แชมป์...
"ถ้าคนไข้ตื่นขึ้นมาก็เตรียมตัวกลับบ้านได้เลยนะครับ"
เสียงทุ้มคุ้นหูที่ผมจำได้ว่าเป็นเสียงของคุณหมอเจ้าของไข้ผมดังขึ้นข้างๆเตียง ผมค่อยๆปรือตาขึ้นมาเห็นภาพมัวๆของคุณหมอกำลังยืนหันหลังให้ผมอยู่ และเหมือนกับว่าคุณหมอกำลังคุยกับใครบางคนอยู่
"ค่ะ ขอบคุณคุณหมอมากเลยนะคะ"
เสียงหวานๆพูดกับคุณหมอก่อนที่คุณหมอจะเดินออกจากห้องผมไป
"ตื่นแล้วเหรอ"
"เห็นว่าลืมตาอยู่มั้ยล่ะ"
ผมตอบกวนๆ เวลาเด็กนี่ทำหน้าหงุดหงิดหรืออารมณ์เสียใส่ผมแล้วดูตลกดี ผมเลยชอบแกล้งบ่อยๆ
"นายมีแฟนมั้ย"
อยู่ๆคนที่เดินมาเก็บข้าวของตรงลิ้นชักข้างเตียงนอนผมก็ถามขึ้น
"ถ้าตอบว่าไม่มีแล้วจะมาเป็นให้มั้ยล่ะ"
"จ้างให้ก็ไม่เอาหรอก ผู้ชายอะไรเห็นผู้หญิงเป็นต้องซื้อ"
คนข้างๆตอบ
"ว่าแต่นายเป็นเบาหวานเหรอ"
"ไม่ยุ่งสักเรื่องได้มั้ย"
ผมขมวดคิ้วใส่เพราะไม่ชอบบอกเรื่องที่ผมป่วยกับใคร เวลาพูดเรื่องนี้แล้วรู้สึกว่าตัวเองอ่อนแอและมันทำให้ผมมีปม
"ไม่ยุ่งก็ได้ ว่าแต่นายเหอะเมื่อไหร่จะลุกจากเตียงสักทีคุณหมอนุญาตให้กลับบ้านได้แล้วนะ"
ไม่พูดเปล่าแต่หันมาบอกพลางดึงผ้าห่มออกจากตัวผมแรงๆ โหดร้ายว่ะ! ผู้หญิงอะไรทำไมเป็นแบบนี้?
"รีบๆลุกไปอาบน้ำได้แล้วฉันอยากกลับบ้านแล้วเนี่ย อยากกลับไปทำงานแล้วด้วย"
คนที่หันมายู่หน้าใส่ผมพูดด้วยน้ำเสียงหงุดหงิดราวกับไม่พอใจที่ผมเป็นต้นเหตุให้ไม่ได้ไปทำงานงั้นแหละ ตัวเองมาแทงเขาแท้ๆ!
"ทำงานที่ผับนั่นน่ะเหรอ"
"ใช่ รีบๆไปจัดการตัวเองได้แล้วฉันอยากกลับบ้าน"
"ลาออกไม่ได้เหรอ งานอื่นมีตั้งเยอะแยะอีกอย่างแม่เธอก็ไม่ชอบที่เธอทำงานตามสถานที่แบบนั้นเท่าไหร่"
ผมบอกคนตรงหน้าที่ตอนนี้กำลังทำสีหน้าเหมือนกับว่าผมยุ่งเรื่องของเธอยังไงยังงั้น เห็นว่าเป็นลูกสาวป้าแม่บ้านที่ผมเคารพหรอกเลยหวังดี อีกอย่างตอนที่ป้ามาเยี่ยมผมป้าก็เล่าเรื่องงานของเด็กนี่ให้ผมฟัง ดูแล้วป้าก็เป็นห่วงเด็กนี่อยู่แต่ก็ไม่มีทางเลือกเพราะงานที่เด็กนี่ทำอยู่คือรายได้หลักของครอบครัวเลย
"ไม่!"
ใครบางคนหันมากระแทกเสียงใส่พลางทำสีหน้ากวนๆใส่ผมก่อนจะเดินออกจากห้องไป
เราสองคนใช้เวลานานพอสมควรในการเดินทางมาที่บ้าน บ้านที่ผมเคยอาศัยอยู่ตอนเด็กๆ บ้านที่มีเรื่องเล่าและความทรงจำดีๆมากมายแต่ช่วงเวลาที่ผ่านพ้นไปก็ทำให้ผมเริ่มจำอะไรหลายๆอย่างไม่ได้ แต่ที่จำได้ดีไม่มีลืมก็คือคุณป้าแม่บ้านผู้ใจดีแม่ของยัยเด็กดื้อนี่แหละ
ปกติเวลาผมมาแข่งรถที่เมืองไทยผมจะไม่แวะมาพักที่นี่หรอกแต่ผมจะพักที่บ้านอีกหลังหนึ่งที่ซื้อเอาไว้ด้วยเงินเก็บของตัวเอง แต่จะมีคุณป้าแม่บ้านเข้าไปดูแลบ่อยๆ สาเหตุที่ไม่มาพักที่นี่ก็เพราะว่าบ้านหลังใหญ่หลังนี้แม่ของผมได้ยกให้คุณป้าแม่บ้านไปแล้วก่อนที่ครอบครัวเราจะย้ายไปต่างประเทศ
ถึงคุณป้าจะให้ผมมาพักได้เหมือนกับเป็นบ้านของตัวเองแต่ผมก็ไม่สนิทใจอยู่ดี ผมยังคงรู้สึกเกรงใจและรู้สึกว่าไม่เป็นส่วนตัวเท่าไหร่ก็เลยหาบ้านใหม่อยู่แต่ไม่คิดเลยว่าวันหนึ่งจะได้เข้ามาพักที่นี่ แถมยังต้องอยู่กับลูกสาวคุณป้าที่ผมไม่ยักจะจำได้ว่าท่านมีลูกที่อายุน้อยกว่าผมมากๆ หรือบางทีเรื่องราวในวัยเด็กของผมอาจจะเลือนหายไปตามกาลเวลาแล้วก็ได้เพราะป้าบอกกับผมว่าตอนที่เด็กนี่คลอดออกมาตอนนั้นผมเองก็แค่สี่ห้าขวบเท่านั้น
"นี่แล้วนายไม่กลับไปใต้หวันเหรอทำไมอยู่ๆก็มาพักที่นี่ล่ะ"
คนที่เดินเข้ามาในห้องนั่งเล่นถามผมขึ้นขณะที่ผมกำลังนั่งกินขนมและดูทีวีอยู่ ก็มาพักที่นี่เพื่อให้เธอดูแลฉันยังไงล่ะยัยเป๊อะเอ๊ย!
"อยากกลับก็จะกลับเองแหละ"
ผมตอบแบบไม่ใส่ใจ คนอะไรถามเหมือนไม่อยากให้ผมอยู่ด้วยซะงั้นทั้งๆที่ผมออกจะเป็นผู้อาศัยที่ดีไม่สร้างความวุ่นวายใดๆให้เธอแท้ๆ
"แล้วนายไม่ทำงานทำการหรือไง"
คนที่ยืนมองผมอยู่ถามต่อ เด็กนี่เมื่อไหร่จะเรียกผมว่าพี่สักทีนะผมอายุเยอะกว่าเธอหลายปีเลยนะ
"ไม่อะ รวยแล้ว"
ผมตอบกวนๆ
"ฉันชื่ออบเชยนายชื่ออะไร"
ใครบางคนถามต่อ รู้แล้วแหละน่าว่าชื่ออบเชยแต่เธออยู่กับผมมาตั้งนานยังไม่รู้จักชื่อผมอีกเหรอวะ ผมคิดว่าเธอจะรู้แล้วซะอีก
"แชมป์"
"คนใต้หวันอะไรชื่อแชมป์บ้าหรือเปล่า"
ขี้สงสัยจังวุ้ย!
"แม่ตั้งให้ แม่เป็นคนไทย"
"เอาล่ะนายแชมป์ต่อจากนี้ไปเราสองคนต้องอยู่ด้วยกัน เราจะมาทำข้อตกลงในการอยู่รวมกันอย่างสันติ"
คนบางคนพูดพลางเดินมานั่งลงข้างๆผม
"ทำไมต้องมีกฎฉันไม่ชอบให้ใครมาบังคับ"
"ไม่รู้แหละแต่ถ้านายยังอยู่ที่นี่นายก็ต้องทำ ต่อจากนี้ไปฉันกับนายต้องจ่ายค่าน้ำค่าไฟกันคนละครึ่งและของกินในตู้เย็นนายห้ามหยิบของฉันออกมากินเด็ดขาดรวมถึงของกินข้างนอกที่ฉันซื้อเข้ามาด้วย ที่สำคัญทุกครั้งที่นายใช้จานหรือใช้ห้องครัวนายจะต้องเก็บและล้างให้สะอาด โอเคมั้ย"
ยัยเด็กขี้งก! ยัยเด็กขี้บ่น!
"ฉันไม่ทำงานบ้านแล้วก็ไม่ล้างจานด้วยเดี๋ยวมือเป็นแผล ทำไมเธอไม่จ้างแม่บ้านมาทำความสะอาดล่ะไม่เห็นต้องทำเองเลย ส่วนของกินก็สั่งมากินทุกวันก็ได้นี่ไม่เห็นต้องซื้อมาเองหรือทำเองให้เหนื่อยเลย"
"นี่นายฉันไม่ได้มีเงินเยอะเหมือนนายป่ะ"
คนข้างๆเถียงกลับ
"ข้อตกลงของเธอมันไม่เวิร์ค ฉันว่าของฉันเวิร์คกว่า"
และในตอนนั้นเองที่ผมคิดอะไรดีๆออก ผมจะทำให้ยัยเด็กนี่เลิกทำงานที่ผับนั่นซะ! นี่เห็นแก่คุณป้าเลยนะผมเลยอยากช่วยดูแลลูกสาวท่านไม่ให้ไปเสี่ยงกับงานข้างนอก แถมทำงานกับผมรายได้ก็ดีกว่าตั้งเยอะ
"งั้นก็ว่ามา"
"เธอมาเป็นคนใช้ของฉันแล้วฉันก็จะจ่ายเงินให้เธอรวมถึงข้าวของเครื่องใช้ของกินและค่าใช้จ่ายต่างๆด้วยโอเคมั้ย"
ผมพูดพลางเลิกคิ้วใส่คนข้างๆ นี่แหละวิธีของผม
"ไหนๆพ่อกับแม่ของเธอก็ให้เธอดูแลฉันแล้ว ฉันว่าถ้าเธอมารับจ้างเป็นคนใช้ให้ฉันเลยมันจะคุ้มกว่านะ"
ผมเสนอ
"แล้วฉันต้องทำอะไรบ้าง ค่าจ้างล่ะนายให้ฉันเท่าไหร่"
สีหน้าของคนข้างๆที่เริ่มสนใจข้อเสนอของผมทำให้ผมถึงกับพอใจ สมแล้วที่คุณป้าบอกว่าลุกสาวท่านน่ะชอบเงิน
"ก็ทำทุกอย่างที่ฉันสั่งไง"
ผมตอบยิ้มๆ คราวนี้แหละยัยเด็กน้อยเธอจะต้องอยู่ในกำมือฉัน หึหึ
"ว่าไงนะ!"
จะตกใจทำไมเนี่ย
"ทำทุกอย่างที่ฉันสั่ง"
"ไม่มีเรื่องอย่างว่าเข้ามาเกี่ยวข้องใช่ปะ"
สีหน้าลังเลของคนข้างๆทำให้ผมถึงกับชะงัก
จะว่าไปแล้วตอนเจอกันครั้งแรกผมก็เปิดตัวแบบไม่ดีซะแล้ว แถมตอนอยู่ที่โรงพยาบาลผมก็ปากไวไปจูบเธอด้วยสิ ตอนนี้ยังรู้สึกผิดต่อคุณป้าอยู่เลยที่ทำไม่ดีกับลูกสาวท่าน แต่จะว่าไปเด็กนี่โดนผมจูบแล้วก็นิ่งได้อีกนับถือเลยผู้หญิงอะไรถูกใครไม่รู้จูบแล้วยังเงียบได้อีก
"แค่คนใช้ก็คือคนใช้ส่วนค่าจ้างเธออยากได้เท่าไหร่ก็ไปกดเอานี่บัตรฉัน"
แปะ!
ผมวางบัตรพรีเมี่ยมสีสวยไว้ตรงหน้าคนข้างๆก่อนจะหันไปสนใจทีวีต่อ
ตั้งแต่วันที่รู้จากคุณป้าว่าเธอคือลูกสาวของคุณป้าผมก็เลิกคิดเรื่องบนเตียงกับเธอแล้ว ยิ่งมารู้จักนิสัยแก่นแก้วของเธอผมก็รู้ทันทีเลยว่าเธอน่ะไม่ใช่สเปค
"นี่ไหนวันนั้นนายบอกไม่มีเงินไทยไง แล้วทำไมมีบัตร"
ฉิบหาย...
คนขี้สงสัยที่กำลังมองผมอย่างเอาเป็นเอาตายทำให้ผมถึงกับเหวอไปเลย เอาไงดีวะตอบว่าไงดี
"ไม่มีเงินสดมีแต่บัตร"
ผมรีบแก้ตัว อันที่จริงวันนั้นผมอยากเจอเธออีกต่างหากล่ะ
"แล้ววันนั้นค่าเหล้าทำไมนายไม่รูดบัตรห๊ะ! จะให้ฉันจ่ายแทนเพื่อ?"
เออนั่นดิ ผมพลาดเอง
"ลืม"
ผมตอบตีมึงไป
"นายนี่มัน...หึ้ย!"