7

1103 Words
ในฐานะหมอเธอเข้าใจความหมายของคำพูดท่านดีว่าไม่ได้หมายถึงพี่สาวจะปลอดภัย แต่ท่านจะช่วยดูแลจนสุดความสามารถต่างหาก “วันนี้เธอพาครอบครัวกลับไปพักผ่อนก่อนเถอะ ปล่อยเรื่องทางนี้ให้เป็นหน้าที่ของหมอดีกว่า เชื่อใจหมอนะครับคุณพ่อ คุณพ่อกลับไปพักผ่อนก่อนนะครับ” “พ่อไม่กลับ พ่อจะอยู่เฝ้าหงส์จนกว่าเขาจะฟื้น” “กลับบ้านกันเถอะเฮีย พรุ่งนี้เราค่อยมาเยี่ยมลูกกันใหม่นะ” เมตตาบอกกับสามีด้วยเสียงสั่นเครือ เจ็บปวดใจที่ลูกสาวอยู่ในอาการโคม่าไม่พอ ยังต้องมาเจ็บปวดใจกับอาการหัวใจสลายของสามีอีกคน “แล้วถ้าลูกฟื้นขึ้นมาคืนนี้ล่ะ ลูกอาจจะกลัวที่ไม่เห็นใครอยู่เป็นเพื่อนนะตา” “ผมจะอยู่เป็นเพื่อนหงส์เองครับเตี่ย” ธนายุทธรับอาสาเพื่อให้บิดาของคนรักกลับบ้านไปพักผ่อน “เตี่ยกลับไปพักผ่อนเถอะจ้ะ คืนนี้นกจะอยู่กับติ๊กเอง ถ้าพี่หงส์ฟื้นนกจะรีบโทรไปบอกเตี่ยทันทีเลยดีไหมจ๊ะ” อารียาถือโอกาสอยู่เฝ้าพี่สาวด้วยอีกคน เพราะมีเรื่องข้องใจที่ต้องการคุยกับธนายุทธให้ได้ “กลับเถอะเตี่ย ถ้าเตี่ยไม่กลับแม่ก็คงไม่กลับเหมือนกัน” ลูกชายคนโตที่เป็นห่วงน้องสาวไม่ต่างจากบุพการีทั้งสองเอ่ยขึ้น “เราอยู่ก็ช่วยอะไรคุณหมอเขาไม่ได้หรอก พรุ่งนี้ค่อยมาใหม่นะเตี่ยนะ” ลูกๆ ทุกคนต่างช่วยกันเกลี้ยกล่อมบิดาคนละประโยคสองประโยคจนเป็นผลสำเร็จ และเดินทางกลับไปพร้อมกันยกเว้นอารียา เมื่อทุกคนกลับกันไปหมดแล้ว อารียาจึงชวนคนรักของพี่สาวออกไปที่สวนหย่อมของโรงพยาบาล เธอมองเขาด้วยสายตาคลางแคลงใจอย่างเปิดเผย “ตอนนี้ทุกคนไม่อยู่แล้ว บอกฉันมาตรงๆ ดีกว่าว่าเกิดอะไรขึ้นระหว่างนายกับพี่หงส์ก่อนที่จะเกิดเรื่องนี้ขึ้น” “ฉันไม่เข้าใจคำถามของเธอ” “อย่ามาไขสือนะติ๊ก ฉันเคยเห็นกับตาว่านายนอกใจพี่สาวฉัน” “เธอเป็นคนบอกหงส์เหรอ” “ใช่ฉันบอกพี่หงส์เอง ทำไม ฉันบอกพี่หงส์ไม่ได้เหรอ” “เธอบอกเขาทำไม แล้วมันมีอะไรดีขึ้นมาไหม หรือว่าเธอพอใจที่เห็นพี่สาวเธอเป็นแบบนี้” เขาระเบิดอารมณ์ใส่เพื่อนเรียนร่วมรุ่นอย่างเดือดดาล “ถ้าเธอไม่บอกหงส์เขาก็คงไม่สะกดรอยตามฉัน และมันคงไม่กลายเป็นแบบนี้” ฉาด! “นายยังมีหน้ามาโทษฉันอีกเหรอติ๊ก ถ้านายไม่นอกใจพี่หงส์ เรื่องพวกนี้มันจะเกิดขึ้นไหม” เธอตบเขาสุดแรงแล้วต่อว่าด้วยความโมโห “ที่ฉันถามนายก็ไม่ได้หมายความว่าฉันจะโทษนายที่พี่หงส์ต้องกลายเป็นแบบนี้ ฉันแค่อยากรู้ว่านายทะเลาะกับพี่สาวฉันหรือเปล่าเท่านั้น ทะเลาะอะไรกันทำไมพี่หงส์ถึงได้นั่งมอเตอร์ไซค์วินแทนที่จะขับรถของตัวเอง ฉันถามนายไม่ได้เหรอติ๊ก” “เราไม่ได้ทะเลาะกัน หงส์เขามาหาฉันพอจะกลับรถก็สตาร์ทไม่ติด ฉันจะไปส่งเขาก็ไม่ให้ไปส่ง บอกว่าจะกลับเอง แล้วก็เป็นอย่างที่เห็นนั่นแหละ” ธนายุทธไม่กล้าบอกความจริง เพราะกลัวจะถูกกีดกันจากครอบครัวของคนรัก แต่อารียาไม่เชื่อคำพูดของอีกฝ่าย เพราะเธอได้โทรคุยเรื่องนี้กับพี่สาวทุกวัน และรู้ความเคลื่อนไหวของเขามากพอในระดับหนึ่งเลยทีเดียว “ฉันไม่เชื่อคำพูดของนาย แต่ฉันก็ไม่คาดคั้นเอาความจริงจากนายเหมือนกัน พี่หงส์เป็นคนจำฝังใจ ถ้านายรู้ตัวว่าทำผิดต่อเขาก็อย่ามาวนเวียนอยู่รอบๆ ตัวเขาเลยนะ บางทีที่พี่หงส์เขาไม่ยอมฟื้นขึ้นมาอาจเป็นเพราะว่าเขาไม่อยากเจอหน้านายก็ได้” พูดจบเธอก็เดินจากไปทันที ธนายุทธทรุดตัวลงนั่งบนเก้าอี้หินอ่อนอย่างอ่อนแรง แผ่นหลังที่เคยยืดตรงงองุ้มลงไปอย่างหมดอาลัยตายอยาก แล้วปล่อยให้น้ำตาแห่งความเสียใจร่วงรินออกมาเงียบๆ คนเดียว “หมดเวลาเยี่ยมแล้วค่ะคุณพ่อ” “ครับคุณพยาบาล” ไช่ถินตอบรับคำพูดของพยาบาลเบาๆ ยกมือไหว้พระพุทธรูปที่เอามาตั้งไว้ตรงข้างเตียงของลูกสาว ‘ขอให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์คุ้มครองลูกสาวของผมด้วยนะครับ’ แล้วกระซิบบอกที่ข้างหูของเธอเบาๆ ว่า “หงส์พ่อมารอรับลูกกลับบ้านทุกวันเลยนะ ลูกรีบตื่นมานะลูก” แล้วค่อยเดินออกไป “สวัสดีคุณพ่อ” อาจารย์หมอกล่าวทักทายคุณพ่อของลูกศิษย์เมื่อเจอกันที่หน้าห้องไอซียู “คุณหมอครับลูกสาวของผมดีขึ้นบ้างไหมครับ” สามวันแล้วที่ไช่ถินตั้งคำถามเดิมๆ กับอาจารย์หมอที่เป็นเจ้าของไข้ “หมอบอกคุณพ่อแล้วนะว่าให้ทำใจ” อาจารย์หมอยังย้ำคำตอบเดิมด้วยน้ำเสียงปลอบประโลม “ผมขอความหวังสักหนึ่งเปอร์เซ็นต์ก็ยังดีครับคุณหมอ” “ตอนนี้ยังไม่มีอาการที่ส่อแววไปในทางที่ดีขึ้นนะคุณพ่อ” เขาเก็บคำพูดที่อยากจะบอกว่าคนเจ็บอาการทรุดลงอีกเอาไว้ “คุณพ่อมาเฝ้าอยู่หน้าห้องไอซียูแบบนี้ทั้งวันไม่มีประโยชน์หรอก กลับไปพักผ่อนซะ เมื่อมีอาการคืบหน้าหมอจะรีบแจ้งให้ทราบทันที” “ลูกสาวยังอยู่ในนั้นทั้งคนผมพักไม่ได้หรอกครับคุณหมอ” ถึงแม้จะมีเวลาที่ทางโรงพยาบาลกำหนดให้เข้าไปเยี่ยมได้ไม่นานนัก เขาก็พอใจที่จะปักหลักอยู่หน้าห้องไอซียูแบบนี้เป็นเพื่อนของลูกสาว “ถ้าอย่างนั้นคุณพ่อควรทานอาหารให้เป็นเวลานะ อย่าให้อารียาเขามาต่อว่าผมว่าไม่ช่วยดูแลพ่อเขาเลยนะ” “ครับคุณหมอ” “แต่พยาบาลบอกหมอว่า พวกเธอไม่เห็นคุณพ่อไปไหนเลยนอกจากเข้าห้องน้ำ.. อย่าห่วงแต่ลูกจนลืมดูแลตัวเองสิคุณพ่อ คุณพ่ออายุมากแล้วนะ ถ้าไม่ดูแลสุขภาพให้ดีจะทรุดได้ง่ายๆ นะ ถ้าไม่คิดถึงตัวเองก็คิดถึงคนอื่นๆ ในครอบครัวบ้าง ทุกคนเขาเป็นห่วงคุณพ่อมากนะ” อาจารย์หมอให้สติอย่างใจเย็น “ขอบคุณครับคุณหมอที่ให้สติผม ผมจะลงไปกินข้าวแล้วขึ้นมาใหม่นะครับ แต่ถ้าลูกสาวผมเป็นอะไรขึ้นมาก็รีบโทรเรียกผมนะครับ” “ได้ครับ” อาจารย์หมอรับปากแล้วเดินจากไป
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD