ประเทศที่ยังคงคุกรุ่นไปด้วยสงครามกลางเมืองและกฎหมายที่ยังไม่ได้แข็งแกร่งมากนัก ประชาชนส่วนใหญ่ยังคงมีวัฒนธรรมการปกครองตัวเองเป็นหลัก ไม่ต้องพูดถึงความดิบเถื่อน โหดร้ายว่าจะอยู่ในระดับรุนแรงแค่ไหน
อาวุธสงครามเป็นสิ่งของจำเป็นที่ต้องมีติดไว้ทุกบ้านไม่ต่างไปกับตู้ยาสามัญ วัว แกะ แพะ ควาย คือทรัพย์สมบัติที่มีค่ายิ่งกว่าตำราเรียนและความรู้ ประชากรตามชนเผ่าต่างๆ ไม่ได้ร่ำเรียนหนังสือ ไม่สามารถสื่อสารแม้กระทั่งภาษาสากลได้
หมู่บ้านของแต่ละชนเผ่าส่วนใหญ่เป็นชาติพันธุ์นักรบมีนิยมบูชาภูตผีและวิญญาณ ความเชื่อคือสิ่งที่ขับเคลื่อนในการดำเนินชีวิต กินนอนอยู่ใต้ฟ้าบนดิน บ้านช่องไม่จำเป็นต้องประดับประดาให้หรูหรามีแค่ฟางกันแดดและฝน
ระบบสาธารณูปโภคคืออะไร...เลิกคิดไปเลย เพราะชาวเมืองที่นี่แทบไม่เคยได้สัมผัสกับน้ำประปาและไฟฟ้า
ผู้ชายที่เป็นหัวหน้าครอบครัวจะทำหน้าที่เลี้ยงวัวกับแพะและรักษาความปลอดภัยในหมู่บ้าน ส่วนผู้หญิงมีหน้าที่ตั้งท้องออกลูกสืบทายาทเพื่อมาช่วยงานพ่อและแม่
สิ่งบันเทิงเริงใจนอกจากการนั่งล้อมวงหน้ากองไฟและร้องเล่นเต้นรำอย่างอื่นไม่มี มีแต่วิถีชีวิตความเป็นอยู่ที่แสนแร้นแค้น ขัดสน ยากจนและคุณภาพชีวิตติดลบแบบที่ว่าคนต่างแดนอยากปลานิลไม่เคยพบเจอ
ถือว่าเป็นประสบการณ์ชีวิตอย่างที่เธอจะไม่มีวันลืมเลือน
ฮั๊ดเช้ย...!!
แค่กๆ แค่กๆ
ฮ ฮะ ฮ้าด...เช้ยยยย!!!
(เห็นไหม? พี่บอกแล้ว)
ด้วยอากาศที่ร้อนระอุสูงกว่าสี่สิบองศาแถมยังเต็มไปด้วยฝุ่นละอองจากขี้เถ้าที่ลอยฟุ้งปกคลุมไปด้วยทุกพื้นที่ คนที่นี่จึงจำต้องใส่หน้ากากกันมลพิษและแว่นตาเพื่อป้องกันฝุ่นพวกนี้
แต่ทว่าคนมาใหม่ยังไม่เคยชินกับภูมิประเทศ มาได้สามวันปลานิลก็ไข้จับ เธอนอนซมอยู่บนเตียงด้วยอุณหภูมิที่ร้อนจัดแข่งกับอากาศด้านนอกและเชื้อลงปอดไปแล้ว
“ฟืดดด...!! นิลก็แค่เป็นหวัดเองค่ะพี่พลัส”
(ไข้หวัดที่นั่นไม่เหมือนบ้านเรานะนิล มันรุนแรงและฆ่าคนได้ปีละเป็นพันๆ คนเลยนะ)
“ไม่น่าจะขนาดนั้นมั้งคะ”
แค่ก ๆ ๆ
ปลานิลถูกส่งตัวมานอนอยู่ในห้องกักตัวเพื่อกันการแพร่ระบาด โรคไข้หวัดที่นี่รุนแรงมากราวๆ กับโควิดผสมกับไข้หวัดนก
ผู้ป่วยจะมีอาการไอ จาม ตัวร้อนและไข้ขึ้นสูงมาก บางรายขึ้นขั้นช็อก หรือบางรายพอเชื้อลงปอดก็จะทำลายระบบหายใจจนในที่สุดก็เสียชีวิต และก็แน่นอนว่าวิธีการติดต่อกันคือผ่านสารคัดหลั่งเช่นน้ำตา น้ำลาย น้ำมูก โดยวิธีการสัมผัสหรือใช้ของร่วมกับคนไข้
วิวัฒนาการการแพทย์ที่ทันสมัยสามารถฆ่าเชื้อและรักษาให้หายได้ แต่ไม่ใช่ ณ ที่ค่ายกักกันแห่งนี้
(มันธรรมดาซะที่ไหน พรุ่งนี้เขาจะส่งตัวนิลกลับนะ)
“ค่ะ”
(อีกสองสัปดาห์ก็ดูแลตัวเองให้ดีๆ ส่วนลูกเดี๋ยวพี่กับนิวจะช่วยดูแลให้ก่อนนะ)
“ห้ะ!?...อะไรนะคะพี่พลัส”
(พี่แจ้งบอสเราให้แล้ว เขาก็บ่นๆ นะว่าทำไมไม่ดูแลตัวเองเลย มันกระทบต่องานที่ต้องดีลกับลูกค้าอีกนะ) คนในสายบ่นยืดยาวเป็นกิโลเพราะความสนใจใคร่รู้แบบเด็กๆ ของปลานิล และที่ตามมานั้นคือความเสียหายหลายแสนจนรุ่นพี่เหนื่อยใจจะออกรับหน้าแทนได้
ถ้าผลงานไม่ดีจนสร้างชื่อเสียงให้บริษัทและไม่ใช่คนมีวินัยสูงในการทำงาน ป่านนี้ปลานิลอาจจะถูกส่งตัวกลับมาไทยตั้งนานแล้ว
“ไม่ใช่เรื่องงานพี่พลัส! ทำไมเขาต้องส่งตัวนิลกลับมาเลด้วยล่ะค่ะ”
(นิล! ลูกเราก็เป็นภูมิแพ้อยู่นะ นิลไม่กลัวปพนจะติดไปด้วยเหรอ...รอให้หายดีแบบชัวร์ๆ ก่อน เดี๋ยวพี่บินส่งปพนเองตามนี้!)
“ตั้งสองอาทิตย์เลยเหรอคะ”
คนเป็นแม่รักลูกดั่งดวงใจ เธอไม่อยากอยู่ไกลจากลูกชายตัวน้อยแต่สิ่งที่พลัสพูดนั่นก็ถูกต้อง ปพนเป็นโรคภูมิแพ้และหืดหอบ และเธอต้องเสียใจมากแน่ๆ ถ้าเอาโรคติดต่อนี้ไปแพร่ใส่ลูก
อีกตั้งสิบสี่วันเธอถึงจะได้กอด ได้หอมเขา
“พี่พลัสช่วยนิลหน่อยได้ไหม”
(มันเป็นความดื้อของเราเองนะนิล แค่นี้พี่ก็ช่วยสุดๆ แล้ว)
“แต่ว่าพี่พลัส...”
(ค่าเครื่องบิน ค่ารักษาทางการแพทย์ทั้งหมดกี่บาท นิล! อย่าดื้อ! กลับไปรักษาตัวที่มาเลให้หายดี นี้ไม่ใช่เรื่องล้อเล่น)
“แต่ว่า...”
(ห้ามแต่! ไม่มีแต่)
ก๊อก! ก๊อก! ก๊อก!
ห้องกักตัวโล่งๆ มีเพียงโต๊ะไม้เก่าๆ กับเตียงสนามเตี้ยๆ เป็นเฟอร์นิเจอร์เท่านั้น ปลานิลถูกกักให้อยู่แต่ในห้องกักกันการแพร่ระบาด จะมีเพียงแค่พยาบาลในชุดอวกาศมาตรวจดูอาการกับส่งยาและอาหารตามมื้อเท่านั้น หากไม่มีเหตุจำเป็นใดๆ คนในก็ห้ามออกมาและคนนอกก็ห้ามเข้า
แล้วนี่ก็ได้เวลาทานยาและตรวจวัดไข้อีกแล้ว
(มีอะไรก็โทรมานะ)
“เดี๋ยวสิพี่พลัส...เดี๋ยว!”
แค่ก ๆ ๆ
คนป่วยยกมือปิดปากเวลามีอีกคนเข้ามา คุณพยาบาลร่างยักษ์ตัวใหญ่หนาวางถาดยาและกล่องข้าวให้เธอ
แค่ก ๆ ๆ
“Sorry...” อาการไอที่มาจากปอดส่งผลให้คนไข้เจ็บหน้าอกรุนแรง นอกจากจะเจ็บทุกครั้งที่ไอหรือจามแล้วยังส่งผลต่อระบบหายใจ
อาการส่อแววไม่น่าไว้ใจนักทางที่ดีควรรีบส่งต่อให้สถานพยาบาลที่ทันสมัยมารับช่วงต่อโดยไว
พยาบาลสาวจัดการตามหน้าที่แล้วเสร็จเธอก็รีบออกจากห้องกักตัวผู้ป่วยทันที
“She's ok or not”
“She's still very feverish. She won't eat.”
การเดินทางส่งตัวผู้ป่วยติดเชื้อกลับประเทศจึงต้องเร่งให้เร็วกว่ากำหนดเพราะอาการป่วยทรุดตัวลงอย่างรวดเร็ว สาเหตุหนึ่งมาจากผู้ป่วยทานอะไรไม่ได้และมีไข้สูงจนต้องฉีดยาช่วยระงับอาการ
ฤทธิ์จากยาลดไข้ถูกส่งจากสายน้ำเกลือตรงเข้าเส้นเลือดส่งผลให้เธอมีอาการเบลอ สะลึมสะลือเหมือนคนครึ่งหลับครึ่งตื่น
สิ่งที่เห็นและรู้สึกเป็นไปตามสัญชาตญาณ ไม่อาจแยกแยะได้ว่าถูกหรือผิด
“เจ็บ...”
“อยู่นิ่งๆ...”
“โอ๊ย...!!” ร่างปวดระบมไปทั้งตัวมีมือหนาพยายามยุ่มย่ามด้วยการเอาผ้าชุดน้ำเย็นๆ เช็ดให้ทั่วใบหน้า ไล้ต่ำลงมาถึงลำคอและแขนทั้งสองข้าง
คนมีไข้รู้สึกหนาวและร้อนไปพร้อมๆ กัน ทั้งที่อากาศร้อนสูงถึงสี่สิบองศาแต่สั่นจนต้องนอนขดเป็นกุ้ง เหงื่อออกชุ่มตั้งแต่หัวไปถึงแผ่นหลังจนเปียกเตียงและหมอน
“นิล...!”
“นิลจะไปหาลูก”
“นอนลงนิล...คุณป่วยอยู่นะ”
“นิลจะไปหาลูก”
“...ปพน”
ร่างเล็กหลับสลบด้วยฤทธิ์ยาลดไข้และคนที่คอยพยาบาลเช็ดตัวให้ก็บรรจงเช็ดอย่างเบามือจนในที่สุดอุณหภูมิก็ลดลงในระดับที่ไม่น่าเป็นห่วงนัก พิษไข้ทำให้คนป่วยเพ้อพูดนั่นนี่โดยไม่รู้ตัวเลยว่าพูดพร่ำอะไรออกไปบ้าง
“ได้โปรด...! นิลไม่กลับมาเลนะคะคุณหมอ นิลจะไปรับลูก”
“โอเค! ผมจะช่วย”