Chapter No.5

1255 Words
​ประเทศที่ยังคงคุกรุ่นไปด้วยสงครามกลางเมืองและกฎหมายที่ยังไม่ได้แข็งแกร่งมากนัก ประชาชนส่วนใหญ่ยังคงมีวัฒนธรรมการปกครองตัวเองเป็นหลัก ไม่ต้องพูดถึงความดิบเถื่อน โหดร้ายว่าจะอยู่ในระดับรุนแรงแค่ไหน อาวุธสงครามเป็นสิ่งของจำเป็นที่ต้องมีติดไว้ทุกบ้านไม่ต่างไปกับตู้ยาสามัญ วัว แกะ แพะ ควาย คือทรัพย์สมบัติที่มีค่ายิ่งกว่าตำราเรียนและความรู้ ประชากรตามชนเผ่าต่างๆ ไม่ได้ร่ำเรียนหนังสือ ไม่สามารถสื่อสารแม้กระทั่งภาษาสากลได้ หมู่บ้านของแต่ละชนเผ่าส่วนใหญ่เป็นชาติพันธุ์นักรบมีนิยมบูชาภูตผีและวิญญาณ ความเชื่อคือสิ่งที่ขับเคลื่อนในการดำเนินชีวิต กินนอนอยู่ใต้ฟ้าบนดิน บ้านช่องไม่จำเป็นต้องประดับประดาให้หรูหรามีแค่ฟางกันแดดและฝน ระบบสาธารณูปโภคคืออะไร...เลิกคิดไปเลย เพราะชาวเมืองที่นี่แทบไม่เคยได้สัมผัสกับน้ำประปาและไฟฟ้า ผู้ชายที่เป็นหัวหน้าครอบครัวจะทำหน้าที่เลี้ยงวัวกับแพะและรักษาความปลอดภัยในหมู่บ้าน ส่วนผู้หญิงมีหน้าที่ตั้งท้องออกลูกสืบทายาทเพื่อมาช่วยงานพ่อและแม่ สิ่งบันเทิงเริงใจนอกจากการนั่งล้อมวงหน้ากองไฟและร้องเล่นเต้นรำอย่างอื่นไม่มี มีแต่วิถีชีวิตความเป็นอยู่ที่แสนแร้นแค้น ขัดสน ยากจนและคุณภาพชีวิตติดลบแบบที่ว่าคนต่างแดนอยากปลานิลไม่เคยพบเจอ ถือว่าเป็นประสบการณ์ชีวิตอย่างที่เธอจะไม่มีวันลืมเลือน ฮั๊ดเช้ย...!! แค่กๆ แค่กๆ ฮ ฮะ ฮ้าด...เช้ยยยย!!! (เห็นไหม? พี่บอกแล้ว) ด้วยอากาศที่ร้อนระอุสูงกว่าสี่สิบองศาแถมยังเต็มไปด้วยฝุ่นละอองจากขี้เถ้าที่ลอยฟุ้งปกคลุมไปด้วยทุกพื้นที่ คนที่นี่จึงจำต้องใส่หน้ากากกันมลพิษและแว่นตาเพื่อป้องกันฝุ่นพวกนี้ แต่ทว่าคนมาใหม่ยังไม่เคยชินกับภูมิประเทศ มาได้สามวันปลานิลก็ไข้จับ เธอนอนซมอยู่บนเตียงด้วยอุณหภูมิที่ร้อนจัดแข่งกับอากาศด้านนอกและเชื้อลงปอดไปแล้ว “ฟืดดด...!! นิลก็แค่เป็นหวัดเองค่ะพี่พลัส” (ไข้หวัดที่นั่นไม่เหมือนบ้านเรานะนิล มันรุนแรงและฆ่าคนได้ปีละเป็นพันๆ คนเลยนะ) “ไม่น่าจะขนาดนั้นมั้งคะ” แค่ก ๆ ๆ ปลานิลถูกส่งตัวมานอนอยู่ในห้องกักตัวเพื่อกันการแพร่ระบาด โรคไข้หวัดที่นี่รุนแรงมากราวๆ กับโควิดผสมกับไข้หวัดนก ผู้ป่วยจะมีอาการไอ จาม ตัวร้อนและไข้ขึ้นสูงมาก บางรายขึ้นขั้นช็อก หรือบางรายพอเชื้อลงปอดก็จะทำลายระบบหายใจจนในที่สุดก็เสียชีวิต และก็แน่นอนว่าวิธีการติดต่อกันคือผ่านสารคัดหลั่งเช่นน้ำตา น้ำลาย น้ำมูก โดยวิธีการสัมผัสหรือใช้ของร่วมกับคนไข้ วิวัฒนาการการแพทย์ที่ทันสมัยสามารถฆ่าเชื้อและรักษาให้หายได้ แต่ไม่ใช่ ณ ที่ค่ายกักกันแห่งนี้ (มันธรรมดาซะที่ไหน พรุ่งนี้เขาจะส่งตัวนิลกลับนะ) “ค่ะ” (อีกสองสัปดาห์ก็ดูแลตัวเองให้ดีๆ ส่วนลูกเดี๋ยวพี่กับนิวจะช่วยดูแลให้ก่อนนะ) “ห้ะ!?...อะไรนะคะพี่พลัส” (พี่แจ้งบอสเราให้แล้ว เขาก็บ่นๆ นะว่าทำไมไม่ดูแลตัวเองเลย มันกระทบต่องานที่ต้องดีลกับลูกค้าอีกนะ) คนในสายบ่นยืดยาวเป็นกิโลเพราะความสนใจใคร่รู้แบบเด็กๆ ของปลานิล และที่ตามมานั้นคือความเสียหายหลายแสนจนรุ่นพี่เหนื่อยใจจะออกรับหน้าแทนได้ ถ้าผลงานไม่ดีจนสร้างชื่อเสียงให้บริษัทและไม่ใช่คนมีวินัยสูงในการทำงาน ป่านนี้ปลานิลอาจจะถูกส่งตัวกลับมาไทยตั้งนานแล้ว “ไม่ใช่เรื่องงานพี่พลัส! ทำไมเขาต้องส่งตัวนิลกลับมาเลด้วยล่ะค่ะ” (นิล! ลูกเราก็เป็นภูมิแพ้อยู่นะ นิลไม่กลัวปพนจะติดไปด้วยเหรอ...รอให้หายดีแบบชัวร์ๆ ก่อน เดี๋ยวพี่บินส่งปพนเองตามนี้!) “ตั้งสองอาทิตย์เลยเหรอคะ” คนเป็นแม่รักลูกดั่งดวงใจ เธอไม่อยากอยู่ไกลจากลูกชายตัวน้อยแต่สิ่งที่พลัสพูดนั่นก็ถูกต้อง ปพนเป็นโรคภูมิแพ้และหืดหอบ และเธอต้องเสียใจมากแน่ๆ ถ้าเอาโรคติดต่อนี้ไปแพร่ใส่ลูก อีกตั้งสิบสี่วันเธอถึงจะได้กอด ได้หอมเขา “พี่พลัสช่วยนิลหน่อยได้ไหม” (มันเป็นความดื้อของเราเองนะนิล แค่นี้พี่ก็ช่วยสุดๆ แล้ว) “แต่ว่าพี่พลัส...” (ค่าเครื่องบิน ค่ารักษาทางการแพทย์ทั้งหมดกี่บาท นิล! อย่าดื้อ! กลับไปรักษาตัวที่มาเลให้หายดี นี้ไม่ใช่เรื่องล้อเล่น) “แต่ว่า...” (ห้ามแต่! ไม่มีแต่) ก๊อก! ก๊อก! ก๊อก! ห้องกักตัวโล่งๆ มีเพียงโต๊ะไม้เก่าๆ กับเตียงสนามเตี้ยๆ เป็นเฟอร์นิเจอร์เท่านั้น ปลานิลถูกกักให้อยู่แต่ในห้องกักกันการแพร่ระบาด จะมีเพียงแค่พยาบาลในชุดอวกาศมาตรวจดูอาการกับส่งยาและอาหารตามมื้อเท่านั้น หากไม่มีเหตุจำเป็นใดๆ คนในก็ห้ามออกมาและคนนอกก็ห้ามเข้า แล้วนี่ก็ได้เวลาทานยาและตรวจวัดไข้อีกแล้ว (มีอะไรก็โทรมานะ) “เดี๋ยวสิพี่พลัส...เดี๋ยว!” แค่ก ๆ ๆ คนป่วยยกมือปิดปากเวลามีอีกคนเข้ามา คุณพยาบาลร่างยักษ์ตัวใหญ่หนาวางถาดยาและกล่องข้าวให้เธอ แค่ก ๆ ๆ “Sorry...” อาการไอที่มาจากปอดส่งผลให้คนไข้เจ็บหน้าอกรุนแรง นอกจากจะเจ็บทุกครั้งที่ไอหรือจามแล้วยังส่งผลต่อระบบหายใจ อาการส่อแววไม่น่าไว้ใจนักทางที่ดีควรรีบส่งต่อให้สถานพยาบาลที่ทันสมัยมารับช่วงต่อโดยไว พยาบาลสาวจัดการตามหน้าที่แล้วเสร็จเธอก็รีบออกจากห้องกักตัวผู้ป่วยทันที “She's ok or not” “She's still very feverish. She won't eat.” การเดินทางส่งตัวผู้ป่วยติดเชื้อกลับประเทศจึงต้องเร่งให้เร็วกว่ากำหนดเพราะอาการป่วยทรุดตัวลงอย่างรวดเร็ว สาเหตุหนึ่งมาจากผู้ป่วยทานอะไรไม่ได้และมีไข้สูงจนต้องฉีดยาช่วยระงับอาการ ฤทธิ์จากยาลดไข้ถูกส่งจากสายน้ำเกลือตรงเข้าเส้นเลือดส่งผลให้เธอมีอาการเบลอ สะลึมสะลือเหมือนคนครึ่งหลับครึ่งตื่น สิ่งที่เห็นและรู้สึกเป็นไปตามสัญชาตญาณ ไม่อาจแยกแยะได้ว่าถูกหรือผิด “เจ็บ...” “อยู่นิ่งๆ...” “โอ๊ย...!!” ร่างปวดระบมไปทั้งตัวมีมือหนาพยายามยุ่มย่ามด้วยการเอาผ้าชุดน้ำเย็นๆ เช็ดให้ทั่วใบหน้า ไล้ต่ำลงมาถึงลำคอและแขนทั้งสองข้าง คนมีไข้รู้สึกหนาวและร้อนไปพร้อมๆ กัน ทั้งที่อากาศร้อนสูงถึงสี่สิบองศาแต่สั่นจนต้องนอนขดเป็นกุ้ง เหงื่อออกชุ่มตั้งแต่หัวไปถึงแผ่นหลังจนเปียกเตียงและหมอน “นิล...!” “นิลจะไปหาลูก” “นอนลงนิล...คุณป่วยอยู่นะ” “นิลจะไปหาลูก” “...ปพน” ร่างเล็กหลับสลบด้วยฤทธิ์ยาลดไข้และคนที่คอยพยาบาลเช็ดตัวให้ก็บรรจงเช็ดอย่างเบามือจนในที่สุดอุณหภูมิก็ลดลงในระดับที่ไม่น่าเป็นห่วงนัก พิษไข้ทำให้คนป่วยเพ้อพูดนั่นนี่โดยไม่รู้ตัวเลยว่าพูดพร่ำอะไรออกไปบ้าง “ได้โปรด...! นิลไม่กลับมาเลนะคะคุณหมอ นิลจะไปรับลูก” “โอเค! ผมจะช่วย”
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD