ตอนที่ 3

1251 Words
คนร้ายร้องโอดโอย กำปั้นของไทเกอร์หนักหน่วงไม่แพ้หมัดพี่บัวขาว กระแทกเข้าที่ใบหน้าของมันอย่างจัง ลงไปนอนโอดโอยหมดสภาพอยู่กับพื้น          “ฝีมือไม่เบานี่หว่า… ”          ไอ้คนแรกที่โดนสอยร่วงลงไปนอนกับพื้นมองหน้าไทเกอร์ด้วยแววตาโกรธแค้น พอลุกขึ้นมาตั้งหลักได้ ก็คว้ามีดปลายแหลมวาววับ พุ่งเข้าใส่พลเมืองดีด้วยความเจ็บแค้นแทนเพื่อนอีกคนที่โดนอัดจนงอมพระราม          ขวับ… มีดปลายแหลมในมือของมันเหวี่ยงเข้าใส่ร่างของไทเกอร์อย่างแรง หากชายหนุ่มช่างกล้าหาญ แม้จะมีแค่มือเปล่า แต่ก็ตั้งรับไม่หวาดหวั่น          ไทเกอร์มีเลือดนักสู้เต็มเปี่ยม แววในดวงตาคมกริบไม่มีความตระหนกเลยสักน้อย ด้วยเชื่อมั่นว่าเขาไม่ใช่เป้านิ่งของใครแน่ๆ ควับ… โจรร้ายจ้วงมีดสุดวงแขนอีกครั้ง เดินอาดๆ เข้าใส่ ไทเกอร์หลบหลีกคมมีดถากชายเสื้อเป็นรอยขาดวิ่นได้อย่างหวุดหวิด ต่อให้มันมีอาวุธอยู่ในมือ ก็ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยสักนิดที่จะล้มอดีตแชมป์มวยกีฬามหาวิทยาลัยอย่างไทเกอร์ และในจังหวะที่ปลายมีดในมือของมันเหวี่ยงเข้าใส่ร่างของชายหนุ่มอีกที คราวนี้ไทเกอร์หลบฉากได้อย่างคล่องแคล่ว กระโดดเข้าหากำแพงรั้วของร้านอาหาร ใช้ปลายเท้าถีบยันกำแพงเป็นแรงส่งตัวตีลังกาข้ามศีรษะมือมีดที่ยืนงง ตะลึงงันกับลีลาการต่อสู้ชั้นเซียน “คุณพระช่วย” หญิงสาวตะลึงมอง เหตุการณ์ตรงหน้านี้ยิ่งกว่าฉากบู๊ในหลังกำลังภายในของฉีเคอะ ชายหนุ่มตีลังกาลงมายืนอย่างสง่าผ่าเผยที่ด้านหลังมือมีด และในจังหวะที่มันหันกลับมามองแบบงงๆ หลังเท้าของไทเกอร์ก็ฟาดเข้าที่ก้านคอของมันเสียงดังพลั่ก ร่างร่วงลงไปกองอยู่กับพื้น โดนน็อคด้วยคมแข้งหน่วงหนัก “ตำรวจมาแล้ว…. ตำรวจคะ... ช่วยด้วยค่ะ” หญิงสาวตะโกน เมื่อเห็นรถมอเตอร์ไซค์ของตำรวจสายตรวจแล่นผ่านมาพอดี “ช่วยด้วยค่ะ... ช่วยด้วย โจรวิ่งราวกระเป๋าสตางค์ค่ะคุณตำรวจ”          เห็นท่าไม่ดี สองโจรรีบพยุงร่างสะบักสะบอมขึ้นจากพื้นอย่างกระโผลกกระเผลก ในสถานการณ์ที่รู้ว่าตกเป็นรองอย่างเห็นได้ชัด ความเพลี่ยงพล้ำทำให้สองวายร้ายวิ่งหนีเข้าป่าละเมาะข้างทาง รีบเผ่นแน่บไปเสียก่อนที่ตำรวจสายตรวจจะทันได้ล็อคตัว “คุณเป็นอะไรหรือเปล่าคะ?” หญิงสาวถามชายหนุ่มด้วยความเป็นห่วง “ไม่เป็นไรครับ…” ไทเกอร์ตะลึงมองหญิงสาว ส่งกระเป๋าสตางค์คืนให้หล่อน วินาทีแรกที่ตาสบตา ต่างก็รับรู้ได้ว่ามีกระแสความรู้สึกอันวาบหวามประหลาด วูบไหวไปมาจากดวงตาที่จ้องมองกันไม่กระพริบ  ปั้นหยารู้ว่านี่คืออาการที่เรียกว่า ‘สปาร์ค’ อย่างรุนแรง เช่นเดียวกับไทเกอร์ ที่รู้ว่ากามเทพแผลงศรรักรัวๆ เข้าใส่หัวใจของเขาอย่างจัง  ชายหนุ่มยอมรับว่า ‘ตกหลุมรัก’ ผู้หญิงคนนี้ตั้งแต่วินาทีแรกที่ประสานสายตาเข้าด้วยกัน ไทเกอร์เพิ่งเข้าใจในความหมายของคำว่า ‘รักแรกพบ’  Love at first sight ก็ตอนนี้เอง “ขอบคุณค่ะ... แต่คุณแน่ใจนะคะว่าปลอดภัย” หญิงสาวถามอีกครั้งด้วยความตกใจ ตะลึงมองใบหน้าสุดหล่อเหลาคมคร้ามของหนุ่มลูกครึ่ง “ผมปลอดภัยครับ” ชายหนุ่มตอบ และพลันนั้นเองที่สายตาของหญิงสาวเหลือบไปเห็นโลหิตสีแดง ซึมออกมาจากชายเสื้อที่ขาดวิ่นเพราะคมมีด “อุ๊ย... คุณบาดเจ็บนี่นา” “แค่ถากๆ น่ะครับ” ไทเกอร์เลิกชายเสื้อขึ้นดูรอยแผล แม้จะเป็นเพียงแผลถลอก แต่คมมีดก็ถากบั้นเอวเป็นรอยยาว ได้เลือดอย่างที่เห็น “แบบนี้ต้องรีบทำแผลนะคะ” หญิงสาวเป็นห่วง “ไม่เป็นไรครับ” ชายหนุ่มส่ายหน้า มองตาหล่อน ผู้หญิงคนนี้สวยเหลือเกิน “ไม่ได้นะคะ... ที่คุณต้องมาบาดเจ็บแบบนี้ก็เป็นเพราะว่าช่วยฉัน” หญิงสาวเป็นห่วง ดูจะใจร้ายเกินไปหน่อย ถ้าต้องปล่อยให้ชายหนุ่มผลเมืองดีสุดหล่อคนนี้เดินจากไปทั้งสภาพเสื้อเปื้อนเลือดเช่นนี้ “งั้นแวะเข้าไปทำแผลที่บ้านฉันก่อนนะคะ” หญิงสาวชวน “ขอบคุณครับ” มีหรือที่ไทเกอร์จะปฏิเสธ “อย่ามัวชักช้าเลยน่ะยัยหนู... รีบพาเค้าไปทำแผลที่บ้านเราก่อนดีกว่า” เสี่ยโชคบิดาของหญิงสาวกล่าวด้วยความเป็นห่วง          “เดชะบุญที่ไม่โดนจุดสำคัญ” เสี่ยโชคเหลือบมองไทเกอร์ที่นั่งอยู่เบาะด้านหลัง สองมือสาวพวงมาลัยพารถเบนซ์คันใหญ่เคลื่อนออกมาจากบริเวณที่เกิดเหตุ ท่ามกลางละอองฝนเริ่มปลิวโปรยลงมาอีกครั้ง   “เจ็บมากมั้ยคะ” หญิงสาวหันมาถามคนบาดเจ็บที่นั่งอยู่เบาะหลัง ด้วยความห่วงใย สายตาแทบไม่ละไปจากใบหน้าคมคร้ามหล่อเหลาของเขา ได้ทีชายหนุ่มรีบทำสำออย ส่งสายตาออดอ้อนคุณหนูลูกสาวเสี่ย “พอทนครับ” ไทเกอร์แกล้งขบกรามจนเป็นสันนูน คล้ายข่มความเจ็บปวดที่แสดงออกมาทางสายตา ทั้งที่ไม่ได้เจ็บอะไรมาก แต่อยากเรียกคะแนนสงสารจากหญิงสาวมากกว่า แอบสบตาหล่อนเป็นระยะ มองตากันไปมา กระทั่งรถแล่นเข้ามาถึงบ้านหลังใหญ่ ในเวลาต่อมา ไทเกอร์เข้ามาในห้องรับแขกของบ้านหลังใหญ่ราวกับคฤหาสน์ เครื่องเรือนและเฟอร์นิเจอร์ภายในดูหรูหรา ทุกมุมของบ้านได้รับการตกแต่งอย่างสมฐานะ “ว้าย... ใครเป็นอะไรมาคะคุณหนู” ป้าช้อย คนรับใช้ที่ทำงานอยู่ในบ้านหลังนี้มานานหลายปี ตะโกนถามด้วยความตกใจ แลเห็นเลือดสีแดงเปรอะอยู่ที่ชายเสื้อของไทเกอร์ “มีอุบัติเหตุค่ะ ป้าช่วยเตรียมยาล้างแผลให้หยาหน่อยนะคะ” หญิงสาวแทนตัวเองสั้นๆ ว่า ‘หยา’ ชื่อจริงของหล่อนคือ ‘ปั้นหยา’ “ได้ค่ะคุณหนู” ป้าช้อยรับคำ รีบก้าวยาวๆ ออกมาจากห้องรับแขก ไทเกอร์เอนกายลงนอนบนโซฟาหนังสีดำตั้งอยู่กลางห้อง “ถอดเสื้อนะคะ จะทำแผลให้ เอ่อ... นายชื่ออะไร” หญิงสาวถาม “ผมชื่อเสือครับ” ไทเกอร์รีบถอดเสื้อให้หล่อนทำแผล ร่างกายกำยำไปด้วยมัดกล้ามทำเอาหญิงสาวใจเต้น “ยากับพลาสเตอร์ปิดแผลได้แล้วค่ะคุณหนู” ป้าช้อยกลับเข้ามาพร้อมกับกล่องอุปกรณ์ที่มีทั้งยาและผ้าพันแผล วางไว้ใกล้หญิงสาว “เดี๋ยวหยาจัดการเองค่ะ... ป้ามีงานอะไรก็ไปทำเถอะ” “ค่ะ... คุณหนู” ป้าช้อยพยักหน้ารับ เดินออกมาจากห้องรับแขก เพราะว่ามีงานครัวค้างอยู่ ตอนนี้ในห้องรับแขกจึงเหลือเพียงแค่ปั้นหยากับชายหนุ่ม เพราะว่าเสี่ยโชคออกมานั่งสูบไปป์ยาเส้นอยู่ที่เทอเรสหน้าบ้าน พิมพ์ข้อความตอบแชทกับกิ๊กในกลุ่มไลน์   ‘บึกจัง... ’ สายตาของคุณหนูปั้นหยากวาดสำรวจเรือนกายท่อนบนของชายหนุ่มด้วยความลืมตัว ลำคอหนาช่วยยืนยันถึงความเป็นคนแข็งแรง ช่วงไหล่กว้างกำยำและเปลือยเปล่า แพขนสีน้ำตาลเข้มแผ่กระจายไปทั่วแผงอกกว้าง ปกคลุมลงมาตามหน้าท้องซึ่งอัดแน่นเอาไว้ด้วยกล้ามท้องเป็นลูกเป็นลอนน่าลูบไล้ “ฉันชื่อ ‘ปั้นหยา’ เรียก ‘หยา’ สั้นๆ ก็ได้นะคะ”
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD