ร้านอาหารเถ้าแก่เต้า
“เจ้าลองชิมอิ๋วก๋วยนี่ดูสิ รสชาติเหมือนเดิมไม่มีเปลี่ยนเลย” เจิงจงตักของทอดที่ทำจากแป้งข้าวเหนียว แป้งข้าวจ้าว มันเทศผสมเข้าด้วยกันและห่อด้วยไส้ผักหรือไส้แบบต่างๆ แล้วแต่ชอบให้ธิดาสุดที่รัก
“ขอบคุณท่านพ่อ แต่ในจานนี้ลูกยังกินไม่หมดเลยเจ้าค่ะ”
“หลายเดือนมานี้เจ้ากินน้อยลงจนเนื้อหายไปหลายสิบชั่ง พ่อไม่สบายใจเลยรู้ไหม”
“ทำไมถึงไม่สบายใจเล่าท่านพ่อ ท่านน่าจะดีใจที่ลูกผอม ลูกจะได้สวยเหมือนธิดาบ้านอื่นเขาบ้าง” ต้าชวี่หยอกเย้าบิดาแล้วคีบอิ๋วก๋วยที่ท่านตักให้ใส่ปาก
“พ่อจะดีใจได้อย่างไร ในเมื่อเจ้าผ่ายผอมเพราะตรอมใจ”
ดวงตาเรียวโตกระจ่างใสมองบิดาเขม็งขณะที่ปากก็ยังเคี้ยวเอื้อง แล้วจึงค่อยๆ ระบายยิ้มด้วยความขบขัน
“ใครบอกท่านพ่อว่าลูกตรอมใจ พี่อู๋ซื่อหรือว่าท่านแม่เจ้าคะ”
“พ่อรู้ว่าเจ้ารักอ๋องใหญ่เพียงใด ในเมื่อเขาไม่ส่งเกี้ยวมารับเจ้ากลับไป เจ้าจึงกลายเป็นแบบนี้เพราะความคิดถึง”
“ท่านพ่อเข้าใจผิดแล้วเจ้าค่ะ ลูกไม่เคยคิดถึงอ๋องใหญ่อีกเลยตั้งแต่กลับมาอยู่ที่จวน ลูกตัดใจจากเขาตั้งแต่วันที่พิมพ์นิ้วมือลงบนหนังสือหย่าแล้วเจ้าค่ะ สิ่งเดียวที่ลูกต้องการจากเขาตอนนี้ไม่ใช่เกี้ยว แต่เป็นหนังสือหย่าที่มีชื่อของเขาต่างหากเจ้าค่ะ”
“ลูกเลิกรักเขาแล้วจริงๆ หรือ” สายตาของผู้เป็นพ่อจ้องจับผิดลูกสาว “เจ้าทำไม่ได้หรอกพ่อรู้”
“ลูกโกหกท่านพ่อไม่ได้จริงๆ” นางจำเป็นต้องโกหกเพื่อไม่ให้ผิดสังเกตจนเกินไป “แต่ลูกสัญญากับตัวเองแล้วว่าจะตัดใจจากเขาให้ได้”
“เจ้าทำได้หรือ”
“ลูกจะพยายามเจ้าค่ะ”
“เจ้าอย่าฝืนใจตัวเองเลยนะ ถ้าเจ้ารักเขาก็กลับไปที่จวนเขาซะ ส่วนหนังสือหย่าถ้าเขายังไม่สลักชื่อลงไปก็ไม่ใช่ปัญหาใหญ่อยู่แล้ว” ถึงแม้จะไม่พอใจการกระทำของอ๋องใหญ่อยู่มาก แต่ด้วยหลักคุณธรรมที่ยึดถือปฏิบัติกันมา ทำให้เฟิ่งเจิงจงได้แต่ก้มหน้ายอมรับ ที่สำคัญเหนืออื่นใดก็คือใจของธิดาที่ยังรักเขาอยู่
“ท่านพ่ออย่าพูดถึงคนอื่นบนโต๊ะอาหารสิเจ้าคะ ท่านกำลังทำให้ท่านแม่กับพี่อู๋ซื่อเบื่ออาหารนะเจ้าคะ จริงหรือไม่ท่านแม่ พี่อู๋ซื่อ”
“นางไม่ให้พูดท่านก็อย่าพูดเลยขอรับท่านพ่อ แล้วที่นางผอมก็ไม่ใช่เพราะนางตรอมใจหรอกขอรับ นางกำลังลบคำสบประมาทของหญิงสาวคนอื่นๆ ที่เคยดูถูกนางต่างหาก” หงอู๋ซื่อเข้าข้างน้องสาวที่เอาแต่สวยวันสวยคืนของตน
“นางผอมแล้วงามปานล่มเมืองแบบนี้ ท่านควรจะดีใจถึงจะถูก” เฟิ่งหงเซียวในวัยสี่สิบเอ็ดปีที่ยังสวยสะพรั่งกล่าวพร้อมส่งรอยยิ้มงามจับจิตให้ผู้เป็นสามี
“ถึงนางจะตัวใหญ่ข้าก็ไม่เห็นว่านางจะน่าเกลียดตรงไหน นางงามที่สุดในสายตาของข้าเสมอ” จะให้เขาเกลียดนางได้อย่างไร ในเมื่อนางมีรูปร่างสูงใหญ่เหมือนเขาทุกกระเบียด ที่ได้มาจากแม่ก็มีเพียงความงามไร้ที่ติเท่านั้น
“แต่ลูกก็อยากมีรูปร่างสูงโปร่งอรชรเหมือนสาวชาวตะวันตก มีจมูกโด่งสวยเหมือนสาวชาวมลายู มีคิ้วเข้มโก่งโค้ง ตาคมเหมือนสาวชาวหุย มีริมฝีปากเรียวอิ่ม วงหน้าที่เรียวงามแบบชาวเซียนหลัว และมีผิวขาวอมชมพูเหมือนดั่งชาวต้าหมิงของเราเจ้าค่ะท่านพ่อ”
“เจ้าอยากงามไปเพื่ออะไรต้าชวี่ แค่นี้เจ้าก็งามมากอยู่แล้ว” ใต้เท้าเฟิ่งโต้แย้ง และคิดว่าตอนนี้ธิดาของตนนั้นมีลักษณะเหมือนที่นางพูดออกมาทุกอย่าง งามจนพระมเหสีของโอรสสวรรค์ยังเทียบไม่ติด
“ข้าอยากสวยเพื่อลบคำดูถูกของคนอื่นๆ กอบกู้ชื่อเสียงให้กับวงศ์ตระกูลของเราอย่างไรเล่าเจ้าคะ”
ใต้เท้าเฟิ่งวางตะเกียบลงพร้อมกับถอนหายใจ มองหน้าธิดาสุดที่รักด้วยสายตาเศร้าสร้อย
“สวยแล้วอย่างไรล่ะ ในเมื่อเจ้าอาจจะกลายเป็นแม่ม่าย”
“ท่านพ่อรังเกียจลูกหรือ”
“พ่อไม่เคยรังเกียจเจ้าเลยสักนิด พ่อเพียงแต่กังวลแทนอนาคตของเจ้าเท่านั้น ตอนนี้เจ้าอาจจะลบคำสบประมาทของธิดาบ้านอื่นที่เคยหัวเราะเยาะเจ้าไว้ แต่เมื่ออ๋องใหญ่กลับมาจากชายแดนและสลักชื่อลงในหนังสือหย่า ข่าวลือเรื่องการเป็นม่ายของเจ้าก็จะถูกลือไปทั่วแคว้น เจ้าก็จะถูกชาวบ้านหัวเราะเยาะอีก ถึงอย่างไรพ่อก็ไม่อยากให้การหย่าร้างเกิดขึ้น”
เพราะขนบธรรมเนียมประเพณีสินะ ท่านพ่อของนางจึงกังวลเรื่องนี้นักแต่นางไม่สนใจหรอก
“ท่านพ่ออย่ากังวลไปเลยเจ้าค่ะ ท่านไม่คิดเล่าว่าอาจจะมีคหบดีต่างแคว้น หรือเจ้าเมืองต่างแดนมาขอข้าเป็นภรรยา”
“ถ้าท่านพ่อกลัวเรื่องนี้นัก ข้ายินดีแต่งงานกับนางแทนขอรับ” อู๋ซื่อเสนอตัวเองเป็นเจ้าบ่าวแก่ลูกสาวผู้มีพระคุณอย่างยินดี
“แต่พี่อู๋ซื่อคือพี่ชายของต้าชวี่นะ” เฟิ่งต้าชวี่รีบขัดขึ้น
“มีหลายครอบครัวที่ให้ลูกบุญธรรมแต่งงานกับลูกในไส้เพื่อรักษาผลประโยชน์ของครอบครัว ข้ายินดีทำเพื่อครอบครัวของเรา” เพื่อนางและท่านพ่อท่านแม่แล้วเขายอมทำทุกอย่าง
“แต่ข้าไม่อยากทำอย่างนั้น พี่อู๋ซื่อคือพี่ชายของข้าและจะต้องเป็นแบบนี้ตลอดไปด้วย ข้าไม่ยอมแต่งงานกับท่านเพื่อลบล้างความอายเด็ดขาด เรื่องนี้ท่านกับท่านพ่ออย่าเพิ่งกังวลไปนักเลย ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของข้าเถิด”
“เจ้าเปลี่ยนไปมาก” น้องสาวขี้อายและแสนอ่อนแอของเขาเปลี่ยนไปมากหลังฟื้นจากความตาย นางเข้มแข็ง ฉลาด และเด็ดเดี่ยว ตรงกันข้ามกับต้าชวี่คนเดิมอย่างสิ้นเชิง เขาพอใจมากที่นางเป็นแบบนี้ ชายหนุ่มคลี่ยิ้มกว้างแล้วจับมือของนาง “ข้าดีใจที่เจ้าเข้มแข็งขึ้นมากแบบนี้”
“ก็ต้าชวี่เป็นน้องสาวของท่านนี่นา”เธอออดอ้อนพี่ชายด้วยคำพูดและท่าทางน่ารักน่าชัง
“ใช่ เจ้าเป็นน้องสาวที่ข้ารักมากที่สุด ฉะนั้นต่อไปนี้เจ้าจะต้องเข้มแข็ง ห้ามอ่อนแอเหมือนในอดีตอีก พวกเราทุกคนจะได้สบายใจ”
“เจ้าค่ะ ต้าชวี่จะไม่อ่อนแอให้คนอื่นดูถูกอีกแล้วเจ้าค่ะ”
“ได้ยินแล้วใช่ไหมท่านพี่ ต่อไปนี้ท่านก็เลิกเป็นห่วงลูกสาวจนเกินเหตุได้แล้วนะเจ้าคะ” ภรรยากระซิบกับสามีขณะที่มือก็คีบอาหารใส่ในถ้วยข้าวให้เขาด้วย