“แกขู่อะไรพ่อฉัน!!” รุมิกัดฟันถามจีนอย่างไม่เกรงกลัว
จีนจ้องมองเธออย่างฉงน เขารู้สึกแปลกใจที่ลูกคุณหนูอย่างรุมิน่าจะหวาดกลัวการโดนจับตัวมาขังเอาไว้ มากกว่าที่จะโต้เถียงกับเขา แต่นี่เธอกลับใจกล้ามาก
“ก็ไม่มีอะไรมาก เพียงแค่บอกให้พ่อเธอทำตามข้อเสนอ แล้วฉันจะปล่อยเธอกลับไป ก็เท่านั้นเอง” หนุ่มผมทองยักไหล่อย่างไม่แยแสต่ออาการฮึดฮัดของรุมิ
“แกมันก็แค่โจรกระจอกๆ ที่จับตัวฉันมาเพื่อขู่พ่อฉันสินะ!!” รุมิเยาะเย้ยถากถาง
เขาขมวดคิ้วอย่างไม่พอใจ แต่ก็ยังปล่อยให้รุมิว่าต่อ
“อย่างพวกแกน่ะ ไม่มีทางรอดเงื้อมมือตำรวจไปได้หรอก!!” รุมิยิ้มเยาะ
“งั้นเหรอ”
“ว้าย!!”
รุมิร้องออกมาอย่างตกใจเมื่อจีนกระชากตัวเธอให้ออกมาห่างจากกำแพง และยื่นหน้าของเขาเข้ามาประชิดเธอ
“หึ!เธอไม่รู้หรอกว่ากำลังเผชิญหน้ากับอะไรอยู่ คุณหนูโคบายาชิ” จีนพูดกระซิบข่มขู่ นัยน์ตาสีเขียวน้ำทะเลวาวโรจน์ราวกับมีคลื่นอยู่ในนั้น
“ฉันไม่สนใจว่าแกจะเป็นใคร ฉันไม่กลัวหรอก” รุมิจ้องมองจีนไม่กะพริบ
เขาจ้องมองนัยน์ตาสีน้ำตาลอ่อนคู่สวยของรุมิด้วยความฉงน ภายใต้ใบหน้าแข็งกระด้าง เขามีความรู้สึกว่าผู้หญิงคนนี้เวลาโกรธช่างดูสวยและน่ารักมีเสน่ห์เสียจริง
รุมิขมวดคิ้วมองหนุ่มหล่อผมทองตรงหน้าอย่างสงสัยเมื่อเห็นเขาเงียบไป จีนพยายามข่มอารมณ์ไว้พลางผลักตัวรุมิกระเด็นไปบนเตียงอย่างแรง แล้วเขาก็รีบหันหลังเดินออกจากห้อง โดยไม่ฟังเสียงเธอที่ตะโกนบอกให้ปล่อยตัวเธอไปแม้แต่น้อย
“ถ้าเธอไม่ใช่คุณหนูโคบายาชิก็คงจะดี” จีนหยุดพึมพำเบาๆ หน้าห้องที่ขังรุมิ ก่อนจะเดินจากไปอย่างเงียบๆ
ชายวัยกลางคนกำลังยืนจ้องมองทิวทัศน์อยู่ริมหน้าต่างของตึกระฟ้าที่สูงใหญ่ด้วยสายตาว่างเปล่า เขากำลังรอคอยการมาของใครสักคน ทันใดนั้น เลขาฯ หน้าห้องของเขาก็ได้แจ้งมาทางสปีคโฟนว่าบุคคลที่เขาต้องการพบได้มาถึงแล้ว
“สวัสดีครับ ท่าน”
จีนเดินเข้ามาภายในห้องทำงานอันโอ่โถง ก่อนจะเอ่ยทักทายและโค้งทำความเคารพชายที่ยืนหันหลังให้เขาอย่างสุภาพ
“อ้อ…มาแล้วเรอะจีน”
เขาหันมามองจีนก่อนจะเดินกลับไปนั่งที่เก้าอี้บุนวมซึ่งอยู่ด้านหลังของโต๊ะทำงาน
“เป็นยังไงมั่ง เรื่องที่ให้จัดการ”
“ผมได้จัดการตามที่ท่านสั่งเรียบร้อยแล้วครับ” จีนตอบด้วยน้ำเสียงสุภาพ
“ฮ่าๆ ดีมาก ดี!!ทำงานได้เยี่ยม!!สมกับที่คาลฝากเธอมาให้ฉันจริงๆ ฮ่าๆ” เขาหัวเราะออกมาเสียงดังอย่างสมใจที่จีนทำตามแผนการได้ดีมาก
“ไม่เป็นไรมิได้ครับท่าน ผมทำตามหน้าที่ของผมที่ได้รับมอบหมายครับ” จีนถ่อมตัวบอกชายคนนั้น
“ฮ่าๆ ดี!!ผลงานเยี่ยมแล้วยังถ่อมตัวอีก ดีมาก แบบนี้ฉันชอบ” เขาตบมืออย่างชอบใจ
“แล้วเรื่อง ‘ของ’ เราจะทำตามกำหนดการเดิมรึเปล่าครับ”
“อืม…ฉันต้องดูตารางเวลาเข้าเทียบท่าของเรืออยู่นี่ล่ะ เดี๋ยวฉันค่อยบอกนายอีกทีแล้วกัน”
“ได้ครับท่าน ถ้าอย่างนั้นผมขอตัวก่อนนะครับ” จีนรับคำพร้อมกับขอตัวออกไปอย่างนอบน้อม
“จีน ฉันบอกกี่ทีแล้วว่าให้เรียกคุณมุรามาสะน่ะ” เขาส่งเสียงทักท้วง
หนุ่มผมทองชะงักเท้าที่ก้าวเดิน
“ได้ครับ คุณมุรามาสะ”
จีนหันกลับมาโค้งคำนับเขาอีกครั้ง ก่อนจะหันหลังเดินออกจากห้องไป โดยทิ้งให้มุรามาสะ ทาคุนั่งยิ้มอย่างพอใจในผลงานของจีนอยู่เพียงคนเดียว
เคนกับโคจิโร่ขับรถตระเวนหาโกดังซึ่งน่าจะเป็นที่หลบซ่อนของกลุ่มโจรที่ลักพาตัวรุมิไปเกือบหลายชั่วโมง แต่ก็ยังไม่มีวี่แววว่าจะพบเจอทั้งรุมิและพวกโจรเหล่านั้นเลย ทั้งสองคนเริ่มรู้สึกเหนื่อยอ่อนเพราะใช้เวลาค้นหานานมาก
“เฮ้อ…นี่เราจะหาโกดังที่พวกมันเอารุมิไปขังเจอรึเปล่าวะเนี่ย” โคจิโร่ถามอย่างท้อแท้
หลังจากที่เขากับเคนค้นหากันมาสองโกดังแล้ว ก็ยังไม่มีวี่แววของรุมิเลย พวกเขาทั้งคู่จึงนั่งพักเหนื่อยอยู่ด้านข้างรถ
“นายอย่าบ่นหน่อยเลยน่า” เคนบอก เขาเองก็รู้สึกเหนื่อยไม่แพ้กัน
โกดังของบริษัท Dry Angies แต่ละโกดังใหญ่โตมาก และการลอบเข้าโกดังที่ปิดอยู่ก็ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยแม้แต่น้อย
“เฮ้ย!หากเราคาดผิดล่ะ เคน หากพวกมันเอารุมิไปฆ่าทิ้งหมกป่าแล้วจะทำไงวะ” โคจิโร่หยั่งเชิงถาม
“นายอย่าพูดแบบนี้อีกนะ!!!รุมิต้องปลอดภัย ฉันไม่ยอมให้เธอเป็นอะไรแน่” เคนลุกพรวดขึ้นมากระชากคอเสื้อโคจิโร่ด้วยความโกรธเมื่อได้ยินเขาพูดเช่นนั้น
“เฮ้ยๆ ใจเย็นโว้ย!!ฉันแค่พูดเล่นเท่านั้นเองน่า” โคจิโร่ร้องห้ามเคนเมื่อเห็นเขาเอาจริง
เคนจึงค่อยๆ สงบสติอารมณ์ลงแล้วปล่อยคอเสื้อของโคจิโร่ออก
“ขอโทษที ฉันคงหงุดหงิดมากไปหน่อย”
เขานั่งลงกับพื้นอย่างหมดแรง เสยผมขึ้นลวกๆ ตอนนี้เคนดูไม่เหลือเค้าคาสโนว่าสุดหล่อจอมเจ้าชู้เอาซะเลย โคจิโร่มองเขาด้วยสายตาครุ่นคิด
“นี่ อย่าหาว่าฉันละลาบละล้วงเรื่องนายเลยนะ นายน่ะ ชอบรุมิใช่เปล่าวะ” หนุ่มมาดเซอร์คู่หูตัดสินใจถามเคนออกไปตรงๆ
เคนหันขวับมาจ้องเขาตาขวางทันที
“เออๆ ฉันพูดเล่น ไม่พูดก็ได้วะ”
โคจิโร่เห็นอาการของเคนก็ขยาดไม่อยากมีเรื่องด้วย จึงยกมือเป็นเชิงห้าม แล้วเขาก็นั่งลงตรงข้ามเพื่อพักผ่อนบ้าง
ทำไมเราต้องร้อนใจเรื่องที่ยัยนั่นหายไปด้วยนะ
ยัยนั่นจะเป็นยังไงก็ไม่เห็นเกี่ยวกับเราเลยซักนิด
แล้วความรู้สึกนี้มันคืออะไรกันเนี่ย…
เคนคิดอย่างสงสัย ก่อนจะสลัดความคิดสับสนนั่นแล้วก้มดูแผนที่โกดังลำดับถัดไปในแผ่นกระดาษที่เขาได้มา เพื่อค้นหารุมิต่อ