EP 2 เยาะหยัน

1336 Words
ฉันชื่อ ‘มิฮารุ’ แปลว่า ‘ฤดูใบไม้ผลิที่งดงาม’ ซึ่งฉันก็มีนิสัยแตกต่างจากชื่อตัวเอง...แค่นิดหน่อยละน่า! เพราะฉันสวย ฉันรวย ฉันเก่ง ฉันเป็นลูกสาวคนโต มีน้องสาวฝาแฝดจอมรั่ว กับน้องชายที่บ้าวิชาการ ฉันเลยกลายเป็นคนกุมอำนาจทั้งหมดในบ้าน -_-+ แต่เมื่อสามวันก่อน จู่ๆ ป๊ะป๋าก็เรียกให้ฉันเข้าไปหาที่ห้องทำงาน พร้อมกับยื่นข้อเสนอให้ฉันหมั้นหมายกับลูกชายคนใดคนหนึ่งของตระกูล ‘ริวงะ’ ซึ่งทางฝ่ายนั้นจะจัดการคัดเลือกชายหนุ่มที่เหมาะสมที่สุดมาบรรณาการฉัน จะบ้ารึไง! ฉันเพิ่งสิบแปดเองนะ ถ้าเปรียบเป็นดอกไม้ยังเป็นดอกตูมที่รอวันผลิบานอยู่เลย ใครจะไปยอมตอบตกลงชุ่ยๆ ละ! เพราะฉะนั้นกับเรื่องที่เสนอ ฉันเลยไม่สนอง “ไม่เป็นไร ลูกมีสิทธิ์ตัดสินใจอยู่แล้ว” ป๊ะป๋าบอกแบบนั้น พร้อมกับรอยยิ้มพิมพ์ใจ ที่ถ้าฉันเห็นทีไรก็ได้เป็นเรื่องทุกที! อย่างตอน ป.1 ฉันถูกขอร้องให้เข้าแข่งยูโด ทั้งที่ฉันอยากแข่งคาราเต้ และป๊ะป๋าก็บอกว่า ‘ไม่เป็นไร ลูกมีสิทธิ์ตัดสินใจ’ แบบเดียวกันเด๊ะ! แล้วยังไงล่ะ? สุดท้ายฉันก็ยอมแพ้กับความพยายามปั้นหน้าเศร้า ถอนหายใจเฮือกๆ อย่างหมดอาลัยตายอยากอยู่หลายวันของป๊ะป๋า แล้วยอมลงแข่งขันยูโดทั้งที่มีเวลาซ้อมน้อยอยู่ดี แต่ด้วยความที่ฉันเป็นเลิศด้านการต่อสู้มือเปล่ามาแต่กำเนิด เลยได้เหรียญทองมาตั้งหลายเหรียญแน่ะ ไม่อยากคุย -_-v เพราะฉะนั้นคราวนี้ ฉันต้องระวังตัวมากขึ้นอีกแล้วสินะ ‘ฟิ้ว~ ปุ้ง!’ “ว้าว! ดอกไม้ไฟสวยจังเลย” นั่นไม่ใช่เสียงฉัน -_- แต่เป็นเสียงยัย ‘มิริน’ น้องสาวฝาแฝดที่ลากฉันมาเทศกาลดอกไม้ไฟแบบไม่เต็มใจขั้นเทพต่างหาก ฉันจะนอน! จะนอน! จะนอน! ฉันตะโกนบอกยัยนี่เกือบร้อยหนในหนึ่งนาที แต่ก็โดนลากลงมาจากเตียงนอนนุ่มนิ่มหนุบหนับอยู่ดี ง่วงจัง T^T “อย่ามัวแต่หาวสิ มิฮะจัง! ไปต่อกันเถอะ เร็วๆ” ฉันพยักหน้าอือออ แต่ก็ปล่อยให้มิรินลากเกี๊ยะต่อกแต่กนำไปท่ามกลางฝูงชนอย่างไม่อินังขังขอบอะไร ไม่ได้มีเดทซะหน่อยทำไมต้องแต่งยูกาตะ[1]ซะสวยเช้งขนาดนั้น ไม่รู้ตัวเลยรึไงว่าทำให้ผู้ชายที่ควงแฟนมางานมองตามกันคอแทบหัก จนโดนฝ่ามือเพชฌฆาตกันไปตั้งหลายราย แต่ว่า ดอกไม้ไฟก็สวยจริงๆ นะ... ฉันหยุดยืนนิ่ง มองแสงสีส้มอมทองที่วาดลวดลายเป็นรูปดอกซากุระน้อยใหญ่ สัญลักษณ์ของฤดูใบไม้ผลิ ฉันเกิดในฤดูนั้นจึงได้ชื่อว่า ‘อิจิเซ็น มิฮารุ’ และถึงแม้ว่ามิรินจะเกิดทีหลังฉันแค่สามนาที แต่เธอก็ได้ชื่อว่า ‘อิจิเซ็น มิริน’ ที่แปลว่า เหล้า -_- นั่นเพราะตอนพวกเราเกิด กระทั่งที่ผิวฉันเริ่มขาวอมชมพู แต่ยัยนั่นกลับยังหน้าแดงไม่ยอมหาย เหมือนเด็กเมา *w* แล้วเสียงฮือฮาจากกลุ่มคนที่มุงกันตรงร้านตักปลาทอง ก็เรียกให้ความอยากรู้อยากเห็นในก้านสมองของฉันทำงาน เกิดอะไรขึ้นนะ อยากไปมุงด้วยคนจัง แต่มิรินจะหลงไหม? ไม่หรอกมั้ง ยัยนั่นยังยืนดูดอกไม้ไฟด้วยดวงตาเป็นประกายอยู่เลย เพราะเสื้อยืดกางเกงยีนที่ฉันใส่มันทำให้คล่องตัวกว่าชุดยูกาตะของสาวๆ หลายคนในวงนี้ ฉันเลยแทรกตัวเข้าไปอย่างง่ายดาย หืม? แค่มีผู้ชายตักปลา แปลกตรงไหน ทำไมสาวๆ รอบตัวฉันต้องแอบถ่ายรูปหมอนั่นแบบไม่เปิดเฟลชด้วยล่ะ คนสวยงง - -* ‘ดูสิๆ ท่าตักปลาท่านไทโยสง่ามากเลยอ๊าา” “ใช่ๆ ยิ่งตอนหย่อนกระชอนลงน้ำนะเธอ เซ็กซี่สุโค่ยยยย” “เก่งมากเลยเนอะ ยังไม่เปลี่ยนกระชอนซักอันเลย!” “ฉันอยากเป็นปลาทองให้ท่านไทโยตักกลับบ้าน~©” “แต่ฉันอยากเป็นกระชอนกระดาษที่ท่านไทโยจับอยู่จัง >/// “...” สาวๆ พวกนี้เป็นอะไรกันมากไหมเนี่ย พอเห็นว่าอยู่ฟังเสียงกรี๊ดกร๊าดไปก็ระคายหูเปล่าๆ ฉันก็หันมองหาทางออกจากสถานที่อโคจรแห่งนี้โดยพลัน หากแต่ว่าพอหันไปเห็นปลาทองในขันของผู้ชายคนนั้น ก็เป็นอันต้องเพ่งมองเขม็ง ตาโต แม่เจ้า! สิบ...สิบเอ็ด ไม่สิ สิบสอง! หมอนั่นมีปลาทองในขันตั้งสิบสองตัวโดยที่ยังไม่เปลี่ยนกระชอนกระดาษเลยเนี่ยนะ! ตลกละ ฉันเคยทำสถิติสิบห้าตัวไม่เปลี่ยนกระชอนที่นาราตอนเก้าขวบ ถ้าถูกผู้ชายคนนั้นทำได้มากกว่าต่อหน้าต่อตา ก็เหมือนถูกหยามหน้าชัดๆ! “ลุง ขอกระชอนอันนึง” “กรี๊ด! หล่อนกล้าดียังไงมาตักปลาพร้อมท่านไทโยยะ!!!” ทันทีที่ฉันทิ้งตัวลงนั่งข้าง ‘ท่านไทโย’ อะไรนั่น ทันทีที่ผมหางม้าฉันถูกดึงกระตุกจากทางด้านหลัง และทันทีที่ความอดทนทุกเส้นในสมองฉันขาดสะบั้น ฉันก็ลุกขึ้นยืนฉับ! “แล้วเธอมีปัญหาอะไรกับฉันมิทราบ?” เงียบ... สงัด พอเห็นหน้าฉันชัดปากทุกปากก็หุบกันสนิท ฉันไม่รู้หรอกนะว่าใครดึงผม หรือตะคอกฉัน แต่พอมองชัดๆ ก็เพิ่งสังเกตเหมือนกันว่าเก้าสิบเปอร์เซ็นต์ของสาวๆ ที่มุงอยู่นี่ดูคุ้นหน้าคุ้นตาชอบกล นั่นเพราะพวก She เป็นนักเรียน ‘โรงเรียนสตรีเซบุ’ โรงเรียนที่ฉันคุม -_- กลุ่มเด็กสาวมองหน้ากันเลิ่กลั่กเหมือนไม่มั่นใจเท่าไหร่ว่าที่ยืนอยู่ตรงหน้าพวกเธอคือแฝดพี่หรือแฝดน้อง จากนั้นก็รวมหัวกระซิบกระซาบลงคะแนน(เดา)กัน จนฉันเริ่มรำคาญ “ฉันคือ อิจิเซ็น มิฮารุ” จบข่าว! ทุกคนพากันจัดแถวหน้ากระดานเรียงหนึ่งในเวลาแค่เสี้ยววินาที ก่อนก้มหัวให้ฉันโดยพร้อมเพรียงกัน “ขอโทษค่ะ มิฮารุซัง TOT” เฮ้อ! ถ้าหัด ‘คิดก่อนทำ’ ก็คงไม่ต้องมาทำอะไรน่าอายกันแบบนี้หรอก หวังว่าคงจะจำไว้เป็นบทเรียนโดยที่ฉันไม่ต้องเอ่ยปากสอนนะ โตๆ กันหมดแล้ว พอสงครามจบแบบไม่ต้องนับศพทหาร ฉันก็หันมาขอกระชอนกระดาษจากคุณลุงอีกหน และเพิ่งเห็นว่าคนที่นั่งตักปลาอยู่หันมองมา แต่เขาสวมหมวกแก๊ปปิดบังใบหน้า ที่เห็นได้ชัดจึงเป็นแค่ริมฝีปากบางเฉียบที่เหยียดยิ้มเล็กๆ เท่านั้น ท่าจะบ้า ฉันเลิกสนใจผู้ชายตักปลา แต่หันมาตักสิ่งมีชีวิตสีส้มที่แหวกว่ายไปมาใส่ขันพลาสติกของตัวเองแทนด้วยความชำนาญขั้นเทพ -..- สิบห้า...สิบหก โฮะๆ ในที่สุดก็แซงหมอนั่นด้วยความไวระดับเซียน ฉันไม่ได้นามสกุล ‘อิจิเซ็น’ (นักปราชญ์ผู้เป็นหนึ่ง) ด้วยความบังเอิญหรอกนะยะ! “ท่านไทโยได้เจ็ดสิบตัวแล้วแก!” “ชู่ว์” อะไรนะ! ฉันเบิกตาโต หันมองร่างหนาเหมือนกำแพงหินข้างๆ ที่ยังใช้กระชอนอันเดิมตักปลาทองใส่ขันใบใหม่ ดูจากองศาของใบหน้าที่มีหมวกบังนั่น ถึงไม่เห็นแววตา แต่ฉันก็มองออกว่าเขากำลังยิ้มเยาะ! หน็อย... “พวกเธอ!” “ค... คะ? TOT” “นับไปเรื่อยๆ อย่าหยุด จนกว่ากระชอนจะขาด!” “ค่ะ T^T!” ถึงไม่มีคำพูด ไม่มีกรรมการ มีแค่เด็กนับคะแนนข้างหลังนั่น แต่ดูเหมือนผู้ชายที่นั่งข้างฉันจะรู้ดีว่าระหว่างเรากำลังเกิดการแข่งขันมาราธอน -_-+ เพราะหมอนั่นรอฉันตักครบสิบเจ็ดตัวเท่ากันก่อน จากนั้นก็กำกระชอนมั่น จ้องมองอ่างน้ำตรงหน้านิ่ง เงียบ... แล้วการแข่งขันก็สตาร์ต!!! [1] ยูกาตะ: กิโมโนแบบไม่เป็นทางการสำหรับฤดูร้อน (Japanese summer kimono)
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD