ท่านปู่

1211 Words
หลายวันต่อมา... “นี่พวกมึงยังไม่ไล่ผู้หญิงคนนั้นไปอีกเหรอ” วายุเจ้าของน้ำเสียงทรงพลังปรากฏกายขึ้นต่อหน้าบริวารทั้งสามหลังจากนั่งสมาธิมาเป็นเวลานานหลายสิบปี ร่างกำยำในชุดสูทสีดำมีกลิ่นอายความน่ากลัวแผ่โดยรอบ ถึงจะทำหน้าที่เป็นเจ้าที่มาพันกว่าปีแล้ว แต่รูปลักษณ์ของเขากลับอ่อนเยาว์ราวกับคนอายุสามสิบต้น ๆ ไม่บ่อยนักที่เขาจะออกมาปรากฏกายนอกศาลเจ้าที่หากไม่มีเหตุจำเป็น “ก็อย่างที่นัทบอกปู่ไปนั่นแหละ ผู้หญิงคนนั้นเขามีของดีทำให้พวกเราเข้าใกล้ไม่ได้ แถมยังมองไม่เห็นพวกเราตอนปรากฏตัวไปหลอกอีกด้วย” ณัชชาเอ่ยบอกวิญญาณอาวุโสกว่าด้วยน้ำเสียงหงุดหงิด หลายวันที่ผ่านมาใช่ว่าเธอไม่พยายามไล่ผู้อาศัยคนใหม่ออกไป แต่ไม่ว่าจะทำวิธีไหนเธอคนนั้นก็มองไม่เห็นณัชชาและคนอื่น ๆ แถมยังไม่เป็นเดือดเป็นร้อนอะไร ผู้อาศัยคนใหม่ยังคงใช้ชีวิตอย่างปกติสุขในบ้านเช่าหลังนี้ “เราลองให้เขาอยู่ต่อสักหน่อยดีไหมครับท่านปู่ ผมว่าผู้หญิงคนนั้นก็ไม่ได้สร้างความเดือดร้อนแล้วก็ไม่ได้ก่อความรำคาญให้พวกเรานะ” ศรุตที่เบื่อหน่ายการขับไล่ผู้อาศัยเอ่ยบอกดวงวิญญาณอาวุโสกว่า แต่ก็ต้องหลบสายตาเมื่อสบตาเข้าแววตาดุดันน่ากลัว “ท่านปู่จะลองไปเจอผู้หญิงคนนั้นสักหน่อยไหมครับ วิชาท่านปู่แก่กล้ากว่าพวกเรามากน่าจะไล่เธอออกไปได้ไม่ยาก” วรพลที่นั่งควักลูกตาตัวเองเล่นอยู่บนโซฟาในห้องนั่งเล่นของบ้านหันมาบอกดวงวิญญาณอาวุโส “พวกมึงไม่บำเพ็ญเพียรมากี่ภพกี่ชาติแล้ว ทำไมวิชาถึงอ่อนกำลังลง จนปรากฏกายให้คนเป็นเห็นไม่ได้” ดวงวิญญาณอาวุโสไม่ได้ตอบในสิ่งที่วรพลเสนอ แต่ตวัดสายตาดุ ๆ ใส่บริวารทั้งสาม เมื่อเขาเพ่งจิตหาผู้อาศัยคนใหม่เพื่อสำรวจของดีที่เธอมีติดตัวมา ก็พบว่ามีเพียงกำไลข้อมือ ที่ไม่ได้มีมนต์ขลังถึงขั้นปกป้องเธอจากวิญญาณลำดับสามอย่างบริวารของเขา ที่เป็นถึงผีบ้านผีเรือนได้ กำไลข้อมือที่เธอคนนั้นสวมใส่มีอิทธิฤทธิ์เพียงแค่ป้องปัดผีร้าย ที่เป็นดวงวิญญาณเร่ร่อนใกล้หมดอายุขัย และดวงวิญญาณของคนที่เพิ่งตายไปเท่านั้น “เอ่อ...” บริวารทั้งสามมองหน้ากันเลิ่กลั่กเมื่อถูกถามถึงการบำเพ็ญเพียรภาวนา เป็นที่รู้กันดีอยู่แล้วว่าพวกเขาทั้งสามไม่ชอบการบำเพ็ญเพียรสักเท่าไหร่ เพราะขี้เกียจนั่งหลับตาอยู่กับที่และภาวนาบทสวดซ้ำ ๆ ติดต่อกันเป็นเวลานาน “กูถาม!” น้ำเสียงทรงพลังตวาดบริวารทั้งสามพร้อมกับแววตาดุดันที่รอฟังคำตอบ ทำให้ดวงวิญญาณตำแหน่งน้อยกว่าสะดุ้งโหยงพร้อมกันด้วยความตกใจกลัว “ของผมตั้งแต่สิ้นอยุธยาครับ” ศรุตรีบตอบพร้อมกับก้มหน้าลง “ของนัทตั้งแต่... เอ่อตั้งแต่เริ่มสุโขทัยมั้งคะนัทจำไม่ได้” “ของผมก็พอ ๆ กับอีนัทครับ” ณัชชากับวรพลตอบก่อนจะหลุบตาลงมองมือสั่นเทาของตัวเองที่ประสานกันบนตัก ถึงพวกเขาจะเป็นบริวารของผีเจ้าที่ ที่มีอำนาจมากกว่าวิญญาณอื่นใดในภพนี้หากไม่นับเจ้าแห่งภพชาติ แต่พวกเขาก็จำเป็นต้องบำเพ็ญเพียรภาวนาเพื่อรักษาพลังวิญญาณของตัวเองให้แข็งแกร่งเข้าไว้ ไม่อย่างนั้นหากวันหนึ่งวันไหนที่วิญญาณของพวกเขาอ่อนกำลังลง หรือมีวิญญาณที่แก่กล้ากว่าสอบเข้ามาในตำแหน่งบริวารของเจ้าที่ได้ พวกเขาอาจถูกขับไล่ให้ไปเป็นวิญญาณเร่ร่อนหรือย้ายไปอยู่ตำแหน่งอื่นที่ลำดับต่ำกว่าเข้าสักวัน “นับตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป กูขอสั่งให้พวกมึงบำเพ็ญภาวนาอย่างไม่มีกำหนด สวดภาวนาสั่งสมพลังไปเรื่อย ๆ จนกว่ากูจะเป็นคนไปปลุกให้พวกมึงตื่น” น้ำเสียงทรงพลังของวิญญาณอาวุโสออกคำสั่งบริวาร ถึงวายุจะดุไปบ้างแต่บริวารทั้งสามนั้นรู้ดีว่าผู้อาวุโสเป็นห่วงพวกเขามากแค่ไหน “แล้วผู้หญิงคนนั้นล่ะคะ” ณัชชาเอ่ยถามเสียงเบาเมื่อบังเอิญเงยหน้าไปสบตากับแววตาดุดันของผู้อาวุโส “กูจะจัดการมันเอง” “ท่านปู่จะเอาชีวิตเขาเหรอครับ” ศรุตเอ่ยถามด้วยความตกใจ เพราะตั้งแต่ที่เขาเข้ามาเป็นบริวารของวายุ ไม่เคยมีเลยสักครั้งที่ท่านปู่ของเขาจะออกมาขับไล่ผู้อาศัยด้วยตัวเอง “มึงเห็นกูเป็นผีเจ้าคิดเจ้าแค้นหรือไง กูก็แค่ไล่มันออกไปแค่นั้น” “อ่อครับ” หลายชั่วโมงต่อมา... “ไอ้พล ไอ้รุต แกว่าเราควรบอกท่านปู่ดีไหม ว่าผู้หญิงคนนั้นชอบแก้ผ้านอนแล้วก็ชอบเปิดคอนเสิร์ตในห้องน้ำเวลาอาบน้ำ” ขณะที่ทั้งสามกำลังเริ่มทำสมาธิ เสียงแหลมเล็กของณัชชาก็โพล่งขึ้น ทำเอาสองหนุ่มที่กำลังจะเริ่มท่องบทสวดต้องลืมตาขึ้นมาด้วยความหงุดหงิด “เดี๋ยวท่านปู่เห็นก็รู้เองแหละ มึงจะชวนพวกกูคุยทำเชี่ยไรเนี่ย ต้องเริ่มนับหนึ่งใหม่อีกแล้วแม่ง” วรพลชักสีหน้าใส่ณัชชาเมื่อถูกทำลายสมาธิ “แก้ผ้านอนไม่พอยังชอบแก้ผ้าเดินไปเดินมาในห้องนอนอีก ดีที่ไม่เปิดหนังโป๊ดูเหมือนผู้อาศัยบ้านหลังข้าง ๆ ด้วยมั้ง ท่านปู่เห็นต้องอกแตกตายแน่” ณัชชายังคุยจ้อไม่หยุด ทำเอาสองหนุ่มที่กำลังจะเริ่มท่องบทสวดใหม่อีกครั้งต้องถอนหายใจออกมาพรืดใหญ่ด้วยความรำคาญ “ท่านปู่อยู่มาพันกว่าปีเกือบสองพันปีด้วยซ้ำ เห็นแค่นั้นไม่อกแตกตายหรอก มึงจะอะไรนักหนา” เป็นศรุตที่เอ่ยขึ้น “แต่ท่านปู่หัวโบราณจะตาย พวกแกอย่าลืมสิท่านปู่ของพวกเรายังเป็นหนุ่มใหญ่ที่ยังซิงอยู่นะ เห็นผู้หญิงแก้ผ้าแบบนั้นได้ผวาจนคาถาเสื่อมแน่” ณัชชายังไม่วายพูดต่อ “งั้นมึงก็ภาวนาขอให้ท่านปู่โดนผู้หญิงคนนั้นเปิดซิงซะสิ ท่านปู่จะได้เปิดโลกใหม่สักที วันก่อนเห็นผู้หญิงคนนั้นบ่นว่าจะหักคอผีอย่างพวกเราอยู่เลย ไม่แน่คืนนี้ท่านปู่อาจโดนเปิดซิงก็ได้” ศรุตที่ทนฟังต่อไปไม่ได้พูดประชดขึ้นด้วยน้ำเสียงหงุดหงิด ก่อนจะลอยออกไปทำสมาธิที่ห้องอื่น “มึงว่าถ้าเป็นเหมือนที่ไอ้รุตว่าจริง ๆ ท่านปู่จะทำยังไงวะนัท” วรพลหันไปถามณัชชาด้วยน้ำเสียงติดตลกก่อนที่ทั้งสองจะหัวเราะคิกคักชอบใจกัน แต่ก็ต้องรีบหลับตาลงเพราะเสียงทรงพลังของใครบางคนดังขึ้น
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD