THE FLIRT : 15

1570 Words
00:20 น. ฉันยังคงวนอยู่กับการเช็ดตัวให้เขาเพราะผ่านมาตั้งเกือบสามชั่วโมงแล้วตัวเขายังร้อนจี๋อยู่เลยทั้งที่ฉันรู้สึกว่ามันลดลงมาบ้างแล้วแต่มันก็ยังหน้าเป็นห่วงอยู่ดี 02:45 น. ฉันถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอกเมื่อสัมผัสตัวเขาแล้วรู้สึกว่าไข้ลดลงไปเยอะแล้วเพราะตัวเขาแค่อุ่นๆ เท่านั้น นี่ฉันทำงานเกินค่าจ้างไปรึเปล่าวะเนี่ย… ........ ........ Thayukorn Talk เช้าวันต่อมา…. ผมกระพริบตาถี่พลางเอามือขึ้นจับขมับตัวเองแล้วลุกขึ้นนั่งโยกคอไปมาเพื่อคลายความปวดเมื่อย ก่อนจะหันไปเห็นร่างเล็กที่นอนหลับตาพริ้มในท่าตะแคงอยู่ข้างผมในมือถือผ้าขนหนูผืนนึงเอาไว้จนผมหลุดยิ้มออกมาเพราะเหลือบไปเห็นกะละมังเล็กตั้งอยู่บนโต๊ะข้างเตียง ผมดึงผ้าห่มขึ้นมาคลุมร่างเล็กนั่นแล้วเอื้อมมือขึ้นเกี่ยผมขึ้นเผยให้เห็นใบหน้าหวานราวตุ๊กตาที่ทำให้ผมสะดุดตั้งแต่แรกเห็น เอาจริงๆ ยัยตัวเล็กนี่ไม่ใช่สเปกผมเลยสักนิด หน้าตาน่ะพอได้แต่นิสัยไม่ได้เลยเพราะผมไม่ชอบผู้หญิงแก่นแก้ว ไม่มีความอ่อนโยนอ่อนหวานแบบนี้เลย ถึงเธอจะดูไม่อ่อนแอไม่น่าถนุถนอม แต่ความรู้สึกผมมันกลับตรงกันข้ามอย่างสิ้นเชิงไม่รู้เหมือนกันว่าทำไม หึ แปลกดีเนอะ.. ร่างเล็กเหมือจะรู้สึกตัวแล้วผมเลยรีบทิ้งตัวลงข้างเธอแกล้งหลับตาพริ้มทำเหมือนผมยังไม่ตื่นก่อนจะรับรู้ได้ถึงสัมผัสจากมือนุ่มที่แตะลงมาบนหน้าผากผมอย่างแผ่วเบาและไล่ลงมาวางนาบแก้มผมอาจจะเพื่อความแน่ใจว่าไข้ผมลดลงแล้วจริงๆ ถ้าผมไม่ได้ยัยตัวเล็กนี่ก็คงแย่เหมือนกันเพราะผมเกลียดการกินยาเม็ดเอามากๆ รู้นะว่าโตแล้วแต่มันเป็นเรื่องที่ลำบากที่สุดในชีวิตผมเลยก็ว่าได้ ปกติผมจะพยายามดูแลตัวเองอย่างดีไม่ให้เจ็บป่วยเด็ดขาดแต่ก็เพราะยัยตัวเล็กนี่อีกนั้นแหละที่ทำให้ผมต้องไปยืนตากฝนอยู่แบบนั้น นึกถึงเหตุการณ์วันนั้นแล้วก็หงุดหงิดขึ้นมาเฉยเลย ผมลงจากรถเพื่อจะไปวิ่งไปหาเธอแต่ดันทำกุญแจรถตก ผมก้มลงเก็บกุญแจรถแค่เสียววินาทีพอเงยหน้าขึ้นมาก็เห็นว่ามีผู้ชายเดินเข้าไปหาเธอพร้อมกับถอดเสือแจ็คเก็ตคลุมหัวให้เธอแล้วพากันไปที่รถซะแล้ว ผมไปต่อไม่ถูกเลย ได้แต่ยืนกำกุญแจรถจนแน่นแม้น้ำฝนที่ไหลรินลงมาจะเย็นฉ่ำก็ไม่อาจดับกายที่ร้อนรุ่มของผมได้เลยสักนิด ดูเหมือนผมจะช้าไปซะทุกครั้ง เมื่อวานก็เหมือนกัน ทั้งทีผมมารอเธออยู่ก่อนแล้วแต่ทำไมเหมือนผมยังช้ากว่าไอ้หน้าอ่อนนั่นอยู่ดี และยิ่งมิณาปฏิเสธผมมากเท่าไหร่ผมยิ่งอยากได้ใจเธอมากขึ้นเท่านั้น ผมไม่มีทางแพ้ไอ้หน้าอ่อนนั้นหรอก...ไม่มีทาง Minarin Talk ฉันรู้สึกตัวตื่นขึ้นบนเตียงของเฮียยูตะ นี่ฉันเผลอหลับไปตอนไหนนะ..โชคดีที่ฉันตื่นก่อนเขาไม่งั้นได้อายแน่ ฉันเอามือขึ้นแตะหน้าผากและใบหน้าของคนตัวสูงที่ยังนอนหลับอยู่ข้างฉันและพบว่าอุณหภูมิในร่างกายเขาลดลงจนเกือบจะเป็นปกติแล้วแต่ก็ยังอุ่นๆ อยู่ วันนี้ฉันมีเรียนคลาสบ่าย เออ! ..จริงสิแล้วเฮียมีคลาสเช้ารึเปล่านะ ไม่ได้ถามเลย คิดได้ดังนั้นฉันก็เลยจะเอื้อมมือไปปลุกเขาแต่ยังไม่ทันจะถึงตัวเขาฉันก็สะดุ้งและรีบชักมือกลับเพราะมีคนมากดกริ๊งอยู่หน้าประตู อ๊อดดดด ฉันพ่นลมหายใจออกทางปากอย่างโล่งอก ตกใจหมด...ฉันลุกขึ้นจากเตียงแล้วเดินออกไปเปิดประตูทันทีจนลืมคิดไปว่านี่มันเป็นคอนโดของเฮีย แต่ก็ไม่ทันซะแล้ว นึกขึ้นได้ก็ตอนที่เห็นว่าคนที่ยืนอยู่หน้าประตูคือใครเนี่ยแหละ “มิณ! /เฮียดิน!” ฉันและเฮียดินอุทานชื่อออกมาพร้อมกันอย่างตกใจ ก่อนที่เฮียจะยกยิ้มขึ้นมุมปากเหมือนกำลังคิดอะไรไม่ดีอยู่ เฮียดินต้องคิดว่าฉัน...กับเฮียยูตะ เห้ย...! ฉันรีบปฏิเสธคนตัวสูงต้องอย่างร้อนรน “มะ..ไม่ใช่นะ ไม่ใช่อย่างที่เฮียดินคิดนะ” “อืม ฉันแค่จะมาดูว่ามันตายห่ารึยัง แต่ตอนนี้คงไม่ต้องห่วงแล้ว ไปแหละ” เฮียดินจะพยักหน้าให้ฉันพลางเอามือล้วงกระเป๋ากางทั้งสองข้างและพูดขึ้นเสียงดังกว่าปกติเหมือนจะให้คนข้างในรับรู้ถึงการมาเยือนของเขา พอพูดจบเฮียดินก็หมุนตัวไปอีกด้านเพื่อจะกลับแต่ฉันเอ่ยเรียกเขาไว้ก่อน “ดะ..เดี๋ยวค่ะ คือ..วันนี้เฮียยูตะมีคลาสเช้ารึเปล่า คือมิณจะได้” “คลาสบ่าย” เฮียดินตอบกลับมาก่อนที่ฉันจะพูดจบซะอีกแล้วเขาก็เดินไปแบบไม่หันกลับมามองสักนิด ทิ้งให้ฉันจมอยู่กับความกังวลว่าเขาจะเชื่อฉันรึเปล่า เวรกรรมอะไรของฉันเนี่ย ฉันปิดประตูลงและหันกลับเข้ามาในคอนโดแต่ก็ต้องอุทานขึ้นด้วยความตกใจ “เชี่ย!!!” อุ๊บ ฉันรีบเอามือปิดปากตัวเองทันที เมื่อเผลออุทานคำหยาบใส่หน้าร่างสูงตรงหน้าที่มายืนอยู่ข้างหลังฉันตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้ เล่นแบบนี้ก็ตกใจหมดดิ.. ฉันเอามือออกแล้วโวยวายใส่เขาอย่างอดไม่ได้ “เฮียเล่นไรเนี่ย ตกใจหมด” “หึ ไอ้ดินมาหรอ” เฮียยูตะถามขึ้นพลางเอามือไขว้หลังแล้วโน้มหน้าลงมา ฉันรีบเอามือขึ้นดันหน้าเขาออกแล้วเดินหนีทันที แต่เขาคว้าข้อมือฉันไว้แล้วเข้ามาสวมกอดฉันจากด้านหลังพลางรวบมือฉันทั้งสองไขว้กันไว้ด้านหน้าแผงอกแกร่งของเขากับแผ่นหลังฉันแนบชิดกันสนิทชนิดที่ว่าแม้แต่อากาศก็ผ่านไปไม่ได้แล้วเกยคางแหลมมาบนไหล่ของฉันก่อนจะเอ่ยถามเสียงอ่อย “เฮียถามทำไมไม่ตอบ โกรธไรเฮียอีกอ่ะ หืม” “โกรธบ้าไร เพ้อเจ้อ” ฉันพยายามดิ้นขลุกอยู่ในอ้อมกอดเขา นี่ฉันช่วยงูเห่าไว้ซินะ พอหายก็เป็นอันตรายกับตัวและ...หัวใจของฉันเลย ทำไมใจฉันถึงเต้นรัวเป็นกลองแต็กขนาดนี้หล่ะ ร่างหนากระชับกอดแน่นขึ้นก่อนจะเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงที่เหมือนจะน้อยใจยังไงก็ไม่รู้ หรือฉันคิดไปเอง “อยากรู้อะไรทำไมไม่ถามเฮีย ทำไมต้องไปถามมัน” “นี่เฮีย..” ฟอดดด>//// ฉันหันไปหาเขาอย่างลืมตัวด้วยความตกใจที่เขาได้ยินว่าฉันถามอะไรเฮียดินจนทำให้แก้มฉันไปชนกับปากเขาพอดิบพอดีก่อนเขาจะสูดความหอมเข้าปอดเฮือกใหญ่ อร๊ายยยย..เขาขโมยหอมฉันอีกแล้ว และน้ำเสียงที่แสนจะร่าเริงก็หลุดออกมาจากปากคนที่เพิ่งฟื้นไข้ “หอมดีเหมือนกันเนอะ แก้มเราอ่ะ” “เฮีย!!” ฉันทำอะไรไม่ได้นอกจากตวาดชื่อเขาออกไปด้วยความโมโห ความร้อนเห่อขึ้นหน้าฉันทันทีที่เขาตอบกลับมาด้วยคำพูดแสนหวาน “ครับ เรียกเฮียทำไมหรอครับ อยากได้อะไรครับ มิณา” “หยุดพูดเดี๋ยวนี้นะ!” “ทำไมหล่ะครับ โว๊ะ….มิณาเขิลเฮียหรอ หน้าแดงเชียว คิ คิ” เฮียจับตัวฉันพลิกกลับมาเผชิญหน้ากับเขาแล้วเอ่ยแซวขึ้นพลางเอานิ้วมาจิ้มที่แก้มฉันเบาๆ ก่อนจะหัวเราะคิกคักออกมา ฉันรีบเอามือขึ้นปิดหน้าเพื่อไม่ให้เขาเห็นรอยยิ้มของฉัน นี่ฉันเขิลเขาจริงๆ งั้นหรอ...บ้าฉิบ ฉันเอามือออกพร้อมกับสีหน้าที่เป็นปกติที่สุดแล้วเอ่ยบอกเขาเสียงแข็ง “ไม่ได้เขิลเว้ย” “จริงอ่ะ...” เขาถามขึ้นพลางหรี่ตามองฉันอย่างจับผิด “เออ!” ฉันตอบกลับด้วยเสียงหนักแน่นและจริงจังสุดๆ แต่ความจริงก็เก๊งหน้าจนเมื่อยไปหมดแล้วเนี่ย “มิณา...ขอบคุณนะครับ” เฮียยูตะเอ่ยเรียกชื่อฉันแล้วตามด้วยประโยคที่ทำให้ใจฉันรู้สึกหวิวๆ ในท้องขึ้นมาดื้อๆ แค่ประโยคธรรมดาๆ เนี่ยนะ เป็นบ้าอะไรของแกห๊ะ...มิณาริน สติ..สติ ฉันพยายามจะดึงสติกลับมาเกือบจะสำเร็จแหละ แต่ก็ต้องปล่อยมันหลุดลอยไปอีกครั้ง จุ๊บ อยู่ๆ เขาโน้มหน้าลงมาจุ๊บหน้าผากฉันที่นึงแล้วผละออกเอื้อมมือหนามาโยกหัวฉันเบาๆ อย่างอ่อนโยนก่อนจะเดินกลับเข้าไปในห้องนอนของเขา ฉันเผลอเอามือจับหน้าผากตัวเองก่อนจะหลุดยิ้มออกมาอย่างห้ามไม่ได้ ตาย...ตาย ถ้าเขาอ่อนโยนแบบนี้สักวันฉันต้องตายแน่ๆ นี่ฉันคงไม่ได้หวั่นไหวอยู่ใช่ไหม…..
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD