บทที่ 4 - ย้ายมาอยู่ด้วยกัน [1]

2057 Words
คิรากรให้อลีนาเป็นคนเลือกว่าอยากกินอะไรแล้วให้สั่งเองตามสบาย เขาจะเป็นคนจ่ายเงินให้ หญิงสาวเลือกสั่งอาหารทะเลจากร้านดิลิเวอรีเจ้าประจำ ทั้งกุ้งเผา ปูม้านึ่ง ปูม้าดองยำ ข้าวผัดปู และยังมีพุดดิงมะพร้าวอ่อนของโปรดอีกหลายถ้วย “สั่งไม่เกรงใจคนจ่ายเงินเลยนะ” ชายหนุ่มมองอาหารที่วางเรียงเต็มโต๊ะแล้วอดสงสัยไม่ได้ว่า อลีนากินจุขนาดนี้แต่ทำไมถึงได้รูปร่างดีอย่างกับนางแบบได้ “แค่นี้ไม่สะเทือนเงินในบัญชีคุณหรอกน่า” หญิงสาวพูดพลางแกะกุ้งเผาด้วยช้อนส้อมอย่างคล่องแคล่ว ซึ่งน้อยคนนักที่จะทำได้แบบนี้ “คุณเอากุ้งมั้ย ฉันแกะให้” “คุณกินไปเถอะ ไม่ต้องมายุ่งกับผม” เขาพูดจาห่างเหินและมีระยะห่างพอสมควร ใครจะอยากทำตัวสนิทสนมกับผู้หญิงที่ทำให้น้องชายตัวเองตาย แถมเธอยังทำเหมือนไม่รู้สึกรู้สากับความผิดที่ตัวเองก่อไว้อีก “เอาเถอะน่า” เธอตักกุ้งตัวโตที่เพิ่งแกะเปลือกเสร็จไปวางในจานให้เขา “ฉันเห็นคุณมองอยู่หลายรอบแล้ว อยากกินแต่แกะไม่เป็นก็บอกมาเถอะ ไม่ต้องเขิน” คิรากรทำเป็นใช้ส้อมจิ้มกุ้งตัวใหญ่จุ่มลงในน้ำจิ้มซีฟูดแล้วส่งเข้าปากแบบไม่เต็มใจเท่าไร ความจริงกุ้งเผาเป็นอาหารโปรดของเขา และเธอพูดถูก เขาแกะกุ้งไม่เป็น ถ้าไปกินตามร้านอาหารเขาจะให้พนักงานแกะมาให้เลย ถ้าเป็นที่บ้านก็จะให้แม่บ้านแกะเปลือกออกก่อนเสิร์ฟขึ้นโต๊ะ หรือไม่ก็จะเลือกกินกุ้งแม่น้ำตัวโตที่ใช้วิธีผ่าหลังครึ่งซีกก่อนเผา “เมื่อกี้ที่คุณบอกว่าคุณต้องการฉัน หมายความว่ายังไง” อลีนาถามอย่างข้องใจ เธอไม่เคยเก็บความสงสัยไว้ในใจ ถ้าไม่เข้าใจหรือสงสัยอะไรเธอจะรีบเคลียร์ทันที “ไม่ใช่อย่างที่คุณคิดก็แล้วกัน” เขาพูดเหมือนอ่านสายตาไม่ไว้วางใจของเธอออก “คุณรู้เหรอว่าฉันกำลังคิดอะไรอยู่” “คุณคงคิดว่าผมอยากได้คุณแบบที่ผู้ชายอยากได้ผู้หญิงเพื่อเอาไปเป็นเมียน้อย เมียเก็บ นางบำเรออะไรพวกนี้ใช่มั้ย” อลีนาขำพรืดออกมาทันที “ตอนแรกฉันก็คิดแบบนั้น แต่คิดไปคิดมา ฉันว่าคุณคงไม่พิศวาสฉันเท่าไหร่หรอก สีหน้าคุณแสดงออกชัดมากว่าคุณเกลียดฉันจะตาย จริงมั้ย” “รู้ตัวก็ดี” สีหน้าเขาเย็นชา ทั้งที่ในใจแอบหวั่นไหวกับเสน่ห์เฉพาะตัวบางอย่างของเธออยู่ไม่น้อย “ก่อนที่คุณจะเกลียดฉันไปมากกว่านี้ ฉันมีอะไรบางอย่างจะสารภาพกับคุณ” อลีนาวางช้อนส้อมแล้วมองหน้าเขาจริงจัง “อะไร” หญิงสาวหันไปมองที่เตียงคนไข้เพื่อดูให้แน่ใจว่าไออุ่นยังหลับสนิทอยู่ และจะไม่ได้ยินเรื่องที่เธอกำลังจะพูด “ฉันไม่ใช่แม่ของไออุ่น ฉันเป็นพี่สาวฝาแฝดของแม่ไออุ่น” “ว่าไงนะ!” “มันอาจจะฟังดูน้ำเน่าไปหน่อย แต่มันคือเรื่องจริง” อลีนาเปิดรูปในโทรศัพท์มือถือที่เธอกับอันนาถ่ายคู่กันให้เขาดู “หน้าเหมือนกันมาก” คิรากรไม่อยากเชื่อสายตาตัวเอง และแวบหนึ่งในห้วงความคิด เขาแอบดีใจที่เธอไม่ใช่ผู้หญิงใจดำที่เขาจงเกลียดจงชัง ที่สำคัญเขาจะได้ไม่ต้องห้ามความรู้สึกตัวเองไม่ให้วูบวาบหวั่นไหวกับเธออีกต่อไป “คุณชื่อเอิงใช่มั้ย” “คุณรู้ได้ไง” “ผมได้ยินผู้ชายคนนั้นเรียกคุณเมื่อคืนนี้” “ใช่ค่ะ ฉันชื่อเอิง อลีนา ส่วนแม่ของไออุ่นชื่อเอย อันนา หลังจากจบ ม. ปลาย เอยก็ไปเรียนอเมริกา ส่วนฉันเรียนที่เมืองไทย ฉันไม่รู้หรอกว่าตอนอยู่ที่โน่นเอยก่อเรื่องอะไรไว้บ้าง ส่วนเรื่องที่เอยมีลูก ฉันก็เพิ่งรู้หลังจากเจอไออุ่นเมื่อคืนนี้” “แล้วคุณไปทำอะไรที่โรงแรมนั่นกับผู้ชายคนนั้น” คำถามนี้ไม่เกี่ยวกับเรื่องของไออุ่นเลย แต่ที่ถามเพราะเขาอยากรู้ว่าเธอกับผู้ชายคนนั้นเป็นอะไรกัน “ฉันกับพี่พอลไปดูห้องจัดเลี้ยงงานแต่งงาน” “คุณกำลังจะแต่งงานเหรอ” เขาถามเสียงแผ่วคล้ายแอบผิดหวังอยู่ลึกๆ “เปล่าค่ะ คนที่จะแต่งงานคือเอย แต่เอยไม่ว่างไปดูห้อง ฉันเลยต้องไปช่วยดูให้แทน” คิรากรอยากจะบ้าตาย เมื่อครู่เขาเพิ่งโดนความผิดหวังถีบลงก้นเหว แต่ไม่ถึงครึ่งนาทีก็ถูกกระชากกลับขึ้นมายิ้มรับแสงแห่งความหวังอีกครั้ง ผู้หญิงคนนี้ทำให้เขารู้สึกเหมือนกำลังนั่งรถไฟเหาะตีลังกา “แล้วผู้ชายคนนั้นเป็นอะไรกับคุณ” เขาอยากรู้ว่าเธอยัง ‘โสด’ อยู่หรือเปล่า “คุณจำเป็นต้องรู้ด้วยเหรอคะ” อลีนาย้อนถาม เพราะไม่รู้ว่าเขาจะอยากรู้ไปทำไม “โอเค เรื่องส่วนตัวของคุณ ไม่ต้องตอบก็ได้” คิรากรปั้นหน้านิ่งกลบเกลื่อนความรู้สึกและบังคับตัวเองให้สงบนิ่ง ไม่ให้แสดงออกโจ่งแจ้งเกินไปว่าเขากำลังสนใจเธออยู่ “พี่พอลเป็นว่าที่เจ้าบ่าวของเอยค่ะ” ในที่สุดเธอก็บอก ชายหนุ่มพยายามซ่อนรอยยิ้มพึงพอใจเอาไว้ไม่ให้คนตรงหน้าเห็นแล้ววกกลับมาคุยเรื่องไออุ่นต่อ “น้องสาวคุณกำลังจะแต่งงาน แบบนี้เขาก็คงไม่สนใจไออุ่นแล้ว” “ไม่ใช่เอยไม่สนใจ แต่เอยบอกว่าถูกน้องชายคุณแย่งลูกไป และขู่ไม่ให้มายุ่งกับลูกอีก ไม่อย่างนั้นเขาจะทำร้ายเอย” “ไม่จริง!” คิรากรขบกรามแน่น “น้องสาวคุณนั่นแหละที่เป็นคนทิ้งน้องชายผมกับไออุ่นไป แล้วน้องสาวคุณเป็นคนทำให้น้องชายผมตาย” อลีนาขอให้ชายหนุ่มเล่าเรื่องระหว่างเปรมอนันต์และอันนาให้ฟังอย่างละเอียด เพราะข้อมูลที่เธอรับรู้จากน้องสาวไม่ตรงกับที่เขาพูด และหลังจากฟังจบ หญิงสาวก็ได้แต่ยิ้มเฝื่อนๆ “ตลกมั้ย ถ้าฉันจะบอกว่าฉันเชื่อเรื่องที่คุณเล่ามากกว่าเรื่องที่เอยเล่าให้ฉันฟัง” “ไม่หรอก เพราะคุณคงรู้นิสัยน้องสาวตัวเองดีอยู่แล้ว” “คุณพูดถูก ฉันรู้ว่าเอยเป็นคนยังไง แล้วฉันก็รู้สึกว่าตัวเองโง่มากที่หลงเชื่อคำพูดของเอยง่ายๆ อีกแล้ว” “คุณทำถูกแล้วที่เลือกเชื่อคนในครอบครัวเดียวกันก่อน” เขาออกความเห็นอย่างเป็นกลาง “ยังไงผมก็ขอบคุณคุณมากที่วันนี้คุณอุตส่าห์มาหาไออุ่น คุณทำให้แกมีความสุขมาก ถึงจะเป็นความสุขแค่ชั่วคราวก็เถอะ” “ฉันมาเพราะเมื่อคืนนี้แกร้องไห้น่าสงสารมาก ฉันดูออกว่าแกกำลังโหยหาความรักจากแม่ ถ้าปล่อยให้แกโตไปกับความรู้สึกขาดแบบนี้ต่อไป มันจะกลายเป็นปมในใจที่ผูกแน่นจนแก้ไม่หลุด” “แต่แม่แท้ๆ ของแกไม่ต้องการแก คุณจะให้ผมทำยังไง” คิรากรสงสารไออุ่นจับใจ “ฉันจะกลับไปคุยกับเอย ให้เอยมาเยี่ยมไออุ่น” “คุณคิดเหรอว่าน้องสาวคุณจะมา” ชายหนุ่มแค่นยิ้ม อลีนาเห็นด้วย เพราะตอนที่คุยกันเมื่อเช้า อันนาบอกชัดเจนว่าไม่ต้องการลูก เธออยากเริ่มต้นชีวิตใหม่ และไม่อยากให้ใครรู้ว่าเธอเคยมีลูกมาก่อนอีกด้วย “ก็ต้องลองคุยดูก่อนค่ะ” “ไออุ่นไม่ได้ต้องการแม่แค่ชั่วคราวแบบที่ไปๆ มาๆ นะคุณ แกต้องการให้แม่อยู่กับแกตลอดเวลา แค่คุณหายไปไม่กี่ชั่วโมงแกยังร้องไห้จนผมแทบขาดใจ ถ้าน้องสาวคุณไม่พร้อมทำหน้าที่แม่ ผมขอร้องว่าอย่าพาเขามาเจอไออุ่น ผมไม่อยากให้ลูกเสียใจมากไปกว่านี้” อลีนาครุ่นคิดอย่างหนักใจ เพราะรู้ว่าเปอร์เซ็นต์ที่อันนาจะมาดูแลไออุ่นในฐานะแม่มีน้อยมากจริงๆ “ถ้าเอยไม่ยอมมาทำหน้าที่ของตัวเอง ฉันขอเป็นแม่ให้ไออุ่นแทนได้มั้ย” คิรากรมองสบตาอลีนานิ่งงัน อย่างคาดไม่ถึงว่าเธอจะยื่นข้อเสนอแบบนี้ “คุณจะมาเป็นแม่ให้ไออุ่นก็ได้ แต่คุณจะเอาแกไปจากผมไม่ได้” “แบ่งวันกันได้มั้ยล่ะ จันทร์ถึงศุกร์อยู่กับคุณ เสาร์อาทิตย์อยู่กับฉัน หรือจะสลับวันกันก็ได้แล้วแต่คุณ” เธอยอมอ่อนข้อ เพราะถือว่าเขาเลี้ยงไออุ่นมาตั้งแต่แรกเกิด “แล้วแต่ผมแน่นะ” “ค่ะ” “งั้นก็ย้ายมาอยู่ด้วยกัน มาช่วยกันทำหน้าที่พ่อและแม่ให้ไออุ่นไปพร้อมๆ กัน” ไม่รู้ทำไมเขาถึงอยากให้ ‘คุณป้าน่ารัก’ ที่มาเขย่าหัวใจของเขาตั้งแต่ครั้งแรกที่ได้ถูกเนื้อต้องตัวกัน มาอยู่ใกล้ตัวมากถึงขนาดนี้ ตอนเย็น อลีนาขอตัวกลับบ้านเพื่อจะไปคุยกับอันนา โดยอ้างกับไออุ่นว่าจะกลับไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าที่บ้านแค่แป๊บเดียวแล้วจะกลับมานอนด้วย “แม่เอิงไปแค่แป๊บเดียวแล้วจะรีบกลับมา ไออุ่นต้องเป็นเด็กดี ไม่งอแงกับคุณพ่อนะคะ” “แม่เอิงต้องกลับมาจริงๆ นะคะ” เด็กน้อยทำหน้าจ๋อย กลัวถูกทิ้ง “จริงสิคะ แม่เอิงรักหนู ยังไงก็ต้องกลับมาหาหนูอยู่แล้ว” อลีนาหอมแก้มทั้งสองข้างของไออุ่นด้วยความรักและสงสารจับใจที่หัวใจดวงน้อยของเด็กหญิงมีแต่ความหวาดระแวงว่าจะถูกทิ้ง จากนั้นจึงหันไปบอกคิรากรที่นั่งอยู่ที่ขอบเตียงอีกด้าน “เรื่องข้อเสนอของคุณ ฉันจะลองไปคุยกับเอยดูก่อน ยังไงฉันก็อยากให้เอยได้ทำหน้าที่ของตัวเอง” “ถ้าคุณอยากลองก็ตามใจ” ชายหนุ่มไม่คาดหวังอยู่แล้วว่าคนที่ทิ้งลูกไปเมื่อสี่ปีก่อนจะยอมกลับมาดูแลลูก “ฉันไปนะ ได้เรื่องยังไงจะรีบส่งข่าว” หญิงสาวในชุดออกกำลังผู้ชายตัวหลวมโคร่งเดินไปหยิบกระเป๋าถือและเปลี่ยนรองเท้าจากสลิปเปอร์เป็นรองเท้าส้นสูงคู่เดิม ส่วนเสื้อผ้าที่เปื้อนอาเจียนของไออุ่นอยู่ในถุงพลาสติกใบใหญ่ที่ไปขอมาจากพยาบาล “คุณจะไปยังไง” “ก็คงนั่งมอเตอร์ไซค์รับจ้างไปเอารถที่หน้าโรงเรียนไออุ่นก่อนแล้วค่อยกลับบ้าน” “จะไปชุดนี้เหรอ” คิรากรกวาดตามองชุดที่เธอสวมอยู่ตั้งแต่หัวจดเท้า “ค่ะ” หญิงสาวก้มมองตัวเองแล้วเงยหน้าขึ้นถาม “ตลกเหรอ” “ไม่หรอก...น่ารักดี” ท้ายประโยคนั้นแผ่วเบาเหมือนจะติดอยู่แค่ในลำคอ แต่ก็ดังพอที่อลีนาจะได้ยิน “ขอบคุณสำหรับชุด ‘น่ารัก’ ชุดนี้นะคะ...คุณลุง” หญิงสาวส่งยิ้มล้อเลียนให้คนตรงหน้าอย่างร่าเริง ตั้งแต่เขารู้ว่าเธอไม่ใช่อันนา เขาก็พูดจากับเธอดีขึ้นและเป็นมิตรกับเธอมากขึ้น แต่พอถูกเรียกว่า ‘คุณลุง’ ปุ๊บ เขาก็กลับมาทำตาดุใส่เธอเหมือนเดิมทันที “ถ้าอยากนับญาติกับผม เรียก ‘พี่’ ก็พอ” อลีนายิ้มขำกับการปล่อยมุกหน้าตายของเขา “นี่คุณ ฉันขอบคุณนะที่คุณไม่พานโกรธฉันไปด้วย” “ผมแยกแยะได้ คุณกับน้องสาวคุณเป็นคนละคนกัน น้องสาวคุณเองก็เถอะ ถ้าเขายอมรับผิดแล้วกลับตัวใหม่ยอมมาทำหน้าที่ของตัวเอง ผมก็ให้อภัยได้เพื่อความสุขของไออุ่น” “ฉันดีใจนะคะที่ไออุ่นมีคุณเป็นพ่อ” หญิงสาวชื่นชมเขาจากใจจริง และถือเป็นความโชคดีขั้นสูงสุดของไออุ่นที่ได้อยู่ในการอุปการะของคุณลุงหน้าดุแต่ใจดีมากคนนี้
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD