แชมป์...
วันนี้ก็เป็นอีกหนึ่งวันที่ผมแวะเวียนมาที่ผับแห่งนี้เพื่อตามหาเจ้าของรอยยิ้มในรูปถ่ายที่ยังคงติดตาผมอยู่ ไอ้โป้งก็เงียบหายไปเลยไม่ส่งข่าวคราวมาสักทีนับตั้งแต่วันนั้น ส่วนไอ้แฮคตอนนี้ก็ได้ข่าวว่ามันได้ไปแข่งต่อที่สนามใหญ่ในจีนแน่นอนว่ามันต้องซ้อมหนักจนไม่มีเวลามาดูแลเด็กของมันอยู่แล้ว แต่ก็ไม่เป็นไรถ้าผมเจอตัวเด็กมันเมื่อไหร่ผมจะดูแลให้มันเอง
"น้องๆ แข็งเพิ่มหนึ่ง"
เสียงลูกค้าโต๊ะนึงตะโกนเรียกเธอคนนั้นพลางยกมือไปมา
"ได้ค่ะพี่ รอสักครู่นะคะเสิร์ฟถาดนี้เสร็จเดี๋ยวเชยรีบเอามาให้เลยค่ะ"
เสียงหวานๆ พูดโต้ตอบกับลูกค้าพร้อมกับรอยยิ้มที่อยู่ๆ เห็นแล้วก็ทำให้ผมไม่อยากละสายตา
"น่ารักวะน้อง ชอบๆ พูดดีเดี๋ยวพี่ให้ทริป"
ลูกค้าโต๊ะเดิมพูดกับเธอ
"ขอบคุณค่ะพี่"
เสียงหวานๆ ตอบกลับก่อนจะเดินเสิร์ฟเครื่องดื่มให้ลูกค้าโต๊ะอื่นต่อ
"ไอ้เซ็นไม่เห็นบอกเลยวะว่าผับมันมีเด็กงานดีแบบนี้ด้วย ไอ้ฉิบหายถ้าไม่ติดว่ามันมีเมียนะจะคิดว่ากั๊กไว้กินเองแล้วนะเนี่ย"
ผมพรึมพรำกับตัวเองเมื่อนึกถึงใบหน้านิ่งๆ ที่ไม่สนโลกของไอ้เพื่อนซี้ตัวดีสุดๆ ที่ตอนนี้มันหนีตามแฟนมันไปแล้วทิ้งผับนี่เอาไว้ไม่ยอมดูแล
ใช่แล้วครับผับนี้เป็นของเพื่อนผม ก่อนหน้านี้เจ้านายมันแต่ได้ยกหุ้นครึ่งหนึ่งให้มันดูแลแน่นอนว่าเจ้านายมันน่ะมีหลายคนมากๆ รวมไปถึงเมียเจ้าของสนามแข่งรถคราวก่อนก็ด้วยแต่ก็ช่างเถอะครับอันนั้นก็ปล่อยให้เป็นเรื่องของมัน เพราะว่าหลังจากนี้ไปคือเรื่องของผม ถึงผมจะรู้จักใครต่อใครเยอะแยะแต่เวลาผมไปที่ไหนผมก็ไม่เคยแสดงตัวว่ารู้จักคนนั้นคนนี้ รวมถึงเจ้าของผับนี้แล้วก็เจ้าของสนามแข่งด้วย
"แดกเหล้าต่อดีมั้ยวะหรือจะหิ้วเขากลับตอนนี้เลย"
ผมพึมพำกับตัวเองต่อขณะที่สายตายังคงจับจ้องไปยังร่างบางๆ ที่เดินไปเดินมาอยู่
"เข้าถึงยากจังวะหรือต้องรอผับปิดดี"
ยิ่งคิดก็ยิ่งหงุดหงิดผมเลยทำได้แค่นั่งรอที่หน้าบาร์ ระหว่างนั้นก็ไม่ลืมที่จะสั่งเครื่องดื่มมาจิบรอเธอด้วย แต่เหมือนใครบางคนที่ผมรออยู่กลับดูวุ่นวายตลอดเวลาจนผมคิดว่าไม่น่าจะได้หิ้วเธอกลับแล้วล่ะคืนนี้
"อบเชยมาทางนี้ก่อน!"
เสียงพนักงานงานหน้าบาร์ที่ผมนั่งจิบเหล้าอยู่ตรงหน้าตะโกนเรียกใครบางคน
"ค่ะพี่!"
เสียงหวานๆตอบกลับพร้อมกับกึ่งวิ่งกึ่งเดินมา จะตัวหอมเหมือนชื่อมั้ยนะ...อบเชย
"เดี๋ยวพี่ฝากเคาน์เตอร์แป๊บนึงนะ"
พนักงานคนที่เรียกเธอมาหันไปพูดกับเธอแต่ยังไม่ทันที่ผมจะพูดอะไรกับเธอ ใครบางคนที่กำลังเสิร์ฟเครื่องดื่มให้ลูกค้าอยู่ก็ตะโกนเรียกเธอซะก่อน
"อบเชยเสิร์ฟเหล้าโต๊ะแปดด้วย!"
"ค่ะพี่!"
"แมร่งเอ๊ย! แล้ววันนี้กูจะได้คุยกันมั้ยเนี่ยปกติแค่เดินผ่านหรือนั่งใกล้แค่นี้ก็ถูกอ่อยแล้วนี่หว่า ยัยนี่ตาบอดหรือไงทำไมมองไม่เห็นเรา"
ผมบ่นกับตัวเองขณะที่สายตายังคงจ้องมองไปยังใครบางคนที่เดินไปเดินมาอยู่ท่ามกลางลูกค้าหลายๆ โต๊ะ
เหมือนเธอไม่สนใจอะไรเลยเอาแต่ก้มหน้าก้มตาเสิร์ฟเครื่องดื่มแล้วก็รับออเดอร์ลูกค้า คนบ้าอะไรผมหล่อออกปานนี้แต่มองไม่เห็น ปกติเห็นแค่ข้างๆผมก็มีคนวิ่งมาควงแขนพาไปเปิดห้องแล้วนะหรือว่ายัยนี่จะสายตาสั้น!
"อบเชยเดี๋ยวพี่กลับแล้วนะฝากดูที่เหลือด้วย"
เสียงทุ้มของใครบางคนตะโกนบอกคนที่เดินกลับเข้ามาในบาร์พลางโบกไม้โบกมือให้เธอก่อนจะหันไปโอบเอวแฟนสาวสุดสวยแล้วเดินออกไป
ผมจำได้ว่ามันชื่อเซียนเป็นเจ้าของสนามแข่งรถครั้งก่อนที่ผมลงแข่งแล้วตอนนี้มันก็มาดูแลผับนี่แทนเพื่อนของผมที่ตอนนี้หนีตามผู้หญิงไปที่ญี่ปุ่นแบบไม่มีวี่แววว่าจะกลับมาง่ายๆ แน่นอนว่าเราทุกคนรู้จักกันแต่ผมกับมันรู้จักกันในทางที่ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ เพราะเมียมันเคยเป็นคู่หมั้นของผมมาก่อนแต่ก็ช่างเถอะเอาเป็นว่าตอนนี้ต้องหลบหน้ามันไว้ก่อนไม่ต้องทักทายแหละดีที่สุดไม่อย่างนั้นผมอาจซวยได้ถ้ามันเจอหน้าผม
"โอเคค่ะพี่เซียน"
คนในบาร์ตะโกนกลับก่อนจะหันไปสนใจงานของตัวเองต่อ
"เท่าไหร่ครับ"
ผมร้องถามใครบางคนที่กำลังยกแก้วเหล้าใส่ถาดเตรียมเสิร์ฟให้ลูกค้าอยู่เพราะไม่อยากเสียเวลาไปมากกว่านี้แล้ว ส่วนคนถูกถามก็หันมามองผมอย่างงงๆก่อนจะหันมองซ้ายทีขวาทีแล้วเดินตรงมาที่หน้าเคาเตอร์ อะไรวะทำไมไม่กรี๊ดกร๊าด? เห็นหน้าผมแล้วยังทำตัวปกติได้?
"ทั้งหมดสองพันหกร้อยสี่สิบสองบาทค่ะ"
เสียงหวานๆพูดขึ้น
"ถูกจัง"
ผมพูดยิ้มๆ เพราะปกติผมต้องจ่ายหนักกว่านี้น่ะหรือว่าช่วงนี้เศรษฐกิจไม่ค่อยดีก็เลยลดราคา?
"เอ่อลูกค้าคะ ค่าเครื่องดื่มทั้งหมดสองพันหกร้อยสี่สิบสองบาทค่ะ"
ตรงหน้าย้ำอีกครั้ง อะไรนะ? เมื่อกี้สองพันกว่าบาทนั่นค่าเครื่องดื่มหรอกเหรอผมคิดว่าค่าตัวเธอซะอีก
"อ้อโทษทีแต่เมื่อกี้ผมไม่ได้หมายถึงราคาเครื่องดื่มผมหมายถึงคุณน่ะ เท่าไหร่? "
ผมรีบอธิบายกลัวว่าเธอจะเข้าใจผิด ปกติเวลาพูดแบบนี้กับใครที่ไหนเขาก็เข้าใจง่ายๆนี่หว่า
"อ้อลูกค้าคะ ที่นี่เราบริการเฉพาะเครื่องดื่มแล้วก็อาหารทานเล่นค่ะอย่างอื่นไม่ขาย"
คนตรงหน้าตอบยิ้มๆ อุแหม่! เล่นตัวซะด้วยแบบนี้ต้องจ่ายหนักแหงๆ
"แล้วถ้าผมจะซื้อ...คุณคิดเท่าไหร่"
ผมเอียงคอถาม
"กะปู๋ใหญ่มั้ยล่ะคะ ถ้าใหญ่...เชยขาย..."
".........."
ร้ายกาจ! ทำไมเด็กที่ผับไอ้เซ็นเป็นงี้วะ ว่าเมียมันร้ายแล้วนะเจอเด็กคนนี้เข้าไปผมถึงกับพูดไม่ออกเลย
อบเชย...
"อบเชยเสิร์ฟเหล้าโต๊ะแปดด้วย!"
"ค่ะพี่!"
เสียงฉันกับพี่พนักงานตะโกนโต้ตอบกันไปมาในผับแห่งหนึ่ง
ท่ามกลางแสงไฟหลากสีและเสียงดนตรีที่ดังอึกทึกในยามค่ำคืนของผับแห่งหนึ่ง ซึ่งตอนนี้เปลี่ยนผู้ดูแลชั่วคราวเพราะเจ้านายคนเก่าไปทำธุระที่ต่างประเทศ และเจ้านายของฉันซึ่งเป็นเพื่อนกับเจ้าของผับแห่งนี้ล่ะมั้งก็ได้ชวนให้ฉันมารับจ๊อบที่นี่เพิ่มจากเดิมฉันนั้นทำงานเป็นพริตตี้ประจำสนามแข่งรถของเจ้านาย และเจ้านายของฉันก็เช่นกันเข้ามาบริหารและดูแลที่นี่ชั่วคราวแทนเพื่อนที่ฉันก็พอจะรู้ว่าเป็นใคร ผับของพี่เซ็นแฟนหนุ่มรูปหล่อของเพื่อนรักฉันเอง คิกๆ
"อบเชยเดี๋ยวพี่กลับแล้วนะฝากดูที่เหลือด้วย"
เสียงทุ้มของเจ้านายรูปหล่อตะโกนบอกพลางโบกไม้โบกมือให้ฉันก่อนจะหันไปโอบเอวแฟนสาวสุดสวยแล้วเดินออกไป
"โอเคค่ะพี่เซียน"
ฉันตะโกนกลับก่อนจะหันมาสนใจงานของตัวเองต่อ
พี่เซียนเป็นเจ้านายของฉันที่อายุอานามห่างกันประมาณสามปีได้ เรารู้จักกันเพราะฉันไปรับจ๊อบเป็นพริตตี้รายวันในสนามแข่งรถของพี่เขาและต่อมาพี่เขาก็ทาบทามให้ฉันทำงานประจำที่นั่น และสรรพนามที่ใช้เรียกกันก็มีแค่พี่กับน้อง จนบางครั้งแฟนของพี่เขาก็แอบหึงบ้าง แต่ฉันก็ไม่คิดจะล้ำเส้นเกินกว่าเจ้านายกับลูกน้องหรอก อาจมีบ้างบางครั้งที่เผลอหวีดพี่เขามากไปเพราะความสะดีดสะดิ้งของตัวเอง แต่ก็นะฉันน่ะมีสามีอยู่แล้วล่ะถึงเจ้านายจะหล่อแค่ไหนก็ยังสู้สามีของฉันไม่ได้ คิกๆ โอปป้า ไอดอล และพระเอกในซีรีย์อีกเยอะแยะที่ฉันต้องตามหวีดและตามเซฟรูปไม่หวาดไม่ไหว กรี๊ดดด!!
"เท่าไหร่ครับ"
เสียงทุ้มของลูกค้ารายหนึ่งที่นั่งอยู่หน้าบาร์ร้องถามพร้อมกับหันหน้ามาหาฉันที่กำลังยกแก้วเหล้าใส่ถาดเตรียมเสิร์ฟให้ลูกค้าโต๊ะถัดไป ฉันมองซ้ายมองขวาหาพี่แคชเชียร์ที่ประจำอยู่หน้าเคาน์เตอร์ก็ไม่เจอเลยต้องเช็คบิลเองเพราะกลัวว่าลูกค้าจะรอนาน
"ทั้งหมดสองพันหกร้อยสี่สิบสองบาทค่ะ"
ฉันพูดกับคนตรงหน้าพร้อมกับยื่นบิลไปให้ หล่ออะ!
"ถูกจัง" หืม?
เสียงคนตรงหน้าพึมพำแต่ฉันก็ได้ยิน ใช่สิคนรวยอะเนอะแค่สองสามพันคงเป็นเศษเงินเขานั่นแหละขนหน้าแข้งไม่ร่วงหรอกใครจะไปเหมือนคนหาเช้ากินค่ำอย่างเราๆล่ะ
"เอ่อลูกค้าคะค่าเครื่องดื่มทั้งหมดสองพันหกร้อยสี่สิบสองบาทค่ะ"
ฉันย้ำอีกครั้งเมื่อคนที่พูดว่าถูกเมื่อตะกี้ยังไม่ยอมจ่ายเงินให้ฉันสักที หรือว่าจะเบี้ยวเดี๋ยวแม่ตีหัวแตกเลยนี่
"อ้อโทษทีแต่เมื่อกี้ผมไม่ได้หมายถึงราคาเครื่องดื่มผมหมายถึงคุณน่ะ เท่าไหร่?"
ป้าด! บักห่านี่แหม! (โห! ไอ้ห่านี่!)
"อ้อลูกค้าคะ ที่นี่เราบริการเฉพาะเครื่องดื่มแล้วก็อาหารทานเล่นค่ะอย่างอื่นไม่ขาย"
ฉันตอบยิ้มๆทั้งที่ในใจเผาไหม้ไปแล้วร้อยเปอร์เซ็นและพร้อมจะระเบิดเดี๋ยวนี้เลยก็ว่าได้
"แล้วถ้าผมจะซื้อ...คุณคิดเท่าไหร่"
เอ๊ะ! คิดว่าหล่อมีตังแล้วจะพูดยังไงก็ได้เหรอ
"กะปู๋ใหญ่มั้ยล่ะคะ ถ้าใหญ่...เชยขาย..."
ฉันโน้มใบหน้าลงไปใกล้ๆก่อนจะวาดวนเนินอกแน่นๆของคนตรงหน้าไปมาช้าๆและกระซิบบอกพ่อรูปงามแต่สันดานเสียก่อนจะเดินหนีออกมาด้วยอารมณ์หงุดหงิด
"หึ้ย! คอยดูนะพรุ่งนี้ฉันจะไม่มาช่วยงานที่นี่แล้ว นี่ถ้าไม่ติดว่าที่นี่เป็นผับของเพื่อนเขยสุดหล่อล่ะก็ฉันน่ะไม่มาเหยียบหรอก!"