Parallel

1428 Words
Parallel บิลบอร์ดเฉลิมฉลองครบรอบ 10 ปี ของการเข้าวงการของ "จิรทีปต์ อธิษฐ์โภคิน" หรือ "จิระ" นักร้อง นักแสดง นายแบบ เบอร์หนึ่งของประเทศ ได้กระจายไปทั่วโลกสาเหตุเกิดจากแฟนคลับได้จัดขึ้นเพื่อแสดงความยินดีกับศิลปินมากความสามารถของพวกเขา จิระ เข้าวงการด้วยการเป็นนักร้อง ด้วยน้ำเสียงที่นุ่มเป็นเอกลักษณ์บวกกับหน้าตาที่โดดเด่น จึงทำให้เขาโด่งดังตั้งแต่เพลงแรกที่ปล่อยออกมา นอกจากการเป็นนักร้องที่เขาทำมันได้ดีแล้วเขายังได้แสดงความสามารถในด้านการแสดงและนายแบบซึ่งเขาก็ทำมันได้อย่างดี ด้วยความสามารถที่หลากหลายนี้จึงทำให้เขามีชื่อเสียงและเป็นดาวค้างฟ้าทั้งไทยและต่างประเทศมานานถึง 10 ปี จิระ นั่งดูรายการข่าวที่รายงานเกี่ยวกับตัวเขาเองในเพนเฮาส์หรูใจกลางเมืองหลวงที่ทั้งชั้นมีเพียงห้องเดียวซึ่งชั้นนี้เป็นของเขา เขาซื้อเอาไว้เป็นที่พักผ่อนหลังจากเหนื่อยล้าจากการทำงานแทนที่การเข้าบ้านใหญ่ที่อยู่แถวชานเมืองเพื่อลดการเดินทาง ข่าวเรื่องที่แฟนคลับได้ทำให้เขาเพื่อแสดงความยินดีกับการครบรอบ 10 ปีในการเข้าวงการของเขาและเขาพึ่งโพสต์ขอบคุณแฟนคลับไป มีคนแสดงความยินดีกับเขามากมายไม่เว้นแม้แต่ตัวเขาเอง เขารู้สึกยินดีกับตัวเองอย่างมากที่ก้าวเข้ามาอยู่จุดนี้ได้ เขานึกย้อนไปถึงตอนที่เขายังไม่มีชื่อเสียง เขาต้องใช้ความพยายามอย่างหนักในการฝึกซ้อม ฝึกฝนตัวเอง เพื่อที่จะให้ตัวเองได้ขึ้นมาอยู่จุดนี้ ถึงแม้เขาจะเหนื่อยจะท้อแค่ไหนเขาก็ไมเคยล้มเลิกความตั้งใจนี้และเขาอยากขอบคุณตัวเองที่ไม่ล้มเลิกความตั้งใจในตอนนั้น จิระคิดว่า 10 ปี ในวงการก็เพียงพอแล้วสำหรับเขา เขามีความสุขที่ได้ใช้ความฝันของตัวเองทำให้แฟนคลับมีรอยยิ้ม มีความสุข หลังจากนี้เขาอยากจะลองมอบความสุขให้กับตัวเองในส่วนของหัวใจลองดูบ้าง เขาหวังว่าแฟนคลับของเขาจะเข้าใจในเรื่องนี้ หากเขาอยากจะมีใครดูบ้าง เพราะตลอดเวลาที่อยู่ในวงการเขาทุ่มเทให้กับงาน ไม่ได้สนใจใคร เขาอยากจะลองทำตามหัวใจตัวเองดูบ้าง ว่าแล้วเขาก็หยิบสมาร์ทโฟนของตัวเองแล้วกดเข้าไปในรายการโปรดในแกลลอรี่ซึ่งในนั้นคือรูปภาพของหนุ่มหน้าหวานคนหนึ่งที่ซุกตัวอยู่ในอ้อมกอดของเขา จะหาว่าเขาโรคจิตไม่ได้นะที่แอบถ่ายรูปไว้อย่างนี้เพราะเขาไม่รู้อะไรเกี่ยวกับหนุ่มหน้าหวานคนนี้เลยนอกจากรูปถ่ายนี้ คิดไปถึงคืนนั้นแล้วก็เจ็บใจ หลังจากที่เขาแอบถ่ายรูปไว้แล้วเขาก็เผลอหลับ ตื่นมาอีกทีคนในอ้อมกอดก็หายไปแล้ว คิดแล้วก็เจ็บใจเขารู้สึกเหมือนตัวเองโดนฟันแล้วทิ้ง มันทำให้เขามีแค่รูปถ่ายและน้ำเสียงนั้นที่เขาจำมันได้ดีเพราะมันเป็นเสียงหวานนี้ที่เรียกชื่อเขาทั้งคืนในคืนนั้น ผ่านมา 7 ปีแล้วเขายังไม่ลืมเสียงหวานนั้นเลย นี่เป็นโอกาสดีที่เขาจะลองก้าวเข้าไปหาหนุ่มหน้าหวานคนนี้ โดยใช้รูปนี้ "ครั้งนี้ฉันไม่ปล่อยเธอไว้แน่" ร่างสูงเอ่ยกับรูปถ่าย ตอนนี้เขาพร้อมแล้วที่จะทำตามหัวใจของตัวเองที่เขาละทิ้งมันไปตั้ง 7 ปี เพื่อที่จะทำตามความฝันของตัวเองให้สำเร็จก่อน ร่างสูงได้แต่หวังว่าคนๆนั้นจะยังไม่มีใคร ปุณจิณ Restaurant & Bakerry ปุณจิณร้านอาหารและเบเกอรี่ตอนนี้คราคร่ำไปด้วยผู้คนมากมาย ปุณคิดว่าสาเหตุน่าจะมาจากเพื่อนของเขา แนนนี่ นางแบบชื่อดังได้โพสต์โปรโมทร้านเขาผ่านทางอินสตาแกรมของเจ้าตัวในคืนที่ผ่านมา จึงทำให้วันนี้มีลูกค้ามากกว่าปกติ ด้วยความที่วันนี้มีลูกค้ามากจึงทำให้ ปุณ ไม่สามารถปลีกตัวไปรับลูกชายของตัวเองได้ ร่างบางจึงได้ต่อสายโทรศัพท์หา ติณ เพื่อนสนิทของตัวเอง "ติณวันนี้ว่างไหมเราจะวานให้ช่วยไปรับน้องจิณที่โรงเรียนสอนร้องเพลงให้หน่อย วันนี้ที่ร้านลูกค้าเยอะมากเลยเป็นเพราะเมื่อคืนแนนนี่โพสต์โปรโมทร้านให้เราแน่เลย" "ได้ๆ วันนี้เราทำงานเสร็จพอดี ไปรับน้องจิณให้ได้" "ขอบคุณมากๆนะ วันนี้เรารบกวนติณหน่อยนะ" "รบกงรบกวนอะไร ติณก็หลานเราเราไปรับให้ได้อยู่แล้ว" "ขอบคุณมากๆน๊าติณๆ 5555" "เดี๋ยวเหอะ บอกว่าอย่าเรียกติณๆ เอาเป็นว่าเดี๋ยวเราไปรับน้องจิณให้ เดี๋ยวเจอกัน" "โอเค เดี๋ยวเจอกันนะ" กรุ๊งกริ๊ง เสียงประตูร้านถูกเปิดออกโดย เด็กชายตัวน้อย ตามหลังมาด้วยคุณน้าที่อาสาไปรับหลานชาย เด็กชายตัวน้อยเดินเข้าไปหาหม่ามี๊ของตัวที่อยู่ตรงเคาท์เตอร์คิดเงิน พอเด็กชายตัวน้อยเห็นหม่ามี๊ของตัวเองก็วิ่งเข้าไปกอด "น้าติณบอกว่าวันนี้มี๊งานยุ่งเลยไปรับน้องจิณที่โรงเรียนไม่ได้ มี๊ทำงานยุ่งมี๊เหนื่อยไหมครับ ถ้ามี๊เหนื่อยน้องจิณจะกอดๆมี๊น๊า" เด็กชายตัวน้อยถามหม่ามี๊ตัวเอง "มี๊ไม่เหนื่อยครับ แค่มี๊เห็นหน้าน้องจิณมี๊ก็หายเหนื่อยแล้ว แล้วนี่น้าติณไปรับน้องจิณแทนมี๊น้องจิณไหว้ขอบคุณน้าจิณหรือยังครับ" "น้องจิณขอบคุณน้าติณไปแล้วครับ แถมหอมฟอดๆแก้มน้าติณทั้งสองข้างเลยครับ"  "เก่งมากครับ แต่ตอนนี้น้องจิณไปเล่นรอมี๊ที่ห้องมี๊ก่อนได้ไหมครับ มี๊ขอทำงานก่อนนะครับ" ปุณเอ่ยถามลูกชาย "ได้ครับ!!!" ว่าเสร็จเด็กชายตัวน้อยหรือน้องจิณก็วิ่งจะไปยังห้องของมี๊ตัวเองโดยมีเสียงของมี๊ไล่หลังว่าไม่ให้วิ่ง แต่ก็ไม่ทัน "ซนจริงๆ" ปุณเอ่ยกับตัวเองแล้วหันมาขอบคุณติณที่ไปรับน้องจิณให้ "วันนี้ขอบคุณนะติณที่ไปรับน้องจิณแทนเรา" "ไม่เป็นไร ปุณไม่ต้องเกรงใจ เราเชื่อว่าถ้าเป็นแนนนี่กับเดียร์ทั้งสองคนก็คงทำเหมือนเรา น้องจิณลูกปุณน่ารักจะตาย ใครๆก็อยากดูแล" ติณกล่าวกับปุณ "อื้ม ยังไงก็ขอบคุณมากๆ" "ไม่เป็นไรหน่า แล้วนี่ผ่านมา 7 ปีแล้ว เขายังส่งเงินมาให้ทุกเดือนเหมือนเดิมหรือเปล่า" "ก็ยังส่งมาเหมือนเดิมนั่นแหละ" "แล้วปุณจะเอายังไง อยากรู้ไหมว่าใครเป็นคนส่งมา ถ้าอยากรู้เราจะให้คนสืบให้ หรือว่าจะเป็นพ่อของน้องจิณ"  "เราไม่รู้ แล้วเราก็ไม่อยากรู้ด้วย" "ปุณกำลังหนีปัญหาอีกแล้วนะ เมื่อไหร่ปุณจะยอมเล่าทุกอย่างให้คนอื่นฟังบ้าง บ้างอย่างถ้ามันหนักก็วางมันไว้ก็ได้นะ รู้ใช่ไหมว่าพวกเราเป็นห่วงปุณ ที่บ้านปุณด้วย" "เรารู้ แต่เรายังไม่พร้อม" "แล้วเมื่อไหร่ปุณจะพร้อมซักที ปุณต้องใช้เวลานานเท่าไหร่ถึงจะพร้อม" " 3 ปี " "ห๊ะ นี่ก็ผ่านมา 7 ปีแล้วนะ ปุณยังต้องรออะไรอีก" "ติณอย่ามาคาดคั้นเราเลยนะ เราขอร้อง อีกแค่   3 ปี เราขอแค่นี้ "โอเค เราเคารพการตัดสินใจของปุณนะ เราหวังว่ามันจะเป็นผลดีกับน้องจิณที่สุดนะ" ติณเอ่ยกับปัณ  "อื้ม เราก็หวังเหมือนกัน" ปุณตอบติณ ปุณก็หวังว่าถ้าถึงเวลานั้นจริงๆทุกอย่างมันจะโอเค มันจะต้องโอเค ปุณคิดในใจ ค่าตัวพระเอกนายเอกเขาแพงนะคะ กว่าจะได้เจอกัน ^___^ ยังไงขอฝากนิยายเรื่องแรกของไรท์หน่อยนะคะ คอมเมนท์ติชมได้ค่ะ แต่อย่าด่าแรงไรท์ใจบาง 
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD