เมื่อความซวยมาเยือน

942 Words
สวรรค์ของคนทำงานออฟฟิศคือเวลาใกล้เลิกงานเตรียมตัวกลับบ้าน แต่นรกของคนเตรียมเลิกงานก็คือ... “พี่รจคะ” หญิงสาวร่างเพรียวระหงชะงักเท้าที่ยังไม่ทันก้าวเหยียบเข้าออฟฟิศที่ติดป้ายฝ่ายประชาสัมพันธ์ค้าง ตาขวาเริ่มกระตุกรัวๆ “คะน้องปลา มีอะไรหรือเปล่าเอ่ย” รจนาหันไปฉีกยิ้มหวานให้เด็กฝึกงานสาวน้อยวัยใส แต่ใจนี่สิถึงขั้นสวดภาวนา อย่าเชียวนะ อย่ามางานเข้าตอนใกล้เลิกงานแบบนี้ โดยเฉพาะวันนี้ที่คนยิ่งรีบๆ อยู่ จะรีบไปเซอร์ไพร์ซฉลองวันเกิดแฟนเสียด้วย วันอื่นได้ไหม อย่ามาวันนี้! “มีค่ะ” คนฟังทำหน้าเมื่อย แอบกระแทกลมหายใจหนักหน่วง นั่นไง ซื้อหวยทำไมไม่ถูกแบบนี้บ้างวะ “เมื่อกี้คุณอ้อยเลขาบอสโทรมาค่ะ บอกว่าถ้าพี่กลับมาแล้วให้รีบไปพบบอสที่ออฟฟิศด่วนเลยค่ะ” “ด่วนเหรอ มีอะไรหรือเปล่า...” คำถามนั้นหยุดค้าง เมื่อดวงตาสวยคมที่ถูกเจ้าตัวกรีดจนดูโฉบเฉี่ยวทันสมัยสมเป็นพีอาร์สาวสวยมือหนึ่งประจำแผนกปรายมองไปทางโต๊ะทำงานที่ติดป้าย ‘ผู้ช่วยฝ่ายประชาสัมพันธ์อาวุโส’ ซึ่งตอนนี้ว่างเปล่าพร้อมกับลางสังหรณ์ที่รุนแรง “แล้วนี่พี่ดาต้าล่ะ ยังไม่กลับมาจากไปเยี่ยมสื่ออีกหรือ” “อ๋อ...กลับมาพักใหญ่แล้วค่ะ ตอนนี้อยู่ที่ออฟฟิศบอส น่าจะกำลังคุยงานสำคัญนะคะ เห็นหายไปตั้งนานเป็นชั่วโมงแล้ว” “หืม?” คิ้วงามเลิกขึ้น ปกติถึงเวลาเลิกงาน ยัยนั่นก็เก็บกระเป๋าพร้อมเด้งก่อนเวลาเสียอีก แต่วันนี้เลิกงานช้าได้เนี่ยนะ หรือยัยนั่นกำลังหาเหามาใส่หัวฉันหาเรื่องเลื่อยขาเก้าอี้กันอีกแล้ววะ สู้ในงานรจนาไม่เคยกลัวใคร แต่ถ้ามาเล่นนอกเกมส์นี่ไม่ไหว ขอบอกว่าเพลียใจมากแม่ แค่วันนี้ที่ต้องวิ่งรอกตามแก้งานทั้งที่ไม่ใช่ความผิดพลาดของตัวเองจนหัวฟูก็น่าโมโหแล้ว ยังไม่ทันได้ชำระความ กลับมาแทนที่จะเจอเจ้าของงานที่ควรอยู่รับหน้าและขอโทษอย่างสำนึกผิด แต่ก็เปล่า ยัยนั่นยังมีหน้าเฉิดฉายตามนายออกไปมอบกระเช้าดอกไม้ในงานครบรอบวันเกิดของทีวีช่องหนึ่งอีกอย่างไม่สะทกสะท้าน ทั้งที่ควรเป็นงานที่เธอต้องไปต่างหากเพราะซีเนียร์กว่า คิดแล้วก็คันปากอยากด่า! เรื่องเอาหน้าขอให้บอก แต่เรื่องงานกลับไม่ได้เรื่อง แต่งตัวสวยไปวันๆ แต่งานที่ต้องรับผิดชอบกลับผิดบาน กระทั่งภาษาไทยที่ต้องใช้เขียนข่าวง่ายๆ ที่เด็กฝึกงานยังทำได้ แต่เจ้าหล่อนยังอุตส่าห์พิมพ์ผิดวินาศสันตะโรให้เธอต้องตามแก้อยู่บ่อยๆ โดยอ้างว่าตัวเองไปเรียนเมืองนอกมานาน ทำให้ทักษะภาษาง่อย แต่ขอโทษเถอะ ภาษาอังกฤษยังกากอีกนี่สิ จะให้คิดยังไงวะ สรุปไปเรียนเมืองนอกหรือนอกเมืองกันแน่ก็อยากจะถาม ครั้นจะไม่ทำก็ไม่ได้เพราะเป็นผลงานของแผนก ยิ่งตอนนี้เป็นช่วงประเมินผลประจำปี ที่ปีนี้รจนาคาดหวังสูง อย่างน้อยต้องได้โบนัสไม่ต่ำกว่า 10 ไม่สิ 5 เดือนก็ได้ ในยุคข้าวยากหมากแพงค่าแรงแสนถูกแบบนี้ โบนัส 5 เดือนก็หรูหราหมาเห่าแล้ว ไหนจะตำแหน่งผู้จัดการฝ่ายประชาสัมพันธ์ที่ใฝ่ฝันมานานอีกล่ะ ตั้งแต่พี่ตาลผู้จัดการแผนกฯ คนเก่าลาออกไปแต่งงานมีผัว และมีหยอดคำหวานทิ้งท้ายขายฝันว่าเธอในฐานะเด็กปั้นผู้มีคุณสมบัติที่เพียบพร้อมสามารถขึ้นเป็นหัวหน้าแผนกคนต่อไปอย่างไม่มีใครเทียบเทียมอีกล่ะ แต่แล้วทุกอย่างก็ต้องมาผิดแผนไปหมดเพราะโดนมารผจญที่มาในชื่อของเด็กเส้นที่ผู้ใหญ่ฝากมาเสียก่อน... ‘นี่คือคุณดาริกา หรือดาต้า ต่อไปจะมาทำงานกับบริษัทเราในตำแหน่งผู้ช่วยพีอาร์อาวุโสนะครับ เธอเพิ่งกลับจากเมืองนอก ยังไงผมฝากคุณรจช่วยดูแลด้วยนะครับ’ นั่นถือว่าไว้หน้าคนเก่าแก่อย่างเธอที่กำลังคั่วตำแหน่งหัวหน้าแผนก จีเอ็มคนใหม่ที่เพิ่งมาแทนคนเก่าได้ไม่ถึงปีถึงกับพามาแนะนำด้วยตัวเอง แปลว่าย่อมไม่ธรรมดา แล้วยัยนั่นก็ไม่ธรรมดาจริงๆ เพราะเธอได้ยินข่าววงในมาว่าดาริกาเป็นถึงหลานสาวเพื่อนเมียของเมียเจ้าของบริษัท แม่งเอ๊ย! แค่ให้ลำดับญาติก็งงแล้ว เอาเป็นว่ายัยนี่เส้นใหญ่พอดู แต่การจะเป็นเด็กเส้นเด็กฝากอะไรเธอไม่สนหรอกหากมีฝีมือทำงานเก่งจริง ไม่ใช่เอะอะโบ้ยงานตลอด มาสาย ชอบเลียขานาย แถมกลับบ้านไว ความผิดไม่รับรับแต่ความชอบ ไม่นับขี้ฟ้องบรรลัยทุกสิ่งอีก แค่คิดก็ไมเกรนจะขึ้นแล้ว มาทำงานไม่กี่เดือน ทำผมเธอหงอกไปหลายเส้นแล้วเนี่ย ขืนร่วมงานกันไปซักปีสองปี เธอคงกลายเป็นนางพญาผมขาวแน่ แต่ที่รจนาจำต้องทนก็เพื่อสิ่งที่หวัง งานสมัยนี้ก็ใช่จะหากันง่ายๆ เสียด้วย บริษัทนี้เธออยู่ตั้งแต่ฝึกงาน ค่อยๆ ไต่เต้าพัฒนาฝีมือจนถึงวันนี้กับตำแหน่งรองผู้จัดการฝ่ายประชาสัมพันธ์ อีกก้าวเดียว ก้าวเดียวเท่านั้น เธอจะยอมให้พังเพียงเพราะเพื่อนร่วมงานกากๆ คนเดียวไม่ได้ ไม่มีทาง! ไม่มีทางแน่นอน แต่...
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD