เชลยข้ามประเทศ

953 Words
ประเทศอิตาลี ณ เมืองปาแลร์โม “หึ ใจเด็ดดีนี่ มาฆ่าหัวหน้ามาเฟียแต่มาคนเดียว” เสียงทุ้มลึกฟังดูน่าเกรงขามเอ่ยพูดพร้อมกับกรีดปลายมีดไปตามลำคอระหงลงไปเนินอกเธอช้าๆ จนเลือดซิบออกมา หญิงสาวนักฆ่านั่งมองมาเฟียหนุ่มตาขวาง พร้อมกับสายตาท้าทาย ให้เขาฆ่าเธอซะ “กูถามอะไรก็ไม่ตอบ ถ้าเป็นผู้ชายกูยิงกบาลไปแล้ว” “แล้วรู้หรือยังว่าใครส่งมา” “ไอ้ครูซ แต่กูไม่คิดว่ามันจะกล้าส่งผู้หญิงตัวคนเดียวมาฆ่ากู” “ความแค้นส่วนตัวงั้นหรอ” “ไม่รู้ ถามอะไรก็ไม่บอก” “หึ อยากจะรู้ว่าจะอดทนได้สักแค่ไหน” “จะฆ่าก็ฆ่าอย่ามาลีลา น่ารำคาญ” น้ำเสียงอวดดีพูดขึ้นพร้อมกับจ้องคนตรงหน้าอย่างไม่เกรงกลัว “หึ พยศแบบนี้กูล่ะชอบ” มาเฟียหนุ่มบีบกรามนักฆ่าสาวแล้วหันไปบอกกับมาร์คัสผู้เป็นเพื่อนสนิท “กูจะพาไปจัดการต่อที่เกาะ เดี๋ยวกูจะซักให้ยันไส้เลย” “ไอ้โรคจิต” เธอเอ่ยแทรกขึ้นมาก่อนจะถ่มน้ำลายใส่ชายหนุ่มร่างสูงตรงหน้า “หึ ไปถึงโน่น ให้เก่งแบบนี้นะ” เขาชี้หน้าเธออย่างคาดโทษก่อนจะยกมือขึ้นปาดน้ำลายเธอออก “มึงจะเอาไปทำอะไรก็เอาไป ได้เรื่องยังไงส่งข่าวบอกกูด้วย ส่วนทางนี้เดี๋ยวกูจัดการเอง” “ไม่เกิน 3 เดือน” น้ำเสียงทุ้มตอบกลับเพื่อนสนิท “นานไปหรือเปล่า” “กูชอบทรมานเหยื่อก่อน รอได้ก็รอ” “เออ แล้วแต่มึง” เมื่อมาเฟียหนุ่มทั้งสองตกลงกันเรียบร้อย มาเฟียชาวสเปนก็ได้พานักฆ่าสาวไปขึ้นเครื่องบินส่วนตัวของตน แต่ขณะที่กำลังจะขึ้นเครื่องบินก็ได้เกิดการต่อสู้กันขึ้นมา หญิงสาวที่ถูกมัดเพียงมือสะบัดตัวออกจากการจับกุม เธอกระแทกร่างบอดีการ์ดหนุ่มเต็มความแรงจนเขาเสียหลัก ก่อนจะรีบดึงปืนที่เหน็บอยู่ข้างเอวชายคนนั้นออกมาด้วยความเร็วแล้วยกเท้าขึ้นถีบกลางอกของมือขวาที่จะกระโจนเข้ามาจับเธอ ปลายกระบอกปืนกวาดชี้ไปที่ทุกคนด้วยมือที่สั่นเทาเล็กน้อย เพราะร่างกายเธออ่อนล้า อิดโรย จากการอดอาหาร มาเฟียหนุ่มที่เดินขึ้นไปบนเครื่อง เมื่อได้ยินเสียงการต่อสู้จึงเดินกลับลงมาเงียบๆ ก่อนเขาจะเดินมาล็อกเข้าที่คอของเธอจากด้านหลังแล้วสะบัดปืนในมือเล็กนั้นทิ้ง “เก่งแม้กระทั่งวินาทีสุดท้ายจริงๆ” น้ำเสียงเรียบกระซิบข้างกกหูของนักฆ่าสาว จากนั้นก็ลากเธอขึ้นไปบนเครื่องบินด้วยตัวเขาเองเพื่อบินกลับไปยังเกาะส่วนตัว ตระกูลอูแบร์โตค่อนข้างมีอิทธิพลมากในประเทศนี้เพราะฉะนั้นเขาไม่จำเป็นต้องพาเธอไปรายงานตัวกับคนตรวจคนเข้าเมืองแต่อย่างใด เพียงเครื่องบิน ลงจอดบนเกาะส่วนตัวนักฆ่าสาวก็กลายเป็นเชลยข้ามประเทศในทันทีและไม่สามารถกลับไปที่อิตาลีได้อีก เพราะเธอไม่ได้ผ่านคนตรวจเมืองขาเข้า ทางเดียวที่เธอจะกลับไปได้คือต้องมีหนังสือเดินทางของประเทศนี้หรือเขาเท่านั้นที่จะพาเธอกลับไปได้ เมื่อมาเฟียหนุ่มพานักฆ่าสาวจากประเทศอิตาลีมาถึงถิ่นของตนเอง ก็ได้ให้คนไปรับแพทย์ในโรงพยาบาลประจำของตระกูลมาที่คฤหาสน์ “อย่ามาแตะต้องตัวฉัน” คนที่ถูกมัดมือพยายามต่อต้านการตรวจเช็กร่างกายจากแพทย์สูตินรีหญิง สองขาเรียวยาวพยายามถีบคนที่เข้ามาจับ บอดีการ์ดสาวเลยเรียกคู่หูเข้ามาอีกหนึ่งคนเพื่อจับขาเธอมัดไว้กับเตียง แต่หญิงนักฆ่าก็ยังคงดิ้นจนเตียงเคลื่อนไปมาทำให้แพทย์ตรวจเช็กอย่างยากลำบาก “ถ้าเธอไม่ยอมเราคงตรวจไม่ได้ค่ะ” “ฉีดยานอนหลับไป” “อ เอ่อจะดีหรือคะ” น้ำเสียงประหม่าถามขึ้น เมื่อเห็นสายตาของเบเนดิกที่มองมาอย่างเยือกเย็น จึงจำใจต้องทำตามคำสั่ง แพทย์สาวรีบหยิบเข็มฉีดยาขึ้นมาผสมตัวยาเข้ากับน้ำเกลือแล้วฉีดลงไปที่ข้อพับแขนของคนที่ดีดดิ้น จากนั้นไม่เกิน2นาที ดวงตากลมโตก็ค่อยๆ ปิดลง “ร่างกายเธอค่อนข้างอ่อนแอ หมอขอให้น้ำเกลือเธอได้หรือเปล่าคะ” “เชิญ” แพทย์หญิงรีบจัดการให้น้ำเกลือก่อนจะจับเรียวขายาวขึ้นวางบนที่ตั้งขาหยั่งโดยมีบอดีการ์ดหญิงคอยช่วยเหลืออยู่ข้างๆ “เส้นพรหมจรรย์ยังสมบูรณ์อยู่ค่ะ ไม่มีการฉีกขาด” มาเฟียหนุ่มที่ยืนกอดอกหันหลังอยู่ ยกยิ้มมุมปากอย่างพอใจ “การบีบรัดตอบสนองดี” “มดลูกอยู่ที่ตำแหน่งเหมาะสม ไม่ต่ำจนเกินไป ส่วนโรคติดต่อคงไม่ต้องตรวจแล้วนะคะ” “อืม” “เต้านมปกติทั้งสองข้าง ไม่มีซิลิโคนค่ะ” เมื่อตรวจเช็กทุกอย่างเรียบร้อยทั้งสองก็รีบช่วยกันใส่เสื้อผ้าให้หญิงสาวก่อนจะย้ายไปยังเตียงนอนอีกห้องหนึ่ง เพื่อรอให้น้ำเกลือหมดขวด มาเฟียหนุ่มตั้งใจจะเอาเธอไปขายในซ่องของเขาเพื่อทรมานเธอให้ตายทั้งเป็น แต่พอเห็นความพยศของเธอเขาจึงเปลี่ยนใจที่จะทรมานเธอด้วยตัวเขาเอง ขณะที่หญิงสาวนอนหมดสติจากฤทธ์ยาสลบ ชายหนุ่มจึงตัดสินใจออกไปทำธุระข้างนอก เพราะวันนี้เขามีงานประมูลพรหมจรรย์ครั้งใหญ่ที่ต้องไปต้อนรับนักธุรกิจคนใหญ่คนโตที่จะเข้าร่วมประมูลด้วยในครั้งนี้
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD