหดตัวรุนแรงอย่างทรมาน
“เพราะดื้อเหมือนชื่อเลยตั้งไว้แบบนั้นครับ”
“...” ฝันหวานกดจมูกลงบนเรือนขนอ่อนนุ่ม เจ้าดื้อดิ้นรนเล็กน้อยก่อนจะยอมสงบในที่สุด
“เพราะมัน...ค่อนข้างดื้อนิดหน่อย” ชายหนุ่มตอบคนในสาย เลื่อนมือลงมาหยิกแก้มคนบนเตียงเบา ๆ ขณะขยับขึ้นไปนั่งชิดบนหัวเตียง
( วีชักอยากเห็นแมวคุณแล้วสิคะ วีไปเล่นกับมันบ้างได้รึเปล่า )
“เอาสิครับ คุณเองก็มาเล่นกับเจ้าดื้อบ้างดีไหม เผื่อจะคุ้นเคยกับมันมากขึ้น”
( คุ้นเคยเหรอคะ )
( เพราะถ้าคุณแต่งงานกับผมยังไงก็ต้องได้เจอกับเจ้าดื้ออยู่แล้วนี่ครับ )
เผาะ!
เมี้ยวววววว
น้ำตาที่เอ่อคลอร่วงหล่นลงบนเตียงในที่สุด หญิงสาวได้แต่ถามตัวเองว่าเพราะความเหนื่อยล้ารึเปล่า หรือเพราะความง่วงซึมถึงทำให้เธอรู้สึกอ่อนแอ
การที่อยู่ ๆ ต้องสะดุ้งตื่นกลางดึก เพราะคนที่เคยกอดรับโทรศัพท์จากคนที่เขาต้องแต่งงานด้วย แม้กระทั่งแมวที่รับมาเลี้ยงด้วยกัน เตียงที่กำลังนอนด้วยกัน ห้องที่เต็มไปด้วยกลิ่นของเธอและเขา ผู้ชายคนนี้กลับชวนผู้หญิงคนอื่นมาที่นี่โดยไม่ลำบากใจสักนิด
ราวกับไม่ได้สนใจสักนิดเลยว่าเธอจะเสียใจกับสิ่งที่ได้ยิน
ธามเป็นผู้ชายสมบูรณ์แบบที่เดินตามแบบแผนอย่างไม่มีปากมีเสียง
ริมฝีปากของฝันหวานถูกคมฟันกดแน่นกลั้นเสียงสะอื้น ปล่อยให้น้ำตาไหลจนเปียกหมอน แต่แสร้งทำเป็นหลับต่อ ได้แต่ฟังน้ำเสียงอ่อนโยนของเขาทำร้ายจิตใจตัวเองซ้ำ ๆ
( เอาไว้ว่าง ๆ วีจะไปนะคะ ยังไงก็คิดถึงคุณป้าอยู่เหมือนกัน )
“มาสิครับ”
( งั้นวีวางก่อนนะคะธาม เดี๋ยวต้องโทรให้พี่แมทมารับแล้วล่ะค่ะ )
“ให้ผมไปรับไหม”
ธามขยับตัวคลายความเมื่อยล้า แต่ร่างสูงของเขาก็ทำให้ที่นอนยวบยาบไปตามแรงขยับ นิ้วมือเขากำลังพันเส้นผมยาวสลวยเล่นไปมา แต่ริมฝีปากคงกำลังขยับยิ้มหวานออดอ้อนให้กับคนในโทรศัพท์
( อย่าดีกว่าค่ะ วีเกรงใจคุณ ธามนอนต่อเถอะค่ะ )
“งั้นกลับดี ๆ นะครับ พรุ่งนี้เช้าผมจะโทรหา”
( ตามใจคุณสิคะ )
“ฝันดีครับมายาวี”
พรึ่บ!
ความอดทนของเธอสิ้นสุดลงแล้ว หญิงสาวลุกขึ้นปาดน้ำตาลวก ๆ พลางรวบเส้นผมจนเจ้าดื้อสะดุ้งเล็กน้อย เจ้าสัตว์ตัวเล็กเปิดเปลือกตาเงยหน้ามองเจ้าของครู่หนึ่ง ก่อนจะสะบัดหางหันหน้าหนีไปหาเจ้านายคนโปรดของมัน ไปหาที่พึ่งอย่างธามแทน
เมี้ยววว
ร่างกายเปลือยเปล่าไร้ปราการป้องกัน จากฝีมือของคนที่ยังถือโทรศัพท์ลุกขึ้นยืน เธอปรายตามองธามในแสงสลัวพลางก้มลงคว้าเจ้าดื้อขึ้นมา ทันทีที่ดึงมันออกห่างจากร่างสูง เจ้าลูกรักของพ่อแมวก็ส่งเสียงร้องประท้วงทันที
แง๊ววววว เมี้ยวว
“เดี๋ยว...”
“ปล่อยค่ะ” ฝันหวานขยับปากไร้เสียงเมื่อท่อนแขนถูกมือหนาพันธนาการไว้ มีเพียงเสียงของแมวน้อยที่ร้องประท้วง มันตะเกียกตะกายข่วนท่อนแขนเธอแรงขึ้นทุกที
เมี้ยววว เมี้ยววววว
ธามปรายตามองแขนเธอด้วยสีหน้าเย็นชา สักพักเสียงถอนหายใจหนักหน่วงก็ดังออกมา มันทั้งเต็มไปด้วยความไม่พอใจและเบื่อหน่าย ราวกับกำลังเจอเรื่องที่ไม่พอใจ แม้จะเม้มริมฝีปากแน่นเท่าไหร่ แต่ฝันหวานกลับรู้สึกเหมือนตอนนี้เธอกำลังเลือนหายไปทุกที
เจ้าหญิงที่เคยถูกกักขังไว้บนเตียงของเขา ในตอนนี้กำลังจะกลายเป็นเพียงฟองอากาศ
ตระกูลอัศวเหมพิทักษ์เป็นเหมือนปราสาทที่สร้างเธอขึ้นมา เจ้าหญิงเงือกที่ถูกเลือกจากบ้านเด็กกำพร้าถูกอุปการะ เลี้ยงดู และส่งเสียให้เรียนจากกองทุนของตระกูล แล้ววันหนึ่งเธอก็ได้พบเจ้าชายอย่างธาม เพราะเธอไปฝึกงานที่บริษัทของอัศวเหมพิทักษ์
ทันทีที่ดวงตากลมโตสบกับดวงตาดุ วันนั้นเธอก็ถูกกระชากขึ้นจากน้ำ ธามก้าวเข้ามาใกล้เธอเรื่อย ๆ ก่อนที่เจ้าหญิงเงือกจะตกหลุมเผลอทำสัญญาแลกการได้อยู่เคียงข้างเขากับเรือนร่างของเธอ หญิงสาวที่ถูกวางตำแหน่งไว้แค่นางบำเรออย่างฝันหวาน เป็นเพียงตัวคั่นเวลาระหว่างที่ธามรอมายาวี หญิงสาวที่เหมาะสมกับธามและอัศวเหมพิทักษ์ที่สุด
และเมื่อพวกเขาพร้อมแต่งงานกัน
นางบำเรออย่างเธอก็ใกล้จะสิ้นสุดหน้าที่สักที