“เอิงต้องขอโทษคุณศรีด้วยนะคะที่ไม่ได้บอกความจริงตั้งแต่แรก” อลีนายกมือไหว้ขอโทษศรียุดาหลังจากที่คิรากรเล่าความจริงทั้งหมดตั้งแต่คืนที่เขาและไออุ่นเจอเธอที่ลานจอดรถในโรงแรมให้มารดาฟัง
ศรียุดามองเมินไม่รับไหว้ การที่ได้รับรู้ว่าอลีนาไม่ใช่อันนาไม่ได้ช่วยให้สถานการณ์ดีขึ้นเลย เพราะเธอไม่เชื่อว่าพี่น้องฝาแฝดจะนิสัยแตกต่างกันอย่างที่คิรากรบอก ถ้าอันนานิสัยแย่สุดขั้วขนาดนั้น อลีนาก็ไม่น่าจะนิสัยดีไปกว่ากันสักเท่าไร
“คุณแม่ครับ” คิรากรกระซิบเตือนมารดาเมื่อเห็นอลีนาหน้าเสีย “เอิงมาเพราะเป็นห่วงไออุ่นนะครับ”
“แต่ถ้าจะมาทำให้ไออุ่นรักและผูกพันแค่สองปีแล้วก็ทิ้งแกไปแม่ไม่โอเค” ศรียุดาบอกลูกชายแล้วหันมาจ้องหน้าอลีนาด้วยแววตาขุ่นคลั่ก “เธอกำลังจะทำร้ายหลานฉันซ้ำสอง”
“เอิงกำลังทำให้ไออุ่นมีความสุขนะคะ แกดีใจมากที่เอิงมาหาแกในฐานะแม่ จะเรียกว่าทำร้ายแกได้ยังไงคะ” หญิงสาวพยายามอธิบายด้วยท่าทีที่นอบน้อมที่สุดเพื่อไม่ให้ถูกมองว่าก้าวร้าวเถียงผู้ใหญ่
“แล้วถ้าอีกสองปีเธอหายตัวไปตามที่ตกลงกับคิมไว้ เธอคิดบ้างมั้ยว่าไออุ่นจะเป็นยังไง” ผู้อาวุโสกว่าถามสะกิดให้คิดถึงผลกระทบทางด้านจิตใจของไออุ่นที่จะตามมา “อีกสองปี ไออุ่นก็แค่หกขวบ แกยังไม่โตพอที่จะเข้าใจอะไรมากอย่างที่เธอคิดหรอกนะ”
อลีนานิ่งเงียบ เธออาจะคิดน้อยไปจริงๆ
“เรื่องนี้ผมผิดเองครับคุณแม่ ผมเป็นคนยื่นข้อเสนอนี้ให้เอิงเอง” คิรากรออกหน้าปกป้องหญิงสาวที่ได้แต่นั่งทำหน้าจ๋อยสนิท จากการปะทะกันครั้งแรก เขารู้ว่าเธอไม่ใช่คนยอมคน แต่การที่เธอยอมสงบปากไม่เถียงมารดาของเขาสักคำ ยิ่งทำให้เขาประทับใจในตัวเธอมากขึ้น
“โตเป็นผู้ใหญ่กันขนาดนี้ แต่ถ้ายังคิดได้แค่นี้ ก็ไม่สมควรจะเป็นพ่อแม่คน” ศรียุดาถอนใจเฮือกใหญ่ แอบผิดหวังกับลูกชายตัวเองอยู่ไม่น้อย “แล้วการที่อยู่ๆ คิมจะพาผู้หญิงคนนี้เข้าไปอยู่ในบ้านในฐานะแม่ของไออุ่น เมียของเปรมน่ะ คิมคิดมั้ยว่าคนจะเมาท์กันว่ายังไงบ้าง คิมเป็นหนุ่มโสด ส่วนผู้หญิงคนนี้ก็เป็นแม่ม่าย ในความรับรู้ของคนนอก คนก็คงพูดกันว่าคิมเก็บตกเมียน้องชายตัวเอง”
“ทุกอย่างที่คุณแม่พูดมาผมก็คิดไว้อยู่แล้ว แต่ผมไม่แคร์ ผมแคร์แค่ความรู้สึกของไออุ่นคนเดียว”
“แล้วเอิงล่ะ คิมคิดมั้ยว่าเขาจะไปบอกพ่อแม่ยังไง จะมองหน้าคนในสังคมยังไง ที่อยู่ๆ ก็หอบผ้าหอบผ่อนไปอยู่บ้านผู้ชาย” ถึงแม้จะไม่ชอบหน้าอลีนา แต่ศรียุดาก็มีแก่ใจจะคิดเผื่อเธอ อย่างน้อยก็ในฐานะที่เธอเป็นแม่ ถ้าเธอมีลูกสาว แล้วลูกสาวของตัวเองต้องตกอยู่ในสภาพแบบนี้ เธอก็คงจะไม่ชอบใจเท่าไหร่
คราวนี้คิรากรอึ้งไปอย่างยอมรับ เขามัวแต่คิดถึงไออุ่นจนลืมคิดถึงผลกระทบที่จะเกิดขึ้นกับอลีนา
“เอิงไม่เป็นไรค่ะ เอิงยินดีทำทุกอย่างเพื่อไออุ่น”
“แล้วเธอจะอยู่กับหลานฉันได้นานแค่ไหน”
“นานเท่าที่ไออุ่นยังต้องการเอิงอยู่ค่ะ”
“เธอแน่ใจนะ” ศรียุดาถามด้วยน้ำเสียงแข็งกร้าว
“แน่ใจค่ะ” หญิงสาวตอบอย่างคนที่ตัดสินใจดีแล้ว
“งั้นเธอกับคิมก็แต่งงานกันให้ถูกต้องตามประเพณีเพื่อป้องกันคำครหานินทา”
อลีนากับคิรากรหันขวับมามองหน้ากันแบบอึ้งๆ
ศรียุดายังคงอธิบายต่อ “แล้วก็ไม่ต้องโกหกใครทั้งนั้นว่าเธอคือเอย ตอนนี้ไออุ่นเข้าใจว่าเธอเป็นแม่ ก็ปล่อยให้แกรับรู้แบบนั้นต่อไป ส่วนคนนอก ไม่มีใครรู้อยู่แล้วว่าใครเป็นแม่ตัวจริงของไออุ่น เพราะฉะนั้นไม่มีความจำเป็นอะไรที่ต้องโกหก อย่าทำให้เรื่องมันวุ่นวายซับซ้อนไปมากกว่านี้ เข้าใจมั้ย”
“เข้าใจค่ะ”
“ฉันไม่ได้ทำเพื่อ...” ศรียุดารีบออกตัวเมื่อเห็นแววตาซาบซึ้งใจจากหญิงสาวรุ่นลูกที่ส่งมาให้ “ฉันทำเพื่อปกป้องชื่อเสียงวงศ์ตระกูลของฉัน และเพื่อปกป้องความรู้สึกของไออุ่น ฉันไม่อยากให้มีเรื่องซุบซิบนินทาลอยเข้าหูหลานฉัน”
“เอิงเข้าใจค่ะ เราทุกคนต่างก็รักและต้องการทำเพื่อไออุ่นเหมือนกัน”
“คุณไม่จำเป็นต้องทำถึงขนาดนี้ก็ได้นะเอิง” คิรากรรู้ว่าการแต่งงานไม่ใช่เรื่องเล่นๆ สำหรับผู้หญิง แม้แต่ผู้ชายอย่างเขาถือเป็นเรื่องใหญ่เหมือนกัน แต่เขายินดีทำเพื่อลูก และยิ่งผู้หญิงที่เขาจะต้องแต่งงานด้วยคือเธอ เขาก็ยิ่งยินดีมากขึ้นเป็นสองเท่า
“ฉันโอเคค่ะ วิธีนี้น่าจะเป็นทางออกที่ดีที่สุด เพราะฉันก็กำลังคิดอยู่เหมือนกันว่าจะไปบอกพ่อกับแม่ว่ายังไงที่จะย้ายไปอยู่บ้านคุณ”
“ขอบคุณมากนะเอิง” ชายหนุ่มได้ยินคำตอบแล้วแทบอยากจะกระโดดกอดเธอให้แน่นๆ
ทำไมผู้หญิงคนนี้ถึงได้น่ารักมากขนาดนี้ ไออุ่นโชคดีเหลือเกินที่ได้เธอมาเป็นแม่ และเขาก็พลอยโชคดีไปด้วยที่กำลังจะได้เธอมาเป็นแม่ของลูก ไม่ใช่เฉพาะลูกสาวคนโตอย่างไออุ่นเท่านั้น แต่ยังหมายถึงลูกคนที่สอง คนที่สาม คนที่สี่ คนที่ห้า และคนต่อๆ ไปอีกด้วย
ศรียุดาเห็นความลิงโลดในแววตาของลูกชายแล้วอดหมั่นไส้ไม่ได้ ถ้าไม่ใช่เพราะสงสารไออุ่นที่ต้องการแม่มาก เธอไม่มีวันยอมรับพี่สาวของผู้หญิงที่ทำให้ลูกชายคนเล็กของเธอต้องตายมาเป็นลูกสะใภ้แน่นอน
“เอาเป็นว่าถ้าเธอตกลง พรุ่งนี้ฉันจะไปสู่ขอเธอกับพ่อแม่ของเธอ”
“เอิงตกลงค่ะ แล้วเอิงจะนัดพ่อกับแม่ให้นะคะ”
“ได้เรื่องยังไงก็บอกผ่านมาทางคิมก็แล้วกัน” ศรียุดาเชิดหน้าบอกอย่างห่างเหินเย็นชาแล้วเดินกลับขึ้นไปหาไออุ่นราวกับไม่อยากเสวนากับว่าที่ลูกสะใภ้คนนี้ถ้าไม่จำเป็น
คล้อยหลังมารดา คิรากรก็รีบขยับเก้าอี้เข้ามาชิดกับเก้าอี้ของอลีนาอย่างตื่นเต้นดีใจทันที “เรื่องแต่งงานคุณโอเคแน่นะเอิง”
“นี่คุณ เบียดมาขนาดนี้ขึ้นมานั่งบนตักฉันเลยมั้ย”
“ได้จริงเหรอ”
“จะบ้าเหรอ!” เธอตีเผียะเข้าที่ต้นแขนที่เต็มไปด้วยมัดกล้ามของเขา “ฉันพูดเล่น ส่วนเรื่องแต่งงานฉันโอเคค่ะ ฉันยินดีทำทุกอย่างเพื่อไออุ่น เพื่อชดเชยความเลวร้ายที่เอยทำไว้กับแกและน้องชายของคุณ”
“ขอบคุณมากนะเอิง ขอบคุณจริงๆ” เขาอยากจะกอดเธอให้แน่นๆ แล้วหอมแก้มสักฟอดสองฟอด แต่ก็กลัวจะถูกตบให้อายคนทั้งร้าน จึงได้แต่ข่มใจไว้รอวันเข้าหอ
“เปลี่ยนจากคำขอบคุณเป็นแหวนเพชรสักสิบกะรัตแทนได้มั้ยคะ”
“ไปเลือกกันเดี๋ยวนี้เลยก็ได้ ร้อยกะรัต พันกะรัต ผมก็จะซื้อให้คุณ”
อลีนาแค่พูดเล่นขำๆ แต่คิรากรกลับคิดจริงจังด้วยการฉุดข้อมือเธอให้ลุกขึ้นแล้วพาเดินลิ่วออกไปจากร้านกาแฟ