ตอนที่ 10

1266 Words
เธอหันมาอีกครั้งหลังปิดเครื่องบันทึกเสียง อัญญากำลังเก็บแฟ้มลงกระเป๋า เตรียมจะเอ่ยคำลาครั้งสุดท้าย แต่ทันใดนั้น เก้าอี้หนังขนาดใหญ่ถูกเลื่อนออก ธาวินลุกขึ้นเต็มความสูง ก้าวยาว ๆ มาหาเธอ ร่างสูงสง่าเคลื่อนเข้ามาอย่างเงียบเชียบจนบรรยากาศรอบตัวเหมือนถูกกดทับ “คุณธาวิน” อัญญาเงยหน้าขึ้น เสียงยังไม่ทันจบก็ถูกแขนแข็งแรงคว้ารั้งเข้าหาอกแน่น กลิ่นหอมเย็นจากเนื้อผ้าซึมเข้าจมูก เธอเบิกตากว้างด้วยความตกใจเล็กน้อย ริมฝีปากหยักกดลงมาทับปากเธอทันที จูบร้อนแรง หนักหน่วง และเต็มไปด้วยแรงโกรธเกรี้ยวที่เธอไม่เข้าใจ สัมผัสนั้นไม่ใช่คำขอบคุณสำหรับงาน แต่มันเหมือนการลงโทษบางอย่าง อัญญาครางอื้อเล็กน้อย มือดันอกเขา “คุณ…ทำบ้าอะไรคะ” แต่ธาวินกลับบดขยี้จูบหนักกว่าเดิม ลมหายใจร้อนแล่นรุนแรงใส่เธอ แววตาในระยะใกล้เต็มไปด้วยความดื้อรั้นและหึงหวงที่ไม่เอ่ยออกมาเป็นคำพูด “อย่ามายิ้มแบบนั้นให้ใครอีก…” เสียงกระซิบหนักแน่นติดขอบปากเธอ ทำให้หัวใจสั่นสะท้าน อัญญาใจสั่นวูบ ไม่รู้จะโกรธหรือหวั่นไหวดี เธอคือผู้หญิงที่ยืนยันชัดเจนว่าไม่ผูกมัด แต่สัมผัสจากเขากลับสั่นสะเทือนความมั่นใจของเธออย่างรุนแรง ริมฝีปากของเขาบดขยี้ลงมาอย่างหนักหน่วงและต่อเนื่อง อัญญาเบิกตากว้าง ร่างกายแข็งเกร็งด้วยความตกใจชั่ววินาทีเดียวหลังจากได้ยินคำพูดจากเขา ก่อนที่หัวใจจะเต้นรัวเหมือนถูกจี้ไฟ ความโกรธปนแรงดึงดูดในสัมผัสของเขา กระแทกเข้ากับบางสิ่งที่ซ่อนอยู่ในใจเธอ ความรู้สึกที่เก็บกดจากคืนก่อนพลันไหลทะลักขึ้นมา มือบางที่เคยผลักอกเขา กลับเปลี่ยนเป็นคว้าจับปกสูทแน่น เธอหลับตาลง แล้ว จูบตอบ เขากลับไปอย่างไม่ลังเล เสียงหอบหายใจสลับกับแรงจูบร้อนแรงสะท้อนก้องไปในห้องทำงานกว้าง ความเป็นมืออาชีพที่เธอเพิ่งโชว์เมื่อครู่ถูกกลืนหายไปในวินาทีนี้ เหลือเพียงหญิงสาวที่กำลังเผลอใจให้กับแรงโทสะและความหวงห้ามของชายตรงหน้า ธาวินชะงักนิดเดียวราวกับไม่คิดว่าเธอจะตอบกลับ แต่เมื่อได้ลิ้มรส เขากลับกอดเธอแน่นขึ้น ลมหายใจสั่นขาดห้วง แววตาเต็มไปด้วยความครอบงำ อัญญาครางเบา ๆ ในลำคอ ความร้อนซ่านแล่นไปทั้งอก ทั้งคู่จูบกันราวกับลืมโลกภายนอก ไม่มีคำอธิบาย ไม่มีเหตุผล มีเพียงแรงดึงดูดดิบเถื่อนที่พาให้ทั้งสองสูญเสียการควบคุม เสียงหอบหนักดังสลับกันในห้องกว้าง ธาวินยังโอบกอดเธอแน่น หน้าผากแนบชิดกับหน้าผากเธอ ริมฝีปากทั้งคู่แดงช้ำจากแรงปรารถนาเมื่อครู่ อัญญาหลับตาอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนค่อย ๆ ลืมตาขึ้น สบเข้ากับแววตาคมที่เต็มไปด้วยความขุ่นเคืองซ่อนเร้น เธอกลืนน้ำลายลงคออย่างยากลำบาก แต่ก็ถามออกไปด้วยเสียงแผ่วสั่น “คุณธาวิน…ทำไมคะ” เขาเลิกคิ้วเล็กน้อย แต่ยังไม่ตอบ “เมื่อกี้…คุณจูบฉันเหมือนจะลงโทษ มากกว่าจะ…อย่างว่า..” อัญญาเอ่ยช้า ๆ ดวงตายังไม่ละไปจากเขา “ฉันไม่เข้าใจ…คุณอารมณ์เสียเรื่องอะไร” ความเงียบโรยตัวอยู่ระหว่างทั้งคู่ มีเพียงเสียงลมหายใจแรง ๆ ที่สะท้อนในอก ธาวินขบกรามแน่น ดวงตาหนักอึ้งราวกับกำลังต่อสู้กับความคิดของตัวเอง เขาเอ่ยออกมาเสียงต่ำแฝงแววหงุดหงิดปนหึงหวงที่ไม่อยากยอมรับ “ฉันไม่ชอบ…เวลาคุณยิ้มให้ใครแบบนั้น” อัญญาผลักอกเขาออกเล็กน้อย พอให้ได้ระยะหายใจ เธอยกมือขึ้นเกลี่ยริมฝีปากที่ยังร้อนผ่าวจากแรงจูบเมื่อครู่ ก่อนจะยกสายตามองเขาตรง ๆ “ฉันว่า…มันไม่มีเหตุผลเลยนะคะ” เสียงเธอนิ่งและมั่นคงกว่าที่คิด “คุณควรจะดีใจมากกว่าด้วยซ้ำ ที่ดิฉันไม่เคยเรียกร้อง…หรือขอความรับผิดชอบอะไรจากคุณนี่นา” ธาวินเลิกคิ้ว สายตาแข็งกร้าว แต่ไม่ได้แทรกคำพูดขึ้นมา “ดิฉันรู้ตัวดีค่ะ ว่าสิ่งที่เกิดขึ้นระหว่างเรา…มันก็แค่ความต้องการชั่วขณะ” อัญญายิ้มบาง ๆ แต่แฝงแรงท้าทาย “ฉันไม่ได้อยากผูกมัด หรือเอาสถานะอะไรจากคุณเลย…แล้วคุณจะมาอารมณ์เสียทำไม” บรรยากาศในห้องเงียบกริบ ความมั่นใจของเธอกลับสะท้อนเหมือนเป็นการตอกย้ำให้เขาหงุดหงิดยิ่งกว่าเดิม ธาวินกำมือแน่นเล็กน้อย มุมปากยกขึ้นเป็นรอยยิ้มเย็น “คุณนี่…พูดเหมือนไม่รู้ตัวเลยว่ากำลังกวนอารมณ์ฉัน” แววตาคมกริบยังคงจับจ้องไม่ปล่อย ขากรรไกรเขาขบแน่นราวกับกำลังห้ามบางอย่างในใจไม่ให้ระเบิดออกมา แต่แทนที่อัญญาจะหวาดหวั่น เธอกลับยกยิ้มมุมปากน้อย ๆ เอียงศีรษะเล็กน้อยก่อนเอ่ยเสียงนุ่ม แฝงแววยั่วยวน “หืม…ทำไมคะ ตอนที่คุณทำหน้าโมโหแบบนั้น…” เธอขยับก้าวเล็ก ๆ เข้าใกล้แทนที่จะถอยหนี “มันกลับดู…เร้าใจมากกว่าน่ากลัวอีกนะคะ” แววตาธาวินกระตุกวูบ เหมือนคนถูกยั่วให้หลุดสมดุลไปชั่วขณะ เขาจ้องเธอราวกับไม่เชื่อในสิ่งที่หูตัวเองได้ยิน “อัญญา…” เสียงทุ้มต่ำของเขาเอ่ยออกมาช้า ๆ แผ่วพร่าเหมือนเตือนแต่ก็เต็มไปด้วยแรงสะกด เธอยักไหล่เบา ๆ “ดิฉันพูดความจริงค่ะ" อัญญาเชิดหน้าขึ้นเล็กน้อย รอยยิ้มบางแตะมุมปาก สายตาเต็มไปด้วยความท้าทาย “ว่าแต่…” เธอเอ่ยเสียงเรียบ แฝงความเจ้าเล่ห์ “คุณไปรู้ได้ยังไงกันล่ะคะ…ว่าฉันยิ้มให้ใคร และตอนไหน” คำถามนั้นทำให้บรรยากาศในห้องเงียบงันชั่วขณะ ดวงตาธาวินหรี่ลงเล็กน้อย สายตาคมวาวเหมือนกำลังตัดสินใจว่าจะตอบอย่างไร เขาก้าวเข้ามาใกล้ทีละน้อย เงาสูงใหญ่บดบังร่างบางแทบมิด ก่อนเอ่ยเสียงราบเรียบ กระซิบใกล้ใบหูเธอ “ฉันรู้…ทุกครั้งที่คุณเงยหน้าขึ้นยิ้มแบบนั้น” ปลายเสียงแฝงแรงกดดัน ทั้งยืนยันว่าตัวเขาเห็นกับตา และเหมือนประกาศว่าเขาเฝ้ามองเธออยู่ตลอดเวลา อัญญาหัวเราะเบา ๆ ในลำคอ “แอบมองฉัน…เหรอคะ” ธาวินไม่ตอบ มีเพียงแววตาที่คมจัดราวกับคำตอบทั้งหมดซ่อนอยู่ในนั้น อัญญายืนนิ่งอยู่ต่อหน้าเขา ใบหน้าเรียบสงบแม้หัวใจจะเต้นแรง สายตาคมของเขายังตรึงเธอไว้ไม่ปล่อย เธอสูดลมหายใจช้า ๆ แล้วเอ่ยด้วยน้ำเสียงมั่นคง “ว่าแต่…ดิฉันกลับได้หรือยังคะ คุณธาวิน” ถ้อยคำนั้นเหมือนก้าวออกจากกรอบความใกล้ชิดเมื่อครู่ ดึงทุกอย่างกลับเข้าสู่เส้นแบ่งของงานอีกครั้ง แต่แววตาที่มองสบเขายังคงมีรอยเย้า ๆ แฝงอยู่ ธาวินขบกรามแน่นครู่หนึ่ง ก่อนผ่อนลมหายใจยาว สายตายังคงไม่ละไปจากเธอ “ถ้าคุณอยากกลับ…ก็กลับได้” น้ำเสียงทุ้มต่ำ แต่ฟังดูแข็งกระด้างกว่าคำพูด อัญญายกยิ้มบาง ๆ “งั้น…ขอบคุณสำหรับเวลาในวันนี้ค่ะ” เธอก้าวถอยออกมาอย่างสง่างาม เก็บแฟ้มแนบอกแล้วหมุนตัวเดินไปยังประตู แต่ทันก่อนที่เธอจะเปิดออก เสียงทุ้มเย็นของธาวินก็ดังไล่หลังมา “อย่าคิดว่าฉันจะปล่อยคุณไปง่าย ๆ …อัญญา” มือบางที่จับลูกบิดชะงักไปเพียงเสี้ยววินาที ก่อนที่เธอจะผลักประตูออก เดินจากไปโดยไม่หันกลับมา
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD