ตอนที่ 2

1159 Words
ทิพชยาเคยอยู่ใกล้ชิดกับงานที่บริษัทของยาซาโน่ เธอรู้จักนักมวยทุกคนในสังกัดและ...ใช่ โดยเฉพาะโคเลสนิก หนุ่มรัสเซียตัวโตเจ้าของเรือนผมสีน้ำตาลบรูเน็ตและผิวสีแทนจัดบนเรือนร่างกำยำ สิ่งที่ทำให้เธอจดจำเขาได้ขึ้นใจคือลักยิ้มเล็ก ๆ บนใบหน้าหล่อเหลายามเขาหันมายังเธอทุกครั้ง ตอนนั้นเธอเป็นเด็กสาววัยสิบแปดปีที่ไม่ได้แค่วุ่นวายหรือหมกมุ่นอยู่กับการอ่านหนังสือเพื่อสอบเข้ามหาวิทยาลัย ยามว่างเธอมักจะไปที่ค่ายมวยของบิดาชานกรุงแอตแลนตาบ่อยครั้ง เธอมีความสุขกับการไปคอยแอบดูการฝึกซ้อมอย่างหนักของนักมวยในสังกัดของยาซาโน่ ซึ่งมีเพียงคนเดียวเท่านั้นที่เธอเก็บเขาเอาไปไว้ในความฝันและไม่เคยบอกใคร โคเลสนิก รอชนีเชนโก...นักมวยหนุ่มใบหน้าหล่อเหลาราวเทพบุตรวัยยี่สิบสองซึ่งเดินทางไกลมาจากรัสเซีย เขาไม่ได้มีฝีมือแค่ในเรื่องหมัดมวย แต่ยังขโมยหัวใจของเธอไปโดยไม่มีใครรู้เรื่องนี้ที่เธอเก็บงำมันเอาไว้กระทั่งเดินทางไปเรียนต่อทางด้านดีไซเนอร์ที่ลอนดอน ยาซาโน่เหลือบมองบุตรสาวที่นั่งลงบนเก้าอี้อีกฝั่งของโต๊ะ ทิพชยาเติบโตขึ้นมากจนเขาคิดว่าเธอพร้อมที่จะรับฟังปัญหาไม่ว่าจะหนักหน่วงแค่ไหน “เมื่อก่อนคีธเคยเป็นนักมวยในสังกัดที่พ่อพยายามผลักดันเขาจนกลายเป็นนักมวยอาชีพที่มีชื่อเสียงในวงการได้สำเร็จ ใคร ๆ ก็ต้องการตัวเขา เพราะคีธไม่ใช่แค่นักมวยที่มีฝีมือเตะต่อยธรรมดา แต่เขายังเป็นคนหน้าตาหล่อเหลาและมีเสน่ห์จนบริษัทโฆษณาพยายามทาบทามให้เขารับงานเป็นพรีเซ็นเตอร์ แต่คีธมีนิสัยไม่เหมือนใคร เขาแตกต่างจากคนอื่นตรงที่เป็นคนเอาจริงเอาจังและไม่เคยหลงใหลได้ปลื้มกับชื่อเสียงเงินทองที่กำลังวิ่งเข้ามาชนเขา ถ้าจะทำอะไรคีธก็จะเลือกทำเพียงอย่างเดียวที่ตั้งใจ เขาไม่ชอบทำอะไรหลายอย่างในเวลาเดียวกัน ตอนนั้นเขากำลังถึงจุดที่เรียกได้ว่า เกือบจะพีคที่สุดแล้วในชีวิต ตอนนั้นเมื่อสองปีที่แล้ว เป็นเวลาที่ลูกเดินทางไปเรียนต่อที่ลอนดอน เขากำลังจะประสบความสำเร็จในการขึ้นชกท้าชิงกับนักมวยดังที่สุดของวงการ คีธหวังจะโค่นบัลลังแชมป์โลกและชิงเข็มขัดมาให้ได้...ถ้าไม่เกิดเรื่องร้าย ๆ ขึ้นกับเขาเสียก่อน” “เรื่องร้าย ๆ ...อย่างนั้นหรือคะ?” “คีธถูกจับได้ว่าเขาใช้สารกระตุ้นหลังขึ้นชกชิงแชมป์โลก ทุกคนช็อค และวงการมวยอเมริกาก็ช็อคกับเหตุการณ์ในวันนั้น พ่อพยายามทำความเข้าใจคีธและคิดว่าเขาคงต้องการเป็นแชมป์โลกที่ทุกคนจะยอมรับ” “แล้วหลังจากนั้นล่ะคะคุณพ่อ” “หลังจากเหตุการณ์ในวันนั้น โคเลสนิก รอชนีเชนโกก็หายหน้าไปจากวงการมวยสมัครเล่นของอเมริกา เขาขอลาออกจากสังกัดของเราและบอกกับพ่อเพียงสั้น ๆ ว่าจะเดินทางกลับไปรัสเซีย พ่อคิดว่าเขาคงหลบไปรักษาแผลใจที่มันเกิดจากการกระทำของเขาเอง พ่อไม่ขัดขวางเขาหรอกนะ คีธหายไปนานและเมื่อปีที่แล้วเขาก็กลับเข้าสู่วงการมวยสมัครเล่นในฐานะโปรโมเตอร์เจ้าของอาคิลลาที่ดึงตัวนักมวยดังในสังกัดบริษัทของเราไปเกือบหมด” “ทำไมคีธทำแบบนั้นล่ะคะคุณพ่อ?” ทิพชยาเอียงหน้าสวยหวานซึ่งบัดนี้มีแต่ความกังขาต่อสิ่งที่ได้ยิน “เขาคงโกรธพ่อกระมัง” ยาซาโน่ยักไหล่เบา ๆ เขายังกล่าวต่อด้วยท่าทีตึงเครียด “เขาคิดว่าพ่อไม่ได้ปกป้องเขาตอนนั้นในฐานะโปรโมเตอร์ที่ผลักดันเขามาตลอดก่อนการชิงแชมป์โลก เขาคิดว่าพ่อหักหลังเขาและไม่ต้องการให้เขาได้รับชัยชนะในการแข่งขัน...แทมมี่...ลูกก็รู้ว่าพ่อเป็นยังไง ทุ่มเทมากแค่ไหนกับงานโปรโมเตอร์” ชายวัยกลางคนประสานมือไว้บนโต๊ะ ดวงตาคู่นั้นจ้องมองทิพชยาราวกับจะเรียกร้องความเป็นธรรม “หนูเข้าใจคุณพ่อเสมอค่ะ แต่...ทำไมคุณพ่อต้องเรียกหนูกลับมาจากลอนดอนกระทันหันด้วยล่ะคะ?” “เพราะพ่อคิดว่าลูกจะช่วยพ่อได้” “หนูหรือคะ?” ทิพชยาชี้นิ้วเข้าหาตัวและหรี่นัยน์ตาคู่หวานขณะบิดาของเธอพยักหน้า “แทมมี่...ลูกคือความหวังเดียวที่พ่อยังเหลืออยู่ ลูกจะช่วยกอบกู้ทุกอย่างกลับคืนมาได้” “หนูจะทำอะไรได้ล่ะคะคุณพ่อ หนูไปลอนดอนเพื่อเรียนด้านการออกแบบ ไม่ได้ร่ำเรียนทางด้านการทำธุรกิจหรือคร่ำหวอดอยู่ในแวดวงหมัดมวยอย่างที่คุณพ่อทำอยู่ตอนนี้นะคะ” “ลูกช่วยพ่อได้...แทมมี่...พ่ออยากให้ลูกไปเจรจาให้คีธคืนนักมวยที่ไปอยู่ในสังกัดของเขา กลับมาอยู่กับเรา” ทิพชยาขมวดคิ้วและส่ายหน้า “เจรจาหรือคะคุณพ่อ?...แต่มันไม่ใช่เรื่องง่ายเลยนะคะ ในเมื่อคีธเคยโกรธคุณพ่อและที่สำคัญหนูก็ไม่เจอเขามานานเกือบสองปีแล้ว” “พ่อรู้ว่ามันอาจเป็นเรื่องยาก แต่พ่อแค่อยากให้ลูกเข้าไปขอความเห็นใจจากเขาก่อนที่ทุกอย่างในบริษัทของเราจะเหลือแค่ศูนย์ ตอนนี้เราแทบไม่มีนักมวยฝีมือดีอยู่ในสังกัด คีธดูดคนของเราไปหมด เขากำลังจะเอาทุกสิ่งทุกอย่างไปเป็นของเขา” “แต่ตอนนั้นเขาเป็นคนตัดสินใจเองนะคะ เขาตัดอนาคตตัวเองซึ่งมันก็ไม่ใช่ความผิดของคุณพ่อสักนิด” “พ่อถึงอยากให้ลูกไปพบเขา” ยาซาโน่เอนหลังพิงพนักเก้าอี้ ความตึงตึงเครียดที่ฉายอยู่บนใบหน้าซึ่งมีริ้วรอยของการผ่านชีวิตมาอย่างโชกโชนทำให้อีกฝ่ายรู้สึกผิดขึ้นมาอย่างช่วยไม่ได้ “ถ้าพ่อไปเองเขาคงจะไม่ยอมหนำซ้ำจะเยาะเย้ยความล่มจมของพ่อเสียเปล่า ๆ แต่ถ้าหากลูกไปเพื่อขอความเห็นใจจากเขา บางที...คีธอาจจะรู้สึกว่าเขาไม่ควรใจร้ายกับคนที่เคยมีบุญคุณกับเขาก็เป็นได้” ชายวัยกลางคนเม้มริมฝีปากแน่นในขณะที่หญิงสาวนั่งนิ่งไปพักใหญ่ เธออาจเคยมีโคเลสนิกอยู่ในหัวใจ ทว่านั่นมันก็นานจนผู้ชายคนนั้นอาจลืมไปแล้วก็เป็นได้ว่าเธอเคยแอบมองนักมวยฝีมืออันดับหนึ่งในสังกัดของยาซาโน่
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD