บทนำ

1720 Words
ในห้องที่เต็มไปด้วยความอึดอัด ร่างเล็กจ้องเพื่อนผ่านแว่นตาหนา เธอได้แต่อึกอัก ทำตัวไม่ถูก ส่วนเพื่อนชายก็มองเธอรอลุ้นตาม แต่ไม่ได้กดดัน เขายังคงใจเย็นและรอคอย ในที่สุด... "ฉันว่าฉันชอบปลื้ม..." พูดจบเธอก็หน้าแดงระเรื่อด้วยความเขินมือไม้พันกันไม่รู้จะวางไว้ตรงไหน ธาวินที่นั่งฟังเพื่อนมาสารภาพเพื่อนอีกคนนึงพอเห็นอาการก็แอบยิ้มแต่ไม่แม้แต่แสดงอาการตกใจด้วยซ้ำ ก็รู้ตั้งนานแล้ว เขาแค่พยักหน้าแล้วถามกลับ "แล้วไอ้ปลื้มมันรู้ยัง?" ผักกาดส่ายหน้าช้า ๆ "ไม่รู้หรอก แล้วฉันก็ไม่คิดจะบอกด้วย" จากนั้นเธอเล่าทุกอย่างให้ธาวินฟัง ระบายความอัดอั้นทั้งหมดที่เธอเก็บเอาไว้มาตลอด ทั้งเรื่องที่มันควงผู้หญิงคนนั้นคนนี้ ที่เธอเห็นทีไรแล้วเจ็บปวดทุกครั้ง แต่ก็ทำอะไรไม่ได้เพราะเราแค่เป็นเพื่อนกัน ตอนนี้มันอัดอั้นไปหมดไม่รู้จะไประบายที่ไหน ธาวินนั่งฟังเงียบ ๆ มองคนเล่าไปน้ำตาไหลไป ด้วยความสงสาร มือหนาหยิบทิชชู่คอยส่งให้เธออยู่ตลอด อันที่จริงธาวินก็ไม่เคยปลอบใจใคร ตอนนี้เขาทำได้เพียงรับฟังปัญหาของเพื่อนเงียบ ๆ พอเธอเล่าจบดวงตาทั้งสองข้างก็แดงก่ำ ธาวินมองเพื่อนที่ร้องไห้จนหน้าตาแดงไปหมดก่อนจะถอนหายใจ เมื่อเห็นว่าเวลาผ่านมานาน เธอน่าจะหิวก็กะว่าจะไปหาซื้ออะไรมาให้เธอกินซะหน่อย เดี๋ยวจะหมดแรงไปซะก่อนดูเหมือนว่าตอนนี้อาการหนักน่าดู "เดี๋ยวกูลงไปซื้ออะไรมากิน เผื่อมึงจะรู้สึกดีขึ้น" "ไม่เอาหรอก ฉันไม่หิว" "เอาเถอะ เผื่อกินแล้วจะได้สดชื่น อย่าหนีกลับล่ะ" พูดจบธาวินก็เดินออกจากห้อง ทิ้งให้ผักกาดนั่งเศร้าอยู่คนเดียว เธอเงยหน้ามองเพดานดวงตายังคงมีน้ำตาไหลอยู่ตลอด สูดลมหายใจเข้าแรง ๆ พยายามกลั้นน้ำตาแต่มันก็ทำไม่ได้ เธอหยุดร้องไม่ได้ … "ฮึก!!" ในที่สุดเธอก็ปล่อยให้มันไหลออกมาพร้อมกับเสียงร้องไห้โฮที่ดังลั่นและเธอก็ร้องอยู่แบบนั้นคนเดียวจนเวลาผ่านไปพักใหญ่ เมื่อได้สติก็กลัวว่าธาวินจะกลับมาเห็นเธอในสภาพที่ดูไม่ได้เลยรีบเดินเข้าไปในห้องน้ำ ล้างหน้าล้างตาพยายามทำให้ตัวเองให้สดชื่น แต่ในจังหวะที่กำลังจะเปิดประตูออกไป เสียงเปิดประตูห้องก็ถูกเปิดออก เธอคิดว่าธาวินน่าจะกลับมาแล้ว แต่ในตอนที่เธอกำลังหมุนลูกบิดประตู เสียงคนที่พูดคุยกันกลับไม่ใช่ธาวิน ชื่อของตัวเองอยู่ในบทสนทนาทำให้มือที่กำลังหมุนลูกบิดหยุดชะงัก ใบหูขาวแนบลงที่ประตูจนได้ยินเสียงชัด คนที่คุยกันนั้นก็ไม่ใช่ใคร เธอจำได้ดีว่าเป็นเสียงปลื้มคนที่ทำเธออารมณ์ก่อนไหวอยู่ตอนนี้ อีกคนก็เป็นคิงนั่นเอง แต่ยิ่งเธอได้ยินสิ่งที่ทั้งสองคนคุยกันมากเท่าไหร่ หัวใจเริ่มเต้นแรงขึ้น เธอเพิ่งรู้ว่าในวันที่บาดเจ็บวันนั้น ธุระที่ปลื้มต้องไปทำแทนที่จะไปส่งเธอก็คือเขาไปหาควีนเพื่อนของเธอ ที่ด้านนอก "เรื่องที่มึงไปส่งควีนวันนั้น แล้วยังเอากระเป๋าไปคืนให้อีก ทั้งที่ผักกาดก็เจ็บอยู่ มึงคิดว่ามันโอเคเหรอวะ?" เสียงของคิงดังขึ้นชัดเจน ในหัวของเธอ หัวใจเธอเต้นแรงขึ้นเรื่อย ๆ ต่างจากขาที่รู้สึกเหมือนจะหมดแรง "แล้วไงวะ?" เสียงปลื้มตอบกลับมาด้วยน้ำเสียงที่ฟังดูรำคาญ "ก็แค่ไปส่งแล้วก็เอากระเป๋าไปคืน ไม่เห็นต้องทำให้เป็นเรื่องใหญ่" "ไม่ต้องทำให้เป็นเรื่องใหญ่เหรอ..หึ!" คิงหัวเราะเยาะในลำคอ "มึงรู้ไหมว่าผักกาดคิดยังไงกับมึง เป็นเพื่อนกันมาตั้งนาน ทำไมมึงต้องทำให้เธอเจ็บด้วยวะ" ผักกาดเม้มปากแน่น หัวตาแสบร้อนขึ้นมาอีกครั้ง "กูบอกแล้วไง ว่ามันไม่มีอะไร" "แล้วเรื่องที่ไอ้วิน 'ท้า' มึงล่ะ?" คิงถามต่อ เสียงของเขาเริ่มจริงจังขึ้น "กูบอกแล้วใช่ไหมว่าถ้าไม่มีใจ อย่าไป 'ลองใจ' เธอมึงคิดว่าแม่งเป็นเรื่องสนุกเหรอ?" ท้า.. ลองใจ... สองคำนี้ทำเอาหัวใจของผักกาดกระตุกวูบ น้ำตาร่วงหล่นลงมาโดยไม่รู้ตัว เธอพยายามสะกดกลั้นตัวเองไม่ให้ส่งเสียงสะอื้น มือบางที่จับลูกบิดสั่นระริก "ไอ้ปลื้ม กูว่ามึงพอได้แล้ว มึงอยากลองใจผักกาดเพราะอะไร หรือจริง ๆ แล้วมึงเอง...ก็มีใจให้เธอ?" ปลื้มยังคงนิ่ง ไม่มีคำพูดใด ๆ หลุดออกมา ผักกาดที่แอบฟังอยู่ เธอแทบจะกลั้นหายใจรอคำตอบ หัวใจเต้นรัวแรงจนแทบจะหลุดออกมาจากอก ขอแค่...ขอแค่บอกว่าเขารู้สึกอะไรบ้าง...สักนิดก็ยังดี แต่แล้วคำตอบที่ออกจากปากเขากลับทำให้เธอแทบทรุดลงไปกองกับพื้น "กูไม่ได้รู้สึกอะไรกับผัก...และไม่เคยรู้สึก!" ราวกับโลกทล่มลงต่อหน้า ร่างเล็กไร้เรี่ยวแรงจนแทบจะทรงตัวไม่อยู่ เพิ่งตระหนักได้ในตอนนี้ว่าที่เขาใกล้ชิดเธอทำดีกับเธอพาไปกินข้าวดูหนัง จับมือ นั่นเป็นแค่การลองใจกัน เขาไม่รู้สึกอะไรกับเธอเลย ต่างจากเธอที่คิดเข้าข้างตัวเอง ถึงขั้นต้องมาปรึกษาเพื่อนเพื่อที่ตัวเองจะได้ไปสารภาพรักกับเขาแต่ที่ไหนได้ทุกอย่างนั้นเป็นเรื่องที่เขาสร้างขึ้นมา "อึก...!" เสียงหัวใจเธอแตกสลายดังชัดเจนในความเงียบงัน คำว่าไม่เคยรู้สึก...มันยังดังก้องอยู่ในตอนนี้ เธอหลับตาลง พยายามกลั้นเสียงสะอื้นสุดกำลัง ทั้ง ๆ ที่ผ่านมาเธอคิดว่าเขาคงรู้สึกอะไรบ้าง แม้จะไม่มาก แม้จะไม่ได้ชัดเจน แต่ก็คิดว่าสักเศษเสี้ยวในใจเขาจะมีความรู้สึกให้เธอบ้าง แต่ไม่เลย...ตอนนี้เธอเข้าใจแล้ว ว่าทุกอย่างมันเป็นแค่ภาพลวงตา เป็นแค่เรื่องหลอกลวง มือบางค่อย ๆ บิดลูกบิดประตู เธอรู้ดีว่าถ้าขืนอยู่ตรงนี้นานกว่านี้ เธออาจจะทนไม่ไหว เสียง 'แกร๊ก' ที่ดังขึ้นทำให้สายตาสองคู่หันไปมอง ปลื้มกับคิงชะงักไปทันทีเมื่อเห็นร่างบางเดินออกมาจากห้องน้ำคล้ายกับคนหมดแรง ใบหน้าที่เต็มไปด้วยคราบน้ำตา ดวงตาแดงก่ำดูบอบช้ำราวกับคนที่กำลังแตกสลายทำให้บรรยากาศในห้องเงียบลงทันที และในตอนนั้นเองเจ้าของห้องก็เปิดประตูเข้ามาพอดีอย่างกับจังหวะนรก เขามองเพื่อนทั้งสองคนก่อนจะถามขึ้น "อ่าว...พวกมึงมาตั้งแต่เมื่อไหร่วะ" เขาถามขึ้นก่อนจะมองเลยไปเห็นผักกาดเดินร้องไห้ออกมาจากห้องน้ำ "ผักกาด!" ธาวินอุทานออกมาอย่างตกใจ ผักกาดเดินมาหยุดอยู่ตรงหน้าเพื่อนทั้งสามคน สายตาที่มองไปทางพวกเขามีแต่ความเจ็บปวด "ผัก..." คิงเรียกชื่อเธอด้วยน้ำเสียงสั่น ๆ ตกใจที่เห็นผักกาดจนหน้าซีดลง ขาอ่อนแรงขึ้นมา ผักกาดไม่ได้สนใจเพื่อนอีกสองคนที่ทำท่าราวกับถูกผีหลอก เธอเอาแต่จ้องใบหน้าของปลื้ม ด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยความผิดหวัง หัวใจเจ็บเกินจะทนไหว เธอกำมือแน่น สะอื้นในลำคอ ก่อนจะพูดด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ “ทุกอย่างที่นายทำ...เป็นแค่การแสดงสินะ?” "ผักกาด..." คิงพยายามจะพูดอะไรสักอย่าง แต่มันพูดไม่ออก ไม่ต่างจากเพื่อนทั้งสองคนที่เหมือนถูกตรึงอยู่กับที่ ปลื้มเองก็ตกใจเมื่อได้เห็นเธอในสภาพนี้ ดวงตาของเขาไหววูบ หัวใจกระตุก รู้สึกเจ็บแปลบขึ้นมา "ฮา ฮ่า ๆ ..." เสียงหัวเราะของผักกาดบาดลึกลงไปในหัวใจ เธอหัวเราะออกมาทั้งน้ำตา มันสั่นสะเทือนกรีดลึกลงไปในหัวใจของหนุ่มทั้งสาม "ฉันมันโง่เองที่เชื่อว่าอย่างน้อยนายก็คงรู้สึกอะไรบ้าง" "...." "ทั้ง ๆ ที่ฉันแค่อยากอยู่เงียบ ๆ ข้าง ๆ นายแค่นั้น" ผักกาดหอบหายใจแรง เธอรู้สึกเหมือนกำลังจะขาดอากาศ "ฉันแอบชอบนายมานาน..." เธอพูดเสียงเบาหวิวแต่ทุกคนได้ยินชัดเจน "ฉันพยายามทำทุกอย่างเพื่อให้อยู่ใกล้นาย แม้กระทั่งแค่ได้เป็นเพื่อน ฉันก็ยอม" "แต่สิ่งที่นายตอบแทนฉันคืออะไร...สนุกกันมากใช่มั้ย" ปลื้มยังคงนิ่งไม่พูดอะไร "เพราะฉันไม่ได้สวยเหมือน 'ควีน' ใช่ไหม? นายถึงไม่เคยมองฉันเลย" "...." ปลื้มยังคงเงียบงัน กำหมัดแน่นขึ้น ริมฝีปากเม้มเป็นเส้นตรง เขาอยากจะพูดอะไรออกมาแต่มันกลับพูดไม่ออก ผักกาดยิ่งสะอื้นหนักขึ้น หัวใจเหมือนถูกบีบรัดแน่นจนหายใจไม่ออก "ฮึก!! คะ..แค่เป็นเพื่อนกันก็ได้ ฉะ...ฉันยอมเก็บทุกอย่างเอาไว้ในนี้" ปึก! ปึก! มือบางตบไปที่หน้าอกข้างซ้ายของตัวเองอย่างแรงหลายครั้ง น้ำตาไหลพรากด้วยความเสียใจอย่างรุนแรง "แล้วทำไม? ฮึก!!" เธอหยุดไปนิดเพราะแรงสะอื้นอย่างหนักทำให้เธอพูดไม่ออก "ทะ..ทำไมนายต้องมาแกล้ง จะ..จีบ ฉันด้วย ฮึก! ถ้านายชอบควีน...นะ...นายก็ไปหาควีน ฮึก! ละ..เลยสิ! " ผักกาดถามต่อด้วยน้ำเสียงขาด ๆ หาย ๆ ทั้งร้องไห้ไปพูดไปทำเอาคนที่มองรู้สึกจุกหน่วงไปด้วย ปลื้มอ้าปากเหมือนจะพูดอะไร แต่เธอไม่ให้โอกาส ไม่รวมถึงคิงที่ยังช็อกไม่หาย เสียงหัวเราะอย่างขมขื่นดังขึ้น “ฉันยอมแล้ว...ฉันยอมแพ้”
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD