“เปิดตัวทายาทเหรอ หึ ไอ้ชัยวัฒน์มันแอบไปมีบ้านเล็กบ้านน้อยที่ไหนอีก งานนี้คงเรียกคะแนนความเชื่อมั่นให้กับบริษัทมันไม่น้อยเลย แล้วแกล่ะ เมื่อไหร่จะมีหลานให้ฉันสักที” อดีตประธาน JJ กรุ๊ปโยนบัตรเชิญสีกรมท่าลงบนโต๊แล้วหันไปถามลูกชายเรื่องทายาททั้งที่รู้ว่านั่นคือเรื่องน่ารำคาญและรบกวนใจแต่ตนก็ยังจะทำ
“ผมพูดเรื่องนี้กับพ่อไปหลายครั้งแล้ว”
“แกยังโกรธฉันเรื่องนังเด็กนั่นอยู่อีกเหรอ เรื่องมันก็ผ่านมาหลายเดือนแล้ว ลืมๆ ไปซะ”
“ถ้าอย่างนั้นงานเปิดตัวทายาทติวารัตน์พ่อก็หาคนไปแทนผมก็แล้วกัน”
“ไม่ได้ แกต้องพาเมียไปออกงานบ้าง นักข่าวกำลังจับตามองแกอยู่ไม่รู้หรือไง” แทบไม่มีรูปคู่ของจินต์ธรกับภรรยาปรากฏในหน้าสื่อโซเชียลเลย สำนักข่าวแต่ละสำนักเริ่มเล่นข่าวขาเตียงหักทำให้เริ่มเกิดความสั่นคลอนระหว่างสองครอบครัวรวมถึงหุ้นของบริษัทขึ้นลงวูบวาบนักลงทุนขาดความเชื่อใจ
“งั้นก็เลิกพูดเรื่องมีลูกสักที ผมไม่อยากมี”
“แกกำลังจะทำให้ทุกอย่างมันเริ่มพังอีกครั้ง”
“ก็ให้มันพัง แต่งก็แต่งให้แล้วจะอะไรกับผมอีก ไอ้นัท เตรียมรถ”
“ครับนาย” มือขวาคนสนิทก้มหัวรับคำสั่งแล้วรีบวิ่งนำไปเตรียมรถให้เจ้านายทันที
“อย่าคิดเอาเก้าอี้ประธานมาขู่ผมอีกต่อให้พ่อป้อนเงินให้กับบอร์ดบริหารเป็นพันล้านเขาก็ไม่สนใจหรอกเพราะถ้าเขาอยู่กับผม ผมสามารถหาให้เขาได้มากกว่านั้น”
“เพราะผู้หญิงคนเดียว ทำให้แกเป็นมากขนาดนี้เลยเหรอ”
“ก็ผมบอกแล้วว่า อย่ามายุ่งกับของของผม”
ผู้เป็นพ่อกำหมัดแน่น ถึงตอนนี้ลูกชายเพียงคนเดียวก็ยังไม่ลืมผู้หญิงคนนั้น ถึงยังไงตนก็ยังไม่วางใจ การหายตัวไปของณมนยังคงเป็นปริศนาแต่ไม่ได้เป็นข่าวดัง เธอเป็นเพียงหญิงสาวธรรมดาที่ตระกูลรัตนเศรษศิริกำลังต้องการตัว โดยเฉพาะ อดีตประธาน JJ กรุ๊ป ที่ลงทุนจ้างนักสืบดังหลายแห่งเพื่อตามหาตัวณมนแข่งกับลูกชาย
“นายจะไปงานคืนนี้มั้ยครับ”
“อีกไม่กี่สัปดาห์โครงการห้างสรรพสินค้าจะเปิดตัว สร้างความมั่นคงให้กับนักลงทุนหน่อยก็ดี” ทุกอย่างในหัวมีแต่เรื่องงาน ตลอดหลายเดือนที่ผ่านมาจินต์ธรทุ่มเทแรงกายให้กับงานแทบไม่มีเวลาให้ตัวเองเลย
“นาย”
“อะไร มีอะไรก็พูดอย่าอึกอักกูรำคาญ”
“นี่ก็ผ่านมาหลายเดือนแล้วนะครับ”
“มึงจะอะไรกับชีวิตกูนักหนาวะ”
“นายไม่สงสารคุณวิบ้างเหรอครับ”
“ทุกอย่างมันก็เพื่อผลประโยชน์ ถ้ามึงยังไม่หยุดพูดเรื่องนี้กูจะไล่มึงไปทำงานให้พ่อกู” นัทถอนหายใจเบาๆ ไม่ให้เจ้านายได้ยินเพราะกลัวจะโดนไล่อีกรอบ ที่ต้องพูดแบบนี้ก็เพราะเป็นห่วงความรู้สึกของจินต์ธร ในเมื่อพยายามทุกวิถีทางแล้วก็ยังหาไม่เจอก็ควรจะถอดใจและทำใจได้แล้ว
เอี๊ยด!
“คุณจินมาแล้วค่ะคุณวิ” วิรดารีบวางทุกอย่างในมือที่ทำค้างเอาไว้ในทันทีเมื่อได้ยินชื่อสามีจากปากของแม่บ้านที่มายืนเฝ้ารอเพื่อรายงานความเคลื่อนไหว
“วิอยู่ไหน”
“นู่นค่ะ คุณวิกำลังเดินมา เข้าบ้านก่อนนะคะคุณจินคุณวิเตรียมของว่างเอาไว้รอหลายอย่างเลยค่ะ”
“พ่อคงโทรมาบอกแล้ว เตรียมตัวไปงานคืนนี้ด้วย” จินต์ธรไม่ได้สนใจว่าในบ้านจะมีอะไร เขาสนใจแค่งานคืนนี้ ธุรกิจที่กำลังจะเกิดขึ้นต้องเป็นที่สนใจกับนักลงทุน งานเปิดตัวทายาทของติวารัตน์จะต้องกลบข่าวเตียงหักของเขาและกอบกู้ความน่าเชื่อถือกลับมา
“พี่จินไม่คิดจะค้างที่บ้านของเราเลยเหรอคะ”
“เธอเป็นผู้หญิงฉลาด คงไม่ต้องให้พี่อธิบายซ้ำหรอกใช่มั้ย”
“แต่วิก็ไม่อยากได้ชีวิตหลังแต่งงานแบบนี้ พี่ควรเห็นใจวิบ้าง”
“ผลประโยชน์ไม่มีคำว่าเห็นใจหรอกนะ ทำใจซะ ถ้าครอบครัวของเรายังมีผลประโยชน์ต่อกันเธอกับพี่ก็ต้องใช้ชีวิตแบบนี้ตลอดไป” วิรดาจำต้องกลืนก้อนน้ำตาลงคอ หล่อนพยายามอย่างสุดความสามารถเพื่อเอาใจสามี ตามใจไม่เหวี่ยงวีนไม่ทำตัวเป็นผู้หญิงงี่เง่า อย่างน้อยเขาก็ควรจะหันกลับมามองหล่อนบ้าง
“ผลประโยชน์มันจะมีมากกว่านี้ถ้าวิท้อง”
“พี่ไม่ใช่คนโลภ ทนไม่ไหวเมื่อไหร่ก็บอกพี่นะ พี่พร้อมหย่า”
“วิไม่หย่าค่ะ วิจะทำให้พี่จินยอมรับวิให้ได้”
“ความมั่นใจสูง พี่เอาใจช่วย อย่าลืมงานคืนนี้”
บ้านติวารัตน์
“พี่ภาม มนขอไม่แต่งหน้าหนาเกินไปนะคะ มนอึดอัด ไม่ค่อยชอบกลิ่นเครื่องสำอางด้วย” ตั้งแต่รู้ตัวว่าท้องทุกอย่างก็เปลี่ยนไปหมด เรื่องอาหารการกินนับอย่างได้เลยที่กลืนลง ของใช้ส่วนตัวที่เคยใช้ได้ก็ต้องโล๊ะทิ้งออกเกือบหมดเพราะรู้สึกไม่ชอบกลิ่นเวียนหัวชวนอ้วกทุกครั้งที่ได้กลิ่น
“ได้ค่ะ พี่กำชับช่างให้แล้ว จะแพ้ยันคลอดเลยหรือเปล่าคะเนี่ย” คำถามต่อท้ายของคนสนิททำให้เธอยิ้มตอบแบบสิ้นหวัง
“นั่นน่ะสิคะ เจ้าตัวเล็กไม่อ่อนโยนกับแม่เลย”
“พี่ไปแจ้งคุณท่านก่อนนะคะว่าน้องมนกำลังแต่งหน้าอยู่”
“ค่ะ”
ชีวิตที่แสนสบายมีคนรับใช้รายล้อมและบอดี้การ์ดอารักขาทุกย่างก้าว ถูกดูแลเอาใจใส่ดุจเจ้าหญิงทำให้เธอคิดถึงแม่ทุกวัน ถ้าทุกอย่างมันเกิดขึ้นเร็วกว่านี้แม่ก็อาจจะยังอยู่
ช่างหน้าและช่างผมทำทุกอย่างตามความต้องการของเธอ เน้นเรียบหรูแต่ดูแพง ไม่จัดจ้านจนเกินงามเพราะกำลังท้องกำลังไส้อีกอย่างอาการแพ้ท้องที่เป็นอยู่ก็ยังไม่หายดีหากแต่งเต็มเกินไปเกรงว่าจะอยู่ไม่ทันจบงาน
ท้องที่นู่นยื่นเข้าเดือนที่เจ็ดทำให้การเคลื่อนไหวของร่างกายค่อนข้างลำบาก ถูกกำชับโดยคุณหมอสูติว่าต้องระมัดระวังเป็นพิเศษเนื่องจากก่อนหน้าเคยมีเลือดออกทางช่องคลอดเมื่อตอนไตรมาสแรก
“หลานผมดิ้นแรงมั้ยวันนี้”
“จะมากวนประสาทอะไรฉันอีก”
“เปล่าสักหน่อยผมมาหาหลาน” ณดลก็ยังเป็นณดล จะให้เลิกกวนประสาทคงไม่มีวันนั้น กลายเป็นความเคยชินไปแล้ว วันไหนที่ไม่ได้ยินเสียงก็จะทำให้รู้สึกเหงาแปลกๆ
“ข้ออ้างเถอะ”
“ก็ได้ ผมอยากมากวนประสาทพี่ พอใจยัง”
“ก็แค่นั้น”
“งานวันนี้ ไอ้จินมันควงเมียมาด้วยนะ ผมให้คนไปสืบมา ตอนนี้ขาเตียงมันกำลังสั่นนักข่าวกำลังเล่นข่าวนี้กันหนักเลย” เรื่องแค่นี้ทำอะไรจินต์ธรไม่ได้หรอก คนเก่งอย่างเขาคงเตรียมแผนล่วงหน้าเอาไว้หลายทาง คนอย่างเขาไม่มีวันล้มเพราะเรื่องแค่นี้แน่นอน
“แค่นี้”
“ให้โอกาสกันหน่อยสิ นี่ อย่าเอาหลานผมไปให้มันเด็ดขาดเลยนะถ้าฟ้องร้องขึ้นมาก็อย่าไปยอมบ้านเรารวย”
“คิดไกลเกินไปมั้ย”
“ก็ต้องคิดเผื่อไว้มั้ย หลานผมทั้งคนถ้าพี่ไม่รักยกให้ผมสิ” ณมนไม่ได้โกรธหรือแสดงอาการไม่พอใจออกไปเมื่อได้ยินน้องชายพูดออกมาแบบนั้น ดีใจมากกว่าที่อย่างน้อยณดลก็มีมุมอ่อนโยนกับเจ้าตัวเล็กในท้องถึงแม้ว่าเด็กคนนี้มีจะสายเลือดของรัตนเศรษศิริที่ติวารัตน์เกลียดนักหนาปนอยู่ด้วย
“เรื่องอะไร ลูกฉัน ถ้าอยากได้ก็หาเมียสิ”
“ทำไมต้องพูดเหมือนพ่อด้วย” ณดลเอ่ยด้วยน้ำเสียงหงุดหงิด แค่อยากเลี้ยงหลานทำไมต้องไล่ให้ไปมีเมียด้วย
“อายุก็ไม่ใช่น้อยแล้วนะ” ปีนีณดลย่างเข้า 23 ส่วนณมนปีนี้ย่างเข้า 25 พี่น้องต่างแม่ที่สานสัมพันธ์ด้วยการทะเลาะกันทุกวันจนเริ่มรู้สึกว่าความผูกพันธ์ทางสายเลือดมันดีแบบนี้นี่เอง
“ผมมีผู้หญิงในสต็อกเพียบเลย จะพามาให้พี่เลือกนะ”
“จะบ้าหรือไง นายต้องเลือกเองสิ”
“ไม่เอาอ่ะถ้าเลือกมาแล้วพี่ไม่ชอบล่ะ เดี๋ยวก็ตีกันตายบ้านแตกอีก รำคาญ” ปัญหาน้องสะใภ้พี่ผัวคือปัญหาระดับชาติที่บ้านไหนก็ต้องเจอ ณดลไม่อยากให้เรื่องแบบนั้นเกิดขึ้น แต่ถ้าต้องเลือกแน่นอนว่าตนต้องเลือกพี่สาวกับหลานในท้องอยู่แล้ว
ถึงพี่สาวคนนี้จะต่างแม่แต่ตนก็ยอมรับพร้อมอ้าแขนรับเข้าตระกูลแม้เด็กในท้องของพี่สาวตอนนี้มีสายเลือดของรัตนเศรษศิริปนมาตนก็ไม่สน
“ไม่รู้จักโตเลยจริงๆ”
“เอาเถอะยังไม่มีตอนนี้หรอก รอหลานคลอดออกมาก่อน จะรอถามหลานด้วยว่าอยากได้น้าสะใภ้แบบไหน จิ้มได้เลย”
“สรุปหลานไม่เลือกสักคน”
“ถ้าเป็นแบบนั้น หลานก็ต้องรับเลี้ยงผมเพิ่มอีกคนแล้วแหละ”
“คุณท่านพร้อมแล้วค่ะ คุณมนกับคุณดลพร้อมหรือยังคะ”
“ไปกันยัง” ณมนพยักหน้าตอบน้องชายหวังว่างานคืนนี้จะผ่านพ้นไปด้วยดีไม่มีปัญหาติดขัด
แอบเครียดอยู่เหมือนกันถ้าต้องเจอเขาคนนั้นจริงๆ เธอจะทำตามแผนได้ดีแค่ไหน จะแสดงท่าทีอ่อนแอให้เขาเห็นหรือเปล่า กลัวใจตัวเองมากจริงๆ คิดมากเจ้าตัวเล็กก็ดิ้นแรงจนทำให้รู้สึกเจ็บท้อง แม่ก็อยากให้หนูมีพ่อ แต่แม่ไม่รู้ว่าพ่อเค้าจะต้องการหนูหรือเปล่า
...............