6

1126 Words
“แต่คุณกำลังเข้าใจติ๊กผิดนะ เด็กในท้องของจ๋าไม่ใช่ลูกของผม ผมแค่สงสารก็เลยอยากจะรับอุปถัมภ์เอาไว้ก็เท่านั้นเอง ไม่เชื่อคุณก็ถามจ๋าเขาดูสิ” ธนายุทธคลี่ยิ้มยินดีเมื่อเห็นคนรักยอมหันกลับมามอง เขากางแขนออกเมื่อเธอก้าวขึ้นบันไดมาหา เพราะคิดว่าเธอหลงเชื่อคำพูดของตนจึงน้ำตาริน ฉาด! ฉาด! แต่เขาคิดผิดถนัด ร่างสูงใหญ่ของเขาถึงกับเซตามแรงมือของเธอ ได้ลิ้มลองรสเลือดเค็มๆ ที่อยู่ในปาก “ไอ้หน้าตัวเมีย” เธอแค่นเสียงลอดไรฟันทั้งน้ำตา “ฉันมันโง่ที่ไปรักผู้ชายหน้าตัวเมียอย่างนาย แต่ก็ยังโชคดีที่ได้รู้ความจริงก่อนจะถึงวันแต่งงาน” ธนายุทธโกรธที่ถูกหญิงสาวที่กำลังจะแต่งงานด้วยตราหน้าว่าเป็นหน้าตัวเมีย แต่เขาก็พยายามข่มอารมณ์ไว้จนถึงที่สุด เพราะถึงอย่างไรเขาก็รักเธอมากที่สุด ไม่ว่าอย่างไรเขาก็ตัดสินใจเลือกเธอเป็นภรรยาแน่นอน “ติ๊กไม่ยกเลิก ต่อให้หงส์เกลียดโกรธติ๊กแค่ไหนติ๊กก็จะแต่งงานกับหงส์ เพราะติ๊กรักหงส์” “ความรักของนายมันไม่ทำให้ผู้หญิงอย่างฉันปลื้มจนตาบอดหรอกนะ ต่อให้นายรักฉันจนตายแทนฉันได้ ฉันก็รับการกระทำที่เรียกว่านอกใจของนายไม่ได้หรอก” เธอเจ็บปวดกับคำว่ารักของเขาเหลือเกิน ในตอนนี้มันไม่ได้ทำให้หัวใจพองโตเหมือนแต่ก่อนอีกแล้ว “ติ๊กสัญญาว่าติ๊กจะเลิกกับผู้หญิงทุกคน ถ้าหงส์ให้โอกาสติ๊ก” ใจเธอเจ็บปวดซ้ำสองกับคำขอร้องของเขา เพราะมันทำให้เธอเข้าใจได้ทันทีว่านอกจากนักศึกษาคนนี้แล้วเขายังมีผู้หญิงอื่นอีก “โอกาสของนายหมดตั้งแต่สิบนาทีที่ผ่านมาแล้ว” “โธ่หงส์ ขอโอกาสผมสักครั้งนะครับ” ธนายุทธยังมั่นใจว่าเธอทำไปทั้งหมดเพราะความโกรธ ถ้าเขาง้อหนักๆ เข้าเดี๋ยวเธอก็ต้องใจอ่อน “ฉันให้โอกาสนายได้ทุกเรื่องยกเว้นเรื่องที่นายนอกใจฉัน จำคำพูดของฉันใส่สมองของนายไว้ด้วย” แล้วเธอก็หมุนตัวเดินจากไปทันที ไม่สนใจอดีตคนรักที่เดินตามหลังมาเงียบๆ เดินมาถึงรถก็เปิดประตูขึ้นไปลองสตาร์ทดูอีกครั้ง แต่มันยังมีอาการเหมือนเดิมจึงหยิบกระเป๋าสะพายลงจากรถ “ให้ผมไปส่งนะหงส์” ธนายุทธจับมือของคนรักไว้ก่อนที่เธอจะเดินไป “ไม่ต้องยุ่ง” “หงส์” เขาไม่เลิกตามตื๊อถึงแม้จะโดนเธอตะโกนใส่หน้า “ไสหัวไปซะ เราจบกัน” โบกมือเรียกมอเตอร์ไซค์รับจ้างที่เหลืออยู่เพียงคันเดียว ก้าวขึ้นนั่งแล้วบอกสถานที่ “ไปหน้าโรงเรียนนายร้อยค่ะ” “ผมไม่ยอมจบเพียงแค่นี้หรอกนะหงส์ ผมจะไม่ยกเลิกงานแต่งงานของเราเด็ดขาด” ธนายุทธบอกกับหญิงสาวที่ซ้อนอยู่บนท้ายรถมอเตอร์ไซค์รับจ้าง “ให้ฉันตายซะยังดีกว่าถ้าต้องแต่งงานกับนาย รีบไปเลยค่ะพี่” เธอไม่อยากจะฟังไม่อยากได้ยินคำพูดของเขาอีก จึงเร่งเร้าคนขี่มอเตอร์ไซค์ให้รีบไป ชายหนุ่มมองตามคนรักที่ห่างออกไปเรื่อยๆ แล้วตัดสินใจหันหลังเดินกลับเข้าที่พักเพื่อตั้งหลัก เอี๊ยดดด..ดด..ดด.... โครมมมม...มม..!!! เสียงรถเบรกที่ดังสนั่นหวั่นไหวทำให้ธนายุทธรีบหันไปมอง.. หัวใจแทบจะหลุดลอยไปจากหัวอก เมื่อเห็นรถสิบล้อบรรทุกดินคันหนึ่ง ชนรถมอเตอร์ไซค์คันที่คนรักของตนนั่งซ้อนไปกับตา ทั้งรถและคนกระเด็นลอยไปคนละทิศละทาง ก่อนจะกระแทกตกลงบนพื้นแล้วกลิ้งตกไปที่ข้างทาง “หงส์!!!” สองขายาวแกร่งแบบนักกีฬาออกวิ่ง พร้อมกับเสียงเรียกอันตื่นตระหนกสุดเสียง โรงพยาบาล “ลูกสาวผมปลอดภัยแล้วใช่ไหมครับคุณหมอ” ไช่ถินถามหมอที่เดินออกมาจากห้องไอซียูด้วยความร้อนใจ “คนเจ็บอาการโคม่านะครับคุณพ่อ ทางที่ดีญาติๆ ควรทำใจไว้ด้วยนะครับ” นายแพทย์สูงวัยบอกกับครอบครัวของลูกศิษย์อย่างตรงไปตรงมาด้วยน้ำเสียงที่เศร้าใจ “อาการหนักขนาดนั้นเลยเหรอคะอาจารย์” อารียาถามเสียงสั่น พยายามอย่างยิ่งที่จะไม่หลั่งน้ำตาออกมา “อาการของพี่สาวเธอคงต้องพึ่งปาฏิหาริย์เท่านั้นถึงจะฟื้นขึ้นมาได้ ถึงแม้ว่าหมอจะช่วยสุดความสามารถแล้วก็ตาม” บิดาผู้รักลูกสาวสุดหัวใจร่างสั่นเทา หัวใจแตกสลายเป็นเสี่ยงๆ ถ้าไม่มีธนายุทธกับลูกชายคนโตประคองไว้ ร่างสูงใหญ่ของเขาคงลงไปนั่งกองอยู่บนพื้นแล้ว “ลูกสาวของผมต้องปลอดภัย เธอกำลังจะแต่งงาน เธอกำลังมีความสุขมากๆ เธอจะยอมทิ้งความสุขไปแบบนี้ได้อย่างไร” “หมอไม่อยากให้ความหวังแบบลมๆ แล้งๆ นะครับคุณพ่อ” หมอใหญ่มองดูบิดาของลูกศิษย์ด้วยความเห็นใจอย่างที่สุด แต่เขาก็ช่วยสุดความสามารถแล้วจริงๆ “คนเจ็บโดนชนอย่างแรงจนภายในบอบช้ำเกือบทั้งหมด แล้วยังตกลงไปในร่องน้ำข้างทางอีก ตอนนี้ระบบหายใจของเธอทำงานได้แค่ห้าเปอร์เซ็นต์เท่านั้นนะครับ ถ้าเราถอดเครื่องช่วยหายใจออก” “อย่าถอดนะครับคุณหมอ ได้โปรดช่วยให้ลูกของผมได้หายใจต่อไปนะครับ ผมเชื่อว่าเธอต้องฟื้น เธอจะไม่ทิ้งผมไปแบบนี้เด็ดขาด เธอต้องกลับมาหาพ่อที่รักเธอมากที่สุดคนนี้ ได้โปรดนะครับคุณหมอ ผมขอร้อง” บิดาในวัยหกสิบสองปีคุกเข่ากับพื้น “ผมขอร้อง” อาจารย์หมอรีบย่อตัวดึงอีกฝ่ายขึ้นมา “ลุกขึ้นก่อนนะครับคุณพ่อ” “เราจะย้ายคนเจ็บได้ไหมคะอาจารย์” อารียาถามอาจารย์ของตน เพราะอยากให้พี่สาวไปอยู่โรงพยาบาลที่ตัวเองทำงาน จะได้มีเวลาดูแลได้เต็มที่กว่านี้ “เธอไม่เชื่อใจอาจารย์ของเธอเหรออารียา” “ไม่ใช่ค่ะอาจารย์ หนูแค่อยากดูแลพี่สาวอย่างใกล้ชิดเท่านั้น” “ถ้าอยู่ที่นี่พี่เธออาจจะอยู่ได้อีกสามวัน แต่ถ้าย้ายไปอาจจะอยู่ได้แค่วันเดียว เธอเลือกเอาก็แล้วกันว่าต้องการแบบไหน” อาจารย์หมอผู้ผ่านชีวิตมามาก เห็นการสูญเสียมาเกือบทุกรูปแบบบอกกับลูกศิษย์คนโปรด จากนั้นจึงเอื้อมมือไปตบบ่าบอบบางคล้ายปลอบใจ “อาจารย์จะดูแลพี่สาวของเธออย่างดี ถ้าเธอเชื่อใจอาจารย์ก็ไม่ต้องย้ายพี่เธอไปหรอก” “ขอบคุณค่ะอาจารย์” อารียายกมือไหว้อย่างนอบน้อม
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD