ญารินนอนมองร่างโปร่งที่หลับใหลอย่างพอใจ รอยยิ้มร้ายกาจปรากฏขึ้นเมื่อมองนาฬิกา หึ กว่าจะรู้สึกตัวตื่นหล่อนก็คงไปถึงไหนแล้ว หญิงสาวคิดพรางขยับกาย มือเล็กรีบหยิบมือถือของตนเองแล้วออกมาจากห้องของเขาทันที สายตาหวานกวาดมองไปรอบๆ มีเพียงคนดูแลบ้านที่เดินไปเดินมาอยู่นั้น โชคดีที่พี่ๆในแก๊งค์ไม่มีใครมานอนค้างที่นี่ไม่เช่นนั้นหล่อนคงทำตัวไม่ถูก เมื่อสบโอกาสร่างเล็กก็รีบออกมาจากตรงนั้นทันที
“นี่เธอ พี่โยชินน่ารักนึ” เสียงนั้นดังขึ้นข้างๆหล่อน ญารินหันมองบรรดาสาวๆแฟนคลับที่จับกลุ่มกันดูมือถืออยู่นั้น
“แต่หน้าพี่แกเหวี่ยงจัง”
“ฉันเคยได้ยินข่าวพี่แกวีนทีมงานด้วย”
“จริงเหรอ”
“จริงสิ ทีมงานร้องโฮเลยหล่ะ”
“และเห็นข่าวว่าพี่เขาเจ้าชู้มากจริงป่าว”
“น่าจะจริงนะ เพราะพี่เขาไม่เคยมีแฟน ไม่เคยควงใคร และไม่คิดจะควงใครด้วย”
ทุกประโยคญารินเก็บเข้าสมองหล่อนจนหมด มันเป็นจริงอย่างที่แฟนคลับเขาพูดกัน เขาเป็นคนอย่างนั้น ไม่ชอบผูกพัน และขี้เหวี่ยงวีนและเอาแต่ใจตัวเอง อยากได้อะไรก็จะเอาให้ได้ แต่เขาก็น่ารักสำหรับหล่อนนะ หล่อนยอมเขาทุกอย่างแหละ ขออย่างเดียวให้เขาเรียกหล่อนใช้งานบ้างก็แล้วกัน ญารินนึกอมยิ้มกับตัวเอง
ตืดดด ตืดดด ตืดดด !!!
“อ้าว..พี่มีนโทรมาทำไมเนี่ย จะถึงอยู่แล้ว” หญิงสาวหยิบมือถือขึ้นมาดูแล้วรีบรับสาย
“ค่ะ พี่มีน”
“นี่น้องญารินจะไม่มาที่พี่จริงๆเหรอ”
“อะไรนะค่ะ หนูกำลังรีบไปอยู่นี่ไง”
“อ่าว ที่ไลน์มาบอกพี่หละ เปลี่ยนใจแล้วเหรอ”
“ป่าวนี่คะ หนูยังไม่ได้ทำอะไรเลย” ญารินนึกสงสัยประโยคของเพื่อนรุ่นพี่ที่ให้หล่อนไปช่วยงาน
“อืมๆ เครๆ มาก็ดีแล้ว พี่รอนะคะ”
“ค่ะ เดี๋ยวเจอกัน” คิ้วเรียวขมวดเล็กน้อยเมื่อนึกถึงประโยคที่พี่จินพูด หล่อนหยิบมือถือขึ้นมาดูข้องความไลน์
“แล้วเราไปเขียนตอนไหนว่าไม่ไปแล้ว” เมื่อเห็นเข้าความหล่อนก็ประหลาดใจ แต่ก็ช่างเหอะ หล่อนมาถึงที่แล้ว อย่างน้อยพี่มีนก็เคยช่วยเหลือเราทุกอย่างเช่นกัน หญิงสาวรีบเก็บมือถือแล้วลุกขั้นเพื่อลงรถโดยสารที่ป้ายนั้น
ทางด้านของโยชิน ร่างสูงยังคงนอนฝันหวาน แขนแกร่งยังคงกอดก่ายสิ่งที่นุ่มนิ่มอย่างมีความสุข เมื่อความเย็นจากเครื่องปรับอากาศทำให้ร่างหล่อนรู้สึกตัว ดวงตาเฉี่ยวจึงลืมขึ้นมามองมันนั้น
“อ้าวหมอนข้าง แล้วยายเด็กนั่นอยู่ไหน” เขารีบเด้งขึ้นจากที่นอนทันที สายตาเฉี่ยวกวาดมองไปรอบๆ หล่อนชายหนุ่มรีบผุดลุกขึ้นไปสำรวจให้ทั่วห้องและระเบียงห้องนั้น
“นี่เธอ!! อยู่ไหน” น้ำเสียงเข้มที่ดูขุ่นเคืองดังขึ้น เมื่อไม่เห็นแม้แต่เงา อารมร์ของเจ้าหล่อนยิ่งหงุดหงิดมากยิ่งขึ้น หล่อนเหลือบมองนาฬิกา บ้าแล้วไปตั้งแต่ตอนไหนเนี่ย โยชินรู้สึกร้อนใจตัวเองอย่างบอกไม่ถูก
ชายหนุ่มรีบหยิบมือถือแล้วโทรตามอีกฝ่ายทันที
“ทำไมไม่รับโทรศัพท์ว่ะ” เสียงสบถดังขึ้นอย่างหงุดหงิด เขาเดินวนไปมาในห้องด้วยความร้อนใจ
ตืด ตืด ตืด !!! เสียงนั้นทำให้ชายหนุ่มรีบคว้ามันเข้ามาดู แต่เมื่อรู้ว่าไม่ใช่คนที่เขารออยู่นี้ จึงโยนกลับไปที่เดิม
“ผู้จัดการคิมจะโทรมาอะไรนักหนาเนี่ย” ชายหนุ่มถอนใจอย่างหงุดหงิด ก่อนจะหยิบมันขึ้นมารับสาย
“นี่น้องโยชินขา เช้านี้มีสัมภาษณ์นะคะ จำได้หรือเปล่า”
“อ้าวเหรอ ได้ครับ เดี๋ยวรีบไป” แต่เมื่อเรื่องงานต้องมาก่อน เขาจำต้องยุติการโทรหาเด็กคนนั้นอย่างจำใจ
โยชินมาถึงสตูดิโอพอดีกับเวลา เขาทักทายและรวมกลุ่มกับเพื่อนในวง สายตามองเพื่อนในกลุ่มอย่างชื่นชม คู่นี้ดูรักกันเกินไปหรือเปล่า
“เอาค่ะ ทุกคนพร้อมนะคะ พิธีกรก็มาแล้ว” เสียงนั้นดึงสติชายหนุ่มให้กลับมาอยู่กับโลกปัจจุบัน โยชินกับเพื่อนร่วมวงเดินไปนั่งที่โซฟาและให้สัมภาษณ์ บรรยากาศเป็นไปด้วยความเรียบร้อย และที่ไม่เรียบร้อย
คือสายตาดุจเหยี่ยวดันไปสะดุดเข้ากับเด็กที่ยืนอยู่ใกล้ๆสไตล์ลิสต์นั้น
“ยายเด็กนั่นหนิ มาอยู่นี่เอง” ชายหนุ่มบ่นพึมพำกับตัวเองเบาๆ จนเพื่อนข้างๆหน้ามามองขมวดคิ้ว โยชินจ้องมองหญิงสาวตัวเล็กตรงหน้าอย่างหงุดหงิด เพราะเกิดมาไม่เคยมีสาวคนไหนหนีเรามาแบบนี้ อีกอย่างไม่เคยมีใครขัดใจเราเท่ายายเด็กนี่ ชายหนุ่มนึกฉุน
“น้องโยชินคะ เรื่องหัวใจตอนนี้มีใครหรือยังคะ” ชายหนุ่มหันไปยิ้มให้กับพิธีกร แล้วส่ายหัวไปมา
“แล้วรักแรกที่ทราบกันดีตอนนี้เจอกันบ้างไหมคะ”
“อ๋อไม่มีครับ เขาไปมีอนาคตที่ดีอยู่เมืองนอกแล้วครับ เราเป็นเพื่อนกันครับ” ชายหนุ่มนึกถึงยูริ รักแรกของเขา เรารักกันก่อนที่จะเข้าวงการเราทั้งสองไม่เคยปิดบังและเปิดตัวตลอด จนใครๆต่างยินดี แต่อยู่มาวันหนึ่ง ยูริก็มาประกาศว่าจบสัมพันธ์กับเขาด้วยดี มันทำให้เขาช้ำใจไปเป็นปีเลยก็ว่าได้ เขาตั้งใจไว้แล้วว่าจากนี้ต่อไปจะไม่รักใครอีก ทุกคนคือคู่นอนเท่านั้น
“จริงเหรอค่ะ แล้วหากคุณยูรริดูอยู่อยากจะฝากอะไรคะ”
“ให้ดูแลตัวเองด้วยแล้วกัน” เขาเอ่ยไปอย่างนั้น แต่สายตาเขากลับจ้องอยู่กับหลังตากล้องนั้น
ประโยคนั้นทำให้ญารินหัวใจไหววูบ มันรู้สึกเจ็บลึกๆอย่างบอกไม่ถูก ทั้งๆที่รู้ว่าตัวเองอยู่ในฐานะอะไร แต่ก็อดเจ็บไม่ได้เมื่อได้ยินประโยคนั้น ร่างเล็กถอยออกมาจากตรงนั้นแล้วตรงดิ่งไปนั่งรอพี่มีนอยู่ที่ห้องเสื้อผ้า
นี่หากรู้ว่าพี่มีนให้มาช่วยเตรียมชุดให้กับวงนี้นะ หล่อนจะไม่รับปากมาแน่นอน หล่อนไม่นั่งจัดชุดหามรุ่งหามค่ำจนต้องนอนค้างบ้านพี่เขาหรอก
“มานั่งอยู่ที่นี่เอง”
“อุ๊ย พี่!!” เสียงนั้นทำให้ญารินสะดุ้ง หล่อนเงยหน้ามองร่างสูงที่ย่างสามขุมเข้ามาหา
“เธอขัดคำสั่งฉัน”โยชินจ้องหน้าเด็กสาวนั้นอย่างเอาเรื่อง
“ก็พี่เขาดีกับหนูนี่คะ จะไม่ให้หนูช่วยเขาได้ยังไงกัน” หล่อนตอบเขาเสียงเรียบ แต่ก็มองหน้าเขาอย่างหวาดๆ
“นี่คงไปกินกันจนอิ่มหละมั๊ง”
“นี่พี่โยชินคะ มันไม่ได้เหมือนพี่ทุกคนนะค่ะ ที่เจอกันก็เอาๆๆๆ เสร็จแล้วก็กลับบ้าน”หล่อนขึ้นเสียงใส่เขาบ้าง คนอะไรคิดอยู่กับเรื่องแค่นั้น
“ปากเก่งนักนะ ” ชายหนุ่มเริ่มอารมณ์เสีย ชักจะปากเก่งไปแล้วนะ
“ค่ะ ก็พี่มาว่าหนูก่อนนี่”
“หึ มานี่ๆ มานี่เลย”
“อุ๊ย นี่พี่จะพาหนูไปไหนคะ นี่พี่คะ” ญารินร้องเสียงหลง สายตากวาดมองไปรอบๆห้องแต่งตัว ทำไมไม่มีใครให้ขอความช่วยเหลือเลยนะ ป่านนี้ยังไม่มีใครมาอีก ร่างเล็กพยายามขืนตัวเองจากการลากถูกของเขา และยิ่งรู้ว่าเขาพาหล่อนเข้าห้องเปลี่ยนชุดแล้ว หัวใจหล่อนยิ่งเต้นรัว จะทำยังไงดีพี่โยชินจะฆ่าหล่อนหมกห้องหรือเปล่านะ ร่างเล็กคิดอย่างหวาดกลัว...>>>>>>