ไม่รู้สึกว่าเบสจะกลับมานอนที่ห้องในคืนนี้เลย จนตอนที่ตัวเองรู้สึกตัวตื่นแล้วพบว่ามีคนนอนกอด แล้วฉันก็ซุกอกเปลือยๆ ของเขาอยู่ด้วย รีบขยับตัวออกแต่เขาก็ดื้อคว้าตัวฉันไว้
“ฮื่อ” ทำเสียงเหมือนรำคาญ แล้วก็ทั้งกอดทั้งก่ายแถมยังเอาหน้ามาดมหัวฉันอีก...บ้าจริงๆ
“เบส ปล่อย” ไม่สนหรอกว่าเขาจะง่วงจะเมาค้างอะไร พยายามมุดหน้าจากอกเขา ดันอกเขาออก อีกฝ่ายหยีหน้าหยีตา ลืมตามองฉันข้างเดียว
“อะไร จะนอน”
“ก็ปล่อยสิ ฉันจะไปเรียน”
“โว้ย” คราวนี้เขาลืมตาทั้งสองข้าง แต่ยังหรี่ตามองฉันด้วยสภาพที่ยังไม่ตื่นดีนัก หน้าบูดๆ ปากยู่มองฉันแบบเด็กที่ถูกขัดใจ
“เธอมานอนเตียงฉันได้ยังไง” เขาขยับตัวออก แต่ยังกอดฉันไว้หลวมๆ ฉันไม่อยากคุยอะไรยืดยาวเลยจะลุก แต่อีกฝ่ายกลับกอดแน่น
“จะรีบไปไหน แอบย่องมานอนกอดฉันแล้วจะมาหน้าบูดลงจากเตียงเหมือนฉันเป็นฝ่ายผิดไม่ได้นะแมงมุม ฉันบอกเธอแล้วไงว่าห้ามแตะเนื้อต้องตัว เธอมันลักไก่อาศัยจังหวะฉันเมา”
ฉันอึ้งเหมือนกับกับการพูดเป็นตุเป็นตะได้ยืดยาวของเขา จนอดจะเอามือเคาะหน้าผากดึงสติอย่างหมั่นไส้ไม่ได้
“โอ๊ย อะไรนี่ ฉันรู้ทันหน่อยก็ถึงกับลงไม้ลงมือ” มาทำโอดโอยเกินเรื่อง ฉันจิ้มเบาๆ เอง แล้วก็ประสานมือล็อกตัวฉันไว้อีก ลอยหน้าลอยตาเหมือนจะเอาคืน
“เบส เมื่อคืนแกนอนโซฟาข้างนอก ฉันเลยต้องมานอนห้องแก แล้วแกเข้ามานอนห้องตอนไหนไม่รู้เนี่ย จะมาบอกว่าฉันเป็นฝ่ายผิดไม่ได้ไหม”
เขาขมวดคิ้ว ทำท่านึก แล้วก็ทำเป็นกะพริบตาปริบๆ เหมือนจะเขินหน่อยๆ
“อืม ตื่นเพราะเสียงนาฬิกาปลุกเธอ เดินเข้าห้องแล้วก็หัวทิ่มอีกรอบ”
กำลังนึกภาพตามแต่ก็ต้องตกใจ รีบจะลุกจากเตียงแต่เขาก็เหมือนจะตกใจด้วย กอดฉันแน่นไม่ให้ลุก
“เบส ปล่อยก่อน นี่กี่โมงแล้ว” ฉันน่าจะตั้งนาฬิกาปลุกที่หกโมงเช้า แล้ววันนี้มีเรียนตอนแปดโมงตรง ไม่ต้องรอให้เขาตอบ สายตาก็เลื่อนไปมองนาฬิกาบนผนัง....สิบโมง
“สิบโมง” เขาตอบหลังจากที่ก็เพิ่งมองไปยังจุดเดียวกัน มองฉันด้วยใบหน้าเหลอหลา ขณะที่ฉันมีแต่ความหงุดหงิดที่ไม่รู้จะบ่นจะด่าเบสยังไง...จะว่าความผิดเขาเต็มๆ มันก็ไม่ใช่
“เบสแกทำฉันตื่นไปเรียนไม่ทัน” แต่ก็อดไม่ได้จริงๆ คนถูกว่าไม่ได้มีท่าทีโมโหอย่างที่เขา
“ฉันยังไม่ได้ทำอะไรเลย” เขามองฉันตาปริบๆ ในแววตาดูมีอะไรแบบที่ฉันนึกไม่ออก
“ฉันมั่นใจว่าไม่ได้ทำอะไรเธอจนตื่นสายนะแมงมุม...หรือทำ” แล้วก็เลิกผ้าห่มออกโชว์แผ่นอกขาวจั๊วะ ก้มต่ำแบบที่ฉันต้องก้มตามจนไปหยุดที่เป้ากางเกงบ็อกซ์เซอร์ตัวบางๆ ที่เห็นอะไรๆ ชี้โด่
เราเลื่อนสายตามาสบตากันแบบที่เบสดูจะเขินๆ ส่วนฉันเอาความหงุดหงิดรำคาญเข้าข่ม
“มันแค่แข็งตอนเช้าตามปกติน่ะแมงมุม แต่ไม่ได้ทำอะไรจริงๆ”
ฉันเอามือปิดหูตอนนี้ทันไหมเนี่ย
“ฉันไม่ได้หมายถึงเรื่องนั้น” ฮื่อ เมื่อไหร่จะคุยกับเบสรู้เรื่องเนี่ย
“อ้าว เหรอ ก็เธอบอกว่าฉันทำเธอตื่นสาย ก็นึกว่าเมื่อคืนจะเมาจนทำอะไรเธอ...แบบหนักหน่วงจนลุกไปเรียนไม่ได้”
“พอๆ หยุดพูด แกไม่ได้ทำอะไรหรอกน่า พูดเองไม่ใช่เหรอว่าไม่ให้ฉันแตะแม้แต่ปลายเล็บ ขาอ่อนก็ไม่ให้เห็นนะ ตอนนี้ฉันเห็นยิ่งกว่าขาอ่อนแล้วมั้ง”
ฉันบ่นยาวด้วยความหงุดหงิดและหมั่นไส้ คนถูกบ่นเอาแต่ยิ้มกรุ้มกริ่มให้น่าโมโหเข้าไปอีก แล้วก็ทำเนียนไม่เถียงด้วย
“สรุปว่าไปเรียนตอนเช้าไม่ทันแล้วใช่ไหม”
ฉันไม่ตอบคำถาม มองแรงๆ ไปทีหนึ่ง ไม่รู้ตอนนี้ตัวเองจะหน้างอไปถึงไหน
“ว่าแต่ทำไมตื่นสายล่ะ ปกติเธอไม่เคยสายนี่ ไม่สบายหรือเปล่า” เงียบไปชั่วอึดใจเขาก็เอ่ยคำถามที่ทำให้ต้องเงยหน้ามองอีกครั้ง เพื่อพบสายตาที่ดูสงสัยและเป็นกังวล...จู่ๆ ก็มาถามมามองด้วยความเป็นห่วง
ไหนใครบอกไม่ชอบ ไหนใครบอกไม่สน เท่าๆ ที่ดูมาตัวเองเป็นฝ่ายวอแวเขาเองนะ