รถเคลื่อนลับสายตา พฤกษ์เดินมาหาแล้วกอดคอเอาไว้
“พร้อมหรือยังพี่อาทิตย์”
“พร้อมแล้ว” เขาบอก ขณะเก็บเงินเข้ากระเป๋ากางเกง
มาถึงคาสิโน่ด้านหลัง อาทิตย์เลือกนั่งที่เดิม เพราะตรงนี้ให้โชคกับตนเอง ผ่านไปสามชั่วโมงอาทิตย์ยังคงได้เงินกลับมาเกือบสองแสน มันยิ่งทำให้เขายินดี
“วันนี้ดวงดีอีกแล้วนะพี่”
“ขอให้มันดีแบบนี้ทุกวันแล้วกัน” อาทิตย์บอก สองคนพากันหัวเราะ
“แล้วพี่จะไปไหนต่อหรือเปล่า”
“จะกลับบ้านไปนอนแล้วน่ะ เกือบหกโมงแล้ว จะแวะซื้อเป็ดย่างสักตัวไปให้แม่เสียหน่อย”
“โอเคพี่ งั้นพวกเราแยกย้าย ไว้เจอกันพรุ่งนี้นะ”
“ได้ ๆ โชคดี”
อาทิตย์เข้าบ้านในช่วงเจ็ดโมง ในมือถือเป็ดย่าง แล้วเดินเข้าครัว เห็นมารดากำลังสาละวนกับการทำอาหารเช้าให้กับน้องสาว
“แม่ผมซื้อเป็ดย่างมาตัวนึง วางไว้บนโต๊ะนะ กินกันได้เลย หมดไม่เป็นไร ผมไปนอนก่อนนะ” อาทิตย์บอก แล้วออกจากห้องครัวไป คนเป็นแม่หันมาหมายคุยกับลูก แต่กลับเห็นเพียงแผ่นหลัง
อลินธาราลงบันได ในสภาพสวมชุดทำงานเรียบร้อย แม่กำลังยกอาหารมาตั้ง เธอหย่อนกายลงนั่งแล้วตักข้าวใส่จาน
“พี่เพิ่งกลับมาเหรอแม่”
“ใช่ เพิ่งกลับมาเมื่อเช้านี่เอง”
“ทำงานไม่เหมือนชาวบ้านเขาอีก” หญิงสาวบ่น แล้วตักข้าวใส่ปาก
“พี่ชายเราน่ะ เรียนจบแค่มอสาม จะไปทำอะไรได้ นอกจากงานดูแลความปลอดภัยแบบนี้”
เธอระบายลมหายใจ “หนูพาไปฝากที่บริษัทดีกว่าไหม ไม่ต้องกลับบ้านเช้าแบบนี้ เสียสุขภาพหมด ถึงจะเงินดีก็เถอะ นาน ๆ เข้าเดี๋ยวไม่สบายเอา”
อรดียิ้มอ่อนโยนเข้าใจลูกสาวดี “พี่เขาชอบแบบนี้ก็ปล่อยไปเถอะ อย่างน้อยเขาก็หางานทำ ไม่หันไปสนใจพวกการพนันอีก แค่นี้แม่ก็พอใจแล้ว”
“ถ้าแม่คิดแบบนั้น ก็ตามใจแล้วกันค่ะ” หญิงสาวยักไหล่ แล้วสนใจอาหารตรงหน้าต่อ
อรดีมองบุตรสาว ชั่งใจพักใหญ่ เพราะทำงานที่นั้น แถมเจ้านายก็ดูท่าทางสนใจในตัวลูกสาว มันไม่เป็นปัญหาเหรอ
“ลิน.. ลูกทำงานที่นั้น เจ้านายไม่วุ่นวายกับลูกเหรอ”
อลินธาราแทบสำลักน้ำ ช้อนสายตามองมารดา แล้วยิ้มกว้าง
“ก็ไม่นี่แม่ ท่านประธานคงไม่ได้สนใจหนูแล้วล่ะค่ะ”
“แบบนี้แม่ค่อยเบาใจหน่อย ฐานะเรากับเขามันแตกต่างกันมากลูก ถ้าหากลูกรักชอบกับท่านประธานขึ้นมา คงได้กลายเป็นเรื่องใหญ่ เพราะเราก็ไม่รู้หรอกว่า ที่บ้านของเขาจะชอบเราหรือเปล่า แม่กลัวมันจะเหมือนละครน้ำเน่า คอยกลั่นแกล้งกันตลอด”
อลินธาราฝืนยิ้มออกมา
“ไม่ต้องห่วงหรอกค่ะแม่ ลินรู้ตัวเองดี” เธอบอกเพื่อให้แม่สบายใจ
“จ้ะลูก”
ประตูห้องประธานเปิด ร่างบางสาวเท้าไปยังโตะ เห็นกล่องกำมะหยี่พร้อมดอกกุหลาบสีขาวช่อใหญ่วางอยู่ หยิบมาเปิดดูด้านใน มันเป็นสร้อยเพชร ราคาคงไม่ต่ำกว่าห้าแสน ปิดมันลงตามเดิม หย่อนกายลงบนเก้าอี้สีหน้าเครียด เธอเก็บของไว้ในลิ้นชัก ดอกไม้วางไว้ข้าง เธออยากให้เขาไปหลงรักคนอื่น ไม่ยุ่งเกี่ยวกับตนเอง แต่ตอนนี้ทุกอย่างกลับไม่เป็นเช่นนั้นเลยดูท่าท่านประธานคงเป็นบ้าไปแล้ว ผู้หญิงมีมากมายทำไมต้องเป็นเธอด้วย
เมฆินทร์นั่งลงบนเก้าอี้ แล้วเหลือบมองเลขาสาวสวย หยิบแฟ้มด้านหน้ามาอ่าน อลินธาราครุ่นคิดหนัก อดรนทนไม่ได้ เธอไม่ต้องการสิ่งของจากเขาเลย ลุกยืนพร้อมหยิบแฟ้มในมือ ก้าวมาหาแล้วหยุดยืนตรงหน้า
“มีเอกสารที่ท่านต้องเซ็นค่ะ” เธอบอกแล้วยื่นแฟ้มให้ เขารับมาช้อนสายตามอง แววตาเป็นประกาย
“คือว่า...”
เขาขมวดคิ้วเมื่อเห็นสีหน้าเลขา ราวกับต้องการพูดบางอย่าง
“มีอะไรก็ว่ามาสิ หรือว่าตกลงแต่งงานกับผมแล้ว”
“ไม่ใช่ค่ะ!”
“แล้วมีเรื่องอะไร”
“ของขวัญที่ท่านประธานให้ฉันไม่ต้องการ!” เธอโพลงออกมา
ประธานวางมือจากแฟ้ม แล้วส่งสายตาเหมือนมีคำถาม
“ทำไมล่ะ หรืออยากได้มากกว่านั้น บ้าน รถ ที่ดิน หรือว่าเครื่องเพชรแบบอื่น!”
คนถูกถามส่ายหน้าทันที “ไม่! ฉันไม่อยากได้อะไรทั้งนั้น!”
เขายิ้มเจ้าเล่ห์ “หรือว่า... อยากได้ตัวผม ถ้าเกิดเป็นตัวผม ผมพร้อมเสมอนะ ขอแค่คุณต้องการ”
“เลิกพูดแบบนี้สักทีเถอะค่ะท่านประธาน ฉันไม่อยากได้อะไรทั้งนั้น!”
“ผมให้เพราะคืนนี้คุณต้องไปงานเลี้ยงกับผม คุณควรใส่มันนะ สร้อยเส้นนั้น”
คนสวยชะงัก “ให้ใส่ไปงานเลี้ยงเหรอคะ”
“ใช่สิ”
“แล้วดอกไม้ล่ะคะ คุณให้ทำไม!”
ดวงตากรอกไปมา แล้วยิ้มอย่างมีเลศนัย
“พอดีมีคนให้ผมมา ผมไม่ค่อยชอบดอกไม้ เลยยกให้คุณ คุณจะเอาไปทำอะไรก็แล้วแต่เลย ผมแค่เสียดายของ เผื่อคุณจะเอาไปใช้ประโยชน์”
เธอพยักหน้าช้า ๆ เป็นเชิงเข้าใจ
“แบบนี้เองเหรอคะ งั้นเอาไว้ฉันใส่ไปงานแล้ว จะรีบคืนให้คุณนะคะ!”
เขาโบกมือ “เอาแบบนี้ดีกว่า ถ้าคืนนี้เราปิดดีลได้ ผมยกสร้อยให้คุณเลย ถือว่าเป็นโบนัส”
“จริงเหรอคะ!”
“จริงสิ”
“ขอบคุณมากค่ะท่านประธาน” อลินธาราเอ่ยปาก แล้วกลับมาทำงานต่อ
สามโมงเย็น เมฆินทร์ดูนาฬิกา ได้เวลาเตรียมตัวเพื่อร่วมงานเลี้ยง ร่างสูงลุกยืน สาวเท้าไปหยุดยืนหน้าโต๊ะทำงานเลขา
“ไปกันได้แล้ว”
อลินธาราเงยหน้าจากคอมพิวเตอร์
“ไปไหนคะ”
“ลืมไปแล้วหรือไง ว่าเราต้องไปงานเลี้ยง”
“อ๋อค่ะ” เธอรับคำแล้วรีบลุกยืน
“เดี๋ยวผมจะพาคุณไปแต่งตัวก่อน แล้วเราค่อยไปที่งานกัน”
“ค่ะท่านประธาน”
รถจอดหน้าร้านชุดสำหรับงานเลี้ยง เมฆินทร์เปิดประตูลงมา โดยมีเลขาสาวสวยติดตามไม่ห่าง พอเข้ามาด้านใน เจ้าของรีบมาต้อนรับด้วยความยินดี
“สวัสดีค่ะประธานเมฆินทร์ ชุดดิฉันเตรียมไว้ให้เรียบร้อยแล้วค่ะ ไปลองกันเลยดีไหมคะ”
“ดูแลเลขาผมก่อนเลย ผมแต่งตัวไม่นานหรอก”
“ได้ค่ะท่านประธาน”
อลินธาราถูกลากเข้าห้องแต่งตัว ร่างอรชรสวมชุดราตรีสีงาช้าง ประดับด้วยมุก ยาวคร่อมเท้า ผมถูกรวบไว้ ปอยผมเคลียแก้ม สร้อยเพชรถูกนำมาสวมไว้ พร้อมกระเป๋าใบเล็กสำหรับถือยี่ห้อดัง
“เรียบร้อยแล้วค่ะ คุณเลขาสวยมากเลยนะคะ เป็นนางเอกได้สบายเลย” ช่างเอ่ยชม
“ขอบคุณที่ชมค่ะ แต่คงไม่ถึงขนาดนั้น”
“ถึงขนาดที่ฉันชมหรือเปล่าเดี๋ยวก็รู้เองค่ะ ลองไปโชว์ให้ท่านประธานชมหน่อยดีกว่าค่ะ”
คนสวยก้าวออกมาจากห้อง จังหวะนั้นเมฆินทร์เงยหน้าจากไอแพตในมือ ดวงตาคมกริบหรี่ลอง ทอดมองเบื้องหน้าราวกับต้องมนต์สะกด อลินธาราสวยเสียจนหัวใจเขาสั่น ลุกยืนอย่างลืมตัว
“เป็นไงบ้างคะท่านประธาน”
เขายิ้มกว้าง “สวยมากเลยล่ะ”
คนถูกชมหน้าแดงขึ้นมา ไม่คาดคิดว่า เขาจะเอ่ยปากชมออกมาอย่างโจ้งแจ้ง ไม่อายคนอื่นเอาเสียเลย ประธานหนุ่มก้าวเข้าใกล้ ทำเอาคนตัวเล็กชะงักสีหน้าตื่นตระหนก เขาโน้มใบหน้าใกล้ใบหู
“ไปกันได้แล้วเดี๋ยวสาย”
มือบางยกดันแผงอกเบา ๆ “ทราบแล้วค่ะ ไม่ต้องเข้ามาใกล้มากก็ได้”
สองร่างเดินเคียงกัน มาถึงรถ อลินธารานั่งลงเบาะหลังคู่กับเจ้านาย รถเคลื่อนออกจนกระทั่งมาจอดเทียบ ประธานหนุ่มลงมา แล้วหยุดยืนเพื่อรอเลขา ร่างงามในชุดราตรีทำเอาสายตาหลายคู่มองมาด้วยความอิจฉา
“ควงแขนผม” เขาเอ่ยปาก ขณะที่เลขาสาวยังคงสับสน