“You know her”
“ex...”
“ex!?”
...
ดอกเตอร์คิดที่ใครๆ ก็ตั้งสมญานามให้ยืนมองเฮลิคอปเตอร์ลำใหญ่ลำเลียงผู้โดยสาร(ป่วย)ขึ้นเครื่อง ตัวเขาไม่ได้บอกข้อมูลใดๆ กับใครมากมายไปกว่าเพียงแค่ว่าเธอคืออดีตของเขา
ถือเป็นการให้เกียรติอดีตภรรยาเพราะเธอเองก็มีครอบครัวใหม่ไปแล้ว
และความช่วยเหลือโดยการส่งเธอไปรักษาตัวต่อที่ประเทศไทยครั้งนี้ คงจะเป็นอีกหนึ่งวิธีที่คนอย่างพุฒิภัทรจะชดเชยอดีตอันเลวร้ายที่เขาเคยทำกับเธอไว้
สายตาสลดเศร้าหม่นหมองใจมองการจากไปของคนป่วยร่างเล็กอีกครั้ง อุตส่าห์หนีมาอุทิศตนในที่ที่แสนห่างไกลเพื่อลบภาพทรงจำแต่พระเจ้าก็ยังส่งเธอมาตอกย้ำเรื่องราวในใจอีกจนได้ ภาพวันนี้ที่ต้องมองปลานิลจากไปสร้างความเจ็บปวดไม่แตกต่างกับวันนั้นเมื่อสองปีที่แล้วแม้แต่น้อย
“That first?”
“what!?”
“love!?”
“No! Not her...” แน่นอนว่าปลานิลไม่ใช่รักแรกของพุฒิภัทร แต่ไม่รู้ว่าทำไมปลานิลจึงมีผลต่อหัวใจมากกว่าเธอคนนั้น อาจเป็นเพราะในชีวิตที่ชายหนุ่มไม่เคยร่วมหอลงโรงกับผู้หญิงคนใด
ไม่เคยนอนมองหน้าผู้หญิงคนไหนก่อนหลับตาและตื่นมาทุกวันก็ยังมีเธออยู่เคียงข้าง
แม้ช่วงเวลาที่มีร่วมกันจะไม่นานจนเกิดเป็นความผูกพันกันขนาดนั้น แต่ดวงตากลมโตเจ้าของใบหน้าจิ้มลิ้มไร้เครื่องสำอางเวลาที่หลับหนุนแขนอยู่ข้างๆ กันก็ไม่เคยจางหายไปจากความทรงจำ...ไม่เคยมีสักวันที่ไม่คิดถึง
แต่ความโหยหาทั้งหมดก็ได้แต่เก็บกดไว้ที่ก้นบึ้งที่ลึกที่สุดภายในจิตใจของตัวเอง เพียงแค่คิดว่าตอนนี้ปลานิลคงมีความสุขกับลูกและสามีเขาก็เจ็บปวดหัวใจจนสิ้นแรงกำลัง
ชายหนุ่มรู้ว่าตัวเองไม่ใช่พ่อพระที่ยิ้มออกได้เมื่อเห็นปลานิลกับชีวิตใหม่โดยที่ไร้เงาของพุฒิภัทร แต่เขาก็ไม่ใช่มารร้ายที่จะเห็นแก่ตัวรั้งเธอให้มาทรมานอยู่กับเขา ทางที่ดีที่สุดก็คงจะทำได้เพียงจมอยู่กับความทรงจำในวันวานว่ามันเคยมีความสุขในแบบที่ตัวเองไม่เคยได้รับจากใครคนไหน
ผู้หญิงธรรมดาบ้านๆ ที่ไม่มีอะไรเลยและถูกบีบบังคับให้แต่งงานเพื่อแลกกับการทดแทนบุญคุณอย่างปลานิล เธอคือคนเดียวที่เหมือนยาวิเศษรักษาแผลใจและคมกริบราวกับมีดบาดลึกแทบขาดได้ในเวลาเดียวกัน
วันที่เธอจากไปนั้นเธอไม่รู้ตัวเลยว่าได้หยิบเอาหัวใจของผู้ชายคนนี้ไม่ศรัทธาในความรักติดมือไปด้วย พุฒิภัทรไม่เคยได้ยินเสียงหัวใจตัวเองอีกเลยจนกระทั่งคืนนั้น
กลางดึกของค่ำคืนที่แสนธรรมดาวันหนึ่ง ณ ค่ายพักพิงผู้ลี้ภัยที่แสนห่างไกลความเจริญรุ่งเรืองได้มีความบังเอิญอันแสนยิ่งใหญ่ขึ้น
แม้สถานที่แห่งนี้จะมีอาสาสมัครมาร่วมทำงานด้วยใจจากทั่วทุกมุมโลก แต่พุฒิภัทรก็ไม่เคยคาดคิดมาก่อนว่าปลานิลจะมาเป็นหนึ่งในนั้นด้วย และเธอก็มายืนใช้สัญญาณอินเทอร์เน็ตข้างๆ เต็นท์ของเขา
คนตายด้านรู้สึกตื่นเต้นดีใจเต็มทีแต่ทว่าก็ได้แต่ยืนมองเธออยู่ห่างๆ ในเงามืด แอบฟังเสียงเล็กสนทนากับคนปลายสายและพูดถึงลูกกับครอบครัวใหม่อย่างออกรสออกชาติ
เธอก็ยังเป็นเธอคนเดิมที่เขาเคยรู้จักแต่เป็นคนที่ดีขึ้น
ปลานิลคงมีความสุขกับเส้นทางชีวิตโดยไร้คนอย่างพุฒิภัทร ได้เวลาส่งเธอกลับไปเจอคนที่เธอรักและรักเธอแล้ว
ประเทศไทย
แค่ก ๆ ๆ
“เห็นมั้ยแก! ฉันบอกแกแล้ว”
“อืม! ก็บอกแล้วว่าไม่เป็นอะไรมากแกก็”
“หม่ามี้! หม่ามี้”
ทันทีที่เท้าเหยียบแผ่นดินไทยอีกครั้ง คุณป้าจำเป็นก็รีบอุ้มหลานชายมาเยี่ยมคนเป็นแม่
แต่เพราะปลานิลเป็นคนไข้ติดเชื้อจากประเทศที่ขึ้นชื่อได้ว่ามีโรคระบาดร้ายแรง คนมาเยี่ยมจึงทำได้คุยผ่านแผ่นกระจกใสกลั้น เด็กชายตัวน้อยตาดำๆ เห็นหน้าแม่ปุ๊บก็อยากเข้าไปกอดให้หายคิดถึง
“ปพนครับ! คิดถึงหม่ามี้ไหมครับ”
“คิกถุงหม่ามี้”
“อยู่กับป้านิวพูดไทยเก่งขึ้นเลยนะครับ”
“พนคิกถุง...หม่ามี้”
คนเป็นแม่มองลูกชายแล้วยิ้มจนแก้มปริ ในชีวิตไม่มีสิ่งใดมีค่าไปมากกว่าเด็กน้อยรายนี้และเธอจะทุ่มเทสุดชีวิตเพื่อเขาตลอดไป
“ไปนะแก รักษาตัวด้วย”
“ปพนครับ บ๊ายบายนะครับคนเก่ง”
“หม่ามี้โกโฮม...โกโฮม” แต่เมื่อถึงเวลาต้องร่ำลากันเจ้าเด็กน้อยผู้น่ารักก็ออกลูกพยศ
หนูน้อยปพนอยู่ห่างจากแม่แท้ๆ ร่วมสัปดาห์ แม้ได้คุยกันแบบเห็นหน้าทุกวันแต่มันก็ไม่เหมือนกับการได้เจอตัวเป็นๆ
‘Good night kiss’ เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่ลูกชายโหยหาจากแม่
“คนเก่ง...เดี๋ยวหม่ามี้โทรหานะครับ”
“โกโฮม...โก โฮม!!!” เมื่อถูกขัดใจจึงพยายามดิ้นและร้องเสียงดังขึ้น
เด็กน้อยผู้ไม่ประสีประสาวิ่งเข้าใส่กระจกใสกลั้นเพื่อหวังจะกอดแม่
ปึ่ง!
“ปพน!!”
แง ง ง
เสียงเล็กกรีดร้องลั่นเพราะเด็กชายวิ่งชนกำแพงใสๆ จนหงายหัวกระแทกเข้าให้
คนเป็นแม่และป้าต่างพากันตกใจ พวกเธอไม่เคยเห็นปพนทำแบบนี้สักครั้ง
รอยแดงก่ำขึ้นที่กลางหน้าผากในทันทีและบวมเท่าลูกมะนาวขนาดย่อมๆ เห็นจะได้
แง ง ง
“คนดีของหม่ามี้ ไม่ต้องร้องนะครับ”
ชู่ว...ว...ว
“หม่ามี้...หม่ามี้!!”
“โอ๋ๆ คนเก่งของหม่ามี้”
ปลานิลได้แต่ยืนเกาะกระจกร้องตะโกนปลอบใจลูกชาย เธออยากวิ่งออกไปกอดหอมลูบไล้เขาให้หายคิดถึงเช่นกัน
“แก! ฉันพากลับเลยนะ”
“ฝากปพนด้วยนะนินิว”
...
“เดี๋ยวหม่ามี้โทรหานะครับ”
โกโฮม...
หม่า มี้...หม่า มี้...!!