เธอหันมาอีกครั้งหลังปิดเครื่องบันทึกเสียง อัญญากำลังเก็บแฟ้มลงกระเป๋า เตรียมจะเอ่ยคำลาครั้งสุดท้าย
แต่ทันใดนั้น เก้าอี้หนังขนาดใหญ่ถูกเลื่อนออก ธาวินลุกขึ้นเต็มความสูง ก้าวยาว ๆ มาหาเธอ ร่างสูงสง่าเคลื่อนเข้ามาอย่างเงียบเชียบจนบรรยากาศรอบตัวเหมือนถูกกดทับ
“คุณธาวิน” อัญญาเงยหน้าขึ้น เสียงยังไม่ทันจบก็ถูกแขนแข็งแรงคว้ารั้งเข้าหาอกแน่น กลิ่นหอมเย็นจากเนื้อผ้าซึมเข้าจมูก เธอเบิกตากว้างด้วยความตกใจเล็กน้อย
ริมฝีปากหยักกดลงมาทับปากเธอทันที จูบร้อนแรง หนักหน่วง และเต็มไปด้วยแรงโกรธเกรี้ยวที่เธอไม่เข้าใจ สัมผัสนั้นไม่ใช่คำขอบคุณสำหรับงาน แต่มันเหมือนการลงโทษบางอย่าง
อัญญาครางอื้อเล็กน้อย มือดันอกเขา “คุณ…ทำบ้าอะไรคะ”
แต่ธาวินกลับบดขยี้จูบหนักกว่าเดิม ลมหายใจร้อนแล่นรุนแรงใส่เธอ แววตาในระยะใกล้เต็มไปด้วยความดื้อรั้นและหึงหวงที่ไม่เอ่ยออกมาเป็นคำพูด
“อย่ามายิ้มแบบนั้นให้ใครอีก…” เสียงกระซิบหนักแน่นติดขอบปากเธอ ทำให้หัวใจสั่นสะท้าน
อัญญาใจสั่นวูบ ไม่รู้จะโกรธหรือหวั่นไหวดี เธอคือผู้หญิงที่ยืนยันชัดเจนว่าไม่ผูกมัด แต่สัมผัสจากเขากลับสั่นสะเทือนความมั่นใจของเธออย่างรุนแรง
ริมฝีปากของเขาบดขยี้ลงมาอย่างหนักหน่วงและต่อเนื่อง อัญญาเบิกตากว้าง ร่างกายแข็งเกร็งด้วยความตกใจชั่ววินาทีเดียวหลังจากได้ยินคำพูดจากเขา ก่อนที่หัวใจจะเต้นรัวเหมือนถูกจี้ไฟ
ความโกรธปนแรงดึงดูดในสัมผัสของเขา กระแทกเข้ากับบางสิ่งที่ซ่อนอยู่ในใจเธอ ความรู้สึกที่เก็บกดจากคืนก่อนพลันไหลทะลักขึ้นมา
มือบางที่เคยผลักอกเขา กลับเปลี่ยนเป็นคว้าจับปกสูทแน่น เธอหลับตาลง แล้ว จูบตอบ เขากลับไปอย่างไม่ลังเล
เสียงหอบหายใจสลับกับแรงจูบร้อนแรงสะท้อนก้องไปในห้องทำงานกว้าง ความเป็นมืออาชีพที่เธอเพิ่งโชว์เมื่อครู่ถูกกลืนหายไปในวินาทีนี้ เหลือเพียงหญิงสาวที่กำลังเผลอใจให้กับแรงโทสะและความหวงห้ามของชายตรงหน้า
ธาวินชะงักนิดเดียวราวกับไม่คิดว่าเธอจะตอบกลับ แต่เมื่อได้ลิ้มรส เขากลับกอดเธอแน่นขึ้น ลมหายใจสั่นขาดห้วง แววตาเต็มไปด้วยความครอบงำ
อัญญาครางเบา ๆ ในลำคอ ความร้อนซ่านแล่นไปทั้งอก ทั้งคู่จูบกันราวกับลืมโลกภายนอก ไม่มีคำอธิบาย ไม่มีเหตุผล มีเพียงแรงดึงดูดดิบเถื่อนที่พาให้ทั้งสองสูญเสียการควบคุม
เสียงหอบหนักดังสลับกันในห้องกว้าง ธาวินยังโอบกอดเธอแน่น หน้าผากแนบชิดกับหน้าผากเธอ ริมฝีปากทั้งคู่แดงช้ำจากแรงปรารถนาเมื่อครู่
อัญญาหลับตาอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนค่อย ๆ ลืมตาขึ้น สบเข้ากับแววตาคมที่เต็มไปด้วยความขุ่นเคืองซ่อนเร้น เธอกลืนน้ำลายลงคออย่างยากลำบาก แต่ก็ถามออกไปด้วยเสียงแผ่วสั่น
“คุณธาวิน…ทำไมคะ”
เขาเลิกคิ้วเล็กน้อย แต่ยังไม่ตอบ
“เมื่อกี้…คุณจูบฉันเหมือนจะลงโทษ มากกว่าจะ…อย่างว่า..” อัญญาเอ่ยช้า ๆ ดวงตายังไม่ละไปจากเขา “ฉันไม่เข้าใจ…คุณอารมณ์เสียเรื่องอะไร”
ความเงียบโรยตัวอยู่ระหว่างทั้งคู่ มีเพียงเสียงลมหายใจแรง ๆ ที่สะท้อนในอก
ธาวินขบกรามแน่น ดวงตาหนักอึ้งราวกับกำลังต่อสู้กับความคิดของตัวเอง เขาเอ่ยออกมาเสียงต่ำแฝงแววหงุดหงิดปนหึงหวงที่ไม่อยากยอมรับ
“ฉันไม่ชอบ…เวลาคุณยิ้มให้ใครแบบนั้น”
อัญญาผลักอกเขาออกเล็กน้อย พอให้ได้ระยะหายใจ เธอยกมือขึ้นเกลี่ยริมฝีปากที่ยังร้อนผ่าวจากแรงจูบเมื่อครู่ ก่อนจะยกสายตามองเขาตรง ๆ
“ฉันว่า…มันไม่มีเหตุผลเลยนะคะ” เสียงเธอนิ่งและมั่นคงกว่าที่คิด “คุณควรจะดีใจมากกว่าด้วยซ้ำ ที่ดิฉันไม่เคยเรียกร้อง…หรือขอความรับผิดชอบอะไรจากคุณนี่นา”
ธาวินเลิกคิ้ว สายตาแข็งกร้าว แต่ไม่ได้แทรกคำพูดขึ้นมา
“ดิฉันรู้ตัวดีค่ะ ว่าสิ่งที่เกิดขึ้นระหว่างเรา…มันก็แค่ความต้องการชั่วขณะ” อัญญายิ้มบาง ๆ แต่แฝงแรงท้าทาย “ฉันไม่ได้อยากผูกมัด หรือเอาสถานะอะไรจากคุณเลย…แล้วคุณจะมาอารมณ์เสียทำไม”
บรรยากาศในห้องเงียบกริบ ความมั่นใจของเธอกลับสะท้อนเหมือนเป็นการตอกย้ำให้เขาหงุดหงิดยิ่งกว่าเดิม
ธาวินกำมือแน่นเล็กน้อย มุมปากยกขึ้นเป็นรอยยิ้มเย็น “คุณนี่…พูดเหมือนไม่รู้ตัวเลยว่ากำลังกวนอารมณ์ฉัน”
แววตาคมกริบยังคงจับจ้องไม่ปล่อย ขากรรไกรเขาขบแน่นราวกับกำลังห้ามบางอย่างในใจไม่ให้ระเบิดออกมา
แต่แทนที่อัญญาจะหวาดหวั่น เธอกลับยกยิ้มมุมปากน้อย ๆ เอียงศีรษะเล็กน้อยก่อนเอ่ยเสียงนุ่ม แฝงแววยั่วยวน
“หืม…ทำไมคะ ตอนที่คุณทำหน้าโมโหแบบนั้น…” เธอขยับก้าวเล็ก ๆ เข้าใกล้แทนที่จะถอยหนี “มันกลับดู…เร้าใจมากกว่าน่ากลัวอีกนะคะ”
แววตาธาวินกระตุกวูบ เหมือนคนถูกยั่วให้หลุดสมดุลไปชั่วขณะ เขาจ้องเธอราวกับไม่เชื่อในสิ่งที่หูตัวเองได้ยิน
“อัญญา…” เสียงทุ้มต่ำของเขาเอ่ยออกมาช้า ๆ แผ่วพร่าเหมือนเตือนแต่ก็เต็มไปด้วยแรงสะกด
เธอยักไหล่เบา ๆ “ดิฉันพูดความจริงค่ะ"
อัญญาเชิดหน้าขึ้นเล็กน้อย รอยยิ้มบางแตะมุมปาก สายตาเต็มไปด้วยความท้าทาย
“ว่าแต่…” เธอเอ่ยเสียงเรียบ แฝงความเจ้าเล่ห์ “คุณไปรู้ได้ยังไงกันล่ะคะ…ว่าฉันยิ้มให้ใคร และตอนไหน”
คำถามนั้นทำให้บรรยากาศในห้องเงียบงันชั่วขณะ ดวงตาธาวินหรี่ลงเล็กน้อย สายตาคมวาวเหมือนกำลังตัดสินใจว่าจะตอบอย่างไร
เขาก้าวเข้ามาใกล้ทีละน้อย เงาสูงใหญ่บดบังร่างบางแทบมิด ก่อนเอ่ยเสียงราบเรียบ กระซิบใกล้ใบหูเธอ
“ฉันรู้…ทุกครั้งที่คุณเงยหน้าขึ้นยิ้มแบบนั้น”
ปลายเสียงแฝงแรงกดดัน ทั้งยืนยันว่าตัวเขาเห็นกับตา และเหมือนประกาศว่าเขาเฝ้ามองเธออยู่ตลอดเวลา
อัญญาหัวเราะเบา ๆ ในลำคอ “แอบมองฉัน…เหรอคะ”
ธาวินไม่ตอบ มีเพียงแววตาที่คมจัดราวกับคำตอบทั้งหมดซ่อนอยู่ในนั้น
อัญญายืนนิ่งอยู่ต่อหน้าเขา ใบหน้าเรียบสงบแม้หัวใจจะเต้นแรง สายตาคมของเขายังตรึงเธอไว้ไม่ปล่อย
เธอสูดลมหายใจช้า ๆ แล้วเอ่ยด้วยน้ำเสียงมั่นคง “ว่าแต่…ดิฉันกลับได้หรือยังคะ คุณธาวิน”
ถ้อยคำนั้นเหมือนก้าวออกจากกรอบความใกล้ชิดเมื่อครู่ ดึงทุกอย่างกลับเข้าสู่เส้นแบ่งของงานอีกครั้ง แต่แววตาที่มองสบเขายังคงมีรอยเย้า ๆ แฝงอยู่
ธาวินขบกรามแน่นครู่หนึ่ง ก่อนผ่อนลมหายใจยาว สายตายังคงไม่ละไปจากเธอ “ถ้าคุณอยากกลับ…ก็กลับได้” น้ำเสียงทุ้มต่ำ แต่ฟังดูแข็งกระด้างกว่าคำพูด
อัญญายกยิ้มบาง ๆ “งั้น…ขอบคุณสำหรับเวลาในวันนี้ค่ะ” เธอก้าวถอยออกมาอย่างสง่างาม เก็บแฟ้มแนบอกแล้วหมุนตัวเดินไปยังประตู
แต่ทันก่อนที่เธอจะเปิดออก เสียงทุ้มเย็นของธาวินก็ดังไล่หลังมา
“อย่าคิดว่าฉันจะปล่อยคุณไปง่าย ๆ …อัญญา”
มือบางที่จับลูกบิดชะงักไปเพียงเสี้ยววินาที ก่อนที่เธอจะผลักประตูออก เดินจากไปโดยไม่หันกลับมา