บทที่ 2
หนึ่งชีวิตที่เกิดขึ้น
"ศรันย์คะ คืนนี้กลับคอนโดไหมคะ ดาอยากนอนกอดคุณ"
สีหน้าของศรันย์นิ่งเฉยเมื่อได้อ่านข้อความที่ดาหลันส่งมาในเมสเสจ วันนี้เขาตั้งใจจะนอนค้างที่บ้าน ไม่อยากกลับไปคอนโดเพราะไม่อยากจะเห็นหน้าหญิงสาวให้รกหูรกตา เขาปิดมือถือลงอย่างรวดเร็วและหันมาสนใจผู้หญิงอีกคนที่นั่งอยู่ข้าง ๆ ด้วยสีหน้าอารมณ์ดี ตอนนี้เขาไม่สนใจใครทั้งนั้นนอกจากนิสา
"ใครส่งอะไรมาเหรอคะ เมื่อครู่เห็นพี่หน้าบึ้งด้วย"
"เพื่อนครับ เพื่อนที่ใกล้จะเลิกคบแล้ว" คำตอบของศรันย์ สร้างความพอใจแก่มารดาเป็นอย่างมาก หญิงวัยกลางคนยิ้มแป้นออกมาทันทีที่ได้ยินลูกชายพูดเช่นนั้น
"ทำไมล่ะคะ เพื่อนไม่ดีเหรอ" นิสายังถามต่อ อะไรที่เป็นเรื่องของเขาเธอก็อยากรู้หมดนั่นแหละ
"น้องนิสาอย่าสนใจเลยครับ เรามาคุยเรื่องของเราต่อดีกว่า ใช่ไหมครับคุณน้ารฐา คุณแม่"
"จริงด้วยจ้ะหนูนิสา เรามาคุยเรื่องของเราต่อดีกว่านะ" วิยะภาพูดขึ้น หล่อนไม่อยากให้นิสารับรู้เรื่องราวของดาหลัน กลัวหญิงสาวจะเสียใจ เธอเป็นห่วงความรู้สึกของว่าที่ลูกสะใภ้มาก ด้านนิสาส่งยิ้มให้กับศรันย์และวิยะภาไปอย่างนั้น สิ่งไหนที่เธออยากรู้ก็ต้องได้รู้ เขาไม่มีทางปิดลงหรอก
วันต่อมาศรันย์กลับมาที่คอนโดตั้งแต่เช้าด้วยความรีบเร่ง เขากลับมาเอาเสื้อผ้าตัวโปรด เมื่อคืนเขานัดกับนิสาเอาไว้ว่าตอนเที่ยงจะไปดูหนังด้วยกัน หากไม่มีเสื้อตัวโปรดคงไม่มั่นใจตัวเองแน่ ๆ เขาเปิดประตูเข้ามาในห้อง ดาหลันที่กำลังนั่งปักผ้าอยู่รีบวางเสื้อในมือลงบนโซฟาแล้ววิ่งไปกอดเขาด้วยความดีใจ
"ดาคิดถึงคุณ" หญิงสาวพูดออดอ้อนเล็กน้อย เธอคิดถึงเขาจริง ๆ เมื่อคืนก็แทบจะนอนไม่หลับเลย ศรันย์ถอนหายใจอย่างหงุดหงิดใจออกมา ก่อนจะผลักตัวดาหลันออกจากตัวเองเบา ๆ
"ร้อน" เขาพูดสั้น ๆ และเดินเข้าไปในห้องนอน อย่างไม่สนใจ ดาหลันได้แต่มองตามหลังอย่างปวดใจ เขาดูเหมือนรำคาญและไม่อยากมองหน้าเธอ ไม่ต้องให้บอกก็รู้ ตัวศรันย์เดินเข้าไปในห้องสักพักก็ออกมาพร้อมกับกระเป๋าเป้ใบใหญ่ ดาหลันมองตามเขาอย่างนึกสงสัยว่าเขาหิ้วกระเป๋าเป้ใบใหญ่ใบนั้นไปไหนกัน
"จะไปไหนเหรอคะ ทำไมถึง..."
"ไม่ถามก็ไม่มีใครตายหรอก ผมก็ต้องมีธุระของผมบ้างสิ ไม่ได้อยู่ว่าง ๆ เหมือนคุณนะ หึ! ไม่ได้อยู่ว่างสิ ปักผ้า งานแค่นี้ไม่ได้ทำให้คุณมีเงินมากมายพอหรอกนะ" สายตาของศรันย์มองเห็นเสื้อที่ดาหลันปักวางอยู่บนโซฟาจึงพูดขึ้น เขาเห็นดาหลันรับจ้างปักผ้าแต่ก็ไม่เห็นว่าเธอจะมีเงินเลยสักนิด งานแค่นี้จะเก็บเงินได้แค่ไหนกันเชียว
"ค่ะ" ดาหลันตอบกลับแค่คำเดียวและก้มหน้ามองตัวเองอย่างน้อยใจ ถึงงานที่ทำจะไม่ได้เงินมากมายเหมือนที่เขาได้ แต่อย่างน้อยมันก็เป็นงานที่เธอถนัดและสุจริต เธอจบแค่ ม.หก จะไปหางานบริษัทใหญ่ ๆ ทำคงไม่มีใครรับหรอก
"ผมไปนะ วันนี้ผมไม่กลับไม่ต้องรอ เฝ้าห้องให้ด้วยละกัน" คำพูดของศรันย์มันยิ่งทำให้ดาหลันเสียใจมากขึ้น คำที่เขาพูดตกลงเธอเป็นอะไรสำหรับเขากันแน่ แฟน หรือ คนใช้ เธอเริ่มไม่แน่ใจแล้ว ศรันย์เดินออกจากห้องไปอย่างไม่สนใจ ปล่อยให้ดาหลันยืนอยู่ในห้องคนเดียวพร้อมกับความเสียใจ
โรงหนังxx
"สาอยากดูเรื่องนี้จังเลยค่ะ มันเข้าใหม่ด้วยอ่า ถ้าไม่ดูวันนี้คงไม่มีเวลามาดูอีกแน่เลย" นิสาบอกกับชายหนุ่มที่มากับเธอด้วยเสียงออดอ้อนเล็กน้อย แค่ใช้ความสวยและมายาหญิงเข้าหน่อย ผู้ชายอย่างศรันย์ก็หนีไปไหนไม่รอดแล้วล่ะ
"ครับ น้องนิสาอยากดูเรื่องอะไร พี่ดูได้หมด ถ้าดูกับน้องนิสา" ศรันย์ลูบหัวนิสาอย่างเอ็นดูก่อนจะพาไปซื้อตั๋วหนังแบบVIP วันนี้เขาตั้งใจมากับเธอและจะตามใจเธอทุกอย่าง
ในขณะที่ศรันย์มีความสุขกับนิสาที่โรงหนัง ดาหลันกลับนั่งอมทุกข์อยู่ที่โรงพยาบาล เมื่อเช้าหลังจากที่ศรันย์ออกจากห้องไปแล้ว เธอมีอาการหน้ามืดและอาเจียนอยู่หลายรอบ ความจริงเป็นมาหลายวันแล้ว แต่คิดว่าคงเป็นเพราะความเครียดจึงไม่ได้มาหาหมอ แต่วันนี้ไม่ไหวจริง ๆ อาการมันรุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ ทำให้ตัดสินใจมา ทันทีที่ได้เข้าตรวจและฟังสิ่งที่คุณหมอพูด มันทำให้เธอแทบไม่เชื่อหูตัวเอง ดาหลันนึกย้อนไปถึงสิ่งที่คุณหมอพูดกับเธอเมื่อครู่
ในห้องตรวจ
"คุณดาหลันตั้งท้องได้แปดสัปดาห์แล้วนะคะ หมอดีใจด้วยจริง ๆ ค่ะ " คุณหมอวัยกลางคนพูดกับเธอ โลกทั้งใบของดาหลันหยุดหมุนไปอย่างกะทันหัน สิ่งที่เธอได้ยินนั้นไม่ใช่ความจริงใช่ไหม เธอกำลังจะมีลูก ลูกของเธอกับศรันย์ ดาหลันยกมือขึ้นลูบหน้าท้องของตัวเองด้วยความรู้สึกที่หลากหลาย ลึก ๆ ของหัวใจเธอดีใจมากที่กำลังจะมีลูกตัวน้อย แต่อีกใจเธอกลับกังวล ศรันย์! พ่อของลูกในท้อง เธอควรจะบอกเขาอย่างไร เขาจะดีใจกับเธอไหม ความคิดมันตีกันจนดาหลันปวดหัวไปหมด
"ฝากครรภ์เลยไหมคะ" คุณหมอพูดกับดาหลัน เธอส่งยิ้มให้คุณหมออย่างหนักใจ
"ไม่เป็นไรนะคะ ถ้ายังไม่พร้อมค่อยมาใหม่ได้" คุณหมอพูดอย่างรู้ทัน สีหน้าของดาหลันที่เธอเห็น ไม่ต้องพูดก็รู้ว่าหญิงสาวนั้นกำลังมีเรื่องกังวลใจบางอย่าง ดาหลันมองหน้าคุณหมอเศร้า ๆ
"แม่ไม่รู้ว่าเราจะเป็นอย่างไรต่อไป" ดาหลันลูบท้องบอกกับลูกน้อยในนั้น เธอกังวลที่สุดว่าศรันย์จะไม่รับลูกของเธอ หากเป็นเช่นนั้นจริง ๆ เธอควรจะหันหน้าไปหาใคร เธอไม่มีญาติหรือแม้แต่คนรู้จักที่คอยให้ความช่วยเหลือได้ ถึงแม้งานปักเย็บที่เธอรับจ้างทำจะมีเข้ามาเรื่อย ๆ แต่ค่าใช้จ่ายคงไม่พอตอนคลอดแน่นอน เงินเก็บที่อยู่ในธนาคารก็พอมีอยู่บ้างแต่คงไม่พอใช้หลังคลอด เธอกังวลมา ดาหลันเดินออกมาจากโรงพยาบาลด้วยสีหน้าไม่สู้ดีนัก หนทางชีวิตของเธอมันมืดมนเหลือเกิน