บทที่ 1 ใจฟูอยากมีแม่ เจ้าขาอยากมีพ่อ (1)

1297 Words
“ไม่ไป ไม่เอา ใจฟูไม่เรียน” เสียงแสบแก้วหูดังทะลุขึ้นมากลางปล้อง เมื่อเด็กชายปองคุณหรือน้องใจฟู อายุห้าขวบตัวกลม ไม่ยอมไปเรียนภาษาไทยกับคุณครูที่บิดาจ้างมาสอนถึงบ้านในช่วงที่โรงเรียนกำลังปิดเทอมแรก จอมทัพคุณพ่อเลี้ยงเดี่ยวสุดหล่อและเป็นประธานบริษัทอสังหาริมทรัพย์อันดับหนึ่งของประเทศ อยากให้ลูกชายซึ่งเรียนอยู่ในโรงเรียนอินเตอร์อ่านเขียนภาษาไทยได้คล่อง จึงตัดสินใจจ้างคุณครูมาสอนถึงบ้านหลังงามของตระกูล “ทำไมถึงไม่อยากเรียน ใจฟูบอกเหตุผลกับพ่อได้ไหมครับ” คุณพ่อพยายามใช้ไม้อ่อนคุยกับลูกชายตัวแสบที่กำลังยืนกอดอกคอตั้ง หน้านิ่วคิ้วขมวด ปากน้อยคว่ำลงบ่งบอกถึงความไม่พอใจ อย่างไรก็ไม่ยอมไปเรียนเด็ดขาด “ใจฟูจะไปทำงานกับคุณพ่อที่บริษัท ใจฟูจะไปเป็นประธานบริษัท” คำตอบเกินวัยไปมากทำให้คุณพ่อเกือบหลุดขำ เอ็นดูเจ้าลูกชายตัวกลม ความสูงยังไม่ถึงเอวพ่อเลยจะไปเป็นประธานบริษัทแล้ว ขี้คร้านพอโตขึ้นถึงเวลานั้นจริงๆ เจ้าตัวอาจไม่อยากสานต่อ “ขอบใจมากครับลูกที่อยากช่วยแบ่งเบางานพ่อ แต่ตอนนี้หน้าที่ของลูกคือเรียน” จอมทัพเป็นผู้ชายอ่อนโยน เวลาพูดกับลูกมักจะใช้น้ำเสียงนุ่มนวลเสมอ ต่อให้โกรธแค่ไหนน้ำเสียงก็จะอยู่ในโทนประมาณนี้ อีกอย่างเขาเป็นคุณพ่อเลี้ยงเดี่ยวจึงไม่เคยขัดใจลูก “ม่ายยยย ใจฟูไม่เรียน ยังไงก็ไม่เรียน” เด็กเอาแต่ใจส่ายหน้าพรืด บอกแล้วไงวันนี้ใจฟูจะไปเป็นประธานบริษัททำงานเหมือนพ่อ แววตาจริงจังกับน้ำเสียงกระจองอแงทำให้คุณพ่ออ่อนใจ “ทำยังไงลูกถึงยอมเรียน” “บอกแม่ให้กลับมาหาใจฟู แล้วใจฟูจะตั้งใจเรียน” “พ่อบอกแล้วไง แม่ของลูกอยู่ไกลยังกลับมาไม่ได้” “งั้นใจฟูก็ไม่เรียน” เด็กดื้อส่ายหน้าก่อนจะเอามือขึ้นมากอดอกแล้วจ้องหน้าพ่ออย่างไม่ยอมแพ้ คุณพ่อยังไม่ทำตามความต้องการของใจฟูเลย แล้วทำไมใจฟูต้องทำตามที่คุณพ่อต้องการด้วย ตัวแสบคิดในขณะเชิดคอจ้องหน้าบิดา จอมทัพถอนหายใจเฮือก ท้ายที่สุดก็ต้องตามใจลูกชายวัยกำลังซน “ก็ได้ครับ วันนี้ลูกไม่อยากเรียนก็ไม่ต้องเรียน พรุ่งนี้ค่อยว่ากันใหม่” เขาใจอ่อนเพราะไม่อยากให้ลูกชายถามถึงเรื่องมารดา ไม่อยากให้ลูกพูดถึงผู้หญิงคนนั้น คนที่ทำให้ใจฟูเกิดมาและทำให้พี่ชายของเขาต้องตาย “เย่ ต้องเป็นแบบนั้นอยู่แล้ว ไปอาบน้ำดีกว่า” เจ้าตัวกลมยิ้มพอใจหลังจากได้ยินคำตอบ ปากน้อยฉีกยิ้มกว้าง ตาโตเท่าไข่ห่านก่อนจะหย่อนขาสั้นๆ ของตนเองลงจากเตียงนอนโดยไม่ต้องให้บิดาช่วยเหลือ “อ้าว คุณหนูน้อยไปไหนแล้วคะคุณหนู” ป้าเจียมแม่บ้านเก่าแก่ของครอบครัวซึ่งดูแลจอมทัพมาตั้งแต่เด็ก เอ่ยถามหลังจากเดินเข้ามาในห้องแล้วไม่เห็นปองคุณ หรือคุณหนูน้อยตัวแสบ “ไปอาบน้ำแล้วครับป้าเจียม คุณหนูน้อยของป้าเจียมจะไปทำงานกับผม ไม่ยอมเรียน” จอมทัพส่ายหัวให้กับความดื้อรั้นของลูกชาย “ป้าจะเข้ามาบอกคุณหนูเรื่องนี้เหมือนกันค่ะ” คุณแม่บ้านยิ้มแห้งกับเรื่องที่กำลังจะเอ่ย “ทำไมครับ เกิดอะไรขึ้น” ท่านประธานหนุ่มถามกลับด้วยน้ำเสียงสงสัย “เมื่อสักครู่คุณครูที่สอนคุณหนูน้อยโทร.มาขอลาออกค่ะ” “ลาออก! อีกแล้วเหรอครับ” ใช่ต้องใช้คำว่า อีกแล้ว เพราะเขาจ้างครูมาสอนลูกชายถึงสามคนแล้ว ซึ่งแต่ละคนทำงานได้ไม่เกินสองวันก็ขอลาออก เหตุเกิดจากลูกศิษย์ตัวน้อยซนเกิน ไม่ยอมนั่งนิ่งฟังครูสอน ไม่ก็ชอบถามเรื่องนอกตำราเรียนทำให้ครูหมดความอดทน “ค่ะ เธอบอกว่ารับมือคุณหนูใจฟูไม่ไหว ดื้อเหลือเกิน” เรื่องนี้ป้าเจียมก็รู้และเห็นใจครูไม่น้อยโดยเฉพาะคนล่าสุดที่โดนเด็กชายปองคุณกลั่นแกล้งด้วยการเอาจิ้งจกปลอมมาหลอก “เฮ้อ งั้นป้าเจียมก็จัดการเรื่องเงินให้เขาด้วยแล้วกันครับ วันนี้ผมดูแลใจฟูเอง” ในเมื่อไม่มีทางเลือกก็ต้องทำตามนี้ไปก่อน แต่อย่างไรลูกชายก็ต้องเรียนภาษาไทย ทุกวันนี้เด็กดื้อพูดภาษาไทยได้แต่ยังไม่รู้จักพยัญชนะ เขาอยากสอนลูกเองแต่ไม่มีเวลาเลย “ได้ค่ะ แต่คุณหนูจะพาคุณหนูน้อยไปที่บริษัทจริงเหรอ” “ครับ เด็กแสบอยากไปทำงาน อยากไปเป็นประธานบริษัท” “ช่างคิด น่าเอ็นดูเหลือเกินคุณหนูน้อยของย่าเจียม” “ผมฝากป้าเจียมดูแลด้วยนะครับ ขอไปอาบน้ำแต่งตัวก่อน” คุณแม่บ้านพยักหน้ารับ จอมทัพจึงเดินกลับไปที่ห้องนอนของตัวเองพลางถอนหายใจ ไม่รู้จะทำอย่างไรกับความแสบของลูกชายดี จ้างครูมาสอนไม่ต่ำกว่าสามคนแล้ว ทุกคนพูดเป็นเสียงเดียวกัน ขอลาออก สอนไม่ไหว ใจฟูดื้อเกินไป พ่ออย่างเขาก็อายครูเหมือนกัน คุณพ่อเลี้ยงเดี่ยวกลับเข้ามาในห้องนอนเรียบร้อยก็รีบไปจัดการตัวเองบ้าง ไม่เกินหนึ่งชั่วโมงท่านประธานรูปงามก็อยู่ในชุดพร้อมไปทำงาน เขายังไม่ทันจะเปิดประตูเจ้าลูกชายตัวแสบก็พรวดพราดเข้ามาเสียก่อน ข้างหลังสะพายกระเป๋าพร้อมไปทำงานกับพ่อมาก “ทำไมคุณพ่อช้าจังคับ ใจฟูพร้อมนานแล้วนะ” ท่านประธานตัวน้อยตำหนิท่านประธานตัวจริง คุณพ่อถึงกับยิ้มขำเมื่อเห็นชุดที่ลูกชายใส่ อะไรจะบังเอิญขนาดนี้ ลูกใส่สูท พ่อก็ใส่สูท ราวกับเป็นชุดคู่พ่อลูก “ใส่สูทด้วยวันนี้ หล่อเหมือนใครเนี่ย” “เหมือนคุณพ่อไง แต่ใจฟูหล่อกว่านิดหน่อย” “มีขิงพ่อด้วย โอเคพ่อยอมก็ได้ งั้นเราไปกันเถอะ” “ไปกัน Let’s go ใจฟูพร้อมแล้วคับ” สองพ่อลูกเดินลงมาชั้นล่างเพื่อรับประทานอาหารเช้าก่อนไปทำงาน เด็กชายปองคุณยิ้มจนหน้าบานที่ได้ไปทำงานกับพ่อทำให้คนมองอมยิ้มด้วยความเอ็นดู จอมทัพมันเขี้ยวลูกชายจึงเอื้อมมือจะไปขยี้หัวแต่โดนตัวแสบปัดออกราวกับหวงตัว “จับไม่ได้คับคุณพ่อ” บอกพ่อเสียงขุ่น สายตายังคงมองมือบิดาด้วยความหวาดระแวง “ทำไมครับลูก พ่อขอจับหัวนิดเดียว” จอมทัพเอ่ยถามด้วยความสงสัย ปกติลูกชายไม่เคยต่อต้านหรือว่าลูกเริ่มโตแล้ว เขาคิดในใจ “ใจฟูจัดผมมาแล้ว ถ้าผมยุ่งก็ไม่หล่อสิ” เหตุผลของเด็กอวบทำเอาผู้ใหญ่อึ้ง คุณพ่อหน้าเหวอไม่น้อยก่อนจะหันไปมองคุณป้าแม่บ้านกับสาวใช้อีกสองคนที่กลั้นขำเอ็นดูคุณหนูน้อย “คุณหนูน้อยของย่าเจียม ถึงผมยุ่งก็หล่อครับ” “ใจฟูรักย่าเจียมที่สุดเลยคับ” “แล้วพ่อล่ะครับลูก ไม่รักเหรอ น้อยใจจัง” “ใจฟูรักคุณพ่อเท่าจักรยานเลยคับ” “ต้องพูดว่าจักรวาลครับ ไม่ใช่จักรยาน” “เหมือนๆ กันแหละคับ” “เฮ้อ พ่อปวดหัวกับลูกเหลือเกิน” เห็นไหมล่ะ แล้วจะไม่ให้เขาจ้างครูมาสอนภาษาไทยลูกชายได้อย่างไร ในเมื่อเด็กชายปองคุณชอบพูดผิดแบบนี้เป็นประจำ วันก่อนเจ้าแสบเดินมาบอกพ่อว่า ใจฟูให้กะละมังใจคับ พ่อยืนงงไปสองวินาทีก่อนจะร้องอ๋อเพราะประโยคที่ถูกต้องคือ ใจฟูให้กำลังใจคับ
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD