จากคืนเพ็ญครานั้น เวลาล่วงเลยมากว่าหนึ่งปีแล้ว เสี่ยวเม่ยเสียความบริสุทธิ์ตอนปลายฤดูใบไม้ผลิ จนยามนี้เข้าสู่ช่วงหน้าร้อนอีกหน แขกพิเศษที่กลายเป็นลูกค้าประจำก็ยังคงมาเยี่ยมเยี่ยนหากันทุกเดือน เงื่อนไขในการใช้บริการยังคงเป็นดังเช่นคราแรก แม่ทัพประจิมไม่เคยให้เสี่ยวเม่ยได้เปิดปากสนทนา หรือแม้กระทั้งว่าจะแกะผ้าปิดตาออกเลยสักหน เฉินฮ่าวเทียนเป็นผู้ยึดมั่นในคำพูดของตน สิ่งใดที่เขาตัดสินใจไปแล้วนั้นย่อมถือเป็นที่สุด และไม่มีการแก้คำกลับกลอกโดยเด็ดขาด ทางด้านเสี่ยวเม่ยเองก็ไม่ได้นึกน้อยใจอันใด พ่อค้าหมั่นโถวผู้รับงานเสริมเป็นคณิกาจำเป็นนั้น เจียมตัวเจียมตนเสมอ กับคนที่แอบรักแอบเทิดทูนอีกฝ่ายไกล ๆ เขาคิดว่าการที่เรามีความสัมพันธ์เช่นนี้ก็มากเพียงพอแล้ว ที่สำคัญ เฉินฮา่วเทียนไม่จำเป็นต้องทราบว่าตัวตนที่แท้จริงของสินค้าที่เขาเช่าซื้อมาค่ำคืนหนึ่งแท้จริงแล้วคือผู้ใด และเสี่ยวเม่ยก็ไม่คิดอยากแสดง

