ปัจจุบัน
“เฮือก!”
ร่างบางสะดุ้งตื่นขึ้นจากฝันร้ายในอดีตที่ตามหลอกหลอนมาตลอดทั้งคืน เพียงแค่ได้เห็นใบหน้าของผู้มีพระคุณที่คิดถึงสุดหัวใจทั้งคู่เพียงแค่แวบเดียว พระจันทร์ก็น้ำตาคลอเบ้าตั้งแต่เพิ่งตื่นแล้ว ทว่ายังไม่ทันจะยกมือขึ้นเช็ดน้ำตา แรงขยับจากกายหนาของใครคนหนึ่งที่นอนร่วมเตียงเคียงหมอนกับเธอมาตลอดคืนก็ทำให้เธอรีบหันไปมองด้วยความตกใจ
“…คุณเต”
“เรียกทำไมแต่เช้า” เตชินทร์ที่ตื่นเต็มตาลุกขึ้นนั่งอย่างรวดเร็ว เผยให้เห็นเรือนกายกำยำเปลือยเปล่าที่เต็มไปด้วยมัดกล้าม “ตื่นแล้วก็ดี ไม่รู้ว่าเมื่อคืนเธอได้ยินที่ฉันพูดหรือเปล่า แต่อย่าลืมไปฉีดยาคุมให้เรียบร้อยด้วย”
สิ้นคำประโยคนั้น พระจันทร์ก็ใบหน้าเห่อร้อนขึ้นมา ภาพและเสียงของกิจกรรมที่ทำร่วมกันบนเตียงหลังนี้ฉายกลับเข้ามาในห้วงความคิดเสียงยิ่งกว่าเปิดภาพยนตร์ระดับคมชัด
“ได้ฟังที่ฉันพูดหรือเปล่า” ดวงตาสีเทาหม่นไร้แววพิศวาสใด ๆ ตวัดมองมาที่พระจันทร์จนหญิงสาวต้องรีบพยักหน้ารับคำ
“ค่ะ ฉันจะไปจัดการให้เรียบร้อยค่ะ"
“เธอกลับได้เลยนะ ไม่ต้องรอ เพราะเดี๋ยวฉันอาบน้ำเสร็จก็จะออกไปเลยเหมือนกัน หรือถ้าอยากจะอาบน้ำก่อนออกไปก็ตามใจ”
“…ค่ะ คุณเตชินทร์" พระจันทร์พยักหน้าเบา ๆ ยกผ้าห่มขึ้นปิดส่วนบนของร่างกายให้เรียบร้อยมากยิ่งขึ้น อุณหภูมิของเครื่องปรับอากาศที่ทำงานหนักตลอดทั้งคืนทำให้หญิงสาวรู้สึกหนาวไม่น้อย
เตชินทร์พยักหน้าเมื่อคู่นอนของตนปฏิบัติตามคำสั่งโดยไม่อิดออด ไม่มีบทสนทนาใดเกิดขึ้นระหว่างทั้งคู่อีก ชายหนุ่มลุกขึ้นก้าวอาด ๆ ออกไปอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย พระจันทร์มองแผ่นหลังกว้างของต้นเหตุที่ทำให้เธอร้าวไปทั่วทั้งช่วงล่างลับหายไปในประตูห้องน้ำ ก่อนจะถอนหายใจออกมาอย่างเหนื่อยอ่อน เรือนกายผอมบางตามประสาคนที่ใช้เวลาไปกับตั้งใจเรียนมากกว่าหาอะไรลงท้องค่อย ๆ พยุงตัวเองนั่งบนเตียงอย่างยากลำบาก
“กลับไปอาบน้ำที่ห้องดีกว่าเรา… นี่มันกี่โมงแล้วเนี่ย หวังว่าจะไม่เลยเวลาเรียนบ่ายนะ..” พระจันทร์หยิบเสื้อผ้าของตนขึ้นมาสวม แต่ก็ต้องทำหน้าผิดหวังเมื่อพบว่าชุดเดรสที่ใส่ทำงานเมื่อคืนแทบจะกลายเป็นเศษผ้าไปแล้ว
“..เอายังไงดีเนี่ย มือถือก็น่าจะตกอยู่ที่โต๊ะด้วย” นิ้วเรียวยกขึ้นนวดขมับตัวเอง รู้สึกปวดทั้งศีรษะและช่วงเอวลากยาวไปถึงปลีน่องในเวลาเดียวกัน
เตชินทร์ใช้เวลาอาบน้ำไม่นานนักก็เปิดประตูออกมา เมื่อเห็นว่าหญิงสาวยังคงนั่งซึมเซาอยู่บนเตียงก็อดเอ่ยปากถามไม่ได้ “มีอะไรอีก หรือมีคำตอบให้ฉันแล้ว เรื่องสัญญาเมื่อคืนน่ะ"
พระจันทร์ส่ายหัวเบา ๆ “ไม่ใช่ค่ะ ..คือว่าเสื้อผ้าที่ฉันใส่เมื่อคืนมันใส่ต่อไม่ได้แล้ว ฉัน…”
ไม่รอให้หญิงสาวพูดจบ เตชินทร์เสยเส้นผมที่ชื้นด้วยน้ำทีหนึ่งขณะที่เดินไปหยิบโทรศัพท์ซึ่งวางนิ่งอยู่บนโต๊ะหัวเตียงเพื่อพิมพ์ข้อความยุกยิกอะไรบางอย่าง พระจันทร์มองตามด้วยความสงสัยแต่ก็ไม่ได้แสดงอาการอยากรู้อยากเห็นมากจนเกินไป ดวงตากลมแอบสำรวจใบหน้าของชายหนุ่มที่ไม่ได้ถูกแสงไฟวูบวาบในร้านสาดทับก็พบว่าเขาหน้าตาหล่อเหลากว่าที่เห็นเมื่อคืนอยู่ไม่ใช่น้อย
แต่นี่ไม่ใช่เวลามาชมใครว่าหล่อนะยัยพระจันทร์!
“ฉันบอกให้ผู้ช่วยเอามาให้แล้ว อีกเดี๋ยวก็คงมาถึง" เตชินทร์พูดเสียงเรียบ ๆ ขณะที่เก็บโทรศัพท์ลงในกระเป๋ากางเกง “อาบน้ำรอได้เลย ฉันออกคำสั่งเด็ดขาดแล้วว่าให้แขวนเอาไว้แค่หน้าประตู”
“ขอบคุณมากนะคะคุณเตชินทร์…” พระจันทร์ยกมือขึ้นตั้งใจจะไหว้ขอบคุณ แต่คนตัวสูงกว่ากลับเสมองไปทางอื่นแล้วพูดต่อ
“อย่าลืมเรื่องสัญญาที่คุยกันไว้เมื่อคืน ฉันจะมาที่นี่ตอนหนึ่งทุ่มตรง รอเธออยู่ในห้องนี้ ถ้าตกลงก็ให้มาเจอกันที่นี่ ฉันจะรออยู่ถึงแค่สองทุ่มเท่านั้น ถ้าเธอไม่มา เรื่องที่คุยกันไว้ทั้งหมดจะถือเป็นอันโมฆะ หวังว่าจะเข้าใจ”
พระจันทร์กลืนน้ำลายเหนียวหนืดลงคอแล้วพยักหน้ารับ “ค่ะ.. เข้าใจแล้วค่ะ"
เมื่อได้รับคำยืนยันว่าคู่นอนชั่วคราวของตนเข้าใจแล้ว เตชินทร์ก็เดินก้าวเท้ายาว ๆ ออกไปจากห้อง ไม่มีคำพูดสวยหรูทิ้งท้าย ไม่มีสายตารักใคร่แสดงออกมาให้เห็นอย่างที่พระจันทร์เคยอ่านเจอในนิยายรักประโลมโลกหลายเรื่อง
“เฮ้อ…นี่สินะ โลกความจริง ชินได้แล้วยัยจันทร์เอ๊ย"
พระจันทร์ตัดพ้อกับตัวเองพร้อมกับขำเสียงขื่น ๆ ออกมาอย่างหมดอาลัยตายอยาก สองขาเรียวก้าวลงจากเตียงเพื่อเดินไปทำธุระส่วนตัวในห้องน้ำ
ร่างบางยืนนิ่งอยู่หน้ากระจกเงาด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความรู้สึกต่ำต้อย เส้นผมของพระจันทร์เป็นสีดำขลับธรรมชาติ ไร้การย้อมแต่งสีหรือบำรุงด้วยทรีทเมนต์ราคาแพง มันยุ่งเหยิงเพราะเพลงรักที่ถูกบรรเลงตลอดทั้งคืนจนแทบไม่เป็นทรง แทบทุกตารางนิ้วบนร่างกายที่อยู่ใต้ร่มผ้าเต็มด้วยรอยดูดและรอยกัดนับสิบ
พระจันทร์ยืนสำรวจความยับเยินของร่างกายตัวเองได้ไม่นานนักก็รีบฝืนใจจัดการอาบน้ำทำความสะอาดร่างกายของตัวให้เรียบร้อย เธอสวมชุดคลุมอาบน้ำออกไปเปิดประตู พบว่ามีถุงกระดาษพิมพ์ชื่อแบรนด์ดังแขวนอยู่อย่างที่เตชินทร์บอกเอาไว้ ภายในถุงกลิ่นหอมฉุยนั้นมีเสื้อเชิ้ตสีฟ้าอ่อนแขนสั้นและกางเกงขายาวสีดำฟรีไซส์อยู่ นอกจากนั้นยังมีถุงพลาสติกใบเล็กที่มีชุดชั้นในสตรีใหม่เอี่ยมอยู่ด้วย
“…” ริมฝีปากที่มีรอยแตกคล้ายว่าจะยกยิ้มเล็กน้อย ความประทับใจบางอย่างปรากฏขึ้นในหัวใจที่แห้งแล้งของพระจันทร์อย่างเชื่องช้า “…ก็แค่เสื้อผ้าชุดเดียว ยิ้มอะไรเนี่ยเรา..”
เรือนกายผอมบางหายลับเข้าไปในห้องน้ำอีกครั้งเพื่อสวมเสื้อผ้าให้เรียบร้อย ไม่น่าเชื่อว่าทั้งเสื้อและกางเกงจะเข้ากับเธอได้ขนาดนี้ พระจันทร์มัดรวบเส้นผมของตนให้เรียบร้อยแล้วรีบลงไปที่ชั้นสองเพื่อมองหาโทรศัพท์มือถือซึ่งน่าจะหล่นหายไปในช่วงจังหวะชุลมุนพอดี
“หานี่อยู่หรือเปล่า" เสียงของบาร์เทนเดอร์รุ่นพี่ดังขึ้นจากข้างหลัง พร้อมกับมือถือที่ถูกยื่นมาข้างหน้า “เด็กเสิร์ฟในร้านเก็บเอาไว้ให้ พี่คิดว่าจันทร์น่าจะยังไม่กลับเลยรอให้คืนนี่แหละ"
“พี่ใบเตย ยังไม่เลิกงานอีกเหรอคะเนี่ย" พระจันทร์รับของมีค่าที่ตนแลกน้ำพักน้ำแรงซื้อมาด้วยตัวเองมาถือไว้แนบอก “ขอบคุณมาก ๆ เลยนะคะ จันทร์น่าจะทำตกไว้เมื่อคืนตอนมาชงเหล้าโชว์ที่โต๊ะลูกค้าค่ะ"
“งี้นี่เอง พอดีเมื่อคืนเพื่อนพี่มาหา ดื่มจนลืมโลก พี่ก็เลยนอนที่ห้องพนักงานน่ะ ไหน ๆ ก็ไหน ๆ จันทร์ไม่ได้จะไปไหนต่อใช่ไหม พี่จำได้ว่าหอจันทร์อยู่ทางเดียวกันกับคอนโดฯพี่เลย งั้นเดี๋ยวพี่ไปส่งแล้วกันนะ" ใบเตยยิ้มให้รุ่นน้องร่วมงานอย่างจริงใจ พระจันทร์จึงรีบยกมือไหว้ขอบคุณ
“รบกวนด้วยนะคะพี่ใบเตย ไว้จันทร์ช่วยค่าน้ำมันรถค่ะ"
“ไม่เป็นไรจ้า พี่ไม่ได้ให้เรากลับด้วยเพราะอยากหาคนมาหารค่าน้ำมันซักหน่อย เรื่องแค่นี้เอง ไม่ต้องถือเป็นบุญคุณหรอกนะ" สาวรุ่นพี่เดินนำหน้าเพื่อไปยังลานจอดรถของบาร์ พระจันทร์เดินตามไปโดยสารรถของพี่สาวร่วมงานผู้ใจดีจนถึงหอโดยสวัสดิภาพ เธอยืนมองรถมินิคันหรูของใบเตยจนกระทั่งลับหายไปจากซอยทางเข้า