ห่วง

3116 Words
๕  ห่วง “ฤทธิ์ ฤทธิ์เอ๊ย” เสียงเรียกดังมาจากหน้าบ้านแต่เช้าตรู่ ทำให้เรืองฤทธิ์ที่กำลังใส่ถุงเท้าอยู่ที่ขั้นบันไดขั้นบนสุดเงยหน้ามองออกไป ก่อนจะยิ้มกว้างเมื่อเจอกับผู้เป็นน้าสาว “อยู่บนเรือนน้า” พูดจบเขาก็ก้าวลงบันได พอดีที่ฝ่ายนั้นมาหยุดอยู่ที่บันไดขั้นล่างสุด “วันนี้พอมีเวลาว่างไหม” นางน้อยเอ่ยถาม ใบหน้าเจือยิ้มพลางกวาดตามองหลานชายด้วยสายตาชื่นชม ไม่ว่าเรืองฤทธิ์จะอยู่ในอริยาบทไหน การแต่งกายแบบใด ชายหนุ่มก็ดูดีไปเสียหมด เรืองฤทธิ์เงยหน้ามองอีกฝ่ายแล้วกะพริบตา เมื่อเห็นสายตาชื่นชมแปลกๆ  “อะไรน้า มีอะไรหรือเปล่า” คนถูกถามพยักหน้า พลางหันไปมองรอบบ้าน เห็นคนงานเริ่มลงสวนจึงหันกลับมาที่คนตัวโต “น้าจะวานเอ็งให้ขับรถพาน้าไปที่บ้านนังพา พอดีที่บ้านมันมีแก้บน ทั้งหัวหมู ทั้งไก่หลายสิบตัว เลยโทร.มาชวนให้ไปกินกัน ถ้าฤทธิ์ว่าง พาน้าไปส่งที แล้วเอ็งจะกลับมาทำงานก็ค่อยกลับมา” เรืองฤทธิ์หรี่ตาลงอย่างจับผิดทันที คนเป็นน้ารีบทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้ ทำให้เขาหัวเราะหึๆ อย่างรู้ทัน “ไปส่งได้ แต่คงอยู่ด้วยไม่ได้นะน้า วันนี้ผมต้องเอาส้มโอไปส่งให้เจ้หงษ์ที่ตลาด พอดีลูกน้องเจ้แกรถชน เลยมารับเองไม่ได้” เขาเงยหน้าขึ้นมองน้าสาวหลังใส่รองเท้าผ้าใบเรียบร้อย ฝ่ายคนเป็นน้าทำหน้าผิดหวังเล็กน้อย แต่ก็พยักหน้ารับ “ไม่เป็นไร แค่ไปส่งก็พอ ขากลับเดี๋ยวให้เพ็ญมาส่งก็ได้” นางน้อยเอ่ยถึงวันเพ็ญแล้วสังเกตปฏิกิริยาของหลานชาย แต่เรืองฤทธิ์กลับมีท่าทางเฉยเมยเมื่อได้ยินชื่อเสียงของวันเพ็ญ มิหนำซ้ำยังหันไปร้องสั่งลูกน้องที่กำลังเริ่มตัดผลส้มลงเข่ง “เก็บกันไปก่อนนะ ถ้ามีแม่ค้ามาบอกให้รอพี่สักพัก จะพาน้าน้อยไปส่งที่บ้านเพื่อน สักชั่วโมงจะกลับมา” ชายหนุ่มหันมามองน้าสาว “ ไปกันเลยไหมน้า” นางน้อยพยักหน้าหงึกหงัก รีบหมุนตัวออก “เออ ไปรับหน้าบ้านน้านะ มีของติดมือไปฝากนังพามันนิดหน่อย” นางพยักพเยิด แล้วเดินกลับบ้านทันที     เรืองฤทธิ์นึกขึ้นได้จึงหมุนตัวก้าวอาดๆ ไปยังสวน ข้ามสะพานที่วางพาดท้องร่องแล้วพูดกับลูกน้องสองสามประโยค ก่อนกลับขึ้นมาพร้อมส้มโอเต็มถัง   แม้ว่าปีนี้ราคาข้าวเปลือกจะตกต่ำ แต่น้ำหนักที่ได้นั้นเกินกว่าที่คาดเอาไว้ ทำให้มีรายได้พอใช้หนี้ไปอีกคราว เหลือเอาไว้ทำนาต่อและพอเก็บเล็กน้อย จึงทำการแก้บนด้วยหัวหมูสิบหัวและไก่บ้านอีกสิบตัว ถือเป็นความเชื่อส่วนบุคคล นอกจากนี้ยังมีผลหมากรากไม้อีกมากมายวางเต็มเสื่อ ธูปหมดดอกไปเกือบครึ่งชั่วโมง รถกระบะของเรืองฤทธิ์จึงเคลื่อนเข้ามาจอดที่หน้าบ้านครึ่งตึกครึ่งไม้ของนางพา  วันเพ็ญก้าวออกมาเป็นคนแรก หญิงสาวไม่ลืมก้มลงสำรวจตัวเองอีกครั้งก่อนออกไปต้อนรับเรืองฤทธิ์และนางน้อย  “สวัสดีจ้ะป้าน้อย สวัสดีจ้ะพี่ฤทธิ์”  นางน้อยปรายตามองเรืองฤทธิ์ที่ยกมือรับไหว้      วันเพ็ญ ก่อนจะยิ้มกว้างเมื่อนางพาและสามีก้าวออกมาต้อนรับ “ขอบใจที่มา ดูสิขนอะไรกันมาเยอะแยะเลย” นางพาทักทาย แล้วหันไปมองร่างสูงใหญ่สะดุดตาพร้อมกับรับไหว้เมื่อฝ่ายนั้นยกมือขึ้นไหว้นางและสามี นางน้อยยิ้มอย่างภูมิใจก่อนจะแนะนำหลานชายให้ทั้งคู่รู้จัก “อันนี้ของฉัน ส้มโอนั่นเป็นของฝากของเจ้าฤทธิ์หลานฉัน คนที่เคยเล่าให้ฟังยังไงล่ะ” ประโยคท้ายนางน้อยลดเสียงลง แต่เรืองฤทธิ์ก็ยังคงได้ยินเต็มสองหู เขามองน้าสาวด้วยความอ่อนใจนิดหนึ่ง ก่อนจะยิ้มให้สองสามีภรรยา “อ๋อ คนนี้นี่เอง สูงใหญ่ รูปหล่อ หน่วยก้านดีจริงๆ ได้ข่าวว่าขยันขันแข็ง ทำงานเก่งเสียด้วย” ทั้งคำพูดและสายตาชื่นชมของนางพาทำให้      เรืองฤทธิ์อยากหัวเราะ ไม่รู้น้าสาวของเขามาโม้อะไรบ้าง แต่คิดว่าคงดีเกินกว่าตัวตนของเขาไปมากโขเลยทีเดียวเชียวละ  “ไม่ถึงขนาดนั้นหรอกครับ น้าน้อยเล่าเกินจริงไปหน่อย ผมก็มีขี้เกียจบ้างนี่แหละครับ” เขาออกตัว ไม่อยากให้อีกฝ่ายชื่นชมตนเองมากเกินไป เพราะฟังแล้วรู้สึกแปลกๆ “วุ้ย! พูดกับไอ้คนนี้ล่ะเสียอารมณ์ มันชอบถ่อมตัวไปอย่างงั้นเองแหละ” นางน้อยค้อนหลานชายขวับหนึ่ง ก่อนหันไปยังนางพาและสามีที่หัวเราะขัน ส่วนวันเพ็ญได้แต่ยืนเงียบๆ ลอบมองชายหนุ่มร่างสูงตรงหน้าที่เพียงแต่ยิ้มจางๆ เมื่อถูกน้าสาวต่อว่า  เรืองฤทธิ์ยังคงดูดีเช่นเดิม ไม่ว่าจะมองมุมไหน เขาก็ดูดีจนหล่อนใจสั่น ยิ่งท่าทางสุขุมและรอยยิ้มน้อยๆ บนริมฝีปากสีเข้มยิ่งทำให้หญิงสาวอยากเป็นมากกว่าคนรู้จักของเขา แต่จะให้แสดงอาการออกนอกหน้านั้นไม่ใช่วิสัยของหล่อน... นางน้อยมองเห็นสายตาของวันเพ็ญแล้วยิ้มกริ่ม เพราะกำลังมองหลานชายของตนด้วยความชื่นชม แต่เมื่อนางหันไปยังหลานชายก็ได้ถอนหายใจหนักหน่วง จนถูกนางพาแซว “ถอนหายใจเสียงดังเชียว มาๆ มากินกันก่อน ของเยอะแยะ มาฤทธิ์มา เพ็ญมันทำน้ำจิ้มอร่อยมากนะ กินแล้วต้องติดใจ” นางพาไม่สนใจว่าจะทำให้ลูกสาวเขินอายหรือเป็นการโฆษณาชวนเชื่อมากไปหรือไม่ แต่อะไรบางอย่างบอกกับนางว่าหากต้องการคนตรงหน้าเป็นเขย ก็ต้องรีบรุกทำเวลาหน่อย วันเพ็ญยิ้มเขิน เมื่อเรืองฤทธิ์หันมายิ้มให้หล่อน อันที่จริงชายหนุ่มอยากขอตัวกลับ เขามองน้าสาวสองสามครั้งแล้ว แต่ฝ่ายนั้นทำเป็นไม่เห็น จนครั้งสุดท้ายเขาแอบสะกิด นางน้อยจึงกระซิบกลับมาเบาๆ ว่า “เข้าไปกินสักสองสามคำ เดี๋ยวเจ้าของบ้านเขาจะเสียน้ำใจ แล้วค่อยบอกขอตัวกลับ”  เช่นนั้นแล้ว เรืองฤทธิ์จำต้องก้าวตามคนทั้งหมดเข้าไปด้านใน ร่วมวงกับเจ้าของบ้าน เวลาเดียวกันญาติๆ ของวันเพ็ญก็เดินทางมาถึง ชายหนุ่มรับรู้ได้ว่ากำลังถูกจับตามองจากทุกคน ขณะที่วันเพ็ญถูกเรียกใช้ให้คอยอำนวยความสะดวกแก่เขาเป็นพิเศษ โดยทุกอย่างตกอยู่ในสายตาของผู้หลักผู้ใหญ่ทั้งหลายนั่นเอง... บ่ายวันเสาร์ เรืองฤทธิ์ตัดสินใจขับรถเข้าเมือง พอดีกับเพื่อนของเขาโทรศัพท์มานัดให้ออกไปหาเหล้าดื่ม ตัวเขาไม่ใช่คนดื่ม แต่เมื่อคิดถึงคนที่อยู่ในตัวจังหวัดจึงรับปากเพื่อนทันทีทั้งที่ตลอดเวลาที่ผ่านมามักจะปฏิเสธเสียเป็นส่วนใหญ่ “วันนี้ไหงไอ้ฤทธิ์มาได้วะ” อำนาจเอ่ยถามเพื่อนอีกคนขณะมองหนุ่มเจ้าของสวนส้มโอที่มาในชุดกางเกงยีนสีซีดขาดที่เข่า กับเสื้อยืดสีน้ำเงิน ใบหน้าคมคายมีเสน่ห์ ผิวคร้ามเข้ม เรือนร่างสูงใหญ่ที่ก้าวตรงมาดูดีเสียกว่าคนพูดซึ่งเป็นพนักงานออฟฟิศแต่งตัวโก้เสียอีก มิหนำซ้ำเงินในบัญชียังแซงหน้าเขาไปไม่รู้เท่าไร “ออร่าไอ้ฤทธิ์แม่งทะลุผ่านรูปเงาะเลยว่ะ” คนข้างๆ อำนาจไม่ตอบ แต่มองไปรอบโต๊ะ เห็นสาวๆ มองตาม     เรืองฤทธิ์กันตาปรอย “ขนาดมันใส่ชุดธรรมดายังหล่อกว่ากูอีก แม่งสาวๆ มองกันตาแทบหลุด เดี๋ยวกูถอดเสื้อโชว์ซิกแพคซะเลย จะได้หันมามองกูมั่ง” “มองด้วยความรังเกียจหรือไงวะ ขี้กรากที่หลังมึงรักษาหายหรือยัง” พออำนาจพูดจบเสียงก่นด่าก็หลุดออกจากปากดำเกิง ทั้งประวิทย์และเสน่ห์ก็หัวเราะครืน พอดีกับที่เรืองฤทธิ์ก้าวมาถึงโต๊ะ เขากราดยิ้มให้เพื่อนแล้วนั่งลงบนเก้าอี้ตัวที่ยังว่าง “พร้อมหน้าพร้อมตากันเลยนะ” ชายหนุ่มทักเพื่อนๆ ใบหน้าคมคายเจือยิ้ม  “เออ มันเป็นปกติของพวกกู ว่าแต่มึงเหอะ วันนี้ทำยังไงถึงว่างได้วะ” ประวิทย์ถามยิ้มๆ ขณะยกแก้วเบียร์ขึ้นดื่ม ส่วนดำเกิงรินเบียร์ที่มีฟองลอยเบาๆ เลื่อนให้เจ้าของสวนส้มโอ “ไม่มีอะไร แค่ออกมาเปิดหูเปิดตาบ้างเท่านั้น” เพื่อนๆ ฟังแล้วเห็นด้วย เพราะเพื่อนของเขาคนนี้เอาแต่ขลุกอยู่แต่ในสวน เหล้ายาแทบไม่แตะ ที่สำคัญ ทำไมมันยังไม่มีเมีย... อาการจ้องนิ่งของเสน่ห์ทำให้เรืองฤทธิ์และพื่อนคนอื่นแปลกใจ  “อะไรวะ จ้องหน้าแบบนี้มีอะไรหรือเปล่า” เจ้าของสวนรูปหล่อเอ่ยถามเพื่อนอย่างกังขา คิ้วสีเข้มที่พาดเหนือลูกตาคมกริบขมวดมุ่น  “ทำไมมึงไม่มีเมียวะ เป็นเกย์หรือเปล่า?”  คำถามของเสน่ห์ทำให้ประวิทย์พ่นเบียร์พรวดออกมาทัน จนดำเกิงและอำนาจรวมทั้งเรืองฤทธิ์พากันร้องลั่น ตามด้วยเสียงก่นด่า ขณะที่เสน่ห์หัวเราะร่วน พลางขอโทษขอโพยเพื่อนยกใหญ่ “โธ่ ไอ้บ้า! มึงถามอะไรของมึงวะ แล้วมึงล่ะ ไม่เป็นใช่ไหม” อำนาจหันไปถามเรืองฤทธิ์ที่กำลังหัวเราะท้องแข็ง ขณะที่คนถามยกมือขึ้นเช็ดหน้าเพราะถูกเบียร์จากประวิทย์พ่นใส่มาเต็มๆ  “เออว่ะ ถามจริงทำไมไม่มีเมีย พวกกูลูกคนละสองละสามไปแล้ว รอแต่มึงนี่แหละ กูรอเป็นเพื่อนเจ้าบ่าวจนลูกกูจะได้บวชแล้วนะโว้ย” ดำเกิงถามเชิงบ่น ขณะที่เรืองฤทธิ์ยิ้มเบาๆ พลางถอนหายใจยาว “ตอนนี้ก็กำลังดูๆ อยู่”  พอได้รับคำตอบมาเช่นนั้นทั้งสี่คนขยับตัวเข้าใกล้เกือบพร้อมกันแล้วทำตาโต สีหน้าเต็มเปี่ยมด้วยความสอดรู้สอดเห็นทันที “ใครวะ ลูกเต้าเหล่าใคร” “ชื่ออะไร พวกกูรู้จักไหม” “อายุเท่าไรวะ” คำถามของเพื่อนๆ ทำให้เรืองฤทธิ์ส่ายหน้าหวือ ใบหน้าคมคายเจือยิ้มเช่นนั้น ทำให้เพื่อนๆ ต่างโวยวายทันที “ตอบมาเลยมึง กูไหว้ล่ะ” ประวิทย์ทำท่าไหว้ปลกๆ ทำให้เรืองฤทธิ์หัวเราะเบาๆ  “ตอนนี้ยังไม่พร้อมจะบอก กูแค่ดูๆ  ยังไม่ได้ตกลงใจ ที่สำคัญผู้หญิงเขายังไม่เออออกับกูด้วย จะให้กูบอกอะไรกับพวกมึงได้วะ” เขาอธิบายเพื่อน ทั้งหมดมองหน้ากัน ก่อนจะหันมามองเพื่อน “ยังมีผู้หญิงคนไหนที่มองข้าม ไม่สนใจมึงวะ” อำนาจเอ่ยถาม  เรืองฤทธิ์ไม่ตอบ เขาทำเพียงแต่ยิ้มกริ่ม แต่แววตามีความมุ่งมั่นเพิ่มขึ้นเมื่อเพื่อนเอ่ยถามมาเช่นนั้น   “มีอยู่คนหนึ่ง กูก็หวังว่าเขาจะใจตรงกับกู” ดำเกิงเลิกคิ้วสูง มองเพื่อนอย่างไม่อยากเชื่อ คนอย่างเรืองฤทธิ์มีหรือผู้หญิงจะปฏิเสธ ถ้าเป็นเขาก็ว่าไปอย่าง... “ตามใจ ยังไม่บอกก็ตามใจ แต่พวกกูจะเตรียมตัวเป็นเพื่อนเจ้าบ่าวรอแล้วกัน” เสน่ห์บอกแล้วยกเบียร์ขึ้นดื่ม สายตายังคงมองเพื่อนอย่างค้นคว้า แต่ก็เอาใจช่วยเสมอ  ตลาดนัดวันนี้มีคนหนาแน่นเช่นเคย ทั้งสำอางและ  ลลิตาเตรียมตักขนมใส่ถุงเอาไว้รอลูกค้ากันมือระวิง เมื่อทั้งสองยังไม่ตอบรับเรืองฤทธิ์จึงยังมาขายขนมหวานเช่นเคย และการจะเลิกขายนั้นก็ต้องบอกกล่าวกับลูกค้ากันแต่เนิ่นๆ  เกือบค่ำ เรืองฤทธิ์แยกตัวออกมาจากเพื่อนๆ เขาขับรถมาถึงตลาด แล้วจอดเอาไว้ริมถนน ก่อนตรงเข้าไปในตลาด เดินหาร้านขนมหวานของสองแม่ลูก กระทั่งพบว่า ลลิตากำลังยิ้มหวานให้ลูกค้าทั้งหนุ่มและสาว จึงรีบก้าวตรงเข้าไปหาอย่างไม่รอช้า “สวัสดีครับพี่อาง” สำอางเงยหน้าขึ้นมองคนที่พูดกับตนด้วยความตกใจ  “อ้าวฤทธิ์” อุทานพลางหันไปมองลูกสาวที่ยืนขายขนมอยู่หน้าร้านแล้วหันมายิ้มให้ชายหนุ่ม “มาซื้อของเหรอ”  สำอางหมุนหนังยางรัดถุงขนมจนพอง แล้ววางใส่ถาดเพื่อส่งต่อให้ลูกสาวที่อยู่หน้าร้าน ชายหนุ่มมองแผ่นหลังบอบบางของลลิตาแล้วยิ้มให้สำอาง “พอดีนัดกับเพื่อน พอแยกกันก็แวะมาที่ตลอด ตั้งใจมาทักพี่อางกับลูกตาล มาครับผมช่วย” เขาไม่รอให้สำอางปฏิเสธเช่นเคย แต่แทรกกายเข้าไปในร้านเล็กๆ ทำให้ร้านดูแคบไปถนัดตา ก่อนจะยกถาดแล้วขยับเข้าไปยืนเคียงข้างแม่ค้าสาวหน้าหวานที่กำลังรับคำลูกค้าด้วยน้ำเสียงอ่อนหวานชวนซื้อ “ขอบคุณมากจ้า โอกาสหน้าเชิญใหม่นะคะ” เจ้าของเสียงหวานพูดจบก็หันไปด้านหลัง หมายจะรับถาดจากมารดาเหมือนทุกครั้ง แต่คนที่ขยับมายืนข้างกายพร้อมกับถาดขนมและรอยยิ้มอบอุ่นทำให้หัวใจดวงน้อยของแม่ค้าสาวกระตุกวูบ “คุณฤทธิ์” เรืองฤทธิ์ขมวดคิ้ว เขาอยากทำอะไรสักอย่างกับคำเรียกขานตนเองที่ออกมาจากปากของแม่สาวน้อยตรงหน้า แต่สถานการณ์ไม่เอื้ออำนวย ทั้งลูกค้ามายืนรอทำให้ชายหนุ่มกระซิบเตือน “ลูกค้ารออยู่นะ” นั่นเองที่ทำให้ลลิตารู้สึกตัว รู้สึกร้อนวูบไปทั้งใบหน้า รีบหันไปรับลูกค้า แล้วยิ้มกลบเกลื่อนอารมณ์และความรู้สึกที่กำลังปั่นป่วนจิตใจหล่อนในเวลานี้ ขณะที่ข้างกายของของลลิตามีคนตัวโตยืนคอยช่วยเหลืออยู่ไม่ห่าง เสียงลูกค้าหนุ่มรายหนึ่งก็ดังแว่วเข้ามากระทบหู “ว้า แม่ค้ามีผัวแล้วว่ะ เซ็งเลยกู”  คำพูดของลูกค้าหนุ่มที่รับเงินทอนแล้วเดินออกจากร้านยังดังแว่วกระทบใจคนฟังทั้งสามคน สำอางเริ่มมองอย่างไม่สบายใจ ขณะที่ลลิตาหน้าแดงก่ำ ทั้งโกรธและอายคนข้างกาย ที่ทำให้คนอื่นเข้าใจผิด ไหนจะรอยยิ้มและเสียงกระเซ้าจากลูกค้าที่มาอุดหนุนประจำ “แฟนเหรอจ๊ะ แหม มีแฟนล้อหล่อนะ หนุ่มๆ แถวนี้อกหักเป็นแถว”  ลลิตาไม่ทันปฏิเสธ เพราะเรืองฤทธิ์ส่งถุงขนมให้ลูกค้าสาวรายนั้นพลางบอก   “ขอบคุณครับ” เอ่ยขอบคุณและรับเงินมาก่อนที่   ลลิตาจะได้กล่าวอะไรออกไป หญิงสาวถลึงตาใส่เขา แต่ชายหนุ่มกลับเลิกคิ้ว และสบตาหล่อนยิ้มๆ พลางส่งเงินใส่มือเล็กแล้วหันไปยิ้มให้ลูกค้าสาวๆ ที่ยิ้มเขินเมื่อเจอหนุ่มหล่อยิ้มให้  เรืองฤทธิ์อยู่ช่วยจนขนมหมดทุกหม้อ จึงเอ่ยถาม ลลิตา “ขนของพวกนี้มายังไง จ้างรถรับจ้างมาหรือ” หญิงสาวหันมามองคนถามพลางพยักหน้า “ค่ะ เดี๋ยวพอเก็บเสร็จก็โทร.เรียกให้เขามารับ” ตอบพลางหันไปเก็บหม้อเก็บถาด เก็บร้านเตรียมตัวกลับ     เรืองฤทธิ์มองคนตัวบางหยิบนั่นจับนี่มารวมกันแล้วรีบช่วยเหลือหล่อน จนหญิงสาวต้องขอบคุณเขาเบาๆ กระทั่งเกือบเสร็จชายหนุ่มจึงเอ่ยออกมาว่า “พี่อางกับลูกตาลไม่ต้องเรียกรถมารับนะครับ เดี๋ยวผมช่วยขนของไปส่งที่ห้อง” สำอางมองชายหนุ่ม แล้วส่ายหน้าปฏิเสธ “ไม่เป็นไรหรอกฤทธิ์ นี่ก็ดึกแล้ว พี่ไม่อยากรบกวน อีกอย่างก็จ่ายเงินจ้างเขาไว้แล้ว ยังไงเขาก็ต้องมารับอยู่ดี” คำตอบของสำอางไม่ทำให้เรืองฤทธิ์เห็นด้วย เขามองไปที่ลูกสาวของสำอาง และเจ้าหล่อนก็กำลังมองเขาเช่นกัน ด้วยความเป็นห่วงที่แผ่ซ่านขึ้นจับใจ พอดีกับที่รถรับจ้างเคลื่อนเข้ามา แต่คนขับรถที่ก้าวลงมาพร้อมรอยยิ้มกระลิ้มกระเหลี่ยที่ส่งให้ลลิตาทำให้เรืองฤทธิ์ตัดสินใจโดยไม่คิดมาก “ให้ผมไปส่งน่ะดีแล้วครับ” บอกสำอางก่อนหันไปทางคนขับรถ “ขอบคุณที่มารับนะน้อง แต่เดี๋ยวพี่จะไปส่งเอง น้องกลับไปเถอะ” คนขับรถรับจ้างขมวดคิ้วนิ่วหน้า เขาอุตส่าห์มาก่อนเวลา แต่ไหงคนแปลกหน้ากลับมาพูดแบบนี้ “ไม่เป็นไรหรอกพี่ ไงผมก็มาแล้ว” มาก่อนเวลาด้วยซ้ำ เรืองฤทธิ์คิดในใจ เพราะยังไม่มีใครโทร.ตาม คนขับรถหน้าเสี้ยมก็มาถึงแล้ว มิหนำซ้ำสายตาที่ใช้มองลลิตานั้นโลมเลียอย่างน่าโมโห บ่งบอกถึงความไม่น่าไว้วางใจสักนิด เขามองสำอางด้วยสายตาติดตำหนิ ทำให้ฝ่ายนั้นต้องหันไปมองลูกสาวด้วยความอึดอัด ก่อนจะตัดบทด้วยการหันไปทางคนขับรถ “ขอโทษด้วยที่ไม่ทันบอกเอาไว้ก่อน พอดีเจอคนรู้จักกัน เดี๋ยวเขาไปส่ง เอาไว้คราวหน้าค่อยใช้บริการกันใหม่นะ” สำอางบอกกับหนุ่มรุ่นลูก ฝ่ายนั้นทำหน้าเรียบ ขณะหันมามองเรืองฤทธิ์ แววตาบ่งบอกถึงความไม่พอใจ เจ้าของสวนสบตาไม่หลบ จนฝ่ายคนขับรถรับจ้างต้องเป็นฝ่ายหลบแล้วหันไปพูดกับลลิตา “เอางั้นก็ได้ พี่ไปก่อนนะ เอาไว้คราวหน้าอย่าลืมเรียกใช้พี่ล่ะ” คนขับรถรับจ้างยิ้มหวานให้หญิงสาว ลลิตายิ้มตอบ ก่อนหุบยิ้มเมื่อเรืองฤทธิ์มองมาด้วยใบหน้าเรียบกริบ คนขับรถวัยคะนองไม่ลืมหันมามองคนตัวโตด้วยสีหน้าเย้ยๆ เล็กน้อย ก่อนจะก้าวตรงไปยังรถยนต์ของตนเองแล้วขับออกไปด้วยอาการกระชากกระชั้นตามอารมณ์ สำอางถอนหายใจยาว ก่อนหันไปมองเรืองฤทธิ์ ชายหนุ่มจึงเอ่ยขึ้นมาทันทีว่า “ถ้ายังจะขายขนมต่อคราวหน้าก็บอกผม จะได้มาช่วย”  ลลิตามองเขาแวบหนึ่ง พลางตอบ “อย่าเลยค่ะ พวกเราเกรงใจ” “เอาไว้หาคนขับรถที่น่าไว้ใจได้มากกว่านี้แล้วค่อยเกรงใจ” หญิงสาวนิ่งอึ้ง สบตาคมกริบที่มองมาอย่างตำหนิก่อนหลบสายตา เรืองฤทธิ์ถอนหายใจยาว ก่อนจะหันไปยกทั้งหม้อและกะละมังขนขึ้นไปไว้ที่ท้ายกระบะ หลังจากนั้นเพียงไม่นาน ทั้งหมดก็ออกเดินทางจากตลาดนัดไปยังที่พักของสองแม่ลูก
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD