“เอาล่ะ ผมไม่แกล้งคุณแล้ว เอาไว้หายดี เราค่อยคุยเรื่องนี้กันใหม่”
“ใครอยากคุยกับคุณเรื่องนี้กัน” เธอบ่นอุบในลำคอ
ชายหนุ่มระบายลมหายใจ แล้วช้อนสายตามอง
“อยากให้ผมโทรบอกแม่กับน้องคุณไหม”
“ไม่ค่ะ!” คนถูกถามรีบปฏิเสธทันที
“มันจะดีเหรอ คืนนี้คุณต้องค้างที่โรงพยาบาล”
“ฉันโทรไปบอกว่าทำงานต่างจังหวัดได้ค่ะ ไม่เป็นไร”
“เอาตามที่คุณว่าก็แล้วกัน”
ก๊อก ก๊อก
เสียงเคาะประตู ก่อนเปิดออก อลันเดินเข้ามาหยุดยืนตรงหน้าเจ้านาย
“ท่านประธาน คุณอัญชนากับท่านอภิรักษ์ จะเข้ามาขอโทษเรื่องที่ทำร้ายคุณอลินธาราครับ”
ประธานหนุ่มสบตาเลขา “คุณจะเอายังไง”
ริมฝีปากเม้มสนิท เธอไม่อยากมีเรื่อง เพราะเกรงว่าแม่จะรู้เรื่องนี้ แต่ก็ไม่อยากปล่อยไปเลย อัญชนาเลวร้ายเกินกว่าที่จะไม่รับผิดชอบอะไร คนบนเตียงส่ายหน้า
“ฉันไม่อยากปล่อยไปเลยค่ะ ฉันโดนกระทำมาหลายครั้งแล้ว”
“แล้วคุณต้องการยังไง”
“ฉันอยากเอาเรื่อง แต่ก็ไม่อยากให้แม่รู้”
สีหน้าคนฟังคิดหนัก “ยากเหมือนกันนะ ถ้าเอาเรื่องก็ต้องไปโรงพัก ขึ้นศาลอีก คุณพร้อมไหมล่ะ ผมสนับสนุนเต็มที่อยู่แล้ว”
“ค่ะ ฉันพร้อม”
“แล้วเรื่องที่จะมาขอโทษเอาไงครับ ปฏิเสธหรือตอบรับดี” อลันเอ่ยถาม
“ปฏิเสธไป บอกว่ารอหมายเรียก” เมฆินทร์สั่งเสียงกร้าว
“แล้วจะไม่มีปัญหากับคุณเหรอคะท่านประธาน เพราะคุณกับคุณอภิรักษ์เพิ่งร่วมมือทางธุรกิจกัน”
“ไม่มีปัญหาหรอก อภิรักษ์แยกเรื่องงานกับเรื่องส่วนตัวได้ ความจริงผมอยากให้คุณเรียกเงินเยอะหน่อยก็ดี จะได้เอาไว้กินขนมเล่น” เขาบอก แล้วยิ้มกว้าง ทำเอาคนมองรีบเมินหนี ไม่ได้นะหัวใจจะหวั่นไหวไปกับท่านประธานไม่ได้เด็ดขาด
“ฉันไม่มีปัญญาจ้างทนายเก่งขนาดเรียกทรัพย์มากมายได้หรอกค่ะ”
“จะกลัวอะไร มีผมอยู่ทั้งคน”
“ฉันไม่อยากรบกวนท่านประธานเลยค่ะ”
“คุณโดนทำร้ายเวลางานนะอย่าลืม อีกอย่างผมคิดว่าจะให้เงินพิเศษคุณ ค่าเสียเวลาและบาดเจ็บด้วย สองแสนบาทพอไหม”
คนเจ็บยิ้มกว้างในทันที “จริงเหรอคะ!”
“จริงสิ”
“ขอบคุณมากค่ะท่านประธาน!” เธอยิ้มกว้าง เมฆินทร์เฝ้ามองใบหน้าแล้วอดไม่ได้ที่จะยื่นมือหา เธอรีบหลบทันที “จะทำอะไรคะ!”
“มันอดไม่ได้น่ะ ฉันน่ะ อยากไปขอเธอแต่งงานใจแทบขาด ยอมแต่งงานกับฉันดีกว่าไหม”
“ไม่ค่ะท่านประธาน เราไม่ได้รักกัน รู้จักกันมากพอ ฉันไม่เอาชีวิตไปเสี่ยงเด็ดขาด!”
“ใครว่า ฉันน่ะ รักเธอออกขนาดนี้ ฉันยอมทุกอย่าง ไม่ว่าเธอต้องการอะไร แค่เอ่ยปากมา”
ยิ่งฟังยิ่งรู้สึกไม่สบอารมณ์ คนเรามันรักกันง่ายขนาดนี้เลยเหรอ แล้วยิ่งเขาเป็นถึงประธานบริษัท หนุ่มเนื้อหอมที่สาวหลายคนหมายตา จะมาสนใจอะไรกับผู้หญิงยากจนเช่นเธอเล่า
“ฉันไม่ได้ซาบซึ้งกับคำพูดของท่านประธานเลยสักนิดค่ะ เชิญกลับไปเถอะค่ะ ฉันจะนอนพักผ่อนแล้ว!” หญิงสาวเลือกตัดบท
เมฆินทร์ทอดสายตามอง ร่างคนเจ็บกำลังนอนหันหลัง ไม่อยากฝืนบังคับจิตใจ ต่อให้ตนเองมีอำนาจแค่ไหนก็ตาม เขาอยากให้เวลาอลินธาราอีกสักหน่อย ต่อให้อยากทำอะไรตามใจ เพราะเชื่อว่าอย่างไรเสีย เธอต้องหันกลับมามองคนอย่างเขา ที่ทั้งหล่อ ทั้งรวย ชาติตระกูลดีขนาดนี้ คนระดับเธอคงหาที่ไหนไม่ได้อีกแล้ว
ลุกยืนแล้วก้าวมายังประตู เปิดมันออก ด้านนอกมีคนของตนเองยืนเฝ้าอยู่ เขาไม่อยากให้อัญชนาย้อนกลับมา ไม่รู้ว่าคิดเช่นไร เกรงตัวอลินธาราเป็นอันตรายอีก
“ดูแลให้ดี อย่าให้ใครรบกวน”
“ครับท่านประธาน”
อลันสาวเท้ามายืนเคียงข้างเจ้านาย
“เรื่องพี่ชายของลินเป็นไงบ้าง”
“กำลังติดกับครับท่าน”
“ดีมาก ถ้าหมอนั่นไม่มีเงินแล้ว ก็ปล่อยเงินกู้ให้เล่นต่อไป” เขาสั่งลูกน้อง แล้วยกยิ้มกว้าง อยากจะรู้นักว่าเธอจะหนีพ้นเงื้อมมือเขาไปได้ยังไง
ประตูห้องพักฟื้นเปิดออก ร่างบางกำลังเก็บข้าวของในห้อง เสียงฝีเท้าทำให้เธอหันมอง คิ้วบางขมวดเข้าหากัน หันกายมาเผชิญหน้า อัญชนายืนเม้มริมฝีปากใบหน้าซีดเผือด ข้างกายมีบิดาอยู่ด้าย
“เข้ามาได้ยังไงคะ ฉันบอกไปแล้วว่าไม่ต้องการพบคุณ!” อลินธาราบอกเสียงกร้าว ชักสีหน้าไม่พอใจ ตอนทำร้ายเธอไม่เห็นเป็นแบบนี้
ได้ยินเสียงเอะอะหน้าห้อง สักพักเงียบไป คงหาคนมาจับตัวบอดี้การ์ดที่ท่านประธานทิ้งไว้ให้แน่
“คุณเลขา อย่าเพิ่งโกรธได้ไหม ยังไงผมก็อยากให้คุณรับฟังพวกเราสักหน่อย”
หญิงสาวชั่งใจ อดสงสารคนเป็นพ่อไม่ได้ “มีอะไรก็ว่ามา!”
“ผมอยากให้คุณอภัยให้ลูกสาวผม ไม่ว่าคุณต้องการอะไร ผมยินดีทำให้ทุกอย่าง”
“ทุกอย่างจริงเหรอคะ!”
“ใช่ครับ แม้แต่ให้ลูกสาวผมชดใช้ด้วยเงิน หรือให้คุกเข่าตรงหน้าคุณ ผมก็ยินดี!” เขายืนยันหนักแน่น
“พ่อ! พูดแบบนี้ได้ไง หนูไม่มีวันคุกเข่าให้มันหรอกนะ ไหนพ่อบอกให้หนูพูดขอโทษอย่างเดียว!”
เพียะ!
“หุบปากไปเลย แกทำผิดก่อน แกทำร้ายคนอื่นโดยไม่มีสาเหตุ ทำเขาเกือบเสียโฉม ยังไม่สำนึกอีกเหรอ หรืออยากไปอยู่ในคุก!”
คนโดนตบกัดริมฝีปากจนห้อเลือด ตวัดสายตามองคู่กรณีอย่างไม่พอใจ
“ยังจะมองด้วยสายตาแบบนี้ อยากโดนอีกฉาดหรือไง!”
“พ่อทำแบบนี้กับหนูได้ยังไง หนูเป็นลูกพ่อนะ!”
“ก็เพราะเป็นลูกไงถึงได้ต้องสั่งสอน วันหลังแกจะได้ไม่ไปทำร้ายคนอื่นเขาอีก!”
เธอชี้นิ้วไปทางศัตรูหัวใจ “ก็เพราะมันคิดแย่งพี่เมฆไป หนูผิดหรือไงที่จะตบสั่งสอนมัน!”
คนเป็นพ่อกัดฟันกรอด มองลูกสาวสีหน้าผิดหวัง ปนระอา เขาไม่อยากเชื่อเลย ทำไมลูกสาวถึงได้หลงมัวเมาเพียงนี้ แค่เพียงความรักลมๆ แล้ง ๆ กลับทำร้ายคนอื่นอย่างไม่ยั้งคิด
“ก็เอาเลย แกอยากทำอะไรทำเลย ฉันจะไม่ยุ่ง ถ้าแกไม่ใช่ลูกสาวฉัน ฉันคงไม่มายืนบากหน้าตรงนี้หรอก แกหยิ่งผยองคิดว่าพ่อรวย ก็เอาเลยตามสบาย หลังจากนี้ไป ฉันจะไม่ยุ่งเรื่องของแกอีก แกจะเข้าคุก เข้าตาราง มีปัญหาเรื่องโดนคดี ก็เรื่องของแกเลย นังลูกไม่รักดี!”
อภิรักษ์หันกาย เพื่อเดินไปยังประตู ลูกสาวตระหนกรีบคว้าแขน
“พ่ออย่าเพิ่งไป เรายังไม่ได้ตกลงกับผู้หญิงคนนี้เลย!”
เขาสะบัดแขน “ปล่อย! ในเมื่อแกไม่ฟัง ก็ไม่ต้องคุย ไปจัดการปัญหาเอาเองเลย!”
“ไม่นะพ่อ ไม่! หนูฟังพ่อแล้ว”
อภิรักษ์ใจอ่อน หันกลับมาอีกครั้ง บุตรสาวจับแขนเสื้อไว้น้ำตาคลอ เขาจับแขนลูกให้มายืนต่อหน้าคนเจ็บอีกครั้ง
“คุณเลขาต้องการให้ผมกับลูกสาวชดใช้ยังไง บอกมาได้เลยครับ”
“เอาแบบนี้แล้วกันค่ะ คุณให้ลูกสาวคุณคุกเข่าขอโทษฉันชั่วโมงหนึ่ง แล้วฉันจะยอมความ” อลินธาราบอกเสียงหนัก
“อะไรนะ!” อัญชนาร้องลั่น
“คุกเข่าลงไป!”
“ไม่นะพ่อ ตั้งชั่วโมงหนึ่ง หนูจะไปทำได้ยังไง!”
“ฉันบอกให้แกคุกเข่า แกจะคุกเข่าหรือติดคุก แกเลือกเอา!”
คนผิดจำต้องยอมย่อกายลง คุกเข่าต่อศัตรูหัวใจ อลินธาราเห็นเช่นนั้น เลยทรุดกายลงบนเตียงคนป่วย แล้วหยิบขนมหัวเตียงมาใส่เข้าปาก เปิดรายการทีวีดูฆ่าเวลา อัญชนากำมือแน่น ความแค้นนี้ไม่มีวันเลิกรา เธอจำต้องทนอัปยศเพื่อไม่ให้พ่อตัดขาด ถ้าหากมีโอกาส ไม่มีวันปล่อยมันไปแน่ จะทำให้มันสำนึกถึงสิ่งที่ตังเองกระทำ