...แม่น้อยรู้ว่าคนอย่างพลอยไพลินพูดจริงทำจริงเพราะเคยเลี้ยงมาตั้งแต่เล็กๆ..แต่เงินตั้งมากมายไม่รู้ว่าลูกสาวของเธอจะใช้วิธีไหนหามาเธออดเป็นห่วงไม่ได้
21.00 น.
...แม่น้อยและพลอยไพลินอยู่คุยกันจนดึกเมื่อพลอยไพรินปลอบใจแม่ของเธอจนดีขึ้นแล้วหญิงสาวจึงขับรถกลับมาที่บ้าน
"อ้าวลูกแก้วยังไม่นอนอีกหรอ" พลอยไพลินเข้าบ้านมาเห็นลูกแก้วที่ยังนั่งอยู่ที่หน้าทีวีก็แอบตกใจเพราะถ้าน้องสาวเธอถามว่ามีเรื่องอะไรเธอก็ยังไม่รู้จะตอบยังไงเหมือนกัน
"อ่อ เดี๋ยวพลอยเคลียบัญชีอีกแปปก็เสร็จแล้วค่ะ"
"ยัยหนูชมพูคงจะหลับไปแล้วล่ะสิ พี่ไปนานเลย โทษทีนะที่ทำให้เสียเวลางานมาดูยัยหนูชมพู"
"ไม่เป็นไรค่ะพี่พลอยหลานลูกแก้วทั้งคนยินดีเลี้ยงค่า..ลูกแก้วอุ่นนมในสต็อคให้ยัยหนูพอกินนมได้พักใหญ่ก็หลับไปเลยค่ะไม่ได้งอแงอะไรแล้วเอ่อ....เรื่องที่บ้านเป็นไงบ้างคะพี่พลอย เรียบร้อยดีมั้ย” ลูกแก้วว่าจะไม่ถามพี่สาวของเธอเรื่องนี้แล้วแต่ก็อดเป็นห่วงไม่ได้
"เอ่อ คือ เรื่องเป็นแบบนี้นะ" นั่นไงพลอยไพลินคิดไม่ผิดจริงๆว่าลูกแก้วต้องถามเธอเรื่องนี้แน่นอนเมื่อเป็นเช่นนี้พลอยไพลินคิดว่าคงปิดเรื่องนี้ไม่มิดแน่เธอจึงคิดว่าควรจะบอกลูกแก้วเลยจะดีกว่า
...พลอยไพลินเล่าปัญหาให้ลูกแก้วฟังจนหมด ทั้งสองก็มาช่วยกันคิดว่าจะเอาไงดีลูกแก้วเสนอว่า เธอพอมีเงินเก็บอยู่บ้างให้เอาไปจ่ายก่อน เพื่อยื้อเวลาที่เค้าจะมายึดที่แต่พลอยชมพูไม่เห็นด้วย เธอจึงบอกลูกแก้วว่าเธอขอแก้ปัญหานี้เองเพราะคิดว่าถ้าเอาเงินไปจ่ายมันก็ไม่จบง่ายๆอยู่ดีเพราะเป็นเจ้าหนี้นอกระบบที่จะเล่นตุกติกอะไรกับพวกเธอก็ได้
...เพราะเห็นแล้วว่าเจ้าหนี้คงไม่อยากได้เงินขนาดนั้นแต่คงอยากได้ที่มากกว่าเพราะถ้าที่ตรงนี้ถ้าเปิดรีสอร์ทคงจะทำรายได้มหาสารพลอยไพลินได้ยินมาหลายครั้งว่าจะชอบมีพวกมาติดต่อซื้อที่นี่เมื่อแม่น้อยไม่ขายก็ส่งคนมาก่อกวนหลายครั้งแต่แม่น้อยก็จัดการได้ทุกครั้ง
ปัญหาครั้งนี้พลอยไพลินคิดว่าเธอต้องหาคนที่มีอิทธิพลมากพอมาช่วยเธอได้และเธอก็คิดออกอยู่หนึ่งคนซึ่งก็เป็นคนที่เคยส่งเสียเธอเรียนนั่นเองถึงเธอจะไม่เคยเห็นหน้าแต่แม่น้อยก็เคยเล่าให้เธอฟังว่าคนที่ส่งเธอเรียนนั้นเป็นคนที่ร่ำรวยและมีอิทธิพลมากเธอคนนั้นจิตใจดีเมื่อเห็นว่าเด็กคนไหนเรียนดีแต่ไม่มีโอกาสเธอก็จะช่วยเหลือตลอด
พลอยไพลินเองเคยแค่ติดต่อกับคุณหญิงดวงแขทางอีเมลเท่านั้นเพราะส่วนมากคุณหญิงจะไปดูงานต่างประเทศขนาดวันที่เธอรับปริญญายังส่งตัวแทนมายินดีกับเธอเนื่องจากติดงานอยู่ที่ต่างประเทศ..แต่เธอก็ได้รับข้อความแสดงความยินดีทางอีเมลของคุณหญิงพาให้เธอได้ใจชื้นขึ้นมาบ้างที่คุณหญิงอวยพรด้วยตัวเองแม้จะทางเมลก็เถอะ
“....” ใบหน้านวลขมวดคิ้วอยู่พักใหญ่....ด้วยไม่แน่ใจว่าคุณหญิงจะยอมช่วยเหลือหรือเปล่าเพราะเธอเองตั้งแต่เรียนจบเธอก็ได้ติดต่อไปรบกวนคุณหญิงอีกเลยแต่ในเมื่อเธอจนหนทางก็มีเพียงคุณหญิงคนเดียวเท่านั้นที่เธอคิดว่าต้องช่วยเธอได้แน่ๆเธอจึงตัดสินใจส่งอีเมลเล่าถึงปัญหา ของบ้านเด็กกำพร้าที่แม่น้อยดูแลอยู่ตอนนี้ว่าเกิดอะไรขึ้นบ้างและอยากให้คุณหญิงช่วยเหลือย่างไร และเธอก็เขียนไปอีกว่าเงินที่คุณหญิงช่วยไม่ได้ให้ช่วยฟรีๆเธอจะทำงานใช้หนี้ให้คุณหญิงเองเมื่อเธอส่งอีเมลไปเสร็จเธอก็ล้มตัวลงนอนทั้งน้ำตา และภาวนาว่าให้ปัญหาเหล่านี้ถูกแก้ไขโดยเร็วด้วยเถิด
06.00 เช้าวันถัดมา
พลอยไพลินตื่นมาพร้อมกับความสดชื่นหญิงสาวเห็นข้อความจากอีเมลเด้งขึ้นเลยกดดูข้อความในเมลที่ถูกตอบกลับมาทำเอาหญิงสาวแทบอยากจะกระโดดกรี้ดลั่นบ้านแต่ก็ต้องข่มความดีใจเอาไว้เพราะไม่อยากให้เจ้าก้อนที่กำลังหลับอุตุอยู่ข้างๆได้ยินเสียงกรี้ดแล้วตื่นมาตอนนี้
ข้อความในอีเมลเขียนส่งมาว่าพรุ่งนี้คุณหญิงดวงแขจะเดินทางมาที่บ้านเด็กกำพร้าเพื่อช่วยเหลือตามที่พลอยไพรินได้ร้องขอเมื่อพลอยไพรินได้รับข่าวดีหญิงสาวก็รีบโทรหาแม่น้อยของเธอและบอกข่าวดีทันที
"จริงหรอลูก คุณหญิงท่านช่างมีเมตตากับเราเหลือเกินขอบใจมากนะลูกที่ไม่ทิ้งแม่กับน้องๆ" เสียงปลายสายที่ตอบกลับมานั้นดูมีความหวังและสบายใจขึ้นกว่าเดิมแม่น้อยพูดกับพลอยไพริน พร้อมน้ำตาคลอ เธอไม่เคยผิดคำพูดเลยจริงๆแม่สาวน้อยคนนี้
"เดี๋ยวพรุ่งนี้ พลอยกับลูกแก้วจะไปหาแม่แต่เช้านะคะ แม่สบายใจได้แล้วน้า ไม่ต้องเครียดแล้วนะ..เห็นมั้ยพลอยบอกแล้วปัญหาทุกอย่างมีทางออกเสมอ พลอยรักแม่นะจ้ะ" มือเรียวปาดน้ำตาแห่งความยินดีลวกๆก่อนที่จะกดวางสายแม่ของเธอ
ไร่บดินทร์เดชา
ไร่นี้เป็นไร่ที่อยู่ทางเหนือมีอาณาเขตพื้นที่สีเขียวหลายร้อยไร่บรรยากาศดีเป็นที่ที่สุด
"คุณหญิง สวัสดีค่ะ จะมาทำไมไม่โทรบอกกันก่อนล่ะคะ นิดจะได้จัดห้องไว้ให้" นมนิดหญิงวัยกลางคนที่อยู่ในชุดเสื้อลายลูกไม้สีขาวนุ่งซิ่นสีเทาเหลือบม้วนเก็บผมด้วยตัวหนีบสีดำตัวใหญ่เธอรีบสาวเท้าถี่ๆออกมาจากบ้านเพื่อต้อนรับดวงแขคุณหญิงวัยกลางคนที่ยังดูสาวดูสวยไม่ต่างจากสาววัยแรกรุ่น
"หวัดดีจ้ะนิด ตาพอลเป็นยังไงบ้าง ได้ทำกายภาพบ้างหรือป่าว" คุณหญิงดวงแขเดินลงจากรถตู้ด้วยสีหน้ายิ้มแย้มพร้อมทักทายแม่นมของลูกชายที่เดินมารับอยู่ที่หน้าบ้านพร้อมถามถึงอาการของลูกชายของเธอว่าการรักษาไปถึงไหนแล้ว
"เอ่อ คุณหญิงเข้าไปดูข้างในเองดีกว่าค่ะ" นมนิดเอ่ยเสียงอ่อนก่อนที่จะมองเข้าไปในบ้านหลังสีขาวด้วยสีหน้าที่ไม่สู้ดีนัก
"ฉันเห็นหน้านิดฉันก็รู้และ ลูกชายฉันมันไม่ยอมอีกล่ะสิ เฮ้อ...ฉันล่ะเหนื่อยกับลูกคนนี้จริงๆ" ดวงแขหวังว่าจะได้รับข่าวดีจากปากคนสนิทแต่เมื่อเธอเห็นหน้าของนมนิดแล้วเธอก็เดาออกได้ทันทีว่าคำตอบมันเป็นแบบไหน
ดวงแขก็รู้ทันทีว่าลูกชายตนเองคงจะอารมณ์ร้ายจนเข้าหน้าใครไม่ติดตั้งแต่ประสบอุบัติเหตุจนเดินไม่ได้ลูกชายตัวดีของเขาก็ไม่ออกสังคมขลุกตัวอยู่แต่ในบ้านไร่แถมอารมณ์ยังขึ้นๆลงๆอีกต่างหาก
"ออกไป ฉันบอกให้ออกไปไงวะ"
เคร้งๆๆ ปังๆๆๆ
"ว้ายยย"
เสียงทุ้มตวาดเสียงดังก่อนจะมีเสียงปาข้าวของดังรวมถึงเสียงร้องโวยวายของพยาบาลสาวจากในบ้านจนไปถึงด้านนอกทำให้นมนิดและดวงแขต้องรีบเดินเข้ามาในบ้านโดยเร็วเพื่อดูว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้น
"เสียงเอะอะ อะไรนิด" เมื่อเข้ามาในตัวบ้านได้เสียงโวยวายที่ดังขึ้นเรื่อยๆทำเอาดวงแขต้องยกมือทาบอกหันไปถามนมนิดด้วยสีหน้ากังวลและตกใจ
"เอ่อ คงจะเรื่องเดิมค่ะ คุณหญิง" นมนิดตอบพร้อมทำสีหน้าระอา ก่อนจะก้มหน้าลงเล็กน้อย
"ว้าย ช่วยด้วยค่ะ เอ่อ คุณนิดคะ หนูไม่รับงานนี้แล้วนะคะ หนูลาล่ะค่ะ" พยาบาลสาวที่วิ่งตาลีตาเหลือกออกมาจากห้องของแผ่นดิน วิ่งเข้ามาหานมนิดและขอลาออกดวงแขเห็นเช่นนี้ก็รู้เลยว่าพยาบาลคนนี้คงทนฤทธิ์ของลูกชายเธอไม่ไหวแล้วจริงๆก่อนจะรีบเดินเข้าไปในห้องของลูกชายเธอเพื่อปรับนิสัยกันรอบที่ล้าน
"อะไรกันตาพอล ใครมารักษาก็อยู่ไม่ถึงวันสักคนแล้วเมื่อไรจะหายใครเข้ามารักษาแกก็ไล่ตะเพิดเขาไปหมด" คุณหญิงมองลูกชายที่ทำตัวซกมกปล่อยผมเผ้ารุงรังกลิ่นตัวก็มีแต่กลิ่นแอลกอฮอลล์ ที่นั่งพิงหัวเตียงด้วยสายตาระอา
"คุณแม่" ชายหนุ่มลุกครึ่งที่ตอนนี้หนวดเคราเฟิ้มหันมามองคนที่เข้ามาใหม่เมื่อรู้ว่าเป็นแม่ตนจึงผ่อนความโมโหลง
"คุณแม่ทำไมไม่บอกก่อนว่าจะมาล่ะครับ"
"ไม่ต้องมาเปลี่ยนเรื่องเลย เมื่อไรจะยอมรักษ....."
"ผมง่วงครับ ขอพักผ่อนนะครับ" คุณหญิงดวงแขยังพูดไม่จบประโยคแผ่นดินที่นั่งอยู่บนเตียงก็ทิ้งตัวลงนอนทันที
"นี่..." ดวงแขที่กำลังจะเดินเข้าไปถึงตัวลูกชายก็โดนนมนิดดึงออกมาซะก่อน