“อุ๊ย! นั่นกาฬหรือเปล่าคะ? ใช่กาฬจริง ๆ ด้วย! แนนนี่คิดถึงคุณจังเลยค่ะ”
ผมชะงักฝีเท้าตรงบันไดชั้นล่างเมื่อถูกมือเรียวของผู้หญิงคนหนึ่งรั้งแขนเอาไว้ เธอคนนั้นพุ่งเข้ามากอดผมโดยไม่แคร์สายตาใครสักนิด ผมถอนหายใจอย่างเบื่อหน่ายก่อนจะดันร่างบางแสนน่ารังเกียจนั่นออกจากตัว ผมเกลียดผู้หญิงเที่ยวน่ะใช่! แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าผมจะไม่นอนด้วยนิ! อย่างเธอคนนี้ก็เป็นหนึ่งในผู้หญิงที่ผมเคยนอนด้วย แต่ก็แค่ครั้งเดียวเท่านั้น… แค่ครั้งเดียวผมก็รู้สึกรังเกียจจะแย่แล้ว!
“กาฬคะ! คุณหายไปไหนมาคะ? รู้ไหมว่าแนนนี่คิดถึงคุณมากแค่ไหน” แนนนี่ยังคงยื้อร่างตัวเองเข้าหาตัวผมอย่างไร้ยางอายสุด ๆ หึ! ผู้หญิงแบบนี้ช่างน่าขยะแขยงสิ้นดีเลยนะว่าไหม? ตัวเองก็ผ่านผู้ชายมาโชกโชนแต่กลับชอบเรียกร้องราวกับตัวเองใสซื่อ!
“ปล่อยฉัน…”
“ไม่ค่ะ แนนนี่ไม่ปล่อย แนนนี่คิดถึงคุณนะ”
“ฉันไม่ชอบพูดซ้ำ!”
“กาฬวาต! นายขึ้นเสียงใส่ฉันเหรอ? เหอะ! นี่นายคิดจะฟันแล้วทิ้งใช่ไหม?! ฉันไม่ยอมหรอกนะ!!”
ดูเหมือนเธอจะเริ่มไม่พอใจผมขึ้นมาบ้างแล้ว สรรพนามและน้ำเสียงนุ่มนวลเมื่อครู่จึงแปรเปลี่ยนอย่างเห็นได้ชัด
“ฉันบอกให้ปล่อย!” ผมสะบัดมือเรียวออกจากแขนตัวเองก่อนใช้สายตาเย็นชามองเธอ และในจังหวะที่แนนนี่กำลังยืนนิ่งเหมือนใช้ความคิดอะไรบางอย่าง สายตาผมก็เหลือบไปเห็นใครบางคนกำลังเดินตรงมาทางนี้ พอหันกลับไปมองด้านหลังตัวเองก็พบว่ามันคือทางไปห้องน้ำ ผมเงยหน้าขึ้นมองไปทางชั้นลอยของผับซึ่งเป็นจุดที่มีพวกเพื่อนตัวร้ายของผมนั่งกันอยู่
และนั่น… สายตาของไอ้ซันเซทมองมาทางนี้จริง ๆ ด้วย
หึ… มาได้เวลาพอดีเลยสินะ! ถึงเวลาเธอต้องช่วยฉันบ้างแล้วล่ะ! ทั้งช่วยเขี่ยแนนนี่ออกไปจากฉันแล้วก็ช่วยให้ฉันได้รู้อะไรดี ๆ เกี่ยวกับเพื่อนรักด้วย!
.
.
.
[บทบรรยาย เมบี]
“โอ๊ย! คนจะเยอะไปไหนเนี่ยแก! ฉันปวดฉี่จะแย่แล้วนะ”
ฉันดึงแขนนิต้าให้หลบผู้คนรอบข้างที่เบียดเสียดกันท่ามกลางแสงสีภายในผับหรู เมื่อหนึ่งชั่วโมงก่อนฉันถูกบรรดาเพื่อนสนิทโทรจิกโทรตามให้มาเจอกันที่นี่เพื่อสังสรรค์ประจำวันสุดสัปดาห์ ฉันที่กำลังเบื่อ ๆ เซ็ง ๆ อยู่ที่ห้องคนเดียวจึงรีบแต่งตัวแล้วก็ตามพวกมันมานี่แหละ
“ก็มันคืนสุดสัปดาห์นี่หว่า อย่าบ่นนักเลยน่า! เดี๋ยวก็ไม่ไปเป็นเพื่อนซะหรอก”
“แหมแก! อย่าทิ้งฉันนะเว้ย! ยิ่งมึน ๆ กรึ่ม ๆ อยู่”
“เออ ๆ เดินดี ๆ แล้วกัน…” ฉันส่ายหัวให้กับนิต้าที่เดินเซไปมาเพราะความมึนเมา ยัยนี่มาถึงก่อนฉันตั้งนานแล้วน่ะ มันเลยดื่มแซงหน้าฉันไปเยอะพอควร ส่งผลให้มันเมาก่อนใครเพื่อนเลย
“ตอบมาสิกาฬ! นายคิดจะทิ้งฉันใช่ไหม! ฉันไม่ยอมนะ!!”
น้ำเสียงแหลม ๆ ของผู้หญิงคนหนึ่งดังขึ้นจากด้านหน้าซึ่งเป็นทางที่พวกเรากำลังจะเดินไปเข้าห้องน้ำ ฉันดึงนิต้าให้หยุดเดินพลางหรี่ตามองชายหญิงสองคนนั้นท่ามกลางความมืด เมื่อกี้เหมือนได้ชื่อของใครบางคนเลย
บ้าน่า… มันคงไม่บังเอิญขนาดนั้นหรอกมั้ง!
“หยุดทำไมวะเม? ฉี่จะแตกแล้วนะเว้ย!”
ฉันไม่ได้สนใจเสียงนิต้าโวยวายสักนิด เพราะสายตาตอนนี้กำลังสบนิ่งกับดวงตาคมเข้มดำสนิทของผู้ชายตรงหน้า เขายืนอยู่ด้านข้างผู้หญิงที่กำลังโวยวายและใช้สองมือผลักอกเขาด้วยความไม่พอใจ ริมฝีปากหนาแสยะยิ้มเย็น ๆ ให้ฉันก่อนจะปัดมือของเธอคนนั้นออกจากตัวแล้วเดินตรงมาทางฉันช้า ๆ
เดี๋ยวนะ… นั่นมันอิตาขอนไม้ไม่ใช่หรือไง!
“…” กาฬวาตเดินมาหยุดตรงหน้าฉันแล้ว เขาหลุบตามองฉันนิ่ง ๆ จนฉันต้องขมวดคิ้วใส่ด้วยความไม่เข้าใจ หมอนี่เป็นอะไร? ทำไมจู่ ๆ ก็เดินเข้ามาหาฉัน? ทั้งที่ปกติเขาเอาแต่ทำหน้าตายแถมยังรำคาญฉันจะตายไป
“อะไร?” ฉันถามกลับเสียงเบา มันรู้สึกวูบวาบแปลก ๆ กับสายตาเย็นชาคู่นั้น ฉันรู้สึกได้ถึงสายตานับสิบคู่ที่มองมาทางพวกเรา ให้ตายดิ! นี่มันเป็นช่วงเปลี่ยนจังหวะเพลงพอดีเลยด้วยไงประเด็น แล้วคนที่เต้น ๆ กันอยู่ก็กลายเป็นหยุดเต้นเพราะไม่มีเพลง ทุกคนเลยมีเวลาว่างมากพอที่จะหันมาสนใจพวกเรา
“ทำไมเพิ่งมา? ฉันรอตั้งนานแล้ว”
“หะ?”
ฉันชี้หน้าตัวเองด้วยความงงระดับสิบ เขาไม่ได้หมายถึงฉันใช่ไหม? กาฬวาตไม่ได้รอฉันจริง ๆ หรอกใช่ไหม? คิดได้ดังนั้นฉันเลยหันกลับมองไปด้านหลังตัวเองเพื่อจะมองว่าสรุปแล้วเขากำลังพูดกับใครกันแน่ หากทว่ากลับถูกมือหนาคว้าใบหน้าเอาไว้แล้วบังคับให้หันกลับมามองเขาเช่นเดิม ฉันแทบจะหยุดหายใจเพราะไม่คิดว่ากาฬวาตจะขยับเข้ามาใกล้กันขนาดนี้
“นะ…นาย…อื้อ”