แค่เขาจะมีแฟนฉันก็กลายเป็นหมาแมว

977 Words
มันเป็นช่วงมอห้าเทอมสองที่แม่ของเราสองคนอยากให้โฟกัสการเรียนมากขึ้น เพราะปีหน้าก็ต้องสอบเข้ามหาวิทยาลัยแล้ว และวันนี้เราสองคนมีเรียนพิเศษด้วยกัน เราก็เรียนด้วยกันมาตลอดตั้งแต่เด็กๆ นั่นแหละ ไม่ว่าจะเป็นที่โรงเรียน หรือการเรียนข้างนอก ทั้งเนื้อหาวิชาการและกิจกรรมอื่นๆ ไปคู่กันตลอด แต่พอเริ่มขึ้นมอสามเบสเขาก็ไม่ค่อยอยากเรียน เรียกว่าเละเทะเลยละ ยิ่งตอนมอสี่ต้องติดศูนย์หรือ ร.ทุกเทอม เรียนพิเศษก็ไม่เอา น้าบัวก็ขอให้ฉันช่วยดูเขาด้วย มันเลยกลายเป็นว่าเราสองคนมีเรื่องให้ทะเลาะกันง้องแง้งมาเรื่อยๆ อย่างวันนี้ อีกสิบนาทีเราควรออกจากโรงเรียนไปสถาบันกวดวิชาแล้ว แต่เบสกับแก๊งเพื่อนเขายังเล่นกีตาร์ร้องเพลงให้น้องมอสามฟังอยู่เลย ฉันเดินเข้าไปหา เอามือคล้องแขนเบส แบบที่ทำให้ทั้งเขากับแก๊งเพื่อนและน้องมอสามกลุ่มนั้นอึ้งไปตามๆ กัน “ถึงเวลาต้องไปแล้ว ป่ะ” อาศัยจังหวะที่เบสยังอึ้งๆ นั่นและดึงให้เขาลุกขึ้นมาได้ เบสก็น่าจะมึนๆ เบลอๆ หรือยังไม่อยากโวยวายในตอนนั้น แต่พอเดินผ่านมาสองอาคารเรียนเขาก็สะบัดแขนออกจากฉัน “ทำบ้าอะไรของเธอเนี่ยแมงมุม” “ทำบ้าอะไรล่ะ อีกสิบนาทีอาจารย์ก็สอนแล้ว” สถาบันกวดวิชาอยู่ที่ห้างสรรพสินค้าตรงข้ามโรงเรียนนี่เอง เราแค่เดินขึ้นสะพานข้ามไป ใช้เวลาเดินเล่นสักห้านาที “ฉันบอกเธอว่าจะไปเรียนเหรอ” “จำเป็นต้องรอให้แกบอกด้วยเหรอ ถึงเวลาเรียนก็ต้องไป” “วุ่นวาย” เป็นคำบ่นที่ได้ยินจนชินแล้ว “จุ้นจ้าน ยุ่งไม่เข้าเรื่อง รำคาญ มีอะไรจะบ่นอีกไหม” ก็เลยต่อให้เสียเลย “เธอนี่มัน” เขาพูดได้แค่นั้น...ไม่คิดว่าคนปากจัดแบบเบสจะช็อตได้จริงๆ “เอาน่า เดินมาถึงนี่แล้ว ไปเรียน” เกาะแขนเขาอีกที ลากขึ้นบันได ทำเป็นไม่มองว่าเขาจะทำหน้ายุ่งแค่ไหน ซึ่งเบสก็ทำให้ฉันเหนื่อยหอบเอาเรื่องเหมือนกันกว่าจะลากเขาไปได้ เขาขัดขืนแบบตั้งใจเดินช้าให้ต้องลากอะ วันนี้ภารกิจพาเบสมานั่งเรียนพิเศษวิชาฟิสิกส์สำเร็จ แม้ว่าเขาจะนั่งหน้าบูดเป็นตูดลิงตลอดชั่วโมงครึ่ง แล้วก็ตึงใส่ฉันมาจนถึงตอนที่เราเดินออกมาจากห้อง คราวนี้ขายาวๆ ของเขาก้าวเร็วมาก ให้ฉันต้องกึ่งเดินกึ่งวิ่งเพื่อรักษาระยะห่างไม่ให้เขาทิ้งฉันได้ จนมาคว้าแขนเขาเอาไว้ได้ตอนที่ลงบันไดเลื่อนมาถึงชั้นหนึ่ง “รอด้วยสิ” “ไม่ กลับบ้านเองเลย” ตอนนี้ฉันมานอนบ้านเขา ตั้งแต่ที่แม่ไม่ค่อยสบายน้าบัวก็ให้เราสองแม่ลูกมานอนพักที่บ้าน ซึ่งตอนนี้แม่ฉันก็ แอดมิทอีกรอบเกือบสัปดาห์แล้ว “น้าบัวบอกไม่ใช่เหรอว่าให้กลับพร้อมกัน ไม่ให้ฉันนั่งรถกลับคนเดียว” ช่วงนี้เราเรียกรถกลับบ้านเอง เพราะแม่ๆ ของเราไม่ว่างมารับ ไม่อยากรบกวนรถที่บ้านพ่อเขาด้วย “ไม่ วันนี้เธอทำฉันมีปัญหากับน้องพรีมแล้วแมงมุม เขาเข้าใจผิดไปหมดแล้วว่าเธอกับฉันเป็นอะไรกัน น้องเขากลัวเธอจนขอเลิกคุยกับฉันแล้วเนี่ย” “ฉันยังไม่ทำอะไรเลย ไม่ได้พูดอะไรกับน้องเขาด้วยซ้ำแกก็เห็น ไม่ใช่เขาหาข้ออ้างไม่อยากคุยกับแกเหรอเบส” พอฉันประชดไปแบบนั้นเบสที่ทำเมินฉันมาตลอดก็หันมามองหน้าอย่างจะกินเลือดกินเนื้อ “เธอตั้งใจทำให้น้องเขาเข้าใจแบบนั้นต่างหากแมงมุม กี่คนแล้วที่เธอทำแบบนี้ ถามหน่อยเหอะ มีปัญหากับผู้หญิงของฉันอะไรขนาดนั้น” ทำไมรู้สึกว่าคำถามนี้มันจี๊ดในอกแปลกๆ ไม่รู้สิ “ฉันไม่เคยมีปัญหาอะไรกับสาวๆ ของแกเลยเบส ฉันเคยไปด่าไปตบไปตีกับใครที่ไหนหรือเปล่า” พอฉันย้อนไปแบบนั้นคิ้มเข้าก็ยิ่งขมวดเข้าไปใหญ่ เบสทำเสียงในลำคอเหมือนจะเหลืออดแล้ว “แต่แกชอบมาวุ่นวาย จนคนอื่นเขาคิดว่าแกเป็นอะไรกับฉัน” “แกอธิบายได้นี่เบส ถ้าเขาจะชอบแกจริงๆ เขาน่าจะฟังนะ” “ไม่มีใครชอบให้ผู้หญิงคนอื่นมาวุ่นวายกับผู้ชายที่กำลังคุยอยู่หรอกนะแมงมุม ถึงฉันจะบอกว่าเธอเป็นหมาเป็นแมวเขาก็ต้องหงุดหงิดต้องรำคาญอยู่ดีไหม” นั่นปากเหรอ ฉันเริ่มจะมีอารมณ์ขึ้นมาบ้างแล้วเหมือนกัน แต่ดูเหมือนว่าจะโมโหไม่ทันเขา “เลิกวุ่นวายกับฉันเสียที เลิกอ้างนู่นอ้างนี่ ชีวิตฉัน ฉันจัดการได้ ไม่จำเป็นต้องให้คนอื่นมาลากไปนู่นไปนี่” ทำไมรู้สึกเจ็บจัง... แค่เขาอยากมีแฟน ฉันก็กลายเป็นคนอื่น เป็นหมูเป็นหมาไปแล้ว ฉันจ้องหน้าแบบสู้ตา แต่ในหัวว่างเปล่า คิดหาคำเถียงอะไรไม่ได้เลยในวินาทีนั้น มีแต่ความรู้สึกที่จุกในอกจนพูดอะไรไม่ออก และฉันคงจะไม่ไหวแน่ๆ ถ้าเสียงเตือนมือถือของเขาไม่ช่วยชีวิตเอาไว้ก่อน เบส แกปากร้ายขนาดนี้มาตั้งแต่มัธยมเลยเหรอ หวังว่าจะไม่ปากหมาไปกว่านี้แล้วนะ ทุกคนคะ ตอนนี้กำลังเร่งปิดต้นฉบับอยู่นะคะ E-book คาดว่าน่าจะมาประมาณวันจันทร์ที่ 28 นี้ค่ะ
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD