บทที่ 7 (1/2) : ความเจ็บปวดที่เคยสัมผัส (1)

1167 Words
ในป่าท้ายหมู่บ้านยามนี้มีเงาดำสี่สายกำลังพุ่งตัวตามเงาดำสายหนึ่งอยู่... ไห่เฟิงหลังจากพาจินเฟยเทียนกับหยางหมิงเซียนหลบหนีออกมาจากเรือนของหยงหม่าได้ เขาก็รีบพาคนทั้งคู่เข้าไปในป่าท้ายหมู่บ้าน โดยใช้วิชาตัวเบาสลับกับการเดินลัดเลาะไปตามต้นไม้ เพื่ออาศัยความมืดในการพรางตัว เนื่องจากไห่เฟิงได้สูญเสียลมปราณไปกับการต่อสู้ที่เพิ่งผ่านมาไม่น้อย จึงทำให้เขาในยามนี้ต้องใช้พลังกายและพยายามดึงเอาลมปราณส่วนที่ยังเหลือออกมาใช้ เพื่อพาผู้เป็นนายหลบหนีจากกลุ่มนักฆ่าให้เร็วที่สุด ไห่เฟิงที่รับรู้ว่ายามนี้มีกลุ่มคนกำลังไล่ตามพวกเขาอยู่ เขาจึงกระซิบบอกผู้เป็นนายในอ้อมแขนของตัวเองเบาๆ “คุณชายใหญ่ขอรับ ตอนนี้พวกเรากำลังถูกติดตามจากพวกนักฆ่า คุณชายใหญ่สงบลงก่อนนะขอรับ” จินเฟยเทียนเมื่อได้ยินดังนั้นจึงพยักหน้ารับ แล้วพยายามสงบใจของตัวเองลง จากนั้นเขาก็พยายามกลั้นสะอื้นเพื่อไม่ให้มีเสียงหลุดลอดออกมาได้ ไห่เฟิงเห็นผู้เป็นนายพยายามกลั้นสะอื้นจนร่างเล็กในอ้อมแขนเริ่มสั่นเทา ก็ทำให้เขารู้สึกสงสารผู้เป็นนายจนจับใจ ‘คุณชายใหญ่อายุก็เพียงเท่านี้ เหตุใดถึงต้องมาเจอเหตุการณ์ที่หนักหนาขนาดนี้ด้วย’ ไห่เฟิงเพิ่มความเร็วในการหลบหนี เพื่อจะได้ทิ้งห่างจากพวกนักฆ่า ยามนี้เขาพยายามสอดส่ายสายตาเพื่อมองหาที่ปลอดภัย...พอจะให้ผู้เป็นนายและเด็กอีกคนสามารถเข้าไปหลบซ่อนตัวได้ ไห่เฟิงมองเห็นพุ่มไม้ที่มีขนาดใหญ่ข้างต้นไม้ต้นหนึ่ง ขนาดของพุ่มไม้น่าจะพอให้เด็กสองคนเข้าไปหลบซ่อนตัวได้ เมื่อเห็นดังนั้นเขาจึงรีบพุ่งเข้าไปในพุ่มไม้พุ่มนั้นทันที จากนั้นเขาก็ค่อยๆ วางผู้เป็นนายกับเด็กอีกคนลงอย่างเบามือ “คุณชายใหญ่ขอรับ หากเดินจากจุดนี้ไปทางทิศตะวันออก คุณชายใหญ่จะเจอกับแม่น้ำสายหนึ่ง ถ้าเจอแม่น้ำสายนั้นแล้วให้คุณชายใหญ่เดินตามกระแสน้ำไปเรื่อย ๆ แล้วคุณชายใหญ่ก็จะเจอกับอารามของเมืองนี้ จากนั้นคุณชายใหญ่สามารถเข้าไปขอความช่วยเหลือจากพระในอารามแห่งนั้นได้ขอรับ” ไห่เฟิงมองผู้เป็นนายที่ตั้งใจฟังในสิ่งที่ตนบอกด้วยใบหน้าที่แดงก่ำน้ำตาไหลลงมาคลอหน่วย ปากเม้มแน่นด้วยพยายามที่จะกลั้นเสียงสะอื้นของตัวเองเอาไว้...ยิ่งเห็นเขาก็ยิ่งปวดใจยิ่งนัก หากเลือกได้เขาคงไม่คิดจะทิ้งผู้เป็นนายไว้แบบนี้เป็นแน่ แต่หากพวกเขายังเลือกที่จะเดินทางหลบหนีแบบเดิม ฝั่งตรงข้ามคงตามพวกเขามาทันเป็นแน่ เพราะตอนนี้ตัวเขาได้ใช้แรงกายและดึงลมปราณของตัวเองออกมาใช้จนถึงขีดสุดแล้ว “คุณชายใหญ่ขอรับ... ข้าคงมาส่งคุณชายใหญ่ได้เพียงเท่านี้ หลังจากนี้หากเกิดอะไรขึ้น คุณชายใหญ่ห้ามออกไปจากตรงนี้โดยเด็ดขาดนะขอรับ รอให้ทุกอย่างสงบลงก่อนแล้วค่อยเดินทางต่อนะขอรับ ข้าขอลาคุณชายใหญ่ตรงนี้เลยขอรับ” ไห่เฟิงพูดจบก็ลุกขึ้นยืนก้มหัวคำนับให้กับจินเฟยเทียนหนึ่งครั้ง แล้วสะบัดตัวจากไปทันที จินเฟยเทียนได้ยินดังนั้นจึงเอื้อมมือออกไป หวังจะคว้ามืออีกฝ่ายเอาไว้ แต่ก็คว้าได้เพียงอากาศเท่านั้น “อาไห่! อย่าไป! กลับมา...” ไห่เฟิงรีบใช้วิชาตัวเบาพุ่งกลับไปยังทางเดิมเพื่อดักรอฝ่ายตรงข้ามที่กำลังไล่ตามรอยของพวกเขาอยู่ และเมื่อเขาสัมผัสได้ถึงอีกฝ่าย เขาก็รีบพุ่งตัวออกไปเพื่อล่อให้อีกฝ่ายได้ติดตามตัวเขาออกไปด้วย...ให้พวกมันออกห่างจากบริเวณที่ผู้เป็นนายซ่อนตัวอยู่... ไห่เฟิงเมื่อล่อให้พวกนักฆ่าไล่ตามตัวเองจนห่างออกมาไกลพอสมควรแล้ว เขาจึงลดความเร็วของตัวเองลง จากนั้นเขาจึงดึงดาบของตัวเองออกมารอ... ยามนี้เขาพร้อมแล้วที่จะสู้ เพื่อปกป้องผู้เป็นนายของเขาเป็นครั้งสุดท้าย ตัวเขาแม้ต้องตายก็ไม่คิดเสียดาย...เขาขอเพียงให้ผู้เป็นนายปลอดภัยก็เพียงพอแล้ว หลังจากไห่เฟิงพุ่งตัวออกไปไม่ถึงหนึ่งเค่อ จินเฟยเทียนก็ได้ยินเสียงต่อสู้ที่ดังมาจากในป่าฝั่งตรงข้ามจากบริเวณที่พวกเขากำลังซ่อนตัวอยู่ น้ำตาที่พยายามกลั้นเอาไว้ก็ไหลออกมาอีกครั้ง ยามนี้เขาได้แต่ภาวนาให้ไห่เฟิงปลอดภัยเท่านั้น จากนั้นไม่นานจินเฟยเทียนก็ได้ยินเสียงฝีเท้าซึ่งดังห่างจากที่พวกเขาหลบซ่อนตัวอยู่ไม่ไกลนัก เขาจึงรีบเอื้อมมือไปดึงหยางหมิงเซียนเข้ามากอดไว้แล้วใช้มือข้างหนึ่งปิดปากของเด็กชาย แล้วใช้มืออีกข้างที่เหลือปิดปากของตนเอง สวบ สวบ สวบ! เสียงฝีเท้าดังเข้ามาใกล้พวกเขามากขึ้นเรื่อย ๆ จินเฟยเทียนพยายามมองผ่านช่องว่างระหว่างใบไม้เพื่อหาต้นตอของเสียง แล้วเขาก็ได้เห็นชายหนุ่มสองคนที่สวมชุดคล้ายกับพวกนักฆ่าที่เข้ามาทำร้ายพวกเขา จินเฟยเทียนก้มมองหยางหมิงเซียน แล้วรีบตัดสินใจในสถานการณ์ตรงหน้าทันที “เด็กน้อย ฟังข้านะ...เจ้าจำที่อาไห่บอกก่อนออกไป ได้หรือไม่?” จินเฟยเทียนกระซิบถามเด็กชายในอ้อมแขน แล้วเมื่อเขาเห็นเด็กชายพยักหน้ารับ เขาจึงรีบเอ่ยชม... “เก่งมาก เด็กดี” “เดี๋ยวข้าจะวิ่งออกไปล่อสองคนนั้นให้ไปอีกทางหนึ่ง เมื่อเจ้าเห็นสองคนนั้นวิ่งตามข้าจนห่างออกไปแล้ว เจ้าค่อยออกจากที่ซ่อนนี้ แล้วไปตามทางที่อาไห่บอกไว้นะ” จินเฟยเทียนแม้ปากจะเอ่ยพูดกับหยางหมิงเซียน แต่สายตาของเขาก็ยังคงจับจ้องอยู่กับสองนักฆ่าสองคนนั้น หยางหมิงเซียนเมื่อได้ฟังที่เด็กชายตรงหน้าพูด เขาก็รีบเอื้อมมือไปกอดอีกฝ่ายเอาไว้ แล้วส่ายหน้าเบาๆ ในอ้อมกอดของอีกฝ่ายทันที “ไม่ขอรับ! หากจะไปก็ต้องไปด้วยกัน” ....................................................................... ผู้เขียนขอขอบคุณทุกยอดวิว ยอดกดหัวใจ ยอดกดติดตาม และทุกข้อความของผู้อ่านทุกท่านมาก ๆ นะคะ ทุกยอดคือกำลังใจที่ดีมากๆๆๆๆๆๆๆๆๆของผู้เขียนเลยค่ะ
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD