ร่างสูงที่ยืนมองร่างบางที่หลับใหลอยู่บนเตียงด้วยใบหน้าเรียบนิ่ง พร้อมกับความรู้สึกมากมายของเขาที่คิดอยู่ภายในหัวโดยไม่มีใครสามารถรับรู้ได้เลย ว่าเขากำลังคิดอะไร และจะทำอะไร
“แค่ก แค่ก” เสียงไอแหบแห้งของร่างบางดังขึ้นพร้อมกับเปลือกตาบางที่เริ่มขยับเล็กน้อย และดวงดำที่กลอกกลิ้งจนเห็นได้ผ่านหนังตา และไม่นานเปลือกตาบางก็เริ่มเปิดขึ้นเรื่อยๆ
ดวงตาดำที่มองไปด้านบนเพดานและไล่มองไปรอบๆ ห้องด้วยความว่างเปล่า จนสุดท้ายคิ้วบางก็ขมวดแน่นเป็นปมเมื่อเห็นร่างสูงที่มองเธอด้วยใบหน้าเรียบนิ่ง นิ่งจนเธอคิดว่าเป็นรูปปั้นตั้งอยู่ยังไม่เกินไป
“คุณ” ร่างบางเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงแหบพร่าอย่างแปลกใจ เพราะตอนนี้ในหัวของเธอกลับไม่มีเรื่องราวอะไรเลยสักอย่าง
มันว่างเปล่าจนเธอ...
“ตื่นแล้วก็กลับบ้าน” เสียงเรียบนิ่งเอ่ยขึ้นโดยไม่แสดงอารมณ์ใดๆ และนั่นก็ทำให้เธอไม่เข้าใจ
“บ้าน” เสียงเหม่อลอยเอ่ยออกมาอย่างแผ่วเบา
บ้านของเธอเหรอ อยู่ที่ไหนกันนะ
แต่ชายหนุ่มกลับไม่ได้สนใจจะตอบคำถามของหญิงสาว ก่อนเขาจะกดเรียกพยาบาลเพื่อให้จัดการถอดสายน้ำเกลือให้กับเธอ
“คุณ...เป็นใคร” ใช่ เธอจำไม่ได้ว่าเขาเป็นใคร เธอจำอะไรไม่ได้เลย
“สามีเธอ” แล้วชายหนุ่มก็ตอบกลับออกมา ก่อนจะทำให้ดวงตากลมเบิกกว้างขึ้น
“สามี?” สามีที่เธอเข้าใจว่ามันคือผู้ชายที่แต่งงานกับผู้หญิงคนหนึ่ง เธอรู้ว่ามันคือแบบนี้
เธอแต่งงานแล้วอย่างนั้นเหรอ แล้วเขาก็คือสามีของเธอ แต่ทำไมเธอถึงจำเขาไม่ได้ ทำไมเธอถึงไม่คุ้นเคยกับเขาเลยสักนิด
“กลับ” หลังพยาบาลจัดการทุกอย่างเสร็จเขาก็สั่งและเดินนำหญิงสาวออกไปโดยมีบุรุษพยาบาลเข็นรถเข้ามาเข็นหญิงสาวตามเขาออกไปจากห้องพักฟื้นแห่งนี้
รถหรูแล่นมาจอดหน้าประตูโรงพยาบาลก่อนคนบนรถจะลงมาเปิดประตูให้กับเขา หญิงสาวมองภาพตรงหน้าอย่างไม่ค่อยเข้าใจ แต่ก็ยอมลงจากรถเข็นและขึ้นรถคันนั้นไปก่อนรถจะแล่นออกไปด้วยความเร็วแต่กลับนิ่มนวล
“ทำไมฉันถึงจำคุณไม่ได้เลยคะ” หลังจากขึ้นมาบนรถ เธอก็ถามเขาออกไปด้วยความอยากรู้ ถ้าเธอเป็นภรรยาของเขาจริงๆ ทำไมความรู้สึกมันกลับไม่คุ้นเคยเลย ทำไมเธอกลับจำชื่อของเขาไม่ได้ แต่ไม่ใช่แค่ชื่อของเขาหรอก...
“คุณประสบอุบัติเหตุ ทำให้ความทรงจำหายไปครับ” ไม่ใช่เขาที่ตอบกลับไป แต่เป็นผู้ชายที่นั่งอยู่ด้านหน้าข้างคนขับเป็นคนตอบออกมาด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่งแทบไม่ต่างจากผู้ชายที่นั่งอยู่ข้างๆ เธอเลย
“ความทรงจำหายไป” เพราะแบบนี้สินะ เธอถึงจำอะไรไม่ได้ แม้แต่ชื่อของตัวเอง
“คุณชื่อปลายฟ้า และสามีคุณ คุณป้องปราบครับ” ชายหนุ่มคนเดิมพูดขึ้นเพื่อให้เธอได้รู้ว่าตัวเองชื่ออะไร และสามีเธอชื่ออะไร
“ปลายฟ้า ป้องปราบ” เธอจำไม่ได้เลย ไม่คุ้นเลย
“แล้วพ่อแม่ของฉันล่ะคะ” ถึงแม้ว่าเธอจะแต่งงานแล้ว แต่พ่อแม่เธอล่ะ ไม่มาหาเธอเหรอ
แต่ทุกอย่างกลับตกอยู่ในความเงียบ นั่นทำให้เธอไม่เข้าใจ
ทำไมเขาไม่ตอบล่ะ หรือว่ามันมีอะไรเกิดขึ้นกับพ่อแม่ของเธอ แล้วทำไม...
“โอ้ย!” หลังจากเธอใช้ความคิดมากเกินไป นั่นทำให้เธอเกิดอาการปวดหัวขึ้นมา บวกกับการพึ่งฟื้นมาจากการหลับใหลนั่นอีก ถือว่าร่างกายของเธอยังไม่หายดีเลย
“ตอนนี้คุณพึ่งฟื้น อย่าพึ่งคิดอะไรเลยครับ” ชายหนุ่มคนเดิมพูดออกมาเมื่อเห็นอาการของเธอ และนั่นก็ทำให้เธอพยายามเลิกคิดเรื่องราวมากมายที่เธออยากรู้ แต่กลับไร้คำตอบ
นั่นสินะ ไม่นานเธอก็คงรู้อะไรมากกว่านี้ ตอนนี้เธอจะคิดอะไรไปก็คงไม่ดีและไม่ได้คำตอบ ยังไงเวลาที่เธอจะได้ฟื้นความทรงจำก็มีอีกตั้งมากมาย
สุดท้ายหญิงสาวก็ได้หลับไปเพราะความเพลียและอาการปวดหัว ทำให้บนรถเหลือไว้เพียงความเงียบ และนั่นก็ทำให้ร่างสูงที่นั่งด้านข้างเธอ หันมามองใบหน้าหวานด้วยความคิดหลากหลายอีกครั้ง
คฤหาสน์วิริยะโชติวาณิชย์...
“อุ้มเธอไปที่ห้องพัก” หลังจากรถหรูแล่นเข้ามาจอดในตัวบ้านหลังใหญ่ที่เรียกได้ว่าเป็นคฤหาสน์ ชายหนุ่มก็พูดกับมือขวาของเขาก่อนจะลงจากรถและเข้าบ้านไปก่อน
แต่เขาไม่ได้ไปยังห้องพักของหญิงสาว เพียงแต่เลือกจะเดินมายังห้องๆ หนึ่งที่เป็นห้องของเขา ห้องที่มีความทรงจำมากมายของเขา...
ก๊อก ก๊อก ก๊อก เสียงเคาะประตูที่ดังขึ้น ทำให้ชายหนุ่มหลุดจากภวังค์ความคิดของตัวเอง
“เข้ามา” เสียงเข้มเอ่ยขึ้นก่อนจะเก็บบางอย่างไว้ที่หัวเตียงคืน
“คุณปลายฟ้าอยากเจอคุณครับ” เต๊นท์มือขวาของป้องปราบเอ่ยขึ้น
“อืม” ชายหนุ่มตอบรับก่อนจะลุกออกจากห้องนอนตัวเองไปยังห้องพักของหญิงสาวตามที่เธอต้องการ