สาวแว่น

1266 Words
เป็นเวลาตี1ที่คลับหรูแห่งนี้เต็มไปด้วยนักท่องราตรีชายหญิงที่กำลังมึนเมากันอย่างได้ที่เสียงอึกกระทึกครึกโครมจากเสียงดนตรีด้านในตัวคลับเหมือนจะเร้าใจจนชอบทำให้เกิดเหตุการณ์ตีกันอยู่เรื่อยไปจนเจ้าของคลับหรูหลายแห่งอย่างอาชน์อัศวินต้องปวดหัวกับเรื่องแบบนี้อยู่บ่อยครั้งกับพวกชอบกร่างในเวลาที่ไม่ค่อยจะได้สติ ซ่า..... ลอบซ์คนสนิทของอาชน์สาดน้ำในถังใหญ่ในมือไปที่กลุ่มวัยรุ่นวัยเกรียนที่อายุคงจะพึ่งผ่านเกณฑ์การเข้าสถานที่อโคจรที่มากร่างทำซ่าท้าตีท้าต่อยกับคนในคลับให้ฟื้นขึ้นมาหลังจากโนสั่งสอนกันไปจนพอตัว “ปล่อยพวกผมไปเถอะครับ” เด็กวัยรุ่นสี่ห้าคนที่อยู่ในวงล้อมบอดี้การ์ดกล้ามโตรีบคลานเข่ายกมือขอร้องชายหนุ่มที่นั่งไขว่ห้างมองจ้องพวกเขาอย่างไร้อารมณ์ “...” ชายหนุ่มที่อยุ่ในชุดสูตรราคาแพงสีดำปลดเนคไทน์หลวมๆเล็กน้อยพอไม่อึดอัดเกินไปนั่งไขว่ห้างพาดขายาวๆอยู่บนเก้าอี้ราคาแพงสายตาคมกริบของอัศวินนั้นไม่บ่งบอกถึงอารมณ์ในตอนนี้ว่ารู้สึกอย่างไรแต่คนที่มองก็ต้องเสียวสันหลังวาบเพราะพลังความอำมหิตที่แผ่ออกมามันช่างน่ากลัวเหลือเกินคงจะทำให้เด็กพวกนี้เลิกซ่ากันไปอีกนานเลยทีเดียว “จะมาทำซ่าที่นี่อีกมั้ย” ลอบซ์มือขวาร่างยักษ์เสียงโหดตวาดเสียงดังจนเด็กพวกนั้นสะดุ้งเฮือกไปตามๆกัน “ไม่แล้วครับปล่อยผมเถอะครับ” “เอายังไงครับคุณอาชน์” ลอบซ์หันไปถามคนเป็นนานว่าจะเอาอย่างไรกับเจ้าเด็กเหลือขอพวกนี้ต่อ “....” อัศวินปัดมือพร้อมหันหน้ามองไปทางอื่นพร้อมหยิบแก้วไวน์ราคาแพงขึ้นมาจิบอย่างสบายอารมณ์ “ออกไปแล้วอย่ามาซ่าที่นี่อีก...แล้วถ้าเรื่องวันนี้เป็นข่าวล่ะพวกแกโดนเล่นงานรายตัวแน่” ลอบซ์เห็นว่าเจ้านายของเขาสั่งให้ปล่อยเด็กพวกนี้ได้เขาจึงต้องพ่นคำขู่กับเด็กพวกนี้สักหน่อยเพราะพวกที่มันมีเงินมาเที่ยวที่คลับนี้ได้ต้องเป็นลูกคนมีเงินอยู่เหมือนกันหากเด็กพวกนี้หาเล่นอะไรพิเรนทำให้ที่คลับเป็นข่าวจะทำให้การทพำงานของพวกเขาวุ่นวายขึ้นเพราะต้องกู้ชื่อเสียงกันเจ้าละหวั่นยิ่งเจ้านายของเขามีแต่คนจ้องจับผิดอยู่ด้วยยิ่งต้องระวัง “ครับๆ/ไปเร็วพวกเรา” เด็กวัยรุ่นผู้ชายสี่ห้าคนรีบพยุงกันลุกขึ้นแล้วกึ่งวิ่งกึ่งเดินออกจากสถานที่นี้ไปทันทีด้วยความกลัว หลายวันต่อมา สนามมวยXXX “เฮ..เฮ.....ฮฮฮฮฮ.” เสียงเชียร์มวยอึกกระทึกครึกโครมเสียงดังสนั่นไปจนก้องกังวานทั่วสนามมวยสีหน้าแต่ละคนก็เชียร์กันอย่างเมามันจนนั่งไม่ติด “..หึ้ยยย...ทำไมเซอย่างนั้นล่ะวะไอ้โอบ” ต้นตาลเด็กหนุ่มอายุ18เองก็เช่นกันตอนนี้เขานั่งไม่ติดเลยเพราะเพื่อนอขงเขากำลังขึ้นชกอยู่ตอนนี้น่ะสิแถมยังดูท่าว่าเพื่อนของเขาจะหมดแรงเสียแล้วล่ะสิ “เห้ยย..ไอ้โอบบบ” ต้นตาลใจกระตุกวาบเมื่อจู่ๆเพื่อนของเขาก็ล้มลงนอนหมดสติบนสังเวียนเสียอย่างนั้นเขาจึงรีบวิ่งขึ้นไปบนสังเวียนอย่างรวดเร็ว 20.00 น. “ขยันจังเลยนะแกเนี่ย” อัญญาสาวน้อยลูกคุณหนูหน้ากลมรูปไข่ผมหยิกดัดลอนใบหน้าและหุ่นราวกับตุ๊กตาเดินเข้ามาที่แผงขนมหวานของเพื่อนเธอที่กำลังยืนขายอย่างมาหยุดมือเธออดที่จะชมเพื่อนเธอไม่ได้ว่าอะไรที่ทำแล้วได้เงินเพื่อนเธอทำทุกอย่างจริงๆ “อ้าว...จะมาก็ไม่บอกมานั่งนี่ก่อนสิ” น้ำอิงหญิงสาวหน้าหวานตากลมโตผมยาวตรงดำขลับใส่แว่นหนาเตอะอยู่ในชุดเสื้อยืดกางเกงยีนส์พร้อมผ้ากันเปื้อนในลุคแม่ค้าขายขนมหวานเห็นอัญญาเพื่อนเธอเข้ามาทักทายก็รีบชวนมานั่งในร้านก่อนเพราะตั้งแต่เรียนจบมาพวกเธอก็ไม่ค่อยได้เจอกันเลยเนื่องจากเธอเองก็เอาแต่ทำงานตั้งแต่เช้าจนดึกแทบทุกวันไม่มีหยุดเพราะต้องการหาเงินส่งน้องชายเข้าเรียนมหาลัย น้ำอิงอยู่กับน้องชายของเธอสองคนมานานแล้วตั้งแต่แม่ของเธอเสียตอนนี้ก็สี่ห้าปีแล้วที่เธออยู่กับน้องชายตามลำพังเลิกเรียนก็หางานหาการกันทำตลอดเพื่อเก็บเงินส่งตัวเองเรียนถึงจนตอนนี้น้ำอิงเรียนจบปีสี่แล้วและน้องชายของเธอก็จบม.6แล้วเช่นกัน น้ำอิงเป็นเด็กที่เรียนเก่งจึงได้ทุนเข้ามหาลัยดังแต่ถึงแม้จะได้ทุนเรียนค่าใช้จ่ายจิปาถะต่างๆก็ยังเยอะอยู่ดีทำให้เธอเป็นเด็กที่ทำงานตลอดไม่เคยได้หยุดเที่ยวอย่างคนอื่นเค้าและการที่ได้มาเรียนมหาลัยดังก็ทำให้เธอได้เจอกับอัญญาเพื่อนของเธอที่เป็นคุณหนูไฮโซแต่เลือกที่จะทำตัวโลโซโดยการมาคบกับน้ำอิงและยังไม่ยอมไปเรียนเมืองนอกอย่างที่พี่ชายเธอต้องการอีกต่างหากเพราะเธอไม่ชอบสังคมชั้นสูงที่มีแต่คนใส่หน้ากากเข้าหากันเธอชอบชีวิตที่เรียบง่ายมากกว่าและการมีเพื่อนอย่างน้ำอิงก็ตอบโจทย์เธอมากๆด้วย กลุ่มของพวกเธอที่คบกันตั้งแต่ปีหนึ่งก็จะมีน้ำอิง ผักหวาน และอัญญา น้ำอิงที่เป็นคนซื่อๆเรียกว่าลุคสาวแว่นจอมเฉิ่มก็ว่าได้แต่การเรียนนี่สมองเธอปราดเปรียวว่องไวกว่าคนอื่นเยอะแต่เรื่องทันคนนี่ไม่ต้องพูดถึงโดนเพื่อนๆแกล้งเป็นประจำ ผักหวานก็จะลุคห้าวๆนิดหน่อยพูดน้อยแต่พูดแต่ละคำมีแต่เจ็บๆแสบๆเป็นลูกคุณหนูเช่นกันมีพี่ชายเช่นเดียวกับอัญญาแต่พี่ชายของเธอใจดีกว่าพี่ชายของอัญญาเยอะมากต่างกันราวกับฟ้ากับเหวเลยทีเดียว ส่วนอัญญาเองก็จะเป็นแกมลูกคุณหนูเอาแต่ใจเล็กน้อยแต่มีเหตุผลพอตัวคนที่เธอจะทำนิสัยเอาแต่ใจได้น้อยที่สุดก็คือพี่ชายของเธอที่ชอบดุเธอลำตัวเหมือนเป็นพ่อเธออยู่ตลอดเวลาแต่บางเรื่องที่เธออ้อนพี่ชายเธอหนักๆพี่ชายของเธอเองก็ตามใจเช่นกันแต่ต้องเป็นเรื่องที่สมเหตุสมผลเท่านั้น “ได้เจอหวานบ้างหรือป่าวแก” น้ำอิงถามหาผักหวานเพื่อนเธออีกคนที่ช่วงนี้ไม่ได้ติดต่อกันเลยเช่นกัน “ช่วงนี้ไม่ค่อยนะเห็นว่าอยู่ในช่วงเรียนรู้งานจากพี่ชายของนางก็เลยไม่ค่อยได้ติดต่อมา” อัญญาเองก็ไม่ได้เจอใครเหมือนกันวันๆอยู่แต่บ้านรอพี่ชายของเธอให้ไปช่วยงานเท่านั้น “เออแกฉันขอพี่ฉันให้รับแกเข้าทำงานได้แล้วนะ” อัญญาไม่ลืมที่จะบอกข่าดีกับเพื่อนของเธอเพราะที่เธอมาที่นี่ก็เพราะเรื่องนี้นี่แหละ
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD