ช่วงสายกึ่งกลางระหว่างเวลาเช้ากับเวลากลางวัน ในโบสภ์เก่าแก่หากแต่ไม่ทรุดโทรมมากนัก บัดนี้ถูกตกแต่งให้เป็นลานวิวาห์ด้วยโทนสีดูสะอาด ทว่า กลับขัดตาไปด้วยสูทสีดำของเหล่าบอดี้การ์ดที่ย้อนรายล้อม ห่างกันประมาณเมตรเศษเป็นจุดๆ ช่างเป็นงานมงคลแบบไม่มีที่ใดมาก่อน หากแต่ทำให้ดูน่าเกรงขาม ดุดัน และเข้ากันกับดอกไม้สีขาวบริสุทธิ์อย่างน่าเหลือเชื่อ โดยเจ้าของใช้อุ้งมือกำไว้อย่างถะนุถนอม ราวกับกลัวจะบุบสลายร่วงโรยไปต่อหน้าต่อตา
เธอสวมชุดสีเดียวกันกับดอกไม้นั้น
กระโปรงลูกไม้บานพริ้วแต่ไม่ได้ฟูมาก เข้ากับบุคลิกของเธอเป็นอย่างดี แถมแหวกแผ่นหลังยาวมาถึงสะบั้นเอว เผยผิวขาวเนียนให้ยิ่งดูเปรี้ยวหนักเข้าไปอีก
ถัดมาข้างกายคือชายหนุ่มคนหนึ่ง เขาคือมาเฟียที่ปลดประจำการชั่วคราว เพื่อมารองรับหน้าที่เจ้าบ่าวในวันนี้โดยเฉพาะ กับความหล่อเหลาในคราบชุดทักซิโด้สีเดียวกับเจ้าสาว ซึ่งทำคนกำลังมองไม่อาจปฏิเสธได้ว่า พวกเขาทั้งคู่ ช่างดูสง่า คู่ควรและเหมาะสมกันดียิ่งนัก
ต่างแต่ใครคนนึงที่ยืนอยู่ด้านหลัง ระยะห่างไม่ได้ไกลออกไปสักเท่าไหร่ นั่นเพราะเขาเป็นบุคคลสำคัญ เด่นถึงขนาดถ้าขยับตัวเผลอกำหมัดแน่น ภายใต้แขนเสื้อสูทเต็มยศนั้น ก็ยังมีคนเห็น
"เป็นเพราะเป็นความประสงค์ของพวกเธอที่จะแต่งงาน ให้ประสานมือขวา และประกาศความยินยอมของพวกเธอต่อหน้าพระองค์ และศาสนิกชนของพระองค์ "
จากนั้นไม่นาน หลังเสียงบาทหลวงเอ่ยขึ้น ท่ามกลางความยินดีของแขกเรื่อทุกคน มีเพียงเขาที่ความอดทนอดกลั้นแทบจะขาดผึง
" ผม ธาร์เบอริส ซันดรู ขอรับคุณ เพียรา เป็นภรรยาของผม ผมสัญญาว่าจะซื่อสัตย์ต่อคุณทั้งในยามสุขและ ยามยาก ในยามไข้และสบายดี ผมจะรักคุณและให้เกียรติคุณตลอดชั่วชีวิตของผม"
ทว่า เป็นเพราะเธอ ที่ทำให้ความอดทนนั้นของเขายังมีอยู่ เพียงแค่เสี้ยวหน้าที่เผยให้เห็น อย่างไรก็ทำให้ดูรู้ว่าวันนี้เป็นวันที่เธอมีความสุขมาก
... เพียงแค่นั้น ความคิดอกุศลที่มี จึงค่อยๆมลายหายไป...
"ดิฉัน เพียรา ขอรับคุณ ซันดรู เป็นสามีของดิฉัน ดิฉันสัญญาว่าจะซื่อสัตย์ต่อคุณทั้งในยามสุขและยามยาก ในยามไข้และสบายดี ดิฉันจะรักคุณและให้เกียรติคุณตลอดชั่วชีวิตของดิฉัน...ค่ะ"
จบประโยคของเธอ ก็เหมือนหยุดความรู้สึกของเขา
แมททริกได้แต่ยืนเฉย ถึงไม่ได้ยืนก้มหน้า ไหล่คอตกเหมือนในละคร กระนั้นแววตาที่พยายามซ่อนความรู้สึกอยู่ อย่างไรก็หนีไม่พ้น ปกปิดไม่ได้ และเผยออกมาให้เห็นในที่สุด
จนกระทั่ง....
พิธีสำคัญเหล่านั้นได้ผ่านพ้นไป เหลือก็แต่โยนดอกไม้
"เอาเลยๆ โยนเลย "
"ทางนี้ เพียรา ทางนี้ "
ที่มาพร้อมกับเสียง....
" สัญญาณเตือน "
แมททริกละสายตาจากดอกไม้ช่อนั้น ที่กำลังพุ่งทะยานออกจากมือเพียรา และกำลังจะหล่นใส่ศีรษะตัวเอง กลับหล่นลงพื้นอย่างไม่เป็นท่าในตอนท้าย เพราะร่างสูงเกิดหมุนตัวเดินออกไปกะทันหัน
ทำเธอที่จงใจจะฉีกกฏโยนให้เขาซึ่งเป็นผู้ชายรับ ถึงกับยืนงง
" อะไรกัน ? "
" องค์กรน่าจะมีเหตุ "
" ละ แล้วทำยังไงดีคะ "
" ไม่ต้องทำอะไร แมททริกจะจัดการทุกอย่างเอง "
" แล้วถ้ามันเป็นเรื่องใหญ่..."
" ถ้าอย่างนั้นเราจะมีบอดี้การ์ดไปทำไม ต่อให้ใหญ่มากระดับโลก คนที่จะแก้ปัญหาคงไม่ใช่เราในเวลานี้ รีบแต่งรีบเข้าหอดีกว่า "
" หาาา"
ทางด้านของแมททริก นอกจากเดินเร็วออกมาอย่างไม่สนใจใคร อันดับแรกที่เขาทำคือการหาต้นตอของสาเหตุ แน่นอนคราบเลือดที่กองเป็นก้อนส่งกลิ่นคาวคลุ้งในตอนนี้ กับศพของชายร่างท้วมคนหนึ่ง ที่มีความสำคัญระดับนึงในแก็งค์นั้น ทำเขาหัวเสียได้มากมายเลยทีเดียว
" แยกกันไปคนละทาง "
พร้อมคำสั่งเสียงทุ้มเรียบ แต่ฟังยังไงก็รู้ว่าเขากำลังโกรธ พาลูกน้องเร่งทำตามอย่างอัตโนมัติ ในขณะเขาเลือกยืนอยู่ที่เดิม กับลูกน้องคนสนิทเพียงสองคน
เพราะห่างออกไปจากจุดนั้น เป็นรถของผู้ตายซึ่งจอดขวางทางอยู่ นั่นทำให้เขาสงสัย กับการออกมาตายของเขานอกรถ
แมททริกคลี่เน็คไท้ให้หลวมหวังคลายความอึดอัด ก่อนจะก้มลงไปสำรวจร่องรอยภายใน ในขณะสมองกำลังประมวลผล และใช้ประสบการณ์ที่มีเรียบเรียงความน่าจะเป็นไปได้มากที่สุด ต่อระดับเหตุการณ์ที่ควรจะเกิดขึ้นก่อนหน้า
แต่แล้ว...
กลับต้องชะงักด้วยสิ่งนี้แทน เมื่อจอมิเตอร์หน้ารถกำลังส่งสัญญาณบางอย่าง
" เปิดท้ายรถ "
ชายหนุ่มยืดตัวขึ้นเต็มความสูง ก่อนจะเดินช้ามายืนตระหง่านหลังออกคำสั่ง รอให้ลูกน้องเป็นคนเปิด
ซึ่งแน่นอน สิ่งที่เขาคาดคะเนไม่มีครั้งไหนที่จะผิดพลาด หลังท้ายรถของผู้ตายต้องมีบางอย่างซุกซ่อนอยู่ ทว่าเพียงแค่เขาคาดไม่ถึงว่าจะเป็นสิ่งนี้
" ฮึก ฮือๆๆ"
เสียงร้องไห้ของผู้หญิงปริศนา กำลังนอนขดตัว พร้อมร่างกายที่สั่นสะท้าน บ่งบอกถึงความกลัวสูงสุด
ความตกใจของเขา ทำได้แค่ถ่างตาขึ้นเล็กน้อยหลังเห็น ก่อนกวาดสายตาไปทั่วร่างบาง มองหญิงสาวที่กำลังผงกหัวขึ้นมามองเขา โดยไม่มีเสียงเล็ดลอดออกมาจากปากเธอสักคำ แต่จะไม่มั่นใจจนกว่าจะได้คำตอบ ถ้าไม่เห็นมีดปลายแหลมอยู่ในมือของเธอเสียก่อน
" เธอเป็นคนฆ่าเขาหรือ..."
และดูเหมือนคำถามนี้ จะทำให้เขามั่นใจมากกว่าเดิม สังเกตจากร่างบางสั่นสะท้านดุจเจ้าเข้า
เธอกอดตัวเองแน่น ปล่อยโฮปากสั่น พร้อมส่ายหน้าไปมาราวกับคนขาดสติ
" ฮือๆๆ"
" คงใช่สินะ ... เอาตัวมันไป!"
" ครับนาย "