ตอนที่ 10 แม่หม้ายหลิน

1435 Words
ในตอนเช้าหลินเสี่ยวเหยาตื่นขึ้นมาสำรวจดูห้องครัวของตน เพราะวันนี้เธอต้องเตรียมตัวทำอาหารเอาไว้เลี้ยงคนที่มาช่วยซ่อมแซมบ้าน เธอทำใจเอาไว้แล้วว่าสภาพห้องครัวต้องรกร้าง กระทะเปื้อนฝุ่น น้ำในตุ่มก็คงเหือดแห้ง แต่พอก้าวเข้าไปในห้องครัว เธอกลับพบว่ามันสะอาดสะอ้าน กระทะและเครื่องครัวถูกทำความสะอาดเอาไว้เรียบร้อย น้ำในตุ่มทั้งสองก็เต็มปรี่ “นี่มัน...” “ตื่นแล้วเหรอ ฉันว่าจะไปปลุกอยู่พอดี” ไป๋เจิ้งฉวนพูดขึ้นมาจากด้านหลังพร้อมรอยยิ้มที่สดใส “นี่นายเป็นคนทำเหรอ” “อืม พอดีได้ยินว่าเธอจะเข้าครัวทำอาหารน่ะ ฉันเลยทำความสะอาดและตักน้ำเอาไว้รอ ส่วนนี้เป็นอาหารเช้า พ่อฉันมาถึงเมื่อครู่และนำมันมาให้พวกเราด้วย” “งั้นฉันไปปลุกเสี่ยวจวงก่อน ขอบใจนายมากนะเจิ้งฉวนที่ช่วยเหลือฉัน” เธอบอกขอบคุณเขาก่อนจะเดินออกไป รู้สึกเกรงใจเพื่อนวัยเยาว์เป็นอย่างมาก เขาทำดีกับเธอจากใจจริง แต่เธอกลับรู้สึกเหมือนว่ากำลังใช้เอาเปรียบเขาอยู่ ขณะที่รับประทานมื้อเช้าด้วยกัน หลินเสี่ยวเหยาก็ต้องรู้สึกอึดอัดไม่น้อย ตอนนี้เธอมีสถานะเป็นแม่หม้ายที่ถูกสามีขอหย่า แต่กลับรับความช่วยเหลือจากเขาที่เธอเองก็รู้ลึก ๆ ว่ามีใจให้ “ฉันเกรงใจมากเลย” เธอพูดเสียงเบา “เกรงใจ? เธอเกรงใจฉันเรื่องอะไร” “ทุกเรื่อง ทั้งเรื่องที่จะมาช่วยซ่อมบ้านโดยไม่คิดค่าแรง ทั้งเรื่องอาหารเช้า และทำความสะอาดห้องครัวไว้รอฉัน ฉันรู้สึกเหมือนกำลังเอาเปรียบนายอยู่” เธอพูดด้วยน้ำเสียงที่ลำบากใจ “พี่เสี่ยวเหยาจะเกรงใจทำไมค่ะ พี่เจิ้งฉวนน่ะใจดีไปทั่ว ไม่ใช่แค่กับพี่เสียหน่อย” ไป๋จวงจวงพูดขึ้นมาตามซื่อ พี่ชายเธอชอบช่วยเหลือคนอื่นจริง ๆ หลินเสี่ยวเหยาเลิกคิ้วสูง นี่เธอเข้าใจผิดไปเองหรือว่าเขาช่วยเธอเพราะมีใจให้ ในขณะที่ไป๋เจิ้งฉวนดีดหน้าผากน้องสาวเบา ๆ ที่ถูกเปิดโปง “นั่นก็จริง แต่ฉันไม่เคยช่วยใครเป็นพิเศษเหมือนเสี่ยวเหยาหรอกนะ” เขารีบพูดกับน้องสาว แล้วหันมามองหน้าหม้ายสาวที่เธอกำลังมองเขาอย่างคาดไม่ถึง สรุปแล้วนี่เธอคิดถูกจริง ๆ ไป๋เจิ้งฉวนมีใจให้เธอ ไม่สิ เขามีใจให้แก่หลินเสี่ยวเหยาคนเดิมต่างหาก “เอาเถอะ จะอย่างไรฉันก็เกรงใจนายอยู่ดี” เธอพูดแล้วรีบกินอาหารตรงหน้า ไม่รู้ว่าทำไมถึงได้รู้สึกเหมือนว่ากำลังถูกเขาจีบอยู่ “จริงสิ จะไปซื้อของสดในตลาดหรือไม่ ฉันมีจักรยาน กินข้าวเสร็จแล้วจะพาเธอไป” เขารีบอาสา “เอ่อ ฉันไปเองดีกว่า แต่ว่าฉันไม่มีคูปองน่ะสิ บ้านไหนที่ชำแหละเนื้อหมูขายเองบ้างฉันจะใช้เงินซื้อ” เธอเพิ่งจะกลับมาที่เจียงอัน ยังไม่ได้ลงทะเบียนรายชื่อเข้าบ้านจึงยังไม่มีสิทธิ์ได้รับคูปองที่รัฐบาลแจกจ่าย “มีสิ ลูกชายบ้านซ่งล่าสัตว์มาได้ทุกวัน มีเนื้อหมูป่าขาย แล้วที่บ้านก็เลี้ยงไก่ด้วย ส่วนผักที่บ้านฉันปลูกไว้เยอะเธอชวนเสี่ยวจวงไปเก็บได้เลย แม่ฉันท่านไม่ว่าอะไรหรอก ท่านยังบอกคิดถึงเธอด้วยซ้ำ” เขาบอกเธอพร้อมกับรอยยิ้ม จะว่าไปแล้วตั้งแต่เจอหน้ากันไป๋เจิ้งฉวนก็ยิ้มอยู่ตลอดเวลา “ดีเลย” เธอพยักหน้ารับอย่างพอใจ ชนบทแบบนี้ล่าสัตว์ขายเองไม่ต้องผ่านรัฐบาลก็เป็นเรื่องปกติ “เสี่ยวจวงจ๊ะ กินข้าวเสร็จแล้วเราก็ทำความสะอาดบ้าน แล้วไปซื้อของกันนะ” เธอหันไปพูดกับเด็กหญิงที่กำลังกินอาหารอย่างเอร็ดอร่อย “ค่ะ พี่เสี่ยวเหยา” ไป๋จวงจวงตอบรับอย่างเต็มใจ ขณะที่มืออวบ ๆ ของเธอตักคีบอาหารกินไปด้วย เมื่อทำความสะอาดบ้านส่วนของห้องโถงช่วยกันเสร็จแล้ว หลินเสี่ยวเหยาก็ชวนเสี่ยวจวงไปซื้อของด้วยกัน ระหว่างทางที่เดินไป เธอเห็นไป๋เจิ้งฉวนและไป๋เซ่าเฉินบิดาของเขากำลังเตรียมของซ่อมแซมหลังคา ในขณะที่แฝดโจวที่เป็นเพื่อนสมัยเรียนของเธอกำลังถอดกรอบประตูหน้าต่างออกมาเพื่อที่จะซ่อมแซมใหม่ทั้งหมด หญิงสาวส่งยิ้มให้ด้วยความขอบคุณ ก่อนที่เธอกับไป๋จวงจวงจะใช้จักรยานของไป๋เจิ้งฉวนเพื่อไปซื้อเนื้อหมูที่บ้านสกุลซ่ง รวมถึงซื้อไก่กลับมาอีกสองตัว ก่อนจะไปเก็บผักสวนครัวที่บ้านสกุลไป๋ปลูกเอาไว้ “สวัสดีค่ะป้าไป๋” เธอทักทายซื่อลู่เจียวมารดาของไป๋เจิ้งฉวน “เสี่ยวเหยา ป้าได้ข่าวแล้วนะเรื่องของเธอ ป้าเสียใจด้วยนะ แต่ว่าหลุดพ้นมาได้ก็ดีแล้ว เธออย่าเสียใจไปเลย” นางไป๋รีบออกตัวปลอบใจหญิงสาว “ฉันไม่ได้เป็นอะไรเลยค่ะ จริงสิคะ ฉันว่าจะมาขอเก็บผักไปทำอาหารเลี้ยงคนที่จะมาช่วยซ่อมบ้านวันนี้” เธอบอกจุดประสงค์ที่มา แล้วนำไก่มาให้แก่ซื่อลู่เจียวหนึ่งตัว “เก็บผักก็เก็บไปสิ จะเอาไก่มาให้ฉันทำไม” “ป้าไป๋รับไปเถอะค่ะ ฉันมาเก็บผักของบ้านป้า หากเอาไปเฉย ๆ ก็คงเกรงใจแย่ ป้ารับไก่นี่เอาไว้เถอะ” เธอคะยั้นคะยอให้นางไป๋รับเอาไว้ เพราะเกรงใจเรื่องอาหารเช้าและผักที่จะมาเก็บไปทำอาหาร “รับเอาไว้เถอะค่ะแม่ เลี้ยงเอาไว้รอฉันกลับมาค่อยทำไก่ตุ๋นน้ำแดงให้ฉันกิน” ไป๋จวงจวงบอกแก่มารดาด้วยน้ำเสียงสดใส หุ่นที่อวบเล็กน้อยของเธอบ่งบอกว่าในใจมีแต่เรื่องกินเป็นใหญ่ “ก็ได้ ก็ได้ แม่จะรับเอาไว้ เสี่ยวจวงพาพี่เสี่ยวเหยาไปเก็บผักในสวนสิ เก็บไปเยอะ ๆ นะ พรุ่งนี้ก็มาเก็บอีก” ซื่อลู่เจียวบอกแก่ลูกสาวด้วยความเอ็นดู “ค่ะ แม่” เด็กหญิงรับปากแล้วเดินนำหลินเสี่ยวเหยาไปเก็บผักสวนครัวที่บ้านเธอปลุกเอาไว้ที่สวนหลังบ้าน เมื่อเก็บผักได้เท่าที่ต้องการแล้ว เธอก็พาไป๋จวงจวงกลับไปที่บ้านสกุลหลิน นำของไปเก็บในครัว พอจะก่อฟืนหุงข้าวก็เพิ่งนึกออกว่าเธอลืมซื้อข้าวสาร “เสี่ยวจวง เธอล้างผักรอนะ ฉันจะออกไปซื้อข้าวสารมาหุง” “ค่ะ พี่เสี่ยวเหยา” เด็กหญิงรับปากแล้วทำหน้าที่ของตนเอง ในขณะที่หลินเสี่ยวเหยารีบเดินออกไป เมื่อเธอไปถึงร้านขายข้าวสาร เธอก็พบกับญาติฝั่งบิดาที่ไม่ยินดีต้อนรับเธออยู่ที่ร้านขายข้าวสารด้วย “ดูสิ นั่นไม่ใช่ญาติผู้น้องของฉันที่เพิ่งถูกสามีขอหย่าหรือ ตอนนี้ต้องเรียกเธอว่าแม่หม้ายหลินสินะ” หลินจิ่งหยวนพูดด้วยน้ำเสียงที่ดูถูก “เถ้าแก่ ข้าวสารสองจินค่ะ จ่ายเป็นเงินสดนะคะ” เธอไม่ได้สนใจเสวนากับลูกพี่ลูกน้อง จริง ๆ แล้วอาของเธอยินดีต้อนรับแต่ว่าลูกพี่ลูกน้องต่างหากที่ไม่ต้อนรับเธอ ดังนั้นก็ไม่จำเป็นต้องญาติดีด้วย “หนึ่งเจี่ยวกับอีกสี่เฟิน” เถ้าแก่บอกราคาขณะที่ยื่นถุงข้าวสารให้ หลินจิ่งหยวนมองดูญาติผู้พี่ที่นับเงินออกมาจ่ายก็ทำตาลุกวาว “นี่เสี่ยวเหยา ช่วยจ่ายให้ฉันด้วยสิ” เขากล่าวด้วยน้ำเสียงที่วางอำนาจ “เรื่องอะไรฉันต้องจ่ายให้นาย” “นี่เธอ!... หึ เมื่อวานยังบากหน้าไปขอพักที่บ้านฉันอยู่เลย มาวันนี้ปีกกล้าขาแข็ง ไม่นับญาติ ก็แค่แม่หม้ายคนหนึ่ง อย่าได้ทำตัวสูงส่งนักเลย ถุย!” เขาถ่มน้ำลายลงพื้นอย่างกักขฬะ “แหม ๆ ขนาดรังเกียจฉันยังกล้าขอให้ช่วยจ่ายเงินให้... ทำตัวสูงส่งแล้วไง ดีกว่าทำตัวหยาบช้าก็แล้วกัน” พูดจบเธอก็เดินถือถุงข้าวสารออกจากร้านหลินจิ่งหยวนจะตามไปหาเรื่องแต่ถูกเถ้าแก่ดึงตัวเอาไว้เพราะเขายังไม่ได้จ่ายเงิน ทำให้หลินจิ่งหยวนโมโหเป็นอย่างมาก ************************
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD