ตอนที่1ความหวัง...

1669 Words
ณ คฤหาสน์หลังใหญ่หรูหราโอ่อ่าตั้งตระหง่านอยู่เบื้องหน้า ตัวคฤหาสน์สีขาวบริสุทธิ์ตระการตา และประดับประดาด้วยเสาโรมันขนาดใหญ่ หลังคาทรงสูงสง่างามตกแต่งลวดลายแบบยุโรปคลาสสิก แสงไฟระยิบระยับจากแนวทางเดินมีหินอ่อนที่ทอดยาวไปยังด้านหน้าของตัวคฤหาสน์ ประตูทางเข้าขนาดใหญ่ประดับด้วยไม้โอ๊คแกะสลักลวดลายวิจิตรบรรจง เปิดออกเผยให้เห็นโถงทางเดินกว้างใหญ่ที่สลับซับซ้อนด้วยโคมไฟระย้าคริสตัลระยิบระยับ เจ้าของร่างอันบอบบางหยุดยืนอยู่กลางห้องโถงขนาดใหญ่ ดวงตากลมโตกวาดมองบริเวณโดยรอบหวังว่าจะเจอใครสักคนตามที่ยายพิกุลบอกเธอไว้ก่อนที่ท่านจะจากไปและไม่มีวันที่จะหวนคืนกลับมาอีกแล้ว เด็กสาวระบายลมหายใจออกมาเบาๆ ข่มกลั้นความรู้สึกอยากร้องให้เอาไว้ ‘หลานไปพบคุณท่านกษิดิศ...ยื่นจดหมายนี้ให้ท่าน แล้วทุกอย่างจะเรียบร้อย’ “แกเป็นใคร! เข้ามาในบ้านนี้ได้ยังไง!” น้ำเสียงอันดุดันและแข็งกระด้างแฝงความไม่พอใจดังขึ้นจากด้านหลังทำให้เจ้าของร่างบอบบางสะดุ้งตกใจ “เอ่อ...” เด็กสาวหันไปมองต้นเหตุของเสียงอันเกรี้ยวกราดนั้นทันที ภาพที่เธอเห็นนั้นคือหญิงวัยกลางคนจ้องมองเธอราวกับจะกินเลือดกินเนื้อ ดวงตาของเธอผู้นั้นเบิกกว้างออก แสดงความมีอำนาจอย่างเต็มเปี่ยมทำเอา ‘ภริตา’ ขนลุกซู่ขึ้นมาทันใด “ฉันถามว่าแกเข้ามาทำไม! แล้วนี่ยามหน้าประตูปล่อยแกเข้ามาได้ยังไง!” “หนูมาพบคุณท่านกษิดิศค่ะ” ภริตาตอบกลับพร้อมกับยื่นจดหมายส่งให้หญิงวัยกลางคนนั้นด้วยมืออันสั่นเทา “อะไรนะ! ดูสภาพอย่างแกเนี่ยเหรอที่จะมาพบคุณท่าน” สายตาของแม่บ้านชื่อประนอม หัวหน้าแม่บ้านประจำคฤหาสน์กีรติเมธานนท์ มองเด็กสาวที่อ้างว่าจะมาพบประมุขใหญ่ของบ้านตั้งแต่หัวจรดเท้า ‘เด็กกะโปโลนี่เป็นใครกัน กล้าดียังไงถึงจะมาขอพบคุณท่าน’ “คุณป้าเปิดจดหมายอ่านก่อนก็ได้ค่ะ” “ออกไปเดี๋ยวนี้! แกอย่ามาใช้*มุกบ้าบอนี้มาหลอกเสียให้ยากเลย ฉันไม่หลงกลแกแน่” มันจะเป็นไปได้อย่างไร ในเมื่อตอนนี้คุณท่านที่นังเด็กนี่อ้างถึงนั้นไม่มีวันที่จะรู้จักเด็กบ้านนอกกะโปโลคนนี้แน่นอน เด็กนี่ต้องเป็นพวกมิจฉาชีพแอบอ้างมาแน่นอน อย่าบอกนะว่ามันจะอ้างว่าเป็นลูกเมียน้อยของคุณท่านอีกคน “ตะ-แต่ คุณป้าช่วยอ่านจดหมายฉบับนี้ก่อนได้มั้ยคะ” ภริตาพยายามอีกครั้งในการอธิบาย ‘ที่พึ่งสุดท้าย คือคุณท่านกษิดิศเท่านั้น ภริตาไม่มีที่ไปที่ไหนอีกแล้ว’ “ฉันบอกให้แกออกไป! ไอ้เดช! มึงอยู่ไหน มาเอาอีนังนี่โยนออกไปที!” หัวหน้าแม่บ้านตะโกนเสียงดังสนั่นเรียกยามหน้าประตูทันที เธอมักจะรับมือกับคนพวกนี้อยู่เป็นประจำ เพราะฉะนั้น นังเด็กคนนี้ก็คงเหมือนกับแม่พวกสาวๆ ทั้งหลายที่เข้ามาหาคุณๆ ของบ้าน แต่จะต่างกันก็ตรงที่เด็กคนนี้ดูสภาพไม่เหมือนกับสาวๆ เหล่านั้นสักเท่าไหร่ ดูเป็นเด็กและน่าจะเป็นพวก*บ้านนอกคอกนาด้วยซ้ำ “เอะอะเสียงดังอะไรประนอม!” น้ำเสียงอันทรงพลังของหญิงวัยกลางคนดังขึ้นจากด้านบนของคฤหาสน์ “เอ่อ...ขออภัยค่ะคุณผู้หญิง” ประนอมเปลี่ยนน้ำเสียงของตัวเองลงอัตโนมัติ เมื่อเหลือบมองขึ้นไปด้านบนก็พบกับประมุขของบ้านอีกท่านหนึ่งกำลังเดินลงจากบันได ‘คุณท่านผู้หญิงกนกจันทร์’ ภริยาของคุณท่านกษิดิศ กีรติเมธานนท์ ตระกูลผู้ยิ่งใหญ่และร่ำรวยที่สุดในประเทศไทย “แล้วนี่ใคร!” “เนี่ยล่ะคะคุณผู้หญิง อีเด็กนี่มันมาขอพบคุณท่านกษิดิศ ประนอมเลยจะไล่มันไปค่ะ มันเป็นมิจฉาชีพแน่นอนค่ะคุณผู้หญิง” “ไม่นะคะคุณป้า หนูไม่ใช่มิจฉาชีพนะคะ คุณป้าลองอ่านจดหมายนี้ก่อนได้มั้ยคะ” ภริตายื่นจดหมายนั้นอีกครั้ง “เอามาให้ฉันดู” “แต่คุณผู้หญิงคะ...” “ฉันบอกให้เอามา!” “ค่ะๆ คุณผู้หญิง” หัวหน้าแม่บ้านรีบคว้าจดหมายในมือของเด็กสาวมาแล้วส่งให้ผู้เป็นนายทันที คุณหญิงกนกจันทร์เปิดจดหมายที่ปิดผนึกอย่างแน่นหนา ด้วยความอยากรู้ถึงข้อความที่อยู่ด้านใน สิ่งที่ทำให้คุณหญิงเกิดความสงสัย นั่นก็คือใบหน้าของเด็กผู้หญิงคนนี้ มันช่างละหม้ายคล้ายกับใครบางคนที่เธอเคยรู้จักเหลือเกิน ‘ป้าขอฝากลูกสาวของนรีรัตน์ ให้คุณหนูดูแล นรีรัตน์ได้จากโลกนี้ไปแล้ว และตอนที่คุณหนูได้อ่านจดหมายฉบับนี้ ป้าก็คงไม่ได้อยู่บนโลกนี้แล้วเช่นกัน...’ “นรีรัตน์...” คุณหญิงกนกจันทร์ทวนชื่อนี้อย่างช้าๆ นัยน์ตาของเธอเบิกกว้างออกทันที ‘มิน่าล่ะเธอถึงได้คุ้นหน้าเด็กคนนี้นัก’ “มีอะไรเหรอคะคุณผู้หญิง?” ประนอมเห็นท่าทีของผู้เป็นนายที่ดูตกใจหลังจากอ่านข้อความในจดหมายนั้น “แกเป็นลูกของอีนังนรีใช่มั้ย!” น้ำเสียงของคุณหญิงกนกจันทร์กระชากออกมาทันที ชื่อผู้หญิงคนนั้นมีผลกับจิตใจของเธอเป็นอย่างมาก ‘ศัตรูหัวใจอันดับหนึ่งของกนกจันทร์...สามสิบกว่าปีแล้วสินะ...ที่เธอเฝ้าตามคิดบัญชีอีนังนี่...แต่ไม่ว่าจะพลิกแผ่นดินหามันเท่าไหร่ก็ไร้เงาของมัน...’ “ค่ะคุณผู้หญิง” แม่ของเธอจากโลกนี้ไปเมื่อสี่ปีที่แล้ว ภริตาก็อาศัยอยู่กับคุณยายพิกุลจวบจนอายุ 18 ปี และตอนนี้คุณยายของเธอก็มีอันต้องจากโลกนี้ไปอีก ภริตาไม่เหลือใครแล้ว แม้กระทั่งผู้เป็นพ่อเธอก็ไม่เคยที่จะเห็นหน้าเลยสักครั้ง บ้านที่อาศัยกับคุณยายก็ไม่เหลือแล้ว บรรดาพวกป้าๆ ของภริตาเข้ามายึดทุกอย่างและไล่เธอออกจากบ้านหลังนั้นมา “แม่แกอยู่ไหน!” “มะ-แม่หนูเสียแล้วค่ะ” น้ำเสียงอันสั่นเครือแผ่วเบาของเธอแฝงความสะเทือนใจเอ่ยตอบหญิงวัยกลางคนตรงหน้า แม่จากไปในตอนที่เธออายุเพียง 14 ปี ภริตายังเรียนอยู่ชั้นมัธยมปีที่สาม หลังจากแม่เสียชีวิตไปแล้ว ชีวิตของภริตาก็พลิกผันเป็นอย่างมาก เธอต้องทำงานส่งตัวเองเรียนจนจบมัธยมปลาย แต่แล้ววันนี้คุณยายของเธอก็มีอันต้องจากเธอไปอีกคนด้วยโรคร้ายที่คร่าชีวิตคนที่รักเธอและเป็นที่พึ่งสุดท้ายของเธอไป... “อ่อ เจ้าของจดหมายนี่ก็คงเป็นยายพิกุลที่เคยเป็นแม่นมเลี้ยงคุณกษิดิศมาสินะ” ภาพความทรงจำครั้งก่อนหวนคืนกลับมาอีกครั้ง ยายพิกุลคือคนที่เลี้ยงสามีของเธอมา และได้พาลูกสาวก็คือนังนรีรัตน์มาอยู่ด้วย ตอนนั้นกนกจันทร์อายุ 18 ปีและเป็นคู่หมั้นที่ถูกหมั้นหมายกันไว้อยู่ก่อนแล้ว เธอรักกษิดิศมาก รักจนไม่รู้จะหาคำไหนมาบรรยายได้ แต่แล้ววันหนึ่ง เมื่ออีนังนรีรัตน์เข้ามาในบ้านหลังนี้ได้เพียงไม่นาน ชีวิตรักของเธอก็ต้องมีอันแหลกสลายไป “คุณยายบอกว่าให้หนูมาหาคุณท่าน และนำจดหมายนี้มาให้ค่ะ” ภริตาตอบกลับคนตรงหน้าเธอด้วยข้อความที่คุณยายของเธอกำชับมา “นี่ยายพิกุลของแกคงไม่รู้ข่าวอะไรเลยสินะ” ริมฝีปากแดงสดแสยะยิ้มออกมาด้วยความสะใจเกี่ยวกับบางอย่าง กนกจันทร์รอคอยการแก้แค้นมานานแสนนาน สุดท้ายอีนังนรีรัตน์มันก็มาชิงตายไปเสียก่อน แต่! มันก็ดันส่งลูกของมันมาอีกนะ ‘ดี! คุณพี่จะได้รู้และได้เห็นมันอีกครั้ง หน้าตาของนังเด็กนี่เหมือนแม่มันมาก เหมือนกันราวกับเป็นคนเดียวกันเลยทีเดียว’ “มะ-หมายความว่ายังไงคะคุณผู้หญิง” น้ำเสียงอันสั่นเครือเอ่ยถามอีกครั้ง ภายในใจของเธอกำลังร้อนรนอย่างหนัก คืนนี้เธอจะนอนที่ไหนกัน บ้านก็ไม่มี เงินติดตัวก็มีเพียงน้อยนิดเท่านั้น “ก็หมายความว่า คุณท่านกษิดิศของคุณยายแก ไม่แม้แต่จะมีแรงเดินลงมาดูแกเลยสิ” “เอ่อ คุณท่านเป็นอะไรคะคุณผู้หญิง” “เป็นอะไร...แล้วมันเกี่ยวกับแกยังไง อย่าบอกนะ ว่าแกก็คือลูกของคุณพี่อีกคน” กนกจันทร์แน่ใจว่านังเด็กคนนี้ไม่ใช่ลูกของคุณพี่แน่นอน เพราะหลังจากที่เธอกำจัดนังนรีรัตน์ให้พ้นทาง เธอก็ได้แต่งงานกับคุณพี่จนมีลูกด้วยกันถึงสามคน และนังเด็กนี่ก็น่าจะอายุรุ่นราวคราวเดียวกับลูกสาวคนเล็กของเธอ แต่เอ๊ะ! หรือว่าคุณพี่จะแอบนัดเจออีนังนรีรัตน์... “ไม่ใช่ค่ะ...คุณท่านไม่ใช่พ่อของหนูหรอกค่ะคุณผู้หญิง...หนูไม่รู้ว่าทำไมคุณยายถึงให้หนูถือจดหมายมาพบท่าน แต่หนูคิดว่าถ้าคุณท่านได้อ่านจดหมายนี้แล้ว...เอ่อ...คุณท่านอาจจะช่วยหนูได้ค่ะ” “อืม...งั้นฉันจะช่วยแกไว้ตามที่ยายของแกสั่งเสียไว้ก็แล้วกัน...ประนอม!” “ค่ะคุณผู้หญิง” “พาอีเด็กคนนี้ไป ให้มันทำงานเป็นคนรับใช้ แกคอยสอนมันด้วยและให้พักอยู่รวมกับคนรับใช้ในเรือนเล็ก” “แต่คุณผู้หญิงคะ...นังเด็กนี่มันเป็นลูก...” “จะลูกของใคร ฉันไม่สน เอามันไป” สามสิบปีก็ยังไม่สายสินะที่กนกจันทร์จะแก้แค้นเอาคืนศัตรูตลอดกาลของเธอ...นังนรีรัตน์ คราวนี้แหละคุณพี่จะได้รู้รสความเจ็บปวดที่เธอได้สัมผัสมา เด็กคนนี้หน้าเหมือนแม่มันราวกับพิมพ์เดียวกัน...ความแค้นของกนกจันทร์จะได้รับการสะสางเสียที... .........................
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD