“เธอมาทำอะไรที่นี่คนเดียว? เพื่อนไปไหน?”
“เอ่อ…” พูดไม่ออกอ่ะ! จะบอกเขาว่ายังไงดีเนี่ย คือเขาเป็นใครฉันยังนึกไม่ออกเลยไงประเด็น เอาเป็นว่าขอบคุณเขาไปก่อนแล้วกันนะ “ขอบคุณที่ช่วยนะเมื่อกี้น่ะ”
“ช่างเหอะ สรุปเพื่อนอยู่ไหน? รีบไปหาสิ ฉันจะได้กลับโต๊ะสักที” เขาพูดเสียงนิ่งพลางเลื่อนสายตามองไปทางอื่นไม่ยอมสบตากับฉันเลย เดี๋ยวนะ… เหมือนฉันจะนึกออกแล้วว่าเคยเจอผู้ชายใส่แว่นคนนี้ที่ไหน… เพื่อนของกาฬวาตไงล่ะ!
“นาย…เป็นเพื่อนกาฬวาตใช่ไหม?” ฉันตัดสินใจถามออกไป เขาหลุบตามองฉันชั่วครู่ก่อนจะเบนสายตาขึ้นมองชั้นลอย ฉันจึงมองตามสายตาเขาก็พบว่ามีใครคนหนึ่งกำลังมองมาทางที่พวกเราสองคนยืนอยู่ และสายตาเรียบนิ่งนั่นก็ทำให้หัวใจฉันกระตุกวูบอย่างน่าแปลกใจ… ทำไมฉันต้องรู้สึกแปลก ๆ กับสายตานั้นของกาฬวาตด้วยนะ!!
“อือ… เธอมาหามันหรือไง?” หนุ่มแว่นละสายตาจากด้านบนกลับมามองฉัน สีหน้าเขาดูบึ้งตึงลงอย่างเห็นได้ชัด หรือว่าเขากำลังมีปัญหากับกาฬวาตอยู่นะ… แล้วฉันจะขอร้องให้เขาพาไปหาหมอนั่นได้ไหมเนี่ย…
“อ้อ ก็ไม่เชิงน่ะ เอ่อนาย… พาฉันไปหาเขาหน่อยได้ไหม?”
“…” เขานิ่งเงียบไปพักหนึ่งขณะจ้องมองฉัน ไม่รู้ว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่กันแน่ เพราะสีหน้าเขาแทบไม่แสดงอารมณ์อะไรออกมาเลย กาฬวาตว่าขอนไม้แล้ว พอมาเจอเขาคนนี้แทบไม่ต่างจากหุ่นยนต์เลยอ่ะ! “ตามมาสิ”
ฉันพยักหน้ารับพลางเดินขึ้นบันไดตามหลังเขาช้า ๆ และเพราะบรรยากาศมันค่อนข้างวังเวงชอบกลถึงแม้จะมีเสียงดนตรีจากด้านล่างดังขึ้นมาเป็นระยะ ๆ ก็เถอะ แต่ฉันไม่ชอบความวังเวงแบบนี้เลยนะ! ชวนเขาคุยแล้วกัน!
“นายชื่ออะไรเหรอ? ฉันชื่อเมบีนะ เป็นนักศึกษาแพทย์ปีสุดท้าย”
“ฉันรู้แล้ว…”
“ว่าไงนะ?” ฉันถามอีกรอบเมื่อได้ยินเสียงเขาพูดอะไรงึมงำ ๆ ส่งผลให้ผู้ชายใส่แว่นหยุดเดินกะทันหันพลางหันหน้ามองฉันแทบจะในทันที
อะไรอ่ะ? ทำไมเขามองหน้าฉันแบบนั้น?
“ซันเซท… ชื่อของฉันคือซันเซท”
ซันเซท… งั้นเหรอ…
“ซัน…”
“หายไปไหนตั้งนานวะไอ้ซัน! พวกกูรอ… อ้าวเฮ้ย! มึงพาผู้หญิงที่ไหนมาวะ?!”
ฉันที่กำลังจะทวนชื่อของซันเซทถึงกับสะดุ้งโหยงเมื่อจู่ ๆ ประตูห้องวีไอพีถูกเปิดออกพร้อมกับผู้ชายหน้าตาหล่อใสโผล่ออกมาจากห้องนั้น เขาทำตาโตใส่ฉันด้วยความสงสัยก่อนจะเปิดประตูออกกว้าง ซันเซทเดินเข้าไปในห้องแล้วทิ้งตัวนั่งลงบนโซฟาด้านข้างผู้ชายหน้าสวยที่เคยจู่โจมฉันเมื่อครั้งก่อน เหมือนจะได้ยินกาฬวาตเรียกเขาว่าซิมซ์นะ ฉันเดินตามหลังเขาเข้ามาบ้างโดยมีหนุ่มหล่อหน้าใสปิดประตูตามหลัง
“โว้ย ๆ นั่นมันเด็กมึงนี่หว่าไอ้กาฬ? ! ทำไมมากับไอ้ซันได้วะ?” ซิมซ์ชี้นิ้วมาทางฉันก่อนจะหันหน้าไปถามกาฬวาตที่ยืนหันหลังให้พวกเราอยู่ หมอนั่นใช้สองแขนท้าวราวระเบียง สองตาก็จับจ้องไปยังฟลอร์เต้นด้านหลังโดยไม่คิดจะหันกลับมาสนใจฉันสักนิด
“กูไปเจอเธอถูกไอ้ชิณลวนลามอยู่ก็เลยช่วยเอาไว้” ซันเซทตอบเสียงนิ่งพลางยกแก้วเหล้าขึ้นดื่ม ฉันได้ยินเสียงหัวเราะในลำคอจากคนตัวสูงที่ยืนหันหลังอยู่ด้วยล่ะ
ทำไมยะ! ฉันโดนลวนลามเนี่ยมันน่าขำตรงไหนไม่ทราบ?!
“พวกไอ้ชิณเหรอวะ? แล้วมึงบอกมันยังว่าเธอเป็นผู้หญิงไอ้กาฬ?” ผู้ชายหน้าใสนั่งลงด้านข้างซันเซทพลางขมวดคิ้วถามเสียงดัง นี่พวกเขายังเห็นฉันยืนอยู่ตรงนี้หรือเปล่านะ แต่ก็ช่างเถอะ! ฉันมาวันนี้ก็เพราะมีเรื่องจะเจรจากับกาฬวาตนี่นะ เพราะฉะนั้นรีบคุย ๆ ให้จบเรื่องไปเลยดีกว่าจะได้ไม่ต้องมานั่งให้เสียเวลา
“ฉันมีเรื่องจะคุยกับนาย…” ฉันเดินเข้าไปใกล้กาฬวาตพลางเอี่ยวตัวเพื่อมองใบหน้าด้านข้างของเขา และนั่นก็ทำให้ทุกคนในห้องตกอยู่ในความเงียบแทบจะในทันที “นี่… ไม่ได้ยินที่ฉันพูดเหรอ? มีเรื่องจะคุยด้วยน่ะ”
กาฬวาตหันหน้ากลับมามองฉันด้วยสายตาเย็นเหยียบจนน่าขนลุก
อะไรเล่า! ฉันไปทำอะไรให้เขาไม่พอใจอีกละเนี่ย ทำไมต้องมองกันแบบนั้น
“อะไร?”
“เอ่อ…” ฉันเหลือบมองพวกเพื่อนเขาราวกับต้องการขอความเป็นส่วนตัว สามหนุ่มจึงลุกขึ้นยืนแล้วทำท่าจะเดินออกจากห้องแต่กลับถูกเสียงเข้มห้ามเอาไว้ซะก่อน
“พวกมึงไม่ต้องไป! ส่วนเธอ… มีอะไรก็รีบ ๆ พูดมา เสียเวลา!”
ฉันกัดริมฝีปากตัวเองแน่นเพื่อยับยั้งคำด่าเอาไว้ ไอ้ขอนไม้นิสัยแย่! เอะอะก็ตวาด เอะอะก็ใส่อารมณ์ ถ้าไม่ติดว่าต้องใช้เขาเป็นไม้กันหมาล่ะก็… ฉันจะไม่ทนนะบอกเลย!!
“อีกสองวันจะมีปาร์ตี้วันเกิดที่ Nil Club ฉันเลยมาชวนนายให้ไปด้วยกันน่ะ”
ก่อนหน้านี้ฉันพยายามเรียบเรียงคำพูดมาแล้วนะ! แต่พอมาเห็นหน้าตายด้านของไอ้ขอนไม้นี่จริง ๆ กลับลืมคำพูดพวกนั้นหมดเลยอ่ะ! ถ้างั้นก็บอกไปตรง ๆ แบบนี้นี่แหละ! ไม่ต้องอ๊งต้องแอ๊บอะไรมันแล้ว!
“แล้ว?” กาฬวาตหมุนตัวกลับมาหาฉัน เขายกแขนขึ้นกอดอกพิงสะโพกสอบกับราวระเบียงด้วยท่าทางแบดบอยมาก แถมยังมองหน้าฉันด้วยสายตาหยัน ๆ อีกต่างหาก ฉันเหลือบมองเพื่อนสุดหล่อทั้งสามของเขาที่ยังนั่งอยู่ที่เดิมก่อนจะขยับเข้าใกล้กาฬวาตมากขึ้นเพื่อกระซิบให้ได้ยินกันแค่สองคน
“นายต้องไปกับฉัน…”