ตอน 5

829 Words
“จริงๆ เราตั้งใจคว้าติน แต่เหมือนว่าเขาจะงานเยอะเกินไป แต่ไม่เป็นไร ตินเขาตกลงมางานแต่งเราแล้วใช่ไหมคะ” “แคร่ก” ฉันสำลักน้ำขึ้นมาทันที เลยเป็นเป้าสายตาของเพื่อนๆ ฉันไม่ได้ตกใจที่พี่นัทจะแต่งงาน แต่ฉันตกใจที่ตินจะไปงานแต่งสองคนนี้ตั้งหาก “แกไปบอกติน ว่าห้ามไปงานนี้” “จูนตกใจเหรอ” เธอชื่ออบเชย (ชื่อเก่า) ส่วนชื่อใหม่เธอชื่อ เชอร์ เธอคบกับพี่นัทเพราะพี่นัทเป็นประธานบริษัท S CREAM และเธอก็เป็นเพื่อนรักหักเหลี่ยมโหด เพื่อนที่แทงข้างหลังทะลุถึงหัวใจ เพื่อนที่จัดอยู่ในหมวด ที่เคยสนิท แต่ตอนนี้ไม่สนิท “เราเชิญจูนกับสาด้วยนะ” การ์ดแต่งงานถูกยื่นมาตรงหน้าพวกเรา ฉันมองการ์ดนั้นอย่างเฉยๆ ฉันไม่ได้รู้สึกอะไรกับพี่นัทแล้ว เพราะเรื่องราวมันก็ผ่านมาสักพัก “มาให้ได้ล่ะ” “ตั้งใจชัดๆ” สาบ่น “ว่าแต่...จูนยังไม่มีใครเหรอ” เธอนี่ร้ายเหมือนเก่าไม่มีผิด การหักหน้าเพื่อนต่อหน้าเพื่อนทุกคนมันเป็นงานถนัดของเธอสินะ ฉันก็ได้แต่ยิ้มเบาๆ “ยังสนุกกับชีวิตทำงานนะ” “พี่คิดว่าจูน แต่งงานไปแล้วเสียอีก” สองคนนี้ศีลเสมอกันจริงๆ ฉันรู้สึกเป็นความโชคดีของตัวเองที่หลุดพ้นออกมาได้ “ยังค่ะ ยินดีกับพี่นัทด้วยนะคะ” ฉันลุกขึ้นยืน เพราะสถานที่น่าอึดอัดแบบนี้ไม่สมควรอยู่ต่อ ที่นี่มันบรรยากาศน่าขนลุก ที่คนดีแบบฉันไม่ควรมานั่ง “จะกลับแล้วเหรอ ฉันได้ข่าวว่า D CREAM กำลังจะเจ๊งเพราะยังหาพรีเซนเตอร์ไม่ได้” ฉันหันมายิ้มสวยๆ เมื่อคำพูดอันหยาบโลดของผู้หญิงคนนั้นจบลง “เธอนี่...รู้ดียิ่งกว่าคนในบริษัทฉันอีก แต่เธอยังไม่รู้ใช่ไหม” ฉันพูดอย่างนิ่มๆ และสีหน้าเรียบเฉย ตอนแรกตั้งใจว่าจะไม่เอาตินมาเกี่ยวข้องกับฉันในที่ทำงาน แต่เพราะฉันโดน ยัยเชอร์ (อบเชย) หยามฉันมากเกินไป และเธอก็ลงทุนเดินทางมาไกลเพื่อมาเจอฉันโดยเฉพาะ มันคือการจัดฉากเหมือนทุกครั้งที่เธอตั้งใจทำ มันเป็นสิ่งที่เธอถนัด ฉันเลยโพล่งปากพูดขึ้นมา “ตินยอมตกลงเป็นพรีเซนเตอร์ให้บริษัทฉัน เรื่องนี้เธอรู้หรือยัง” ใบหน้าหยุดยิ้มและดูอึ้งเล็กน้อย ฉันยังเป็นคนเดิม ที่เคยชนะเธอเสมอมานั่นแหละ รวมถึงครั้งนี้ด้วย “เจอกันที่งานแต่งนะ ขอตัว” ฉันนี้ฉันสไตล์แฟนเก่า ที่โดนทิ้งจนมั่นใจกว่าแต่ก่อน ตินเป็นดาราที่จับต้องได้ยาก หลายคนมักต้องการเขา แต่ตินมักจะปฏิเสธงานที่เขาไม่ต้องการ เรียกง่ายๆ หมอนี้รับงานตามอารมณ์ “กรี๊ดด ยัยจูน~” สาแทบจะกรี๊ดลั่น ฉันเข้าใจความรู้สึกเพื่อน งานครั้งนี้เหมือนเป็นตัวชี้วัดชะตาเราเหมือนกัน แต่มีสิ่งหนึ่งที่ฉันค่อนข้างกังวล “ฉันจะบอกสามีฉันยังไงดี~” พอมาถึงแผนกทุกคนก็เฮลั่น เพราะยัยสาเพื่อนตัวดี ดันปากสว่าง และปากไวมาบอกทุกคนก่อนที่ฉันจะถามตินว่าเขายอมตกลงไหม งานหนักเลยมาตกที่ฉันตาเพียงผู้เดียว “พี่สาสุดยอดมากครับ” หนุ่ยน้องที่แผนกยกนิ้ว ยัยสาเลยเดินมาควงแขนฉัน “งานนี้ไม่ใช่พี่จ้ะ ต้องยกความดีให้คนนี้ ที่ไปเจรจามาได้” “จูนชวนเหรอ” พี่บาสค่อนข้างแปลกใจ และหลายคนก็แปลกใจ เพราะตอนแรกฉันปฏิเสธเสียงแข็งเรื่องที่จะเอาเขามาเป็นพรีเซนเตอร์งานเรา “พอดีจูน พอจะรู้จักผู้จัดการคุณตินนะคะ เลยขอร้องเขานิดหน่อย” “เยี่ยมมาก พี่เพิ่มโบนัสให้ทุกคนเลย” ทุกคนดีใจ แต่ฉัน...แทบจะกุมขมับไม่น่าหาเรื่องให้ตัวเองเลยจริงๆ “วันนี้ฉันไปส่งที่บ้านนะ เพื่อนรัก” ยัยสาอาสามาส่งที่บ้าน ฉันยังคงทำหน้าเครียดและถอนหายใจตลอดทาง เส้นทางที่คุ้นชิน แต่วันนี่ฉันไม่อยากกลับบ้าน ฉันจะเริ่มต้นพูดกับตินยังไง เขาจะยอมตกลงไหมนะ คำถามต่างๆ ที่ผุดขึ้นมา “อย่าเครียดเลยน่า แกเป็นเมียเขานะ เขาคงไม่ใจร้ายขนาดนั้นหรอก” “เมียในนามหรือเปล่า” “ฉันมีเรื่องสงสัย...” สาเงียบไปสักพักก่อนจะถามต่อ “ได้กันยัง” ฉันไม่ได้ตอบ แต่ก็คิดว่าเพื่อนน่าจะรู้คำตอบ เพราะท่าทางฉันบอกเธอหมดแล้ว “ยังเหรอ! แกปล่อยให้ผู้ชายหล่อแบบนั้นปลอดภัยได้ยังไง” “ก็เราไม่ได้นอนด้วยกัน” “ห้ะ! คุณปู่ไม่สงสัยเหรอ” “เขาขอฉันมาตลอด แต่ฉันปฏิเสธ” “ยัยจูน!”
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD