2

1508 Words
“หนูมินอยากชมฟาร์มม้าของพี่เจตน์ค่ะ” เด็กสาวยังนั่งทับอยู่บนร่างของเขา สองพี่น้องนั่งคุยกันอย่างน่ารักในสายตาของคนงาน แต่นั่นมันสมัยก่อน เดี๋ยวนี้มินตราโตเป็นสาวแล้วและเจตน์ก็เป็นหนุ่มฉกรรจ์ คนงานในไร่ต่างก็รู้ดีว่ามินตรากับเจตน์ไม่ใช่พี่น้องกันจริงๆ เด็กสาวที่ใส่เสื้อยืดสีขาวพอดีตัวและใส่กางเกงขาสั้นเป็นกางเกงยีนตัดขาที่สั้นจนเห็นขาอ่อนนั้นแลดูยั่วยวนนักในสายตาของหนุ่มๆ แต่เด็กสาวไม่ได้ใส่ใจ “ลุกไปได้แล้ว หนักเหมือนช้างน้ำ” “โอ๊ย! หนูมินน้ำหนักสี่สิบห้ากิโลเองนะ พูดเวอร์แล้วพี่เจตน์” คนตัวเล็กร้องขึ้น ทำตาโตเมื่อโดนหาว่าเป็นช้างน้ำ “จะไปชมฟาร์มม้าก็ไปสิ ใครห้ามกันล่ะ” “เอ๊ะๆ พี่เจตน์คนดีของหนูมิน ต้องพาหนูมินไปสิคะ” “ฉันไม่ว่าง เดี๋ยวให้คนงานพาไป” “ก็ได้ค่ะ หนูมินอยากชมฟาร์มม้าแบบขี่หลังพี่เจตน์ไป แต่พี่เจตน์ไม่ว่างขี่หลังคนงานไปก็ได้” เจตน์หันขวับมาหาเด็กสาว กวาดสายตามองตั้งแต่หัวจรดเท้า เสื้อยืดสีขาวพอดีตัวกับกางเกงขายีนส์ขาสั้นปิดแค่ก้นกระมั้ง เขาแยกเขี้ยวใส่เธอทันที ถ้าไม่ใช่เพราะพ่อกับแม่ของเธอและพ่อกับแม่ของเขาฝากเธอเอาไว้ และเขาต้องดูแลไม่ให้เธอเสียหายหรือบุบสลาย เขาคงไม่ต้องตกอยู่ในสภาพนี้เป็นแน่ “ก็ได้ๆ” เจตน์ถอนใจพรืดใหญ่ มินตราขี่หลังพี่ชายร่วมโลกอย่างมีความสุข มีความสุขเสียจนเจตน์รู้สึกหมั่นไส้ “ทำยังกับไม่เคยเห็นม้า” เขาบ่น “บ้านของหนูมินไม่ได้เลี้ยงม้านะคะพี่เจตน์ เลี้ยงแต่หมา มันจะเคยเห็นแบบนี้ได้ไง” “แค่กๆๆ”  เจตน์สำลักหูตาแดง เออนะ! ว่าไปนั่น ไม่ต้องเน้นคำว่าหมาก็ได้กระมั้งแม่คุณ หูดีจริงๆ เขาอุตส่าห์พูดเบาขนาดนี้! “หนูมินเป็นเด็กค่ะ ย่อมหูดีเป็นธรรมดา ไม่เหมือนคนแก่ๆ ยิ่งแก่ยิ่งหูตึง” “คำก็แก่สองคำก็แก่ เดี๋ยวเถอะ” เขาคาดโทษ “พี่เจตน์จะทำอะไรหนูมินคะ ไม่สิ! ต้องถามว่าพี่เจตน์มีปัญญาทำอะไรหนูมินคะ” เธอหัวเราะคิกๆ อย่างมีความสุข แกว่งเท้าไปมาขณะขี่หลังเขา ในขณะที่เจตน์ขบเขี้ยวเคี้ยวฟัน “เร็วๆ สิคะ พี่เจตน์เป็นม้าให้หนูมินขี่นะ เดินช้าเหมือนเต่าแบบนี้ไม่ไหวเลยจริงๆ เร็วๆ ค่ะ เร็วๆ” เธอเร่งเขายิกๆ อยู่บนหลังเขา “พี่ไม่ใช่ม้า” เขาเปลี่ยนสรรพนามจากฉันเป็นพี่ เพราะเธอไม่ชอบ เธอบอกว่าถ้าเขาพูดจาห่างเหิน จะโทร. ไปฟ้องผู้ใหญ่ ยายเด็กขี้ฟ้องเอ๊ย! เขาอยากให้พวกท่านไปปฏิบัติธรรมอย่างมีความสุข ไม่อยากให้มีสิ่งรบกวน เธอละจะไปคิดอะไรได้ เขาจึงต้องยอมทำตามที่เธอบอกอย่างไม่บิดพลิ้ว!!! “เหนื่อยแล้วเหรอคะ คนแก่ก็งี้” “พูดแก่อีกรอบ จะโดนตีก้น” “จะตีก้นหนูมิน คิดอะไรอยู่หรือเปล่า” เธอทำท่าทะเล้นใส่เขา “คิดอะไร” เขาทำหน้าเคร่งเสียงดุ แต่ยายเด็กแสบตรงหน้าไม่เห็นจะกลัวเลยสักนิดเดียว “ก็พี่เจตน์กำลังอยากจับก้นหนูมินไง ตีไปแตะอั๋งไป” “โอ๊ย! ใครจะไปอยากจับก้นเธอยายเด็กหลงตัวเอง” “ถ้าไม่อยากจับก้นก็ไม่ตีใช่ไหมคะ” “หือ...” เขาครางมองเธอไม่วางตา ยายเด็กนี่แสบแล้วก็ฉลาดเป็นกรด ไม่อยากให้ตีก็หาข้ออ้างเอาจนได้ “อยากขี่ม้า” “พี่เหนื่อยแล้ว” เขาทำหน้าเซ็ง คิดว่าเธอจะอยากขี่หลังเขาอีก “ไม่ใช่ม้าแก่ๆ ชื่อเจตน์ค่ะ ม้าในคอกโน่น” “อย่าหวังเลยว่าจะได้แตะ” เขาทำเสียงดุแยกเขี้ยวใส่ มินตราสะบัดหน้าพรืด คนอย่างเธออยากได้ต้องได้ มีเหรอเขาจะกล้าขัด มินตรากลับบ้านเพราะโดนส่งกลับ เจตน์ยื่นคำขาดว่าถ้าอยากขี่ม้าก็ต้องห้ามเพ่นพ่านในไร่ เธอทำปากยื่นก่อนจะรับปากแบบขอไปที ยอมกลับบ้านแต่โดยดี ทำท่ารำคาญเธอไปเถอะ เดี๋ยวจะรู้สึก หึหึ! เด็กสาวเดินเข้าบ้านอย่างเบื่อๆ เธอคิดว่าจะขึ้นห้องตัวเองไปจัดข้าวของให้เรียบร้อย เพราะเดินทางมาถึงตอนเช้าตรู่ ข้าวของยังจัดไม่เสร็จ จริงๆ สาวใช้จะมาช่วยจัด แต่เธอให้ช่วยบางส่วน เพราะเป็นคนชอบจัดข้าวของด้วยตัวเอง เดินผ่านห้องพี่ชายร่วมโลกแล้วชะงัก หันซ้ายแลขวาลองบิดลูกบิดประตูดูปรากฏว่าไม่ได้ล็อก หวานหมู!!! “เสร็จโจร!!!” รีบเข้าห้องและงับประตูปิดอย่างเบามือสุดๆ เดินสำรวจห้องพี่ชายอย่างสบายอารมณ์ ห้องของเจตน์สะอาดสะอ้าน เครื่องเรือนน้อยชิ้น เพราะเขาเป็นผู้ชายคงไม่มีของจุกจิกเหมือนผู้หญิง “สีขาวยังกับผู้หญิง” แม้จะไม่มีของจุกจิกอะไรแต่ห้องนอนของเจตน์เป็นโทนสีขาว ไม่ใช่สีครึมเหมือนผู้ชายทั่วไป ตั้งแต่ผนังห้อง ผ้าม่าน ผ้าปูเตียง ขนาดพรมเช็ดเท้ายังสีขาว มินตราคิดว่าคนที่กล้าใช้สีขาวจริงๆ คือคนที่รักความสะอาดมากๆ เพราะสีขาวสกปรกง่าย แต่ห้องของเจตน์ไม่มีแม้แต่ฝุ่น เธอเดินเล่นสำรวจห้องเขาอย่างมีความสุข ก่อนจะกระโดดขึ้นไปนอนบนเตียงนอนกว้าง “ว้าว!!!” หัวเราะเบาๆ เมื่อสัมผัสกับเตียงนุ่มเด้ง เตียงของเจตน์เด้งดีจริงๆ เธอพลิกไปพลิกมาก่อนจะกลิ้งตกเตียง “โอ๊ย!” เด็กสาวร้องเสียงหลง “หัวโนเลยเรา” เสียงเปิดประตูหน้าห้องทำให้มินตราผวา เปิดเข้ามาแต่ยังไม่เห็นเจ้าของห้อง ได้ยินเพียงเสียงของเขากำลังคุยอยู่กับป้าแก้วตาถามเรื่องมื้อเย็น “โอ๊ย! ทำไมต้องกลับมาตอนนี้ด้วยนะ” มินตราบ่นในใจ ก่อนจะหันรีหันขวาง ทำยังไงดี เธอเห็นตู้เสื้อผ้าของเขาตั้งตระหง่านอยู่ตรงหน้า คิดในใจว่าตรงนั้นแล้วกัน เพราะมันคิดอะไรไม่ออกแล้ว จึงรีบแทรกตัวเข้าไปในตู้โดยเร็ว เข้าไปแล้วก็ร้อนตับแตก เธอแทบหายใจไม่ออก อยากจะบ้าตาย! จะทำยังไงดีๆ ไม่น่าเข้ามาหลบในตู้เลย ถ้าเขาเปิดเข้ามาเธอจะทำหน้ายังไงล่ะนี่ เธอแอบแง้มบานประตูตู้ดู เขาเดินมาปลดเสื้อผ้า อ๊าย! พี่เจตน์จะมาถอดเสื้อผ้าอะไรตอนนี้ ลากมกที่สุด คนเอามือปิดตาแอบแยกนิ้วเล็กๆ ดูหุ่นสุดแซ่บของพี่ชายร่วมโลก โอ๊ย! ฟิน หุ่นดีชะมัดเลย อย่างกับนายแบบ ดูหน้าท้องซิกซ์แพ็กสิ ขาก็เพรียว นั่นมัน!!!! อยากจะกรี๊ดให้บ้านแตก เธอเห็นหนอนน้อยของเขาด้วย แต่ทำไมเหี่ยวแบบนั้นล่ะ คิกๆ! พี่เจตน์หนอนน้อยเหี่ยว หัวนมก็ดำ “โอ๊ย! ว๊าย” แง้มประตูตู้เยอะเกิน เธอเลยทะลึ่งพรวดหล่นร่วงลงมาจากตู้  นอนแอ้งแม้งอยู่ไม่ไกลจากร่างเปลือยของเจตน์มากนัก “เฮ้ย! ยายเด็กบ้า เข้ามาตอนไหนนี่” เจตน์รีบคว้าเสื้อเชิ้ตตารางหมากรุกสีน้ำเงินเข้มของตัวเองมาปิดท่อนล่างเอาไว้ หน้าของเขาแดงก่ำลามไปถึงใบหู  ใบหน้าของเจตน์เปลี่ยนเป็นดุเข้มทันที “หนูมินไม่เห็น ไม่เห็นอะไรเลยจริงๆ ไม่เห็นว่าหนอนน้อยของพี่เจตน์เล็กนิดเดียว แถมยังเหี่ยวอีกด้วย” “ห้ะ! หนอนน้อย” เขาทวนประโยคของเธอ ก่อนจะมองตามสายตาทะลึ่งตึงตังนั้น “เฮ้ย!” เขากุมเป้าตัวเอง “ยายเด็กบ้า ออกไปเลยนะ” “หนูมินไม่บอกใครหรอกค่ะ พี่เจตน์ไม่ต้องกลัว” มินตราทำเสียงเห็นอกเห็นใจ “บอกอะไรของเธอ” เจตน์วิ่งไปหยิบผ้าเช็ดตัวมานุ่งกันอุจาดตา ยายเด็กบ๊องยังทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้อยากจะมอง ไอ้นั่นของเขาอีก “บอกว่าหนอนน้อยของพี่เจตน์เล็กนิดเดียวไงคะ” เธอทำท่าจับนิ้วก้อยให้เขาดู “หนอนน้อย ห้ะ!” มันดูเล็กมากจากฉายาที่เธอกล้าตั้งให้เขา ของเขาไม่เล็กนะ!!! “ออกไปได้แล้ว ยายเด็กลามก” “ก็ไม่ได้อยากอยู่หรอกค่ะ” เด็กสาวอยากออกไปจากห้องตั้งแต่พลัดตกลงมาจากตู้นานแล้ว แต่เธอต้องทำท่าทำทางเป็นไม่รู้ไม่ชี้เอาไว้ ถ้าไปกลัวเพราะว่าเขาจับได้ เขาจะยิ่งดุ เธอต้องเอาตัวรอด เรียกว่าทำใจดีสู้เสือเอาไว้
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD