เวลา 05:00 น.
มาเฟียหนุ่มที่นอนหลับอยู่ลืมตาตื่นขึ้นมาเมื่อรู้สึกถึงใบหน้าของหญิงสาวที่รังเกียจเขาขยับเข้ามาซุกฝังเข้ากับอกแกร่ง เมื่อศีรษะเล็กแนบชิดเข้ากับแผงอก เบเนดิกก็สัมผัสได้ถึงไอร้อนระอุที่แผ่กระจายออกมาจากคนที่หลับอยู่ เขายกฝ่ามือสัมผัสแตะหน้าผากเธอเบาๆ
“แคทนิส”
“หนาว” น้ำเสียงสั่นเครือพูดเพ้อขึ้นมา เบเนดิกหยิบรีโมทแอร์มากดปรับอุณหภูมิเบาลง ก่อนจะจับเธอนอนดีๆ แล้วห่มผ้าให้ จากนั้นเขาก็เข้าไปในห้องน้ำแล้วออกมาพร้อมกับอุปกรณ์เช็ดตัว มือหนาบิดผ้าหมาดๆ แล้วซับไปที่ใบหน้าอันซีดเซียว มือหนาเช็ดไล่ไปตามจุดข้อพับต่างๆ แต่ดูเหมือนอาการของเธอจะไม่ดีขึ้นเลย มาเฟียหนุ่มเดินไปหยิบโทรศัพท์ที่ปิดเครื่องไว้มากดเปิดเครื่องแล้วโทรออกหามือขวาคนสนิท
“มึงอยู่ไหน"
(“ อยู่บ้านนายครับ”)
“ไปรับหมอมาหน่อยแคทนิสไม่สบาย”
(“พาเธอไปหาหมอดีกว่าไหมครับ ผมตื่นแล้ว”)
“อืม งั้นเจอกันข้างล่าง” พูดจบมาเฟียหนุ่มก็กดวางสายก่อนจะเดินไปแต่งตัวอีกห้องแล้วกลับมาอุ้มร่างของคนป่วยลงไปขึ้นรถที่มีมือขวาจอดรออยู่
“หมออยู่หรือเปล่า”
“อยู่ครับ ผมโทรไปเช็คมาแล้ว” เมื่อได้ฟังคำยืนยันจากลูกน้องเขาก็อุ้มแคทนิสขึ้นไปนั่งบนรถทันที แต่ยังไม่ทันปิดประตูรถ ปาลีนาก็วิ่งหอบเข้ามา
“พี่แคทนิสเป็นอะไรคะ”
“จะไปก็ขึ้นมา” มาเฟียหนุ่มพูดน้ำเสียงเรียบก่อนจะพยักหน้าให้มือขวาปิดประตู เด็กสาวรีบเปิดประตูไปนั่งข้างคนขับก่อนจะหันไปมองคนที่กำลังเปิดประตูขึ้นมา ประจำตำแหน่งคนขับ ปาลินาแกล้งหันมองทางอื่นทันทีเมื่อเห็นอีกคนยกยิ้มมุมปากใส่เธอ
โรงพยาบาลกัลบีอา
เบเนดิกอุ้มแคทนิสเดินตามแพทย์ประจำตระกูลของเขาเข้าไปในห้องวีไอพี ก่อนจะวางร่างเธอลงแล้วปล่อยให้เป็นหน้าที่ของหมอ
“ไข้สูงมาก” แพทย์สาวมองไปยังร่างบางที่บอบช้ำแล้วเอ่ยถาม
“อืม”
“นายทำรุนแรงกับเธอหรือเปล่า”
“นิดหน่อย” มาเฟียหนุ่มตอบออกไปตรงๆ เพราะกับหมอคนนี้เขาไม่จำเป็นที่จะต้องโกหกหรือปิดบังอะไร
“งั้นเดี๋ยวขอฉันตรวจเธอก่อน”
“ตามสบาย” แพทย์หญิงเดินไปหยิบอุปกรณ์ตรวจเช็กร่างกายเบื้องต้นทุกอย่างก่อนจะเริ่มจากการวัดความดัน หัวใจ ชีพจร แต่เมื่อจับชีพจรตรงข้อมือเพื่อเช็ก คิ้วเรียวสวยก็ย่นเข้าหากันทันทีเพราะเธอไม่ได้สัมผัสถึงชีพจรของแคทนิสเพียง คนเดียว แพทย์สาวตัดสินใจกดโทรออกเรียกผู้ช่วยพยาบาลให้เข้ามาเก็บผลเลือดไปตรวจ ขณะรอผลเลือดหมอก็ได้ให้น้ำเกลือแก่แคทนิสและให้ยาลดไข้ไปก่อน แต่ยังไม่สามารถให้ยาแก้อักเสบได้เพราะเธออยากรอให้แน่ใจในผลตรวจก่อนว่า จะตรงกับที่เธอคิดไหม
“ทำไมต้องตรวจเลือด” เบเนดิกเอ่ยถาม ปาลีนาหันไปมองหมอสาวเช่นเดียวกันด้วยความสงสัย
“หมอสงสัยว่าเธอจะตั้งครรภ์” ปาลีนายกมือขึ้นปิดปากทันที รู้สึกสงสารแคทนิสทวีคูณเพิ่มขึ้นไปอีก
“แน่ใจ? ”
“นายน่าจะรู้ดีที่สุด ได้ป้องกันหรือเปล่าล่ะ” เบเนดิกเงียบไม่ตอบ บรรยากาศเริ่มอึมครึมขึ้นกระทั่งผลตรวจเด้งขึ้นมาบนหน้าจอคอมฯ ของหมอสาว
“เธอตั้งครรภ์ได้สิบสี่สัปดาห์” มาเฟียหนุ่มละสายตาจากหมอไปมองแคทนิสทันที
“ยังมีอีกเรื่องหนึ่งที่ควรจะระวัง”
“อะไร”
“เธอตั้งครรภ์แฝด ค่า hcg สูงมาก”
“ชิท!!” มาเฟียหนุ่มสบถออกมาเมื่อได้ยินเรื่องที่น่าตกใจเรื่องที่สอง เธอเป็นเชลยที่เขาจับตัวมาแต่ตอนนี้กลับมาตั้งท้องสายเลือดของเขา แบบนี้เขาจะต้องทำยังไงต่อไปหรือว่าจะให้เธอเอาออกดี
“ถ้าเอาออกล่ะ เอาออกได้หรือเปล่า” ตัดสินใจถามออกไป
“บ้านเมืองเราถ้าพ่อแม่ไม่พร้อม มันก็เอาออกได้ แต่คิดดีๆ นะเบ็นนั่นลูกของนายนะ แถมมาถึงสองคนอีกต่างหาก”
“แต่เธอไม่เหมาะที่จะมาเป็นแม่ของลูกฉัน”
“แล้วทำไมไม่ป้องกัน” เบเนดิกพลันเงียบลง ไม่ตอบคำถามของแพทย์สาว สายตาคมมองเพ่งไปที่เชลยสาวอย่างใช้ความคิด
“อีกอย่าง ฉันขอแจ้งว่าช่วงนี้นายควรงดกิจกรรมทางเพศจนกว่าเธอจะแข็งแรงดี ถ้าไม่อย่างนั้นอาจเสี่ยงต่อการแท้งได้” นั่งลงพิงศีรษะกับเก้าอี้ ยกมือขึ้นมานวดคลึงขมับให้ผ่อนคลายจากเรื่องที่ได้รับรู้
“แล้วระหว่างนี้ต้องทำอะไรบ้าง”
“พาเธอมาพบหมอทุกๆ เดือน”
“คงไม่ได้”
“แต่ครรภ์แฝดต้องได้รับการดูแลอย่างใกล้ชิด”
“เครื่องมือในการใช้ตรวจแต่ละครั้งมีอะไรบ้างสั่งมาส่งที่คฤหาสน์แล้วไปตรวจ ที่นั่น” แพทย์หญิงส่ายหัวเบาๆ เมื่อเห็นรุ่นน้องคนที่เคยมาสารภาพรักกับเธอยังใช้นิสัยเอาเงินซื้อทุกอย่างเหมือนเช่นแต่ก่อนไม่เคยเปลี่ยน
“คนนี้หรือเปล่าที่ให้รุ่นน้องฉันไปเช็กที่บ้านเมื่อสี่เดือนก่อน”
“อืม”
“กำลังจะเป็นพ่อคนแล้ว คิดดีๆ นะเบ็น”
“ถ้าออกมาตรวจเธออาจจะหนีได้”
“ก็เลยต้องกักขังเธออยู่แบบนั้นงั้นหรือ”
“มันไม่มีทางอื่น”
“เอาเป็นว่าฉันจะเข้าไปตรวจให้ทุกเดือน ส่วนเครื่องมือหมอจะส่งใบราคาไป”
“ขอบคุณ” มาเฟียหนุ่มมองเข้าไปในนัยน์ตาของคนที่เขาเคยชอบก่อนจะละสายตาไปทางแคทนิส
เมื่อทุกอย่างเรียบร้อยเบเนดิกก็พาแคทนิสกลับมาที่คฤหาสน์พร้อมกับสายน้ำเกลือ วางร่างเธอลงบนเตียงอย่างเบามือแล้วยืนมองสักพักอย่างวิตกว่าควรจะเอายังไงต่อดี เสียงถอนหายใจดังลากยาวออกมาก่อนเขาจะนอนลงเอามือก่ายหน้าผากอยู่ข้างๆ เธอ
ผ่านไปหกชั่วโมงคนที่หลับอยู่ก็สะลึมสะลือตื่นขึ้นมา เธอมองไปยังคนตัวสูงที่นั่งอยู่บนโซฟาเล็กน้อยก่อนจะตะแคงหันไปอีกฝั่ง
“ตื่นแล้วก็ลุกมากินข้าว”
“ฉันไม่หิว”
“ไม่หิวก็ต้องกิน”
“ทำไม ไม่กินแล้วจะจับฉันเอาอีกหรือไง ไอ้โรคจิต”
“เธอท้อง เธอควรกิน” เมื่อได้ยินคำนั้น บรรยากาศภายในห้องก็เงียบสงบลงทันทีแคทนิสไม่เอ่ยถามคำถามใดต่อทั้งสิ้น ‘ใช่จริงๆ สินะ’ สมองราวกับถูกเขากดปิดสวิตช์ เหมือนโลกทั้งใบของเธอหยุดหมุนและมืดสนิทลงในทันที
“ฉันต้องการเอาเด็กออก” แคทนิสกัดฟันแค่นเสียงบอกกับเขา
“ฉันไม่คิดว่าเธอจะไม่มีความเป็นแม่ขนาดนี้” ถึงเขาจะเคยถามหมอเรื่องเอาเด็กออก แต่สุดท้ายก็ตัดสินใจใหม่แล้วว่าจะเก็บเด็กไว้
“หึ ลูกของแก ทำไมฉันต้องมีความเป็นแม่”
“แล้วมันไม่ใช่ลูกของเธอหรือไง”
“ลูกที่เกิดจากแก ฉันไม่นับว่าเป็นลูก”
“เธอแม่งใจร้ายกับเด็กฉิบหาย”
“มีลูกกับสัตว์เดียรัจฉานอย่างแก ฉันจำเป็นต้องใจดีงั้นหรอ”
“เธอนี่เป็นผู้หญิงที่ใจร้ายที่สุดเท่าที่ฉันเคยเจอมาจริงๆ แคทนิส”
“แกก็เป็นไอ้สาระเลวที่สุดเท่าที่ฉันเคยเจอมาเหมือนกัน” มาเฟียหนุ่มเงียบเลือกที่จะไม่โต้ตอบเธอกลับ เขาหันไปหยิบถ้วยซุปแล้วเดินเข้าไปหาเธอ แต่แคทนิสกลับปัดมันทิ้งจนจานตกแตกเป็นเสี่ยงๆ พร้อมกับน้ำซุปที่เปรอะเปื้อนกระจายเป็นวงกว้าง
“อยากตายมากหรือไงห้ะ” เบเนดิกบีบกรามแคทนิสเต็มแรงแล้วมองเธอตาเขียวด้วยความโกรธ
“แน่จริงก็ฆ่าฉันซะสิไอ้กระจอก ฆ่าสิ” เธอพูดยั่วยุ ดวงตามองเขากลับด้วยสายตาอาฆาตแค้นอย่างไม่เกรงกลัว
“จะรีบอยากตายไปไหน ฉันยังไม่หายสนุกเลยแคทนิส” สะบัดใบหน้าเธอเต็มแรงก่อนจะเดินไปกดโทรออกหาปาลีนาเพื่อให้เอาซุปถ้วยใหม่มาให้ เบเนดิกบีบกรามเล็กอีกครั้งเต็มความแรงเพื่อให้เธอเปิดปากแล้วกรอกซุปเข้าไป แต่หญิงสาวกลับพ่นมันใส่หน้าเขาจนเปื้อนเลอะเทอะไปหมด
“หึ!” เสียงหัวเราะในลำคอดังขึ้นมาพร้อมกับสองเปลือกตาที่ปิดสนิท นี่ไม่รู้เป็นครั้งที่เท่าไรที่ผู้หญิงตรงหน้าทำแบบนี้กับเขา เธอไม่เคยเกรงกลัวเขาเลยจริงๆ มาเฟียหนุ่มพยายามสงบสติอารมณ์ให้ได้มากที่สุด หลังมือปาดเช็ดซุปออกจากใบหน้าหล่อเนียนไร้รูขุมขน
“ถ้ายังไม่ยอมกินดีๆ ฉันจะจับกระแทกให้จมเตียงเลยแคทนิส” แคทนิสมองเขาอย่างผูกใจเจ็บเพราะการทรมานจากเขาเมื่อวาน เธอถึงต้องมาป่วยจนไข้ขึ้นอยู่แบบนี้
สุดท้ายแคทนิสก็ยอมกินแต่เธอกินไปได้เพียงสองคำเท่านั้น เบเนดิกเมื่อเห็นเธอกินเสร็จก็เดินไปหยิบยามาให้ แต่อีกคนก็เขวี้ยงมันทิ้งอย่างไม่ไยดี
“ฉันไม่จำเป็นต้องกินมัน”
“อยากให้ลูกออกมาพิการรึไงห้ะ”
“ก็ไม่เกี่ยวกับฉัน”
“เธอยังมีความเป็นคนอยู่ไหมวะแคทนิส”
“เก็บไว้ถามตัวแกเองเถอะ” มาเฟียหนุ่มถอนหายใจออกมากับทุกคำโต้ตอบของอีกคน เขาเดินกลับไปหยิบยาบนโต้ะก่อนจะยัดมันใส่ปากตัวเองแล้วสาวเท้าเข้าไปล็อกต้นคอของคนที่นั่งจ้องเขาตาเขม่น ก่อนจะประกบปากปิดกับอวัยวะเดียวกัน ลิ้นสากดุนยาเข้าไปด้านใน แคทนิสรัวกำปั้นเล็กใส่หน้าอกแกร่งของคนที่กำลังบดจูบเธออย่างรุนแรงเพื่อให้ปล่อย เขารวบจับข้อมือเล็กเอาไว้เพียงมือข้างเดียวของเขา สุดท้ายแคทนิสก็ยอมนิ่งให้เขาจูบอย่างไร้ความรู้สึก เขากัดทั้งริมฝีปากและใบลิ้นจนเธอรู้สึกแสบไปหมด เม็ดยาถูกดันลงคอไปตั้งแต่สองวินาทีแรก แต่มาเฟียหนุ่มก็ยังคงบดจูบอย่างเอาแต่ใจโดยไม่สนใจว่าอีกคนจะตอบสนองเขาหรือไม่