“หือ พี่โยชินนี่ เอาแต่ใจตัวเองจัง” ญารินเดินบ่นอุบระหว่างเข้าลิฟท์นั้น หล่อนหยิบมือถือตัวเองขึ้นมาก็ต้องตกใจ
“อุ๊ย !! นี่มันไม่ใช่ของเรานี่” คิ้วเรียวขมวดเข้าหากันแน่น เมื่อเปิดภาพหน้าจอขึ้นมาก็รู้ได้ทันทีว่าแท้จริงแล้วเป็นของใคร ตายแล้วแบบนี้พี่โยชินจะติดต่องานยังไงเนี่ย ร่างเล็กรีบเข้าห้องและจัดการเช็คเอาท์ทันที หล่อนต้องติดต่อพี่เขาให้ได้ ทำยังไงดี ทำไงดี
“อ๋อ นึกออกแล้ว” ขอใช้โทรศัพท์ตรงหน้าล๊อบบี้ของโรงแรมเพื่อโทรเข้ามือถือตัวเอง แต่ดังเท่าไรๆก็ไม่มีคนรับสักที หล่อนยิ่งร้อนใจมากยิ่งขึ้น
ตืดดดด!!!! “รับสิๆ” หล่อนพยายามพูดกับโทรศัพท์ แต่ทว่าคนปลายสายก็ไม่รับสายซะที เมื่อเห็นว่ามันไม่ได้ผล หล่อนจึงตัดสินใจไปหาเขาที่บ้านพักอีกครั้ง หล่อนไม่รู้หรอกว่าเขาจะอยู่หรือไม่ แต่หล่อนจะไปคอยแอบซุ่มดูเขาก่อนแล้วกัน
ทางด้านของโยชิน ด้วยความที่ต้องรีบไปซ้อม และคิวงาน อีก 3 วันจะถึงงานทัวร์คอนเสิร์ตนัดแรกนั้น ชายหนุ่มต้องพร้อมให้มากที่สุด เพราะความที่เป็นมืออ่าชีพ เขาจึงไม่รู้เลยว่ามือถือในกระเป๋านั้นดังเป็นสิบๆสาย
“อ้าวเบรกกันก่อน” เสียงทีมงานเอ่ยขึ้น ทำให้โยชินรู้สึกโล่งอก หลังจากที่พยายามทำตัวเองให้เป็นปกติมากที่สุด พลังงานที่มีอยู่ก็ใส่ไปกับเด็กญารินนั้นเกือบหมด จะไหวไหมเนี่ยโยชินเอ๋ย เขาถามตัวเองในใจ
“อ้าว..เฮ้ย!!” ชายหนุ่มอุทานทันทีที่หยิบมือถือขึ้นมาดู หน้าจอที่เห็นคือรูปคนที่เขาเพิ่งผ่านมาเมื่อครู่นี้
“หืมมม..นี่อย่าบอกนะว่า...”
“นั่งพูดอะไรอยู่คนเดียวเนี่ยโยชิน” เสียงเล็กแหลมดังมาจากร่างโปร่งที่เดินเข้ามาหานั้น
“อ่อ ไม่มีอะไรฮะ”
“แต่ที่พี่เห็นเรานั่งจ้องมือถืออยู่นานแล้วนะ”
“ก็แค่ดูอินสตาร์แกรมไปเรื่อยอะครับ”โยชินรีบบอกปัดแล้วรีบยัดมือถือนั้นใส่ลงไปที่เดิม
ยังไม่ทันที่เขาจะลุกขึ้นไปซ้อมต่อ เสียงเตือนจากเจ้าเครื่องปัญหานั้นก็ดังขึ้น
ตืดดดด ตืดดดด ตืดดดด!!!
“เอ๊ะ!! ไม่ได้ล็อคหน้าจอด้วย” ด้วยความอยากรู้ เขาจึงถือวิสาสะกดรับสาย
“ฮัลโหลญาริน เราอยู่ไหนหนะ มาที่พี่หน่อย” เสียงทุ้มอบอุ่นกรอกใส่หูทำเอาคนฟังอารมณ์รู้สึกเลี่ยนเป็นที่สุด
“ค่ะ”เสียงเข้มตอบรับไปในลำคอ
“ที่เดิมนะ คอนโดพี่นะ” ประโยคนั้นทำให้คนฟังต้องกดวางสายอย่างหมั่นไส้ ใครกันนะ แล้วนัดกันที่คอนโดไหน ไปทำอะไร ใบหน้าหล่อคมนั้นบึ้งตึงขึ้นมาทันที เขารีบโยนมือถือเครื่องนั้นลงกระเป๋าแล้วเดินไปซ้อมด้วยอาการไม่สบอารมณ์อย่างเห็นได้ชัด
“ไหนๆก็อยู่ที่ฉันแล้ว ก็ถือว่าเป็นของฉันวันหนึ่งแล้วกัน” ทันทีที่ขึ้นรถได้ เขารีบหยิบมือถือของอีกคนรีบกดเข้าอ่านข้อความในแชททันที
“คนนี้ใครกัน แล้วผู้ชายคนนี้เป็นใคร ”คำถามนั้นถูกตั้งระหว่างที่ตัวเองก็กดเปิดดูมันไปเรื่อยๆ
“หืม มีคนไลน์เข้ามาจีบด้วย หึ !!” แสยะยิ้มออกมาอย่างเห็นได้ชัด อารมร์ในใจเริ่มขุ่นมัว หล่อนถึงกับโยนมือถือทิ้งลงยังเบาะที่นั่งฝั่งคนขับ ก่อนที่จะตรงบึ่งกลับบ้านพักของวงดนตรีนั้น
ทางด้านของญาริน หล่อนนั่งมองทางจนคอนั้นแข็งไปหมด ร่างเล็กตัดสินใจเดินออกไปนอกปากซอยเพื่อโทรหามือถือตนเองอีกครั้ง
ตืดดด ตืดดด ตืดดด++++มันยังคงเหมือนเดิมไม่เปลี่ยนแปลง ไม่มีใครรับสาย
ปี๊บๆๆ ปี๊บๆๆๆ!!!
“อุ๊ย!! ใครอะ ” หล่อนก้มลงไปมองคนที่ลดกระจกลงมานั้น
“พี่โยชิน”
“มัวแต่ยืนอยู่นั่นแหละ ขึ้นมาสิ”
“ค่ะๆ” คนตัวเล็กรีบเข้าไปนั่งอย่างรวดเร็ว
“พี่รู้ไหมคะว่ามือถือเราสลับกัน”
“รู้... ” น้ำเสียงที่ญารินได้ยินเหมือนว่าเขาโกรธใครมา คงจะเหวี่ยงใครมาอีกแล้วเป็นแน่ หญิงสาวคิดในใจ
“อ๋อค่ะ ถ้าอย่างนั้นเอาของพี่ไปค่ะ” หญิงสาวยื่นมือถือให้เจ้าของ หล่อนหันไปยิ้มรอรับมือถือของตัวเองเพราะคิดว่าเขาคงเอาให้ แต่ผิดคาด ร่างสูงกลับนั่งนิ่งและไม่ยอมพูดจา อีกทั้งเขายังบึ่งรถเข้าบ้านอย่างรวดเร็ว
“เอ่อ พี่โยชินคะ พาหนูมาที่นี่ไม่กลัวพี่ๆคนอื่นเห็นเหรอคะ”
“เห็นก็ช่าง.. เธออะลงมาเลย ฉันมีเรื่องอยากคุย” โยชินรีบเดินนำเข้าบ้านแล้วตรงดิ่งขึ้นห้องของตัวเอง ด้วยความที่ร้อนใจ เขาคงไม่ขับรถไปไกลกว่านี้แน่ เมื่อนึกถึงข้อความแชทไลน์ที่ใครๆต่างไลน์มาคุย แล้วไหนจะเรื่องชายหนุ่มคนนั้นที่ให้ไปหาที่ห้อง อย่าบอกนะว่าหล่อนทำเหมือนกับที่ทำกับเขาอยู่ตอนนี้ คือใครเรียกก็ไปหาเนี่ยนะ
“เอ่อๆ พี่มีเรื่องอะไรจะคุยกับหนูเหรอคะ” ญารินเดินเข้าไปนั่งฝั่งตรงข้ามโซฟาในห้องของเขานั้น
“ผู้ชายคนนี้เป็นใครกัน” โยชินยื่นมือถือให้หล่อนดู ญารินประหลาดใจเล็กน้อยเมื่อเขาเปิดหน้าไลน์ในมือถือของหล่อน
“นี่พี่ยุ่งกับมือถือหนูเหรอคะ” อารมณ์ของหล่อนเริ่มขุ่นมัว
“ก็ช่วยไม่ได้อยากไม่ล็อคหน้าจอเองนี่” โยชินยักไหล่ คล้ายกับว่าที่ตัวเองทำนั้นมันไม่ผิดอย่างนั้นแหละ
“แต่มันมือถือของคนอื่นนะคะ” ญารินขึ้นเสียงใส่เขาโดยไม่รู้ตัว
“คนอื่นที่ไหน เธอเป็นคู่นอนฉันต่างหาก ” ประโยคนั้นทำให้คนฟังถึงกับสะอึก ดวงตาหวานไหววูบลงเล็กน้อย
“ฉันถามว่าผู้ชายคนนี้เป็นใคร”
“พี่จินค่ะ”
“แล้วนัดกันไปไหน ไปกินกันหรือเปล่า” โยชินมองหน้าเจ้าหล่อนนิ่ง ในใจเริ่มหงุดหงิดและมองทุกอย่างมันขวางหูขวางตาไปหมด ระหว่างที่รอเจ้าหล่อนตอบ
“เอ่อๆ ป่าวค่ะ ”
“แล้วนัดกันไปไหน” ร่างโปร่งผุดจากที่นั่งขยับลงมาหย่นก้นข้างๆเจ้าหล่อนนี้
“นี่พี่โยชินคะ มันเรื่องส่วนตัวของหนูนะคะ หนูเป็นแค่คู่นอนไม่จำเป็นต้องบอกอะไรพี่นี่คะ” ญารินเริ่มโมโห หล่อนไม่เข้าใจเขาเหมือนกันจะเจ้ากี้เจ้าการอะไรกับหล่อนนักหนา ตัวเองก็บอกเองว่าเราจะไม่มีอะไรที่เกี่ยวข้องกัน
“อื้ม เป็นแค่คู่นอนก็คู่นอน ถ้าอย่างนั้นคืนนี้นอนนี้แล้วกัน ไม่ต้องไปไหนทั้งนั้น” โยชินเอ่ยเสียงเข้ม
“อ๊ะ ไม่ได้ค่ะ หนูต้องไปหาพี่จิน เดี๋ยวพี่จินรอค่ะ” ญารินนึกขึ้นได้ หล่อนรีบปฏิเสธคนที่หล่อนรักอย่างรวดเร็ว
“อื้อ บอกว่าไม่ต้องไปก็คือไม่ต้องไปไง ” โยชินจับต้นแขนเล็กของเจ้าหล่อนไว้ สายตาคมมองใบหน้าสวยนั้นนิ่งอย่างเอาเรื่อง
“เอ๊ะ พี่นี่ก็นะ...อุ๊บ!! จุ๊บ!!! อื้อ...” เสียงที่กลืนหายนั้นถูกสกัดกั้นเอาไว้ด้วยปากของเขา นี่เขาอารมณ์ไหนเนี่ย จู่ๆมาจูบหล่อนทำไมกัน แถมไม่ได้จูบเปล่า ยังรุกเร้าหล่อนรุนแรงอีกด้วย แล้วแบบนี้หล่อนจะต้านทานยังไงไหว หญิงสาวไม่ได้ขัดขืนมากนัก เพราะมันเป็นเรื่องปกติ แต่ที่ไม่ปกติก็คืออาการของเขา ดูรุกเร้าและรุนแรงเหมือนกับว่าโมโหใครมาอย่างนั้น....>>>>>>