ทันทีที่เดินเข้าห้องมาฮันนี่และคริสตัลก็วิ่งเข้ามาหาพวกเราทันที ฮันนี่วิ่งเข้ามากอดฉันไว้พร้อมกับผลักริเรียออกอย่างแรงจนเธอเซแทบจะล้มส่วนคริสตัลเองก็เอามือมาคั่นกลางระหว่างฮันนี่กับริเรียไว้ในตอนที่ริเรียตั้งหลักได้และมองมาที่พวกเราด้วยสายตาไม่ค่อยเป็นมิตรเหมือนทุกวัน
“นี่พวกเธอทำกับคนที่ช่วยเพื่อนเธอไว้แบบนี้เหรอ?” ริเรียจ้องหน้าฮันนี่และคริสตัล
“ช่วยเหรอ? ฉันว่าเธอนั่นแหละเป็นคนทำ!” ฮันนี่ตะเบ็งเสียงและขึงตาใส่ริเรียไม่หยุด
“เกิดอะไรขึ้นบราวนี่ ใครทำเธอ?”
“พวกนักเรียนหญิงกลุ่มนึงน่ะ...ริเรียเขามาช่วยฉันจริงๆ ฮันนี่”
คริสตัลหันมาถามฉันทำให้ฉันที่พยายามดึงแขนฮันนี่ไว้หันกลับมาตอบเธอ และเมื่อฉันพูดจบฮันนี่ที่ได้ยินก็เหมือนจะสงบลงและหันมามองหน้าฉัน ส่วนริเรียเองก็ยังยืนกอดอกจ้องพวกเราแบบไม่ค่อยสบอารมณ์กับสิ่งที่ฮันนี่ทำกับเธอ
“ก่อนจะซักถามกันพาเพื่อนของเธอไปห้องพยาบาลก่อนก็ได้มั้ง ครูพยาบาลประจำห้องน่าจะมาแล้ว”
“อืม...ขอบใจนะ..”
“แล้วก็เมื่อกี้ขอโทษด้วย”
ฮันนี่พยักหน้ารับคำแนะนำของริเรียแล้วพาฉันเดินไปห้องพยาบาลโดยที่ไม่ลืมหันมาขอบคุณและขอโทษริเรียกับสิ่งที่ได้ทำลงไป ทำเอาริเรียทำหน้าไม่ถูกเมื่อได้ยินคำขอบคุณและขอโทษออกจากปากของฮันนี่
ฮันนี่และคริสตัลเดินพาฉันมาที่ห้องพยาบาลเพื่อให้ครูพยาบาลทำแผลที่เข่าและข้อศอกให้โดยที่ฉันโกหกครูไปว่าฉันหกล้ม ครูพยาบาลเองก็ไม่ได้ซักไซ้อะไรมากเพียงแค่สอบถามอาการเบื้องต้นและบรรจงทำแผลให้ฉันอย่างเบามือ หลังจากนั้นเพื่อนทั้งสองก็พยุงพาฉันเดินออกมาจากห้องพยาบาลเพื่อขึ้นห้องเรียนไปเรียน แต่วันนี้หัวหน้าห้องแจ้งในกรุ๊ปไลน์ห้องว่าครูไม่มาสอนให้พวกเราเคลียร์งานที่ค้างส่งและอ่านหนังสือเตรียมสอบไปทั้งคาบ
“บราวนี่ เกิดอะไรขึ้นน่ะ! เมื่อกี้ผมไปหาเธอที่ห้องเรียนมาเพื่อนเธอคนนึงบอกว่าเธอมาห้องพยาบาล ผมเป็นห่วงเลยตามมาดู เธอไม่เป็นอะไรมากใช่มั้ย?” นิวเยียร์ที่วิ่งกระหืดกระหอบมาอยู่ตรงหน้าเราสามคนรัวคำถามใส่ฉัน
“อย่ามาแตะเพื่อนฉันนะ!!” เพี๊ยะ!! แต่มือที่เขากำลังจะเอื้อมมาถูกตัวฉันก็โดนฮันนี่ตีปัดออกไปอีกครั้งหนึ่ง
ด..เดจาวูชัดๆ O_o
นิวเยียร์หันหน้าไปมองหน้าฮันนี่แบบไม่เข้าใจส่วนฮันนี่เองก็มองหน้านิวเยียร์แบบไม่สบอารมณ์พร้อมทั้งดันตัวของฉันให้ไปอยู่ข้างหลังเธอแทน
“เพราะนายเพื่อนฉันถึงโดนทำร้าย เพราะพวกนายเข้ามายุ่งวุ่นวายกับเพื่อนฉันไงบราวนี่ถึงต้องเจออะไรแบบนี้!! อย่ามายุ่งกับเพื่อนฉันอีก!!”
ฮันนี่แผดเสียงใส่นิวเยียร์ลั่นทางเดิน ทำให้นิวเยียร์เงียบและทำหน้าตกใจกับสิ่งที่ได้ยินเขามองมาที่ฉันเล็กน้อยและจ้องที่ไปแผลที่เข่าของฉัน
“ผมขอโทษนะ...ต่อไปผมจะไม่ยอมให้ใครมาทำร้ายเธอได้อีกผมสัญญาเลย”
“จะไม่มีครั้งต่อไปอีกแล้ว!! นายห้ามมายุ่งกับบราวนี่อีก นายและพวกของนายทุกคน!!”
ผลั่ก! ฮันนี่ตอบกลับนิวเยียร์เสียงดังพร้อมทั้งผลักตัวเขาออกจากทางเดินนิวเยียร์เซถอยหลังไปเล็กน้อยแต่เขาก็ไม่ได้ตอบโต้อะไร เขานิ่งเงียบและยังคงจ้องมาทางฉันด้วยสีหน้าที่รู้สึกผิดที่เขาเป็นต้นเหตุทำให้ฉันโดนรังแก
หมับ! ขณะที่ฮันนี่กำลังจะพาฉันเดินออกจากตรงนั้นเพื่อกลับห้องเรียนนิวเยียร์ก็คว้าแขนของฮันนี่ไว้ทำให้ฮันนี่อารมณ์เสียมากกว่าเดิมและกำลังจะหันไปต่อว่านิวเยียร์อีกรอบแต่ยังไม่ทันได้พูดอะไรเพราะสายตาของนิวเยียร์ที่มองมาที่ฮันนี่เป็นสายตาที่ค่อนข้างน่ากลัวแบบที่เขาไม่เคยแสดงออกมาก่อน
“ผมจะไม่ยอมให้ใครโดนทำร้ายเพราะผมอีก...” นิวเยียร์ทิ้งท้ายไว้แค่นั้นก่อนจะปล่อยมือจากแขนของฮันนี่แล้วเดินออกจากทางเดินตรงนั้นไป
“ฉันว่าเขาดูโกรธมากเลยนะฮันนี่ เธอพูดแรงเกินไปหรือเปล่า” คริสตัลเอ่ยท้วงฮันนี่หลังจากที่นิวเยียร์เดินลับตาไปแล้ว
“คนที่หมอนั่นควรโกรธคือตัวหมอนั่นเองและคนที่มาทำร้ายบราวนี่ไม่ใช่มาโกรธพวกเรา อย่าไปสนใจเลยเรากลับห้องดีกว่า” ฮันนี่พูดแบบไม่สนใจกับสิ่งที่นิวเยียร์ทำเมื่อกี้แล้วพาฉันเดินกลับเข้าห้องเรียนไป
เมื่อกลับมาถึงห้องเรียนเราก็เจอกับริเรียที่นั่งมองพวกเราอยู่ในขณะที่เพื่อนคนอื่นๆ ก็จับกลุ่มคุยกันตามปกติเหมือนทุกวันที่ไม่มีครูมาสอน ริเรียนั่งมองพวกเราจนพวกเราเดินมาถึงโต๊ะตัวเองเธอจึงลุกขึ้นแล้วเดินเข้ามาหาพวกเรา
“ได้เจอกับนิวเยียร์มั้ย เขามาถามหาเธอน่ะ”
ริเรียเอ่ยถามฉันซึ่งฉันก็พยักหน้าตอบกลับเธอไปเหมือนเธออยากจะบอกอะไรต่อแต่เธอก็เลือกที่จะเงียบแล้วเดินกลับไปนั่งที่โต๊ะของเธอตามเดิม ริเรียเป็นคนหน้าตาน่ารักถึงแม้การพูดจาเธอจะดูหยิ่งๆ ไม่สนใจอะไรแต่วันนี้ฉันได้รู้แล้วว่าเธอเป็นคนจิตใจดีมากๆ คนนึงเลยล่ะ ตั้งแต่ที่ฉันย้ายมาฉันไม่ค่อยเห็นเธอสุงสิงกับใครในห้องเท่าไหร่ทั้งที่มีหลายคนที่พยายามจะเข้าหาเธอแต่เธอกลับเมินคนเหล่านั้นซะงั้น เลยทำให้ริเรียไม่มีกลุ่มเพื่อนที่สนิทเลยในห้อง
“นี่ขอบใจนะทั้งเรื่องที่ช่วยบราวนี่แล้วก็เรื่องที่บอกให้ไปห้องพยาบาล...” -//-
“อ่อ....อืม ไม่เป็นไร” -//-
จู่ๆ ฮันนี่ก็หันไปพูดกับริเรียทำให้ริเรียทำหน้าตกใจอีกรอบ จริงๆ เธอคงไม่ชินนั่นแหละกับการที่ฮันนี่พูดดีด้วยเพราะปกติจะทะเลาะกันตลอด พอมาเจอแบบนี้ทำให้ริเรียเหวอไปเลย ส่วนฮันนี่เองก็คงไม่ชินเหมือนกันที่ต้องพูดดีกีบริเรียเพราะเธอทั้งพูดไปแล้วก็หน้าแดงไปด้วยอาการเคอะเขิน ในสิ่งที่ไม่เคยคิดว่าทำมาก่อน ตอนนี้กลายเป็นว่าทั้งฮันนี่และริเรียต่างทำตัวไม่ถูกและแสดงท่าทีประหม่าออกมา ทำให้ฉันและคริสตัลหันมามองหน้ากันแล้วแอบขำเบาๆ
“พ...พวกเธอสองคนขำอะไรกัน! / ขำอะไรกันยะ!” ฮันนี่/ริเรีย
ฮันนี่และริเรียมองมาทางเราแล้วพูดขึ้นมาพร้อมกัน นั่นทำให้เรายิ่งขำกันเข้าไปใหญ่ที่คู่กัดประจำห้องมีโมเม้นท์แบบนี้ ทั้งคู่มองหน้ากันแว๊บนึงแล้วต่างฝ่ายต่างก็รีบหันไปคนละทาง
“ฉันเองก็ต้องขอบคุณเธอเหมือนกันนะที่ช่วยพาฉันออกมาจากตรงนั้นน่ะ ริเรีย” ^^
“อืมๆ ช่างเถอะมันผ่านมาแล้ว” -//-
ฉันเอ่ยขอบคุณริเรียอีกรอบส่วนริเรียเองก็ตอบกลับมาทั้งที่ยังคงหน้าแดงอยู่โดยที่ไม่ได้หันมามองหน้าฉัน ฉันกับคริสตัลก็ยังคงพากันขำในท่าทีของทั้งฮันนี่และริเรียไม่หยุดจนทั้งคู่เริ่มเก็บอาการและดึงหน้ากลับมาเป็นปกติได้อีกครั้งก่อนจะหันมาจ้องเราสองคนที่ยังขำอยู่
“นี่พวกเธอดูนี่ดิ นิวเยียร์โพสต์อะไรลงในกรุ๊ปไลน์รวมของชั้นม.6อ่ะ”
“ว๊าย อ่านดูสินิวเยียร์ดูโมโหมากเลยอ่ะ”
เสียงของเพื่อนอีกกลุ่มเรียกความสนใจของพวกเราให้หันไปมอง เราทั้งหมดมองหน้ากันก่อนที่จะปิดเข้ากรุ๊ปไลน์ของ ม.6 เข้าไปดู
‘ถึงเพื่อนๆ บางคนที่ได้กระทำสิ่งที่ไม่ควรทำลงไป ผมขอร้องล่ะนะ ไม่ว่าผมจะทำอะไรหรือมีใครเข้ามาเกี่ยวข้องกับชีวิตผมก็อย่าได้เข้ามายุ่งวุ่นวายจนเกินไปจะได้ไหม ให้อิสระความเป็นส่วนตัวกับผมบ้าง ญาติก็ไม่ใช่ พ่อแม่ก็ไม่ใช่ มีสิทธิ์อะไรมาตัดสินใจแทนผมว่าใครควรเข้ามาในชีวิตผม ผมรู้นะว่าคุณเป็นใครและทำอะไรไว้ ผมหวังว่าจะไม่มีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นอีกไม่ว่ากับใครทั้งนั้น ไม่งั้นอย่าหาว่าผมไม่เตือน!! ขอบคุณครับ’
พวกเราอ่านข้อความของนิวเยียร์ที่พิมพ์ไว้ในกรุ๊ปไลน์อย่างตั้งใจหลังจากอ่านจบพวกเราก็มองหน้ากันทันที ส่วนคนอื่นๆ ในห้องเราต่างก็พูดถึง เรื่องนี้กันทั้งนั้น ดูจากข้อความที่พิมพ์นิวเยียร์ดูโกรธมากจริงๆ นั่นแหละนะ...
“อ้าว นิวเยียร์ลบข้อความไปแล้วนี่”
“นี่ๆ หรือว่านิวเยียร์จะปกป้องคนนี้เหรอ เนี่ยดูสิในเพจหนุ่มหล่อลงรูปอีกแล้ว”
“ไหนๆ ว๊ายถึงขั้นจับมือถือแขนกันด้วยอ่ะ”
“เฮ้ย! นี่มันฮันนี่ห้องเรานี่ พวกเขาคบกันเหรอ?”