Episode 1 ไข่ดาว

1711 Words
“คืนนี้เจอกันที่เดิมนะเว้ย” “โอเค ตามนั้น” เป็นเสียงนัดหมายของพวกผมเอง เพราะทุกวันหลังเลิกเรียน (ยกเว้นวันที่มีสอบ) พวกผมจะนัดกันไปผับ เพื่อที่จะไปหาความสุขให้กับตัวเอง คงไม่ต้องบอกว่าพวกผมเข้าผับได้ยังไงทั้งที่อายุยังไม่ถึงไม่ต้องแปลกใจครับ เพราะเป็นผับของพ่อไอ้วอดก้ามันและระดับพวกผมแล้วต้องโต๊ะ VIP เท่านั้น หลังจากที่นัดกันเรียบร้อยผมกำลังจะเดินไปที่โรงจอดรถแต่แล้วเสียงที่ผมไม่อยากได้ยินที่สุดในโลกก็ดังขึ้น “เขื่อนนนน~ จ๋าาารอเค้าด้วย” ตึก ตึก ตึก เป็นเสียงของสองเท้าเล็กที่กำลังวิ่งไปหาเจ้าของชื่อที่ยืนอยู่ภายด้านหน้า “มึงอีกแล้วหรอ มีอะไร” เขื่อนเอ่ยถามร่างบางขึ้นทันทีที่เธอมาถึงซึ่งเธอก็คือ เฟรนด์ ลูกสาวของเพื่อนพ่อเขานั่นเอง “วันนี้คุณอาบอกให้เค้ากลับกับเขื่อนอะ เพราะรถที่บ้านพัง” เฟรนด์ตอบด้วยน้ำเสียงและสีหน้าสดใส “พ่อไม่เห็นโทรบอกกูก่อนเลย” “ก็นี่ไงคุณอาฝากเค้ามาบอกเขื่อนแล้วไง เอาน่าไปกันเถอะ” “เดี๋ยว!” “มีอะไรหรอเขื่อน” เฟรนด์ถามขึ้นด้วยสีหน้าสงสัย “ใครบอกว่ากูจะให้มึงกลับด้วย” หลังจากเขื่อนพูดจบเขื่อนก็เดินไปทันที “ขะ เขื่อน แต่ว่าคุณอาบอกมานะ” เฟรนด์เห็นแบบนั้นก็รีบพูดขึ้นอย่างไม่ยอมทันที พร้อมกับกึ่งเดินกึ่งวิ่งตามเจ้าของร่างสูงไป แต่ทว่าสองเท้าเล็กมัวแต่เร่งฝีเท้าตามจนไม่ทันได้มองทางทำให้เธอชนเข้ากับแผ่นหลังกว้างของเขื่อนเข้าแบบเต็มๆ ตึก! “โอ้ยย จะหยุดทำไมไม่บอกกันก่อน” “อย่าคิดว่ากูไม่รู้ทันมึงนะ เลิกยุ่งกับกูซะ” บรึ้น~ พูดจบเขื่อนก็ขึ้นคร่อมรถบิ๊กไบค์สีดำคู่ใจของเขาออกไปอย่างไม่ใยดีเฟรนด์เลยสักนิด “อีกแล้วหรอเนี่ย แต่ฝันไปเถอะว่าฉันจะเลิกยุ่งกับนาย ฉันจะเอานายมาเป็นของฉันให้ได้คอยดูเถอะเขื่อน” หลังจากเฟรนด์พึมพำกับตัวเองสักพักเธอก็เดินออกมายืนเรียกแท็กซี่เพื่อกลับบ้านเพราะก่อนหน้านี้เธอได้โทรบอกทางบ้านว่าไม่ต้องมารับ เพื่อจะวางแผนกลับกับเขื่อนแต่สุดท้ายเขื่อนก็รู้ทัน เธอจึงต้องนั่งแท็กซี่เพื่อกลับบ้านเอง @ผับ TIME 3.50 PM ตึก! “มึงเป็นอะไรวะไอ้เขื่อน” วอดก้าเอ่ยถามเพื่อนตัวเองขึ้น “เอ้อนั่นสิ กูเห็นมึงทำหน้าเครียดตั้งแต่มาถึงละมีเรื่องไรวะพูดกับพวกกูได้นะเว้ย” เข็มทิศก็พูดเสริมขึ้น เพราะตั้งแต่ที่เขามาถึงร้านเหล้าก็เห็นเขื่อนเอาแต่กระดกเหล้าเข้าปากไม่หยุด “เรื่องเดิมๆ” เขื่อนตอบ “เรื่องเฟรนด์?” “จะเป็นใครอีกละ ก็มีอยู่คนเดียวที่ยุ่งวุ่นวายกับชีวิตมัน” วอดก้าพูดขึ้น “กูจะทำยังไงกับมันดีวะ แม่งโคตรน่ารำคาญ” เขื่อพูดด้วยสีหน้าจริงจังและคิดหนัก “มันอยากได้มึงไม่ใช่หรอ มึงก็จัดให้มันซะสิจะได้จบๆไป” วอเก้าพูดขึ้นอย่างไม่จริงจังนัก “เออใช่ ถ้าเป็นกูนะเสร็จไปนานละ หุ่นก็ดี ขาวก็ขาว น่าอก สะโพก ตา จมูก ปาก ซี๊ดด” เข็มทิศพูดเสริมพร้อมกับทำหน้าฟินเมื่อนึกถึงใบหน้าสวยของหญิงสาวที่ชมชอบเพื่อนของตัวเอง “ไอ้สัส! กูไม่นิยมกินเพื่อนตัวเองเว้ย อีกอย่างมันเป็นลูกสาวของเพื่อนพ่อกู” ผมพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงที่จริงจัง ไม่ว่าเฟรนด์มันจะยั่วผมแค่ไหนผมก็ไม่มีทางเอากับมันเด็ดขาด “กูจะคอยดู หึ” วอดก้าเอ่ย “พวกมึงคอยดูเลย” เขื่อนตอบด้วยน้ำเสียงหนักแน่น ก่อนจะยกแก้วเหล้าในมือขึ้นดื่ม เช้าวันต่อมา “เขื่อนตื่นได้แล้วลูก สายแล้วนะ” เสียงเคาะประตูห้องดังขึ้นพร้อมกับเสียงผู้เป็นแม่ตะโกนเรียกปลุกสลับกัน “ครับ~ แปปนึงครับ” เขื่อนตอบกลับผู้เป็นแม่ทั้งที่ยังคงหลับตา 5 นาทีผ่านไป “เขื่อน! แม่บอกให้ตื่นไง นี่มันสายแล้วนะ” “อื้อ~ แม่เข้ามาในห้องผมโดยไม่ขออนุญาตอีกแล้วนะครับ” ผมลืมตาขึ้นตอบกลับแม่แบบเบลอๆ คงเป็นเพราะมื้อคืนดื่มหนักไปหน่อยเลยทำให้ผมตื่นสาย “กูเป็นแม่มึงนะ กูจำเป็นต้องขออนุญาตมึงด้วยหรอคะ ก็ปลุกไม่ตื่นนึกว่าตายห่าไปแล้ว” ทุกคนไม่ต้องแปลกใจครับนี่แม่ผมเอง แม่ก็เป็นแบบนี้แหละเป็นผู้หญิงแบบฮาร์ดคอร์ๆ ไม่รู้ว่าพ่อรักแม่เข้าไปได้ยังไง โหดก็โหด แถมบ่นเก่งชิบหาย “ไม่ต้องมาแอบด่าในใจ ลุกไปอาบน้ำเดี๋ยวนี้เลยนะไอ้ลูกเวร เพื่อนมารอนานแล้ว” “ใครอะ” “.......” ไม่มีเสียงตอบกลับใดๆกลับมาจากผู้เป็นแม่ แถมยังเดินออกจากห้องไปอย่างไม่คิดจะหันกลับมา เขื่อนที่เห็นแบบนั้นก็ไม่วายจะตะโกนตามหลังออกไป “แม่ใครอะ ตอบผมก่อนสิ แม่! อะไรวะ แล้วใครแม่งมาแต่เช้าวะ” เขื่อนได้แต่บนพึมพำกับตัวเองอย่างหัวเสีย แต่ก็ยังลุกออกจากเตียงเดินเข้าห้องน้ำเหมือนเดิม เวลาผ่านไปได้ไม่นานหลังจากผมทำธุระส่วนตัวเสร็จผมก็ลงมาข้างล่าง แต่แล้วก็ต้องชะงักเมื่อมองไปเห็นใครบางคนที่นั่งรออยู่โซฟาด้านล่าง ใครบางคนที่ผมไม่อยากเจอที่สุดในโลก “มึงอีกแล้วหรอ” คำแรกที่หลุดออกจากปากของเขื่อนเมื่อเขาเดินลงมาถึงด้านล่าง “Hi หวัดดีเขื่อน” ทันทีที่เฟรนด์เห็นเขื่อนก็รีบยกมือขึ้นทักทายด้วยท่าทีสดใสเช่นเคย “นี่มึงมาบ้านกูทำไม อย่าบอกอีกนะว่า....” ไม่ทันที่ผมจะพูดจบ “รถที่บ้านของหนูเฟรนด์เสีย ต้องเข้าศูนย์เลยฝากหนูเฟรนด์ไปโรงเรียนกับมึง” ผู้เป็นพ่อของเขื่อนเอ่ยขึ้น “ใช่แล้ววว” เฟรนด์พูดพร้อมกับยกยิ้มขึ้นอย่างดีใจ แต่ใครจะไปคิดว่าสาเหตุที่รถพังนั้นกลับเป็นฝีมือของเธอเอง ทว่าดีใจได้ไม่นานเธอก็ต้องหุบยิ้มทันทีที่ได้ยินประโยคต่อมาของเขื่อน “ไม่อะ ยังไงผมก็ไม่ไปกับมันเด็ดขาด” “ไอ้ลูกคนนี้นี่มันยังไงห๊ะ แค่ให้หนูเฟรนด์ติดรถไปด้วยแค่นี้มันจะตายหรือไง” ผู้เป็นแม่เมื่อได้ยินแบบนั้นก็หันไปต่อว่าลูกชายตัวเองขึ้นทันที “ใช่! ผมจะตาย” เขื่อนก็เอ่ยตอบผู้เป็นแม่ขึ้นอย่างไม่ยอมเช่นกัน “พอ! ให้หนูเฟรนด์ไปด้วยนั่นแหละ ไปได้แล้วไป เดี๋ยวสาย” พ่อพูดขึ้นพร้อมกับยกมือไล่ “แต่มันใส่กระโปรงนะพ่อ” เขื่อนก็ยังหาเหตุผลมาต่อรองอย่างไม่ยอม แต่ทันทีที่เขื่อนพูดจบเฟรนด์ก็รีบดีดตัวลุกขึ้นพร้อมกับเอ่ยบอกด้วยน้ำเสียงฉะฉาน “ไม่เป็นไรค่ะ หนูใส่กางเกงขาสั้นมาอยู่ค่ะ” “ให้ตายเหอะ” ผมได้แต่สถบออกมาอย่างหัวเสีย และในเมื่อผมทำอะไรไม่ได้จึงเลือกเดินออกมาจากบ้านตรงไปที่รถคู่ใจทันอย่างไม่คิดที่จะรอหรือสนใจใคร ส่วนเฟรนด์ที่เห็นแบบนั้นก็รีบเอ่ยลาผู้ใหญ่ทั้งสองก่อนจะรีบวิ่งตามหลังเขื่อนออกไป “ไปก่อนนะคะคุณอา สวัสดีค่ะ” “อะ” ผมยื่นหมวกกันน็อคให้เธอ เธอรับไปแต่ดูเหมือนว่าเธอจะใส่ไม่เป็น “มานี่จะใส่ให้” เขื่อนที่เห็นท่าทีเก้ๆกังๆของเฟรนด์เขาจึงดึงหมวกกันน็อคกลับคืนมา ก่อนจะดึงตัวเธอเข้ามาเพื่อที่จะสวมหมวกกันน็อคให้ ขณะที่เขื่อนกำลังใส่หมวกกันน็อคให้เฟรนด์อยู่นั้น เฟรนด์ก็จ้องใบหน้าอันหล่อเหลาของเขื่อนอย่างไม่ละสายตาจนทำให้เขื่อนนั้นเงยหน้าขึ้นมามองทำให้ทั้งสองสบตากัน จนเป็นเขื่อนที่พูดขึ้นอย่างไม่รู้สึกอะไร “จะมองกูอีกนานไหม ขึ้นรถ” “ขอบคุณนะที่ใส่ให้” “หุบปากมึงไปเลย ถ้ากูไปสายนะก็เพราะมึง” “ชิ๊” เฟรนด์ทำหน้ายู่ใส่ก่อนจะก้าวขึ้นด้วยอย่างเก้ๆกังๆ แต่ไม่ทันที่เฟรนด์จะจัดแจงท่านั่งเสร็จเขื่อนก็ออกรถทันทีทำให้เฟรนด์นั่นร้องขึ้นด้วยความตกใจแต่ดีที่เธอนั้นคว้ากอดเอวเขื่อนไว้ทัน บรึ้น! “ว้ายย!!” “จับดีๆล่ะ ตกรถตายกูไม่รับผิดชอบนะ หึ!” ระหว่างทาง “เขื่อนขับช้ากว่านี้หน่อยได้ไหม” “ทำไมกลัวหรอ” “เปล่า แต่กระโปรงเค้าเปิด” “เรื่องของมึงสิ” เขื่อนตอบกลับไปอย่างไม่สนใจ แต่ทว่าเขากลับลดความเร็วลงอย่างที่อีกคนต้องการ เฟรนด์ที่เห็นแบบนั้นก็ยิ้มขึ้นอย่างดีใจ ถึงแม้ปากจะบอกอีกอย่างแต่การกระทำนั้น….. @โรงจอดรถ เอี๊ยด! เสียงรถบิ๊กไบค์คันสีดำเบรคเข้าจอดในโรงรถ “ขอบคุณนะที่ให้ติดรถมาด้วย” เฟรนด์ยิ้มขอบคุณ “ไม่ต้อง เพราะกูไม่ได้เต็มใจ” คำพูดของเขื่อนทำให้ฉันต้องหุบยิ้มทันที ทว่าคำพูดต่อมานั้นยิ่งทำให้เธอหัวเสียยิ่งกว่า “อ่อ แล้วก็ทีหลังอย่าเอานมไข่ดาวของมึงมาชนกับหลังกูอีกนะ เพราะต่อให้มึงเปิดให้กูดูกูก็ไม่มีอารมณ์”หลังจากเขื่อนพูดจบเขาก็เดินยิ้มออกไปอย่างพอใจที่ได้แกล้งอีกคน “โอ้โห้ นี่เรียกไข่ดาวหรอ” ฉันพูดพร้อมกับจับเต้าอวบของฉันดันขึ้นทั้งสองข้างอย่างมั่นหน้า “สักวันเถอะ สักวัน ฉันจะทำให้นายขาดนมไข่ดาวของฉันไม่ได้” ฉันได้แต่บ่นพึมพำตามหลังเขื่อนไปอย่างทำอะไรอีกคนไม่ได้
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD