ในร้านราเมนญี่ปุ่นบรรยากาศอบอุ่นกลางเมือง โต๊ะไม้สีเข้มเรียงกันอย่างเป็นระเบียบ กลิ่นน้ำซุปทงคตสึหอมฉุยลอยอ้อยอิ่งไปทั่ว
โต๊ะริมหน้าต่างที่ห่างจากลูกค้าคนอื่น ถูกจองไว้ล่วงหน้าโดยชายในชุดดำขรึม ผู้ที่ใครในร้านต่างเหลียวมองอย่างไม่กล้าเข้าใกล้
—แต่เขาไม่ได้มาคนเดียว
“นี่มันอะไรกันฟะ…”
ฉันมองกระจกในร้านราเมนร้านโปรดของตัวเอง พลางพึมพำเบาๆ
ฉันนั่งอยู่ริมหน้าต่างโต๊ะสองที่ (บวกอีกหนึ่งจานชามสำหรับหมา)
ใส่เสื้อฮู้ดตัวเก่ง ผูกผมลวกๆ แบบเนิร์ดประจำตัว
แต่ปัญหาคือ—
ไอ้คนตรงข้ามฉันน่ะ… แม่งแต่งตัวหล่อจัดเต็มระดับพระเอกซีรีส์มาเฟียเวอร์ชั่นดาร์ก!!
เรย์จิในชุดเชิ้ตดำ กางเกงสเลคเรียบกริบ เสื้อนอกตัวบางพาดไหล่
นั่งไขว่ห้าง… กำลังเปิดเมนูราเมนเหมือนกำลังประชุมกับแก๊งมาเฟียในร้านชิลล์ๆ
และที่ข้างเก้าอี้ของฉัน—
เจ้าหมาชิบะอินุตัวกลมที่ชื่อ ไทกะนั่งอย่างสง่างาม (?) พิงขาฉันอยู่
มีจานอาหารหมาพิเศษของทางร้านอยู่ตรงหน้า
พร้อมถ้วยน้ำ และพนักงานสาวที่ถ่ายรูปรัวๆ เพราะ “คุณหมาน่ารักมากกกก!”
“โฮ่ง~”
มันหันมามองฉันแล้วกระดิกหาง เหมือนจะบอกว่า
“เธอนี่โชคดีจริงๆ ที่มีเจ้าของอย่างเรย์จิ พามาเดทด้วย!”
เงียบบบบ!! ฉันอยากเอาชามราเมนวางบนหัวมันมากตอนนี้!!!
“ฉันยังไม่เข้าใจนะ…” ฉันเริ่มโวยวายเสียงเบา
“เข้าใจอะไร?” เรย์จิถามหน้าตาเฉย โดยที่ไม่ละสายตาจากเมนู
“ก็ทำไมฉันต้องมา ‘เดท’ กับนายด้วยล่ะฟะ!?”
“เพราะเธอชอบร้านนี้”
“แล้วไงฟะ!”
“เธอบ่นว่าอยากกินราเมนมาสามวันแล้ว” เขาตอบนิ่งๆ
โอ๊ยยย!!! ฉันเผลอบ่นก็จริง! แต่ไม่ได้อยากให้นายพามาเองงง!!!
“ราเมนเนื้อสไลซ์เพิ่มไข่… กับอาหารหมาเซ็ตพรีเมียมสำหรับไทกะ” เรย์จิสั่งอาหาร
“เอ่อ… คะ…ค่ะ ทะ…ทั้งหมด 2 ชุด กับ 1 จานหมาใช่ไหมคะ…” พนักงานมีท่าทางอึ้งๆ ปนเกรงๆ
“ใช่ ขอบคุณ” เรย์จิพยักหน้า
“นี่มันเดทในตำนานของเด็กเนิร์ด หรือมื้ออาหารสุดท้ายกันแน่วะ…” ฉันบ่นกับตัวเองเบา
เมื่อราเมนมาเสิร์ฟ...
จังหวะที่ท้องร้องกับกลิ่นน้ำซุปเข้มข้น ละอองน้ำมันหอมๆ ลอยแตะจมูก กลิ่นน้ำซุปหอมฉุย ตะเกียบในมือฉันแทบสั่นด้วยความอยากกิน
แต่แล้ว—
ฟึ่บ
เรย์จิยื่นกระดาษเช็ดปากมาให้ฉัน
“เปื้อนตรงมุมปาก” เขาพูดนิ่งๆ
ฉันยกมือแตะหน้า…
และพบว่า น้ำซุปกระเด็นเปื้อนจริงๆ!!! 😳💥
“มองอะไร…” เขายกคิ้ว
“…หรืออยากให้ฉันเช็ดให้?” 😏
“ว๊ากกกกกกก!!! ไอ้มาเฟียลามกกก!!!”
ฉันคว้าทิชชู่มาเช็ดหน้าตัวเองแรงจนหน้าเกือบหลุด!!!
ไทกะนั่งมองฉันอย่างเอือมๆ
“โฮ่ง!” (เหมือนจะบอกว่า ‘ควรยอมให้เขาเช็ดนะแม่!’)
จากนั้นก็ค่อยๆ กระดิกหาง…แล้วหมุนตัวไปนอนพิงขาเรย์จิอย่างเต็มใจ
“นี่หมานายหรือหมานายหญิงวะ…” ฉันบ่นอุบ
เรย์จิยิ้มเล็กๆ แล้วลูบหัวไทกะเบาๆ
“มันรู้ว่าใครใจดี”
“แต่ฉันเป็นคนที่ช่วยมันนะ!!”
“แล้วมันก็รักเธอ”
เรย์จิพูดเสียงเรียบ แต่มองฉันตรงๆ
“เหมือนฉัน”
“!!!?”
ไอ้บ้านี่มันหยอดเก่งขึ้นทุกวันใช่มั้ยยยยย!!!
ฉันแทบจะฟาดชามราเมนใส่หัวตัวเองหนีความเขิน!!!
…ถึงจะโดนแกล้ง โดนกวน โดนหยอดจนน้ำซุปจะระเหย
แต่ความรู้สึกในอกมันกลับอุ่นอย่างประหลาด
ร้านโปรด
อาหารโปรด
คน (?) ที่คอยดูแลเธอเงียบๆ ตลอด
มินาเอะไม่กล้าพูดหรอกว่าเธอกำลัง “รู้สึกดี”
แต่หัวใจเธอ…
กำลังตกหลุมรักเดทแรกนี้ช้าๆ อย่างไม่รู้ตัวเลยล่ะ…
“นายรีบกินสิ เดี๋ยวเย็นหมด” ฉันบอกเขาแก้เขิน
เรย์จิยังคงมองเธอไม่ละสายตา มือข้างหนึ่งของเขาลูบหัวไทกะเบาๆ แต่ดวงตาสีเทาเข้มนั้น…มองเธอเหมือนเธอเป็นจุดเดียวในร้าน
“เธอชอบราเมนแบบนี้จริง ๆ สินะ…”
“ก…ก็แน่นอนสิ มันอร่อยมากเลยนะ!”
“อืม…”
“งั้นต่อไปนี้ ถ้าเธอบ่นอะไรอีก ฉันจะพาไปทันที”
“แค่ก!” ฉันสำลักน้ำซุปทันที
“เกิดฉันบ่นว่า อยากดูอนิเมะในโรง นายจะพาฉันไปดูเลยเรอะ!?”
“ซื้อโรงหนังทั้งโรงก็ได้ ถ้าเธออยาก”
“………”
ฉันถึงกับตัวสั่น…ไม่ใช่เพราะกลัว แต่เพราะเขิน!!!!
ระหว่างที่มินาเอะก้มกินราเมน เรย์จิเหลือบตามองเธอเงียบๆ เขาไม่พูดมาก
แค่เห็นเธอยิ้มน้อยๆ ตอนที่ได้กินของอร่อยที่ชอบ
…หัวใจเขาก็เหมือนจะคลายลงจากความหนาวเย็นที่เกาะอยู่มานาน
แค่ได้เห็นเธอใช้ชีวิตของเธออย่างสบายใจ… ฉันก็พอใจแล้ว
เขาคิดเงียบ ๆ แล้วยิ้มมุมปากให้เธออย่างอ่อนโยน
ไทกะกระดิกหางเบาๆ เหมือนเข้าใจความรู้สึกของเจ้าของ …และของ ‘นายหญิง’ ของมันด้วย
🍜🍤♨️🍚 🍜🍤♨️🍚
หลังจากกินราเมนเสร็จ ฉันคิดว่านายมาเฟียบ้านั่นคงจะพาฉันกับไทกะกลับคฤหาสน์
แต่มันไม่ใช่แบบนั้นเลย…
“ยังไม่กลับ”
เขาพูดเรียบๆ ขณะที่เปิดประตูรถให้ฉัน
“ฉันอยากพาเธอไปที่นึง”
“หา…?”
ฉันเลิกคิ้วมองเขา
แววตาของเขายังเหมือนเดิม—นิ่ง เรียบ แต่ทำไมฉันรู้สึกว่า…มันจริงจัง
และสุดท้าย… ฉันก็พาตัวเองขึ้นรถไปกับเขาอยู่ดี
รถขับขึ้นเนินเขา
นอกหน้าต่างคือเมืองยามค่ำคืนที่ดูไกลออกไปทุกที
เงียบ… จนได้ยินเสียงลมหายใจตัวเองชัดเกินไป
ฉันแอบชำเลืองมองเขาข้างๆ
เรย์จิในโหมดเงียบขรึม… มันโคตรน่ากลัว
แต่น่ากลัวกว่านั้นคือ—
หัวใจฉันที่เต้นแบบไม่มีจังหวะตั้งแต่เขาบอกว่า ‘จะพาไปที่พิเศษ’
รถสปอร์ตคันหรูจอดสงบนิ่งใต้แสงไฟถนนที่ริบหรี่และห่างไกลจากผู้คน
พอรถจอด ฉันก็ลงจากรถ พร้อมกับเสียงลมเย็นที่พัดผ่านหน้าอย่างแผ่วเบา แล้วภาพตรงหน้าก็ทำฉันอ้าปากค้างไปเลย
เบื้องหน้าคือวิวทั้งเมือง… ตึกสูงต่ำเรียงราย สะท้อนแสงไฟสีทองและขาวเป็นจุดเล็กๆ ระยิบระยับเหมือนกลุ่มดาวบนพื้นดิน
ท้องฟ้ายามกลางคืนที่มีดาวประปราย และลมเย็นๆ ที่ไม่หนาวเกินไปพัดผ่าน ทำให้ผมของมินาเอะปลิวเบาๆ จนเธอต้องยกมือมาประคอง
ที่นี่… เหมือนหลุดออกมาจากหนัง
“ว้าว…”
ฉันเผลอครางเสียงเบาออกมา
“ที่นี่คืออะไรเนี่ย…”
“ที่ที่ฉันมาบ่อยๆ”
เขาตอบสั้นๆ เดินมาหยุดอยู่ข้างฉัน ก่อนจะเอ่ยต่ออย่างแผ่วเบา
“ที่นี่… เป็นที่ที่ฉันใช้ตอนอยากอยู่คนเดียว เวลาทุกอย่างในโลกมันเสียงดังเกินไป…”
ฉันหันไปมองเขา
เรย์จิยังคงไม่สบตาฉัน
แต่เขา…ดูเงียบลงอย่างประหลาด
“ฉันเคยพามาแค่สองคน”
เขาพูดเบาๆ ขึ้นในความเงียบ
ฉันหันขวับไปมองทันที หัวใจเต้นแรงขึ้นอย่างไม่มีเหตุผล
“สองคน…?” เสียงฉันเบาหวิวโดยไม่รู้ตัว
“ไทกะ กับเธอ” เขาพูดเรียบๆ โดยที่ยังไม่มองหน้า
“ไม่มีใครเคยรู้จักที่นี่”
“…”
ฉันเม้มปากแน่น ไม่รู้ทำไมถึงรู้สึก…จุกนิดๆ ในอก
ทำไมเขาต้องพาฉันมาที่นี่?
แล้วทำไมต้องบอกแบบนั้นด้วย…
หรือเขาแค่พูดไปงั้นๆ เพราะเห็นว่าฉันบ่นอยากเปลี่ยนบรรยากาศ?
“…แล้ววันนี้ล่ะ ทำไมถึงไม่อยากอยู่คนเดียว?”
เขาเงียบไปครู่หนึ่งก่อนจะตอบเสียงเบา
“เพราะวันนี้… ฉันไม่รู้สึกว่าอยากหนีจากเธอ”
“แค่… อยากให้เธอได้เห็นโลกในมุมที่ฉันชอบ”
“อยากแบ่งมันให้เธอ…”
ฉันเงียบไปทันที ไม่กล้าขยับ ไม่กล้าพูดอะไร เพราะแค่มองเขา ฉันก็รู้แล้วว่า เขากำลัง ‘เปิดเผยความในใจ’
ชายที่ดูเย็นชา เงียบขรึม หยิ่งผยอง
…ในวินาทีนี้กลับดูเหมือนเด็กผู้ชายคนหนึ่งที่ยอมเปิดโลกของตัวเองให้คนคนเดียวได้ก้าวเข้าไป
“เวลาฉันเครียด…” เสียงของเขายังคงทุ้มต่ำ
“ฉันจะมาที่นี่เสมอ ที่ที่ไม่มีใครตาม ไม่มีหน้ากาก ไม่มีคำสั่ง”
ลมพัดมาอีกระลอก ฉันขยับเท้าเข้าไปใกล้เขาอีกนิด แม้จะยังไม่กล้าจับมือเขา
แต่… ฉันก็รู้สึกว่า ตอนนี้ฉัน ‘อยากอยู่ข้างเขา’
และรู้สึกว่าตัวเอง… ไม่อยากให้เขาแบกทุกอย่างคนเดียว
แล้วจู่ๆ มือของเขาก็เลื่อนมาแตะหลังมือฉันเบาๆ
“อ๊ะ—”
ฉันสะดุ้ง เผลอมองหน้าเขาเต็มๆ แต่เขา…ยังคงมองท้องฟ้า ไม่พูดอะไร
มือของเขาค่อยๆ กุมมือฉันไว้ นิ้วเรียวเย็นนิดๆ จากลม แต่สัมผัสกลับอุ่นแปลกๆ
เหมือนอ้อมมือที่ไม่เคยกุมมือใคร…แต่กลับอ่อนโยนอย่างน่าประหลาด
“อยู่ข้างฉันแบบนี้อีกสักพักนะ” เขาพูดเสียงเรียบ
“เพราะตอนนี้… ฉันไม่อยากให้ใครอยู่ข้างฉันเลย… นอกจากเธอ”
…โอ๊ย…
หัวใจฉันเหมือนโดนบีบแรงๆ หน้าร้อนวาบจนอยากหันไปวิ่งหนีลงเขา
แต่ขาไม่ขยับเลย เพราะในตอนนี้… ฉันไม่อยากไปไหนจริงๆ
เราไม่ได้พูดอะไรกันอีก
ปล่อยให้ความเงียบ… ความลมเย็น…
และมือของเราสองคนที่ยังจับกันอยู่ บอกทุกอย่างแทน
ฉันไม่รู้ว่าเขาคิดยังไงกับฉันกันแน่
หรือบางทีฉันอาจจะรู้… แต่ไม่กล้ายอมรับ
แต่คืนนี้—
ฉันได้เห็นด้านของเขา… ที่ไม่มีใครเคยเห็น
และบางที…หัวใจฉันคงเริ่ม ‘แพ้’ เขาเข้าให้แล้ว
🍥🍥🍥🍥🍥🍥