ข้าวถูกตักใส่จาน แม้ใจไม่อยากทำ แต่จำต้องมีมารยาท จบมื้ออาหารอลินธารารีบเก็บโต๊ะ หวังเพียงแค่เจ้านายจะรีบจากไปโดยเร็ว
“อิ่มแล้วก็กลับไปได้แล้วล่ะมั้งคะท่านประธาน!” อลินธาราออกปาก ประธานหนุ่มลุกยืน ไม่ยอมขยับ “บ้านฉันแคบท่านรีบกลับไปดีกว่าค่ะ!”
“รีบไล่กันเลยนะ ทำไมถึงอยากไล่กันนัก” เขาหันหน้ามามองเลขาสาว เห็นเธอชักสีหน้าไม่พอใจ
“ท่านประธานฐานะสูงส่งไม่เหมาะกับที่นี่หรอกค่ะ”
“ฉันยังไม่พูดอะไรเลย ทำไมเธอย้ำนักย้ำหนาเนี่ย!”
“เพราะฉันไม่อยากมีปัญหาค่ะ รอบนี้เจ็บตัว รอบหน้าฉันอาจถูกอุ้มไปเผานั่งยางก็ได้ใครจะรู้!” หญิงสาวประชดเสียงสูง
“คุยอะไรกันเหรอลิน” อาทิตย์พูดแทรกขึ้นมา สังเกตสีหน้าน้องสาวกับท่านประธาน
“ไม่มีอะไรหรอกพี่อาท แล้วพี่ไม่ไปทำงานเหรอ เดี๋ยวก็สายหรอก”
“กำลังจะไปแล้วล่ะ มาบอกลาท่านประธานน่ะ” อาทิตย์หันมาแสดงท่าทีนอบน้อม “ผมไปทำงานก่อนนะครับประธานเมฆินทร์ ถ้าเกิดว่าที่บริษัท พอมีที่ว่างให้ผม ผมขอสมัครนะครับ”
“ได้ครับ ไว้ผมจะบอกลินให้นะครับ”
“ขอบคุณมากครับ”
อาทิตย์ออกจากรั้วบ้าน แล้วค่อมมอเตอร์ไซต์เคลื่อนออกไป อลินธาราเหลือบมองเจ้านายอีกครั้ง พยายามรักษามารยาท และหวังให้ท่านประธานเข้าใจ แต่ดูเหมือนผู้ชายคนนี้จะหน้ามึนกว่าที่คิดเสียอีก
“ท่านประธาน ฉันว่าคุณควรกลับไปดีกว่านะคะ ไม่งั้นบรรดาสาว ๆ ที่ตามจีบคุณ จะมากระชากลากหัวฉันอีก!”
ประธานเมฆินทร์ยิ้มกว้าง แล้วดึงมือบางมากุม เจ้าของพยายามชักมือกลับ
“ปล่อยนะท่านประธาน!”
“ฉันจะไม่ให้ใครมาทำร้ายเธออีกแล้วอลินธารา เชื่อฉันสิ!”
“ท่านประธาน ฉันบอกให้ปล่อยไง ที่นี่มันบ้านฉันนะ!”
“ก็บ้านเธอไง จะเป็นไรไป ถ้าคิดว่าเสียหาย ฉันยินดีแต่งงานกับเธอ”
คนตัวเล็กชะงัก ดึงมือกลับมาสีหน้าเครียด ไม่อยากถูกล้อเล่นเช่นนี้อีกแล้ว เมื่อไหร่เขาจะหาสาวสวยเคียงข้างได้เสียที ถ้าหากคุณอัญชนารู้ เธอได้ตายแน่
“ฉันเหนื่อยมากเลยนะคะ ท่านประธานล้อเล่นกับฉันแบบนี้ รู้ไหมว่าฉันลำบากใจแค่ไหน” เธอบอกเสียงแผ่ว แววตาหม่น
“ทำไมถึงคิดว่าฉันล้อเล่นกันล่ะ ปกติฉันไม่เคยตามจีบใครเลย นอกจากเธอ ความจริงฉันใช้อำนาจบังคับเธอแต่งงานก็ได้ แต่ฉันกลับไม่ทำ ฉันยังรอให้เธอรับปากอยู่ เห็นไหมว่าฉันให้เกียรติเธอแค่ไหน”
คนฟังถอนหายใจเฮือกใหญ่ สุดท้ายก็เหมือนเดิม เมื่อไหร่เขาจะเข้าใจสักที ระหว่างเธอกับเขา มันไม่มีวันเป็นไปได้
“มันเป็นไปไม่ได้หรอกค่ะ ท่านประธานกับฉัน เราอยู่คนละฐานะกัน คนที่เหมาะสมกับคุณมีเยอะแยะไป อย่างเช่นคุณอัญชนาไงคะ”
เขาแสร้งระบายลมหายใจ แล้วมองใบหน้างดงาม ยิ่งนานวัน ยิ่งอยากได้เธอมาร่วมเรียงเคียงหมอน เมื่อไหร่จะยอมใจอ่อนสักที
“เป็นไปได้สิ ฉันไม่มีปัญหา แล้วเธอมีปัญหาอะไร”
“มีสิ เพราะฉันไม่ได้รักท่านประธานไงคะ!”
“แต่งไปเดี๋ยวก็รักกันเอง ดูสิอลินธารา ฉันรวยขนาดนี้ หล่อ แถมยังใจดีอีก ฉันเชื่อว่าสักวันเธอต้องรักฉัน”
“คุณหลงตัวเองเกินไปแล้วค่ะ ฉันไม่มีวันรักคุณเด็ดขาด ที่สำคัญ ฉันมีคนที่ฉันรักอยู่แล้ว!”
เมฆินทร์ยิ้มเย็น “เตือนไปแล้วนะ ว่าผมไม่ยอมให้คุณแต่งกับใคร ถ้าคุณฝ่าฝืน ผมมีบทลงโทษที่ทำให้คุณลืมไม่ลงแน่นอน”
รีบดึงมือกลับ ชักสีหน้า ต่อให้พูดปากเปียกปากแฉะแค่ไหน ดูเหมือนคนฟังไม่ได้รู้ร้อนหนาว คำพูดราวกับสายลมพัดผ่านไป ต่อให้ต้องหนีตลอดชีวิต เธอก็จะไม่มีวันแต่งงานกับเขาแน่นอน
“คุณกลับไปได้แล้วค่ะ ฉันอยากพักผ่อนแล้ว!”
“ก็ได้ ฉันกลับก่อน ไว้เจอกัน”
อลินธาราถอนหายใจทันที หลังจากเห็นรถท่านประธานลับหายจากสายตา อรดีรีบตรงมาหาลูก แม้เห็นภาพเมื่อครู่ แต่ไม่อยากเข้าไปยุ่ง เกรงอีกฝ่ายมัดมือชก ให้ลูกแก้ปัญหาเองน่าจะดีกว่า
“ลินไหนลูกบอกท่านประธานไม่สนใจลูกแล้ว ทำไมถึงเป็นแบบนี้ล่ะลูก” คนเป็นแม่เอ่ยถาม สีหน้าเป็นห่วง
“เขาแค่เล่น ๆ เท่านั้นแหละค่ะแม่ ไม่ต้องห่วงหรอกนะไม่มีอะไร”
“แม่กลัวลูกใจอ่อน แล้วจะมีปัญหา ท่านประธานเมฆินทร์เองก็ไม่ใช่คนเลวร้ายอะไร ใกล้ชิดกันมาก ๆ แม่กลับลูกจะอดใจไม่ไหว”
“แม่! เห็นหนูเป็นคนแบบไหน หนูมีพรหมอยู่แล้วนะคะ!”
“จ้า ๆ”
สองร่างเดินกลับเข้าด้านใน กระทั่งเสียงมือถือของหญิงสาวดังขึ้น มองเบอร์หน้าจอแล้วยิ้มกว้าง กดรับสายสีหน้ายินดี
“พรหม!”
“ลินผมกลับมาแล้วนะ พรุ่งนี้เราเจอกันหน่อยได้ไหม”
“ทำไมไม่ให้ลินไปรับที่สนามบินล่ะคะ!”
ปลายสายอึกอักเล็กน้อย “พอดีผมไม่อยากรบกวนน่ะ”
“งั้นเจอกันพรุ่งนี้นะคะ ร้านเดิมของเรา”
“ได้ครับ”
เธอยิ้มกว้างให้มือถือ ก่อนขึ้นชั้นบน คนเป็นแม่มองตาม แล้วระบายลมหายใจ พรหมเป็นคนดี ลูกต้องมีความสุขแน่ กับประธานเมฆินทร์นั้น ดูสูงส่งเกินไป ไม่เหมาะกับครอบครัวของเรา
อาทิตย์มองเงินในมือ ซึ่งกำลังหมดลงอีกครั้ง สีหน้าเครียดขึ้นทุกที เขาไม่อยากเสียเงินก้อนนี้ไปเลย มองดูเพื่อนกำลังมือขึ้นยิ้มร่าสีหน้ายินดี เดินตรงเข้าหา
“พฤกษ์”
คนถูกเรียกหันมามอง
“ว่าไงพี่”
“พี่เสียน่ะ พอจะมีให้ยืมไหม”
พฤกษ์ชะงักเล็กน้อย “พี่จะเอาเท่าไหร่ สามแสนพอไหม”
“ได้ ๆ สามแสนก็พอ”
พฤกษ์หยิบชิปในมือส่งให้ อาทิตย์รับมาแล้วกลับไปเล่นตามเดิม พฤกษ์รีบโทรรายงานในทันที ไม่นานนักอาทิตย์หน้าซีดกลับมาหาเพื่อน
“เป็นไงพี่ ได้ไหม”
“เสียหมดแล้วน่ะ ทำไมวันนี้ดวงไม่ดีเลย”
“เลิกก่อนดีไหมพี่ ค่อยมาวันอื่น”
“เลิกได้ยังไง! ทั้งเงินพี่ เงินพฤกษ์ พี่ต้องเอาคืน ไม่อย่างนั้นจะเอาที่ไหนใช้หนี้ให้พฤกษ์กันเล่า!”
พฤกษ์รีบแตะไหล่ “ใจเย็นพี่ ถ้าพี่อยากเล่นต่อ ผมมีข่าวดีจะบอก”
“ข่าวดีอะไร?” สีหน้าอาทิตย์ตื่นเต้น
“ที่คาสิโน่ ให้กู้เงินเล่นได้ แต่ว่าดอกแพงหน่อยนะ”
“ดอกเท่าไหร่”
“ร้อยละยี่สิบน่ะพี่”
“เอา! กู้ตรงไหน พาพี่ไปหน่อยสิ”
“ได้เลย”
สองคนเดินเคียงกัน มาตรงบาร์ด้านหน้า ไม่นานนักมีการ์ดพาเข้าออฟฟิศด้านใน พฤกษ์ส่งสายตาให้กับผู้จัดการ อาทิตย์หย่อนกายลงนั่งท่าทางนอบน้อม
“ว่าไงพฤกษ์” ผู้จัดการทักทาย
“พอดีผมมีเรื่องรบกวนผู้จัดการสักหน่อยน่ะครับ”
“อ๋อ ว่ามาเลย”
“พี่ชายผมน่ะครับ อยากจะขอกู้เงินไปเล่นสักหน่อย”
ผู้จัดการชะงัก สบตาอาทิตย์
“อยากได้เท่าไหร่ล่ะ เรื่องดอกเบี้ย กำหนดคืนรู้หรือยัง”
“ทราบแล้วครับ!” อาทิตย์รีบตอบ สีหน้ากระตือรือร้น
“แล้วจะกู้เท่าไหร่” ผู้จัดการถามย้ำอีกครั้ง
“เอ่อ...”
“หนึ่งล้านพอไหม”
ดวงตาคนฟังเบิกกว้าง สีหน้ายินดี เขาฉีกยิ้มกว้างทันที
“หนึ่งล้านเหรอครับ!”
“ทำไม หรือไม่พอ”